เรื่องบังเอิญหรือพรหมลิขิต

1152 คำ
ตอนที่ 5 ระหว่างทางที่รถแท็กซี่แล่นผ่านถนนสายหลัก ปุณณภพได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วกดรับสาย “ฮัลโหล..พ่อ” ทันทีที่เสียงปลายสายดังขึ้น ปุณณภพแทบจะยกมือขึ้นปิดหู เมื่อได้ยินเสียงบ่นของผู้เป็นบิดา “เฮ่ย!! นี่แกมัวทำอะไรอยู่เจ้าภพ” คุณรังสิมันต์ถามเสียงเข้ม และไม่ปล่อยเวลาให้ปุณณภพได้มีเวลาอธิบาย “ใจเย็นๆ ครับพ่อ” ปุณณภพตอบเสียงอ่อน “นี่แกมัวทำอะไรอยู่” “พอดีรถที่ผมขับมาเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยครับพ่อ...” ปุณณภพตอบตะกุกตะกัก “เกิดอะไรขึ้น แล้วแกเป็นอะไรมากรึเปล่า” คุณรังสิมันต์ถามด้วยความตกใจ “ผมไม่เป็นอะไรมากครับ แต่รถมอเตอร์ไซค์ของพี่แย้มเนี่ยสิ...เละ!” ปุณณภพตอบเสียงแผ่ว “ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อจะให้ประสบโชคไปรับแก” “ไม่เป็นไรครับพ่อ ตอนนี้ผมกำลังนั่งแท็กซี่ไปที่บริษัทแล้ว” ปุณณภพรีบปฏิเสธความช่วยเหลือ “แกไม่ต้องมาแล้วล่ะ พ่อเลื่อนนัดประชุมเป็นวันพรุ่งนี้แล้วเกรงใจคุณชลธีร์เค้า แล้วแกก็รีบไปตรวจที่โรงพยาบาลซะ” ผู้เป็นบิดารีบบอก ห่วงก็ห่วงโกรธก็โกรธแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ปุณณภพกดวางสายและบอกให้แท็กซี่วนกลับไปส่งเขายังร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์เมื่อสักครู่ โดยไม่ได้ไปโรงพยาบาลอย่างที่บิดาบอก พอไปถึง ปุณณภพก็เห็นนายแย้มยืนดูมอเตอร์ไซค์ด้วยความเป็นห่วง “คุณภพ! เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ยทำไมยังไม่รีบไปที่ทำงานอีก” นายแย้มถามด้วยความตกใจที่เห็นเจ้านายหนุ่มวนกลับมาอีก “พอดีคุณพ่อเลื่อนการประชุมออกไปก่อน ผมขอโทษนะครับพี่แย้ม ที่ทำให้มอเตอร์ไซค์คู่ใจของพี่ต้องเป็นแบบนี้” ปุณณภพบอกเสียงแผ่ว “โธ่เอ๋ย!!...ไม่เป็นไรเลยครับคุณภพ รถผมมันแก่แล้ว” นายแย้มพูด “งั้น..เดี๋ยวผมจ่ายซ่อมให้พี่เองครับ” ปุณณภพรีบบอก นายแย้มยิ้มขึ้นด้วยความดีใจ หลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย ปุณณภพก็นั่งแท็กซี่กลับบ้านด้วยความรู้สึกหลากหลายปะปนกันไป ความรู้สึกผิดที่ทำให้รถของนายแย้มเสียหายยังคงวนเวียนอยู่ในใจ แต่สิ่งที่ทำให้เขาครุ่นคิดมากที่สุดคือใบหน้าของสาวสวยคนนั้น ดวงตากลมโตที่ฉายแววโกรธเคือง ริมฝีปากบางที่เม้มแน่น และเส้นผมสีดำขลับที่ปลิวไสวตามแรงลม ภาพเหล่านั้นยังคงติดตาตรึงใจปุณณภพ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงได้สนใจผู้หญิงคนนั้นมากขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนดูถูกเขา ปุณณภพนึกถึงคำพูดที่เธอพูดกับเขา น้ำเสียงแข็งกระด้างและท่าทางที่ไม่ยอมอ่อนข้อ ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกท้าทาย แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกเหมือนถูกดึงดูดด้วยเสน่ห์บางอย่างที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ “เธอเป็นใครกันนะ” ปุณณภพพึมพำกับตัวเอง เขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของเธอ แต่ใบหน้าของเธอกลับติดอยู่ในความทรงจำของเขาอย่างชัดเจน ระหว่างทางที่รถแท็กซี่แล่นผ่านถนนสายหลัก ปุณณภพมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพของตึกสูงระฟ้า ทำให้เขาคิดถึงชีวิตที่วุ่นวายของตัวเอง เขาเป็นลูกชายคนเดียวของมหาเศรษฐีที่ต้องแบกรับความคาดหวังมากมาย แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องการความรักและความเข้าใจ ปุณณภพถอนหายใจยาว เขาไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปแล้ว เขาอยากจะเจอเธออีกครั้ง อยากจะรู้จักเธอให้มากขึ้น และอยากจะรู้ว่าภายใต้ท่าทางที่แข็งกระด้างนั้น เธอซ่อนความอ่อนโยนเอาไว้หรือไม่ เมื่อรถแท็กซี่มาถึงหน้าบ้าน ปุณณภพจ่ายเงินเรียบร้อยก็ลงจากรถด้วยความรู้สึกที่ยังคงสับสน เขาเดินเข้าไปในบ้านด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่ง เขาจะได้พบกับเธออีกครั้ง ช่วงเย็น เมื่อคุณรังสิมันต์และคุณหญิงถวิกาผู้เป็นมารดาเลิกงานเสร็จก็กลับมาที่บ้านพร้อมกัน จึงมาสอบถามเรื่องราวทั้งหมดจากบุตรชาย “คุณแม่ครับ คุณพ่อครับ ผมขอโทษจริงๆ ครับ” ปุณณภพกล่าวขอโทษ “ไม่เป็นไรๆ แม่กับพ่อเข้าใจ ภพไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วลูก” คุณถวิกาเข้ามากอดลูกชายด้วยความเป็นห่วง “แล้วนี่แกเอารถไปชนกับใครมา” คุณรังสิมันต์ถาม “ผมก็ไม่รู้จักหรอกเธอหรอกครับพ่อ แต่เธอเหวี่ยงแล้วก็โมโหใส่ผมน่าดู ทั้งที่เธอเป็นฝ่ายผิด แล้วก็ไม่ยอมรับผิดชอบอะไรผมสักอย่าง” ปุณณภพตอบ “แล้วแกจะเอาเรื่องมั้ย เดี๋ยวฉั้นจะให้ทนายจัดการให้” คุณรังสิมันต์ถาม “อย่าดีกว่าพ่อ” ปุณณภพรีบตอบ เพราะคิดว่าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง “แล้วอาการลูกเป็นยังไงบ้าง ได้ไปให้หมอตรวจหรือยัง..หึ” คุณหญิงถวิกาถามบุตรชายด้วยความเป็นห่วง “ผมไม่เป็นไรเลยครับ..แค่เคล็ดนิดหน่อย ตอนนี้ทายาแล้วครับแม่” ปุณณภพตอบ คุณรังสิมันต์มองบุตรชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความขัดใจอย่างแรง เมื่อเห็นผมเผ้าที่ยาวรุงรังของปุณณภพบุตรชาย “นี่เจ้าภพ!!!” คุณรังสิมันต์เอ่ยเสียงเข้ม “พ่อว่าแกควรไปตัดผมซะ” ปุณณภพยกมือขึ้นลูบผมของตัวเองอย่างงงๆ “ทำไมล่ะครับพ่อ ผมว่ามันก็ดูดีออก” “ดูดีกับผีอะไร” คุณหญิงถวิกาหัวเราะเบาๆ ที่ได้ยินสามีพูดเช่นนั้น “ผมลูกยาวรุงรังขนาดนี้ เหมือนคนไม่ได้สระผมมาเป็นปีแน่ะ ทำตามที่พ่อเค้าบอกเถอะนะ” มารดาเห็นด้วยจึงรีบบอกบุตรชาย ปุณณภพทำหน้ายู่ “โธ่แม่!!!.. ก็ผมเพิ่งจะลงเครื่องมา จะเอาเวลาที่ไหนไปตัดล่ะครับ” “เดี๋ยวฉันจะเรียกประสบโชคให้เป็นคนพาแกไปร้านตัดผมเดี๋ยวนี้เลย” คุณรังสิมันต์กล่าว “พรุ่งนี้ลูกต้องเข้าบริษัทแต่เช้า แม่ว่าไปตัดผมให้เรียบร้อยสักหน่อยจะดีกว่า จะได้สมกับเป็นซีอีโอคนใหม่ไง” คุณถวิกาอ้อนบุตรชาย ซึ่งต่างจากบิดาที่เข้าข่ายเผด็จการ “ก็ได้ครับแม่” ปุณณภพตอบเสียงอ่อย ก่อนจะยิ้มกว้างให้ผู้เป็นมารดาแล้วเข้าไปหอมแก้มเบา ๆ ปุณณภพเดินขึ้นห้องนอนด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม เขาหลับตาลง พลางคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม