ตอนที่ 4
หลังจากที่มธุสรขับรถออกไป ปุณณภพก็ยังคงยืนงงอยู่ริมถนน ราวกับถูกทิ้งไว้บนดาวเคราะห์ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตหลงเหลืออยู่ เขาพยายามปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อน และพลางมองมอเตอร์ไซค์ของนายแย้มที่ล้มตะแคงอยู่บนพื้นถนนด้วยความรู้สึกผิด
“แย่แล้ว! มอเตอร์ไซค์พี่แย้ม! เอาไงดีวะเนี่ย!” ปุณณภพอุทานเสียงดัง ก่อนจะรีบเข้าไปพยุงมอเตอร์ไซค์ขึ้นมา
“โธ่เว้ย!!” ปุณณภพบ่นพึมพำ เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะโทรบอกให้นายแย้มให้มาเอามอเตอร์ไซค์ของตัวเองกลับบ้านโดยบอกว่าค่าใช้ในการซ่อมเขาจะเป็นคนออกให้ทั้งหมด ปุณณภพตัดสินใจโบกแท็กซี่ที่วิ่งผ่านไปมาเพื่อเดินทางไปยังที่ทำงานต่อ
มธุสรเดินเข้ามาในห้องประชุมด้วยท่าทางสง่างาม ก่อนจะเดินมานั่งเคียงข้างบิดาของเธอที่รออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เวลาผ่านไปสักระยะหญิงสาวเหลือบมองนาฬิกาหรูบนข้อมือบางของเธอ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด เธอมาถึงก่อนเวลานัดหมายเสียอีก แต่กลับไม่มีวี่แววของการประชุมที่จะเริ่มขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“คุณพ่อคะ ทำไมท่านประธานถึงยังไม่มาประชุมอีกคะ” มธุสรเอ่ยถามบิดาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจเล็กน้อย
“ใจเย็น ๆ สิน้ำหวาน บางทีคุณรังสิมันต์อาจจะติดธุระด่วนอยู่ก็ได้” คุณชลธีร์บิดาของมธุสรรีบเอ่ยกับบุตรสาวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
มธุสรขมวดคิ้ว เธอไม่ชอบการรอคอย และการที่เธอเป็นคนตรงต่อเวลา เธอก็ไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบเธอแบบนี้
“นี่มันก็เลยเวลาประชุมไปตั้งเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะคะคุณพ่อ” มธุสรพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ในขณะที่บิดายังคงใจเย็นอยู่
“ใจเย็น ๆ ก่อนสิ น้ำหวาน” บิดารีบพูดให้อารมณ์ใจร้อนของลูกสาวเย็นลง
ในขณะที่มธุสรกำลังจะเอ่ยถามอะไรบางอย่างกับผู้เป็นบิดา เลขาฯ ของคุณรังสิมันต์ก็เดินเข้ามาในห้องประชุมด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน เธอก้มหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดูเกรงใจและรู้สึกผิด
“คุณชลธีร์คะ ท่านประธานฝากมาเรียนว่า มีเหตุจำเป็นที่ยังไม่สามารถเปิดการประชุมในตอนนี้ได้ค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นครับ คุณลลิตา” ชลธีร์ถามขึ้น
“ท่านประธานกำลังรอคุณปุณณภพ บุตรชายที่จะเข้าร่วมการประชุมและรับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่อยู่ค่ะ แต่เผอิญว่าเกิดปัญหานิดหน่อย ทำให้คุณปุณณภพมาช้ากว่ากำหนดค่ะ”
มธุสรถึงกับพูดไม่ออก เธออุตส่าห์รีบมาประชุมจนเกิดอุบัติเหตุ แต่กลับต้องมาเสียเวลารอคอยซีอีโอคนใหม่ที่ไม่มีความรับผิดชอบ เธอรู้สึกว่าการกระทำของซีอีโอคนใหม่เป็นการไม่ให้เกียรติบิดาของเธอที่เป็นถึงบอร์ดบริหาร
“นี่มันหมายความว่ายังไงกันคะคุณพ่อ!” มธุสรโวยวายเสียงดัง ใบหน้าสวยแดงก่ำด้วยความโกรธ เพราะอุตส่าห์ยกเลิกนัดไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มไฮโซ เพื่อหวังจะมาประชุมสำคัญกับหุ้นส่วนรายใหญ่อย่างคุณรังสิมันต์ แต่เขากลับเลื่อนประชุมเพียงเพราะรอลูกชาย
ชลธีร์พามธุสรกลับมายังห้องทำงานส่วนตัวของเขา บรรยากาศภายในห้องเต็มไปด้วยความอึดอัด มธุสรเดินวนไปวนมาด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าสวยบึ้งตึง ดวงตาคู่คมเปล่งประกายความไม่พอใจ
“หนูอุตส่าห์เลื่อนนัดไปเที่ยวกับพี่มิกซ์” มธุสรเอ่ยเสียงสั่นน้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง การกระทำของประธานใหญ่เป็นการไม่ให้เกียรติบอร์ดบริหารอย่างบิดาของเธออย่างร้ายแรง ชลธีร์ถอนหายใจยาว พยายามปลอบโยนบุตรสาว
“เอาเถอะน้ำหวาน ยังไงคุณภพกับคุณรังสิมันต์เขาก็เป็นพ่อลูกกัน”
“พ่อลูกแล้วไงคะ! ไปเรียนตั้งเมืองนอกเมืองนา แต่ไม่มีความรับผิดชอบเอาซะเลย!” มธุสรตอกกลับ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมบิดาของเธอถึงยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
“บางทีคุณภพเค้าอาจจะมีธุระเร่งด่วนก็ได้ หนูต้องหัดใจกว้างหน่อยละลูก” ชลธีร์เอ่ยเสียงอ่อนโยน และพยายามหาเหตุผลมาอธิบายให้บุตรสาวเข้าใจ
“ธุระอะไรกันคะ! ถึงทำให้คนอื่นต้องรอขนาดนี้!” มธุสรยังคงไม่คลายความโกรธ
“คุณพ่อก็เป็นถึงบอร์ดบริหาร ทำไมต้องยอมให้คุณอารังสิมันต์เอาลูกชายมาเป็นซีอีโอด้วยล่ะ!” ชลธีร์ตรงเข้าไป ลูบศีรษะบุตรสาวเบาๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเรียบ
“น้ำหวานต้องรู้จักให้โอกาสคุณภพเค้าแสดงความสามารถ ดีไม่ดียังไงค่อยว่ากัน อีกอย่างคุณรังสิมันต์ก็จะให้ตำแหน่งของลูกในการเป็นหัวหน้าโครงงานใหญ่ๆ ด้วยนะ” ผู้เป็นบิดารีบบอกทำให้บุตรสาวใจชื้นขึ้นมาบ้าง
น้ำหวานเงยหน้าขึ้นมองบิดา แต่ดวงตาคู่สวยยังคงฉายแววไม่พอใจอยู่ ชลธีร์ยิ้มขึ้น
“เอาน่าลูก เรื่องนี้มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเอง หนูอย่าใส่ใจเลยนะ”
“แต่หวานไม่ชอบที่ลูกชายของคุณคุณอารังสิมันต์ทำแบบนี้” น้ำหวานยังคงยืนกราน
“ลูกชายเค้าไม่มีความรับผิดชอบตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่ง มันใช้ไม่ได้เลยนะคะ”
“เอาเถอะลูก” ชลธีร์ถอนหายใจ
“เค้าอาจจะมีธุระเร่งด่วนจริงๆ ก็ได้ อีกหน่อยน้ำหวานต้องร่วมงานกับคุณภพเขา พ่อว่าอย่ามาโกรธหรือตั้งแง่กับเขานักเลย”
“แต่...” มธุสรยังคงอยากจะแย้ง แต่เมื่อเห็นสายตาของบิดา เธอจึงเงียบไป
“เชื่อพ่อเถอะนะ...น้ำหวาน” ชลธีร์เอ่ยเสียงอ่อนโยน
“ถ้าหนูเชื่อพ่อแล้วทุกอย่างจะดีเอง” ชลธีร์เข้าใจว่าถ้าลูกสาวได้เจอหน้าปุณณภพเธอจะไม่พูดแบบนี้ เพราะเขาทั้งหล่อ ทั้งดูดี เหมาะสมกับบุตรสาวทุกอย่าง ไม่เหมือนกับนายมิกซ์ไฮโซจอมปลอมคนนั้นที่ดีแต่โอ้อวด
หญิงสาวถอนหายใจ เธอรู้ว่าบิดาของเธอหวังดี
“ก็ได้ค่ะคุณพ่อ” มธุสรเอ่ยเสียงเบา
“แต่ห้ามมีครั้งต่อไปเด็ดขาด ไม่งั้นน้ำหวานไม่ยอมแน่ ๆ “
“ดีมากลูก” ชลธีร์ยิ้ม
“พ่อรู้ว่าลูกเป็นคนเก่งและมีความสามารถ พ่อเชื่อว่าลูกจะทำงานร่วมกับคุณภพได้ดี” ชลธีร์พูดเสริม
น้ำหวานพยักหน้า เธอชักอยากจะเห็นลูกชายของท่านประธานรังสิมันต์ซะแล้วสิ ว่าจะเก่งสักแค่ไหน