แค่ไม่รัก

1129 คำ
เมื่อถึงจวนสกุลเหลียน จวนขนาดใหญ่ของตระกูลคหบดีแห่งเมืองหลวง สกุลเหลียนค้าข้าว ค้าน้ำมันดิน ค้าถ่านหิน ค้าพลอย อีกหลายต่อหลายกิจการที่มิอาจประเมินค่าได้ นับได้ว่าเป็นตระกูลคหบดีที่ร่ำรวย ติดอันดับหนึ่งในห้าของแคว้น หานฟงทำหน้าใจดีสู้เสือ เดินเข้าไปในจวนสกุลเหลียนอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่ทัพหานฟงมีศักดิ์เป็นถึงเป้ยจื่อ แม้เป็นญาติห่างๆ ของเสด็จอาผู้เป็นจักรพรรดิแต่โดยศักดิ์แล้วแม่ทัพหานฟงคือเชื้อพระวงศ์ผู้หนึ่ง นับได้ว่าเหมาะสมกับเหลียนหลิงซือด้วยประการทั้งปวง เสด็จพ่อของแม่ทัพหานฟงมีศักดิ์จวิ้นอ๋องแต่ไม่ได้สืบศักดิ์ขั้นสามให้หานฟงตามสายเลือด แม่ทัพหานฟงจึงมีศักดิ์ลดลงมาหนึ่งขั้นเป็นเชื้อพระวงศ์ขั้นสี่ บรรดาสาวใช้ต่างออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี ล้วนเป็นที่รู้กันทั่วว่าแม่ทัพผู้นี้เป็นที่ถูกอกถูกใจท่านปู่ของเจ้าสาวยิ่งนัก ผู้นำตระกูลเหลียนคือท่านปู่เหลียนเจ้าเซิน ปู่ของเหลียนหลิงซือเจ้าสาวหมาดๆ ผู้เขียนหนังสือหย่าให้เขาเมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อน ท่านปู่สวมอาภรณ์โปร่งเบาสีแดงเลือดนก เดินออกมาต้อนรับหลานเขย ตามด้วยท่านพ่อเหลียนซื่อหยาง ท่านแม่อี้หว่าน ฮูหยินรองเหยาลี่อิงอุ้มบุตรชายอายุสองขวบเศษออกมาด้วย “คารวะท่านปู่ ท่านพ่อตา ท่านแม่ยาย ท่านแม่รอง” แม่ทัพหานฟงคารวะญาติผู้ใหญ่ฝั่งภรรยา “นั่งก่อนๆ หลิงเอ๋อร์อยู่ในห้อง ว่าแต่เหตุใดจึงกลับมาเยี่ยมบ้านกันคนละทีสองที ไม่มาพร้อมกันเล่า” ท่านปู่เอ่ยถาม “ข้าไปสะสางงานในกองทัพ เสร็จแล้วจึงรีบตามมา อาจเข้าใจเข้าใจคลาดเคลื่อนกันนิดหน่อยจึงไม่ได้มาพร้อมกัน” แม่ทัพหน้าเจื่อนตอบออกไปแบบข้างๆ คูๆ “เสี่ยวปิง ไปตามหลิงเอ๋อร์หลานข้ามาที อย่าให้หลานเขยข้ารอนาน เพิ่งแต่งงานกันแท้ๆ คงอยากพาเมียกลับบ้านแล้วกระมัง ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ท่านปู่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ขอให้มีความสุขในชีวิตสมรสนะเจ้าคะท่านแม่ทัพ เมื่อบุตรชายข้าโตขึ้นอยากให้ห้าวหาญอย่างแม่ทัพหานฟงบ้าง” ฮูหยินรองกล่าวอวยพร “ขอบคุณฮูหยินรอง” แม่ทัพหานฟงหันไปอุ้มเหลียนอันเฉิง เด็กชายตัวอ้วนจ้ำม่ำวัยสองขวบเศษ เจ้าก้อนแป้งยักษ์โผเข้ากอดแม่ทัพด้วยความคุ้นเคย “พี่สาวของเจ้าแอบหนีมาก่อน” ฮูหยินใหญ่ยื่นมือไปบีบแก้มเด็กชายเบาๆ พลางว่ากล่าวบุตรสาวของตน นางมารหวังเจียวหลินในร่างเหลียนหลิงซือเดินออกมาที่ห้องโถงรับรอง สายตาของนางว่างเปล่า นางปรายตามองแม่ทัพหานฟงคราหนึ่ง “คารวะท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านแม่รองเจ้าค่ะ” ท่าทีสง่างามเฉยชา ค้อมกายคารวะทุกคน ยกเว้นเขาคนเดียวเท่านั้น “หลิงเอ๋อร์ไม่รอพี่ พี่ไปค่ายทัพเพียงครู่เดียวหนีมาเยี่ยมบ้านตามธรรรมเนียมก่อนเสียแล้ว” แม่ทัพหานฟงพูดแก้เก้อ ในอ้อมกอดอุ้มเจ้าก้อนแป้งยักษ์อยู่ น้องชายตัวน้อยยิ้มหวานให้พี่สาวพลางยื่นมือไปหา “เจ้าแป้งน้อยเหลียนอันเฉิง อยากให้พี่สาวอุ้ม” หานฟงเรียกนางเข้ามาใกล้ หวังเจียวหลินเดินเข้ามาใกล้ นางยืนขมวดคิ้วมองเด็กน้อยตัวอ้วนขาวกำลังยิ้มหวาน ในแผ่นดินมารไม่มีเด็กทารก เมื่อผู้คนผ่านบ่อปราณทิพย์เข้าไปได้ อายุจะหยุดอยู่เพียงช่วงอายุวันผ่านบ่อเท่านั้น ไม่มีการสืบสายโลหิตด้วยการกำเนิดใหม่ สืบทอดด้วยความสามารถตามสายตระกูล หากฝึกปราณมารแกร่งกล้า อายุจะยืนยาวต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด รูปร่างหน้าตาจะคงเดิมเช่นวันแรกที่ผ่านบ่อเข้าไป “เด็กน้อยอย่างนั้นรึ ช่างหอมละมุน ตัวก็นุ่มยิ่งนัก เด็กผู้นี้ช่างน่ารัก” นางอุ้มน้องชายเข้ามาไว้ในอ้อมกอด เจ้าเด็กน้อยหลับตาพริ้มในวงแขนพี่สาว ทุกคนมองหน้ากันอย่างแปลกใจ เหลียนหลิงซืออุ้มเจ้าก้อนแป้งยักษ์ทุกเวลา นางไม่เคยห่างน้องน้อยเสียด้วยซ้ำ วันแต่งงานก็ร้องไห้จนตาบวมทั้งพี่ทั้งน้องเมื่อต้องแยกจาก เหตุใดนางจึงพูดจาแปลกๆ ราวกับเพิ่งเคยอุ้มน้องชายเป็นครั้งแรก “เหตุใดจึงไม่กลับบ้านมาพร้อมกัน” ท่านปู่เอ่ยถาม นางมองหน้าแม่ทัพหานฟงครู่หนึ่ง เสียงหวานเอ่ยตอบอย่างเย็นชา จนทุกคนตกใจตาเบิกค้างชั่วขณะ “ข้าเขียนหนังสือหย่าให้แม่ทัพหานฟง ต่อจากนี้ไปข้ากับแม่ทัพหานฟงไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดต่อกัน” ท่ามกลางความเงียบงันจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคน ในอกแม่ทัพช่างเจ็บปวด ความรู้สึกเหมือนมีดกรีดแทงลงไปถึงขั้วหัวใจ “พี่ผิดอะไร เหตุใดต้องทำกับพี่เช่นนี้ ท่านปู่ ท่านพ่อ ช่วยพูดกับนางให้ข้าด้วย” แม่ทัพหันไปหาผู้นำตระกูลเหลียน “สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเราไม่ใช่ความผิดของท่าน มันเป็นความผิดของข้าเอง” “หลิงเอ๋อร์เราเพิ่งแต่งงานกัน เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิด หากมีข้อผิดพลาดอันใดเราค่อยปรับเข้าหากันก็ได้ พี่ไม่เคยถือโทษโกรธเคืองแม้แต่น้อย” แม่ทัพขมวดคิ้ว เขาพยายามนึกถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในสามวันนี้ เขายังนึกไม่ออกว่าเขาได้ทำความผิดอะไรทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ มีความผิดใดบ้างที่ร้ายแรงจนถึงขั้นหย่าร้าง เขานึกแทบตายก็ยังนึกไม่ออก “ความผิดของข้าคือ ข้าไม่ได้รักท่าน ที่ผ่านมาก็ไม่เคยรัก” นางตอบออกมาด้วยเสียงเรียบเฉย แม่ทัพหานฟงยืนนิ่งเป็นก้อนหินดั่งถูกสาป คราวนี้เขาถูกสาปด้วยถ้อยคำกรีดแทงใจ สาปให้จมอยู่กับความเจ็บปวด “เจ้ากำลังบอกเลิกพี่อย่างไร้สาเหตุอย่างนั้นรึ” “แค่ไม่รัก เหตุผลนี้ก็เพียงพอแล้ว” นางเอ่ยตอบแม่ทัพ พลางอุ้มน้องชายในอ้อมแขน มันควรเป็นวันครอบครัว วันเยี่ยมบ้าน วันแห่งความสุขไม่ใช่หรืออย่างไร ไม่ใช่วันโลกาวินาศของคนเพิ่งแต่งงานอย่างแม่ทัพหานฟง ผู้นำตระกูลเหลียนลูบเคราอย่างครุ่นคิด บิดาของนางยังนิ่งอึ้งอยู่ ส่วนมารดาของนางเป็นลมไปแล้ว ฮูหยินรองกำลังทำท่าวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมตามไป ทุกคนต่างประหลาดใจขั้นสุดกับการหย่าร้างหม้อข้าวยังไม่ทันเดือดเสียด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่หม้อข้าวไม่ทันดำ ‘แค่ไม่รัก’ ประโยคสั้นๆ แต่เจ็บปวด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม