“ยัยป่าน! นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้” เมื่อวิ่งเข้ามาภายในบ้าน เธอก็ถูกพินทุสรเพื่อนสนิทคว้าจับไหล่เล็กเอาไว้มั่นแล้วออกปากถามเธอด้วยน้ำเสียงคาดคั้นทันที ศวิตาช้อนตามองอีกฝ่ายพลางรีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ “พิน...” เห็นท่าทางของเพื่อนสนิทแล้ว พินทุสรก็รีบลากอีกฝ่ายขึ้นไปยังห้องนองของเจ้าตัวอย่างรวดเร็วด้วยความคุ้นชิน เมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องมิดชิดแล้ว หญิงสาวก็ถามศวิตาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดทันที “แกร้องไห้นี่ ร้องไห้ทำไม” “ฉัน...” ศวิตาพูดไม่ออก น้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วกลับทำท่าจะไหลออกมาอีกครั้งเสียดื้อๆ อย่างระงับไม่อยู่ พินทุสรเห็นอย่างนั้นจึงได้แต่ดึงร่างของเพื่อนสนิทเข้ามาโอบกอดปลอบใจ “ใจเย็นๆ นะป่าน ค่อยๆ เล่าออกมา” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และนั่นก็เหมือนกับความอดทนของศวิตาสิ้นสุดลง เธอกอดพินทุสรแน่น ซบหน้าลงกับไหล่ของอีกฝ่ายพลางถามด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น