4.2

898 คำ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา “คุณจีรคะ เมื่อสักครู่เลขาฯ ของคุณสุรกิจโทร.มาแจ้งว่าคุณสุรกิจขอนัดเข้ามาดูสินค้าของเราที่โชว์รูมก่อนจะทำการสั่งซื้อ ขอเป็นช่วงบ่ายวันมะรืนนี้ รักเช็คตารางของคุณจีรแล้วไม่มีนัดหรืองานเร่งด่วนอะไร คุณจีรจะรับนัดเลยไหมคะ” “อืม” “โอเคค่ะ เดี๋ยวรักจะแจ้งเลขาฯ ของคุณสุรกิจว่าคุณจีรตกลงรับนัดนะคะ รักวางสายเลยนะคะ” “เดี๋ยวก่อน” “คุณจีรต้องการอะไรหรือเปล่าคะ” “ผมขอกาแฟแก้วหนึ่ง” “แต่วันนี้คุณจีรดื่มไปสองแก้วแล้วนะคะ” “ผมต้องการกาแฟอีกหนึ่งแก้วแสนรัก” น้ำเสียงที่เข้มขึ้นทำเอาแสนรักต้องลอบถอนหายใจ หญิงสาวเบ้ปากพลางแยกเขี้ยวใส่โทรศัพท์ภายใน “ได้ค่ะคุณจีร อีกสิบนาทีกาแฟพร้อมเสิร์ฟค่ะ” แสนรักบอกแล้ววางสายทันที หญิงสาวลุกจากโต๊ะทำงานไปที่มุมเตรียมเครื่องดื่มสำหรับท่านประธาน “อยากดื่มกาแฟงั้นเหรอ รักไม่ให้คุณจีรดื่มหรอก ดื่มชาไปก่อนก็แล้วกัน” แสนรักไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งหรือขัดคำสั่งคุณจีรแต่อย่างใด แต่วันนี้คุณจีรดื่มไปถึงสองแก้วแล้ว มันไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพ กาแฟดื่มมากๆ ก็ใช่ว่าจะดี คาเฟอีนทั้งนั้น เตรียมทุกอย่างเรียบร้อย แสนรักก็ยกถ้วยชาตรงไปที่ห้องทำงานของท่านประธาน “ขออนุญาตค่ะ” “เข้ามา” เจ้าของห้องตอบรับแสนรักก็พาตัวเองเข้าไปด้านในพร้อมกับถาดที่ใส่ถ้วยชาสองแก้ว เธอเตรียมมาเผื่อปรมะด้วย “คุณเปรม ชาเปปเปอร์มิ้นต์ค่ะ” แสนรักวางถ้วยชาลงบนโต๊ะทำงานของปรมะก่อนจะขยับเท้ามาที่โต๊ะทำงานของจีรรัชญ์ “ชาเปปเปอร์มิ้นต์ค่ะ” “ผมสั่งกาแฟ” “วันนี้คุณจีรดื่มกาแฟไปเยอะแล้วนะคะ มันไม่ดีต่อสุขภาพนักหรอกค่ะ แล้วอีกอย่างชาเปปเปอร์มิ้นต์ก็มีประโยชน์เยอะแยะ ทั้งช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างพลังงานและช่วยลดอาการเมื่อยล้าระหว่างวันได้ อายุขึ้นเลขสามแล้วคุณจีรต้องใส่ใจสุขภาพตัวเองหน่อยนะคะ” ปรมะที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นจิบเกือบจะสำลักออกมา พูดออกมาแบบนั้นไม่ใช่ว่าคุณเลขาฯ แสนรักกำลังบอกว่าคุณจีรแก่แล้วหรอกใช่ไหม ถ้าคุณจีรในวัยสามสิบต้นๆ แก่ แล้วเขาสามสิบปลายๆ ไม่ใช่ว่าจะเป็นวัยชราในสายตาของคุณเลขาฯ แสนรักหรอกหรือ “คุณว่าผมแก่งั้นหรือแสนรัก” จีรรัชญ์ถึงกับวางปากกาด้ามหรูในมือลงบนโต๊ะ ตาคมจ้องแสนรักเขม็ง “ไม่มีคำว่าแก่สักคำในประโยคเลยนะคะ รักแค่อยากให้คุณจีรใส่ใจสุขภาพของตัวเองเพื่ออยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับพนักงานเบดดิ้งแฟบริคไปนานๆ ค่ะ” นอกจากจะบอกว่าเขาในวัยสามสิบต้นๆ ควรใส่ใจสุขภาพ แล้วยังบอกว่าให้เขาอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรไปนานๆ ไม่เท่ากับว่าด่าเขาว่าแก่หรอกงั้นหรือ จีรรัชญ์กัดฟันกรอด “แสนรัก!” จีรรัชญ์เค้นเสียงรอดไรฟัน “คะคุณจีร” แสนรักรับคำด้วยรอยยิ้มหวาน มองจีรรัชญ์ด้วยท่าทางซื่อใส ปรมะที่สังเกตุการณ์มาอยู่พักใหญ่ก็ได้บทสรุปว่าตอนนี้เขากำลังกลายเป็นส่วนเกิน จึงรีบกำจัดตัวเองออกโดยไม่ต้องรอให้ใครออกปากสั่ง “ผมว่าผมอยากเข้าห้องน้ำครับ” บอกแล้วก็ลุกพรวดเดินตัวปลิวออกไปจากห้องทำงานโดยไม่ลืมปิดประตูให้อย่างเสร็จสรรพ ก้าวพ้นออกจากประตูห้องได้ก็ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก ปล่อยให้คนในห้องมองกันด้วยสายตาฟาดฟัน ไม่ใช่สิ ไม่ใช่มองกันด้วยสายตาฟาดฟัน คนหนึ่งมองสายตาฟาดฟัน อีกคนมองกลับด้วยท่าทางซื่อใสต่างหาก บรรยากาศในห้องคุกรุ่นนิดๆ คนตรงหน้ามองกันเขม็ง แต่แสนรักก็ยังยิ้มสู้ ทั้งหมดทั้งมวลที่เธอทำไปไม่ใช่จงใจกลั่นแกล้งแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะความปรารถนาดีล้วนๆ “คุณตั้งใจจะแกล้งผม” “รักเปล่านะคะ” แสนรักส่ายหน้าปฏิเสธ “รักหวังดีจริงๆ ค่ะ ไม่ได้มีเจตนาจะแกล้งคุณจีรเลยนะคะ รักจะกล้าทำแบบนั้นได้ยังไงกัน” “แต่คุณจงใจขัดคำสั่งผม” “รักก็แค่…” “คุณเป็นเลขาฯ แค่ทำตามคำสั่งของเจ้านายก็พอ อย่าคิดแทน” ได้ยินแบบนั้นรอยยิ้มที่เคยปรากฏบนใบหน้าเรียวรูปไข่ก็ค่อยๆ เลือนหายไป ลำคอของหญิงสาวแห้งผากขึ้นมาอย่างฉับพลันพร้อมกับอาการหนักอึ้งเหมือนถูกของหนักกดทับตรงกลางอก “ทราบแล้วค่ะคุณจีร เดี๋ยวรักไปชงกาแฟมาให้นะคะ” แสนรักปั้นหน้ายิ้มตอนที่เดินไปหยิบถ้วยชาบนโต๊ะจีรรัชญ์คืนมา ความหวังดีของเธอกลายเป็นเรื่องที่เธอกล้าขัดคำสั่งเจ้านาย แต่ก็เอาเถอะ ต่อจากนี้เธอจะทำตามแค่ที่เขาสั่ง จะไม่คิดแทนอีกฝ่ายเด็ดขาด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม