น้ำในตา

1131 คำ
เสียงนกร้องข้างหน้าต่าง กลิ่นดอกไม้ป่าลอยมาตามสายลม ผ้าม่านโปร่งสีขาวในห้องนอนพัดปลิวพลิ้ว ช่างเป็นเช้าแห่งความสดใส แม่ทัพหานฟงมองฮูหยินของตนกำลังหลับ เขามองหน้านวลขาว แก้มใสสีชมพูระเรื่อ ปากอวบอิ่มสีแดงดั่งลูกอิงเถาทำเขาอยากชิมทุกครั้งที่มอง ขนตายาวเป็นแพ จมูกโด่งเชิดขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกวาบหวิวในหัวใจเมื่อคิดถึงบทรักในห้องหอตลอดสามคืนที่ผ่านมา ตามธรรมเนียมการเฝ้าห้องหอสามคืน เขาทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แม่ทัพหานฟงกักขัง ..หมายถึง..อยู่ดูแลฮูหยินตลอดสามวัน ทั้งกินข้าว อาบน้ำก็อยู่ใกล้ชิดนางแทบตลอดเวลายกเว้นยามทำธุระส่วนตัว แม่ทัพแอบหอมแก้มฮูหยินเบาๆ กลัวนางตื่นขึ้นมาโวยวายใส่ “ไปนำอาหารมาไว้ให้ฮูหยินข้า เตรียมน้ำให้นางอาบชำระกาย เมื่อข้ากลับมาจะพานางไปเยี่ยมบ้าน” “เจ้าค่ะ” สาวใช้สองคนเข้ามาอยู่รอรับใช้ตามคำสั่ง แม่ทัพหานฟงแต่งกายด้วยชุดเกราะอ่อนซ้อมรบ เขามีงานต้องเข้าไปสะสางยังค่ายทัพ เขาควบม้าออกจากจวนไปตั้งแต่ปลายยามเหม่า อากาศดีเหลือเกิน คนเพิ่งแต่งงาน เพิ่งได้เข้าหอยิ่งอารมณ์ดีเข้าไปอีก อวิ๋นเซียวรองแม่ทัพกองธงเพลิงกำลังง่วนอยู่กับการจัดกระบวนทัพ เขายิ้มล้อเลียนเมื่อเห็นผู้เป็นนายเดินเข้ามา “ดูท่านอารมณ์ดียิ่งนัก ผ่านงานแต่งไปไม่กี่วันดูซีดเซียวไปหน่อยกระมัง” รองแม่ทัพเอ่ยเย้า “ฮูหยินของข้าช่างน่ารักและเอ่อ..ร้อนแรง” “ดีใจกับท่านแม่ทัพด้วย หากท่านไม่แต่งตอนนี้ หากท่านมีบุตร บุตรท่านคงเรียกว่าท่านปู่แล้ว” “ฮึ่ย! อวิ๋นเซียว เจ้าบ้า ข้าอายุเพียงยี่สิบเจ็ดปีเท่านั้น ไม่ได้แก่อะไรมากมาย เรี่ยวแรงยังมีเหลือเฟือ” “งานกองทัพช่วงนี้ค่อนข้างยุ่งทีเดียว กองกำลังส่วนหนึ่งต้องแบ่งไปคุ้มกันบ่อปราณทิพย์” “จะมีการคัดเลือกผู้ฝึกเทพมารขึ้นไปบนแผ่นดินเทพมารผ่านบ่อปราณทิพย์เร็วๆ นี้อย่างนั้นรึ” “ขอรับ มีผู้ไม่หวังดีจ้องทำลายบ่อ แม้บ่อปราณทิพย์จะไม่มีสิ่งใดทำลายลงได้ มีผู้ฝึกตนสายหนึ่งนำระเบิดอย่างร้ายแรงไปวางระเบิดที่บ่อแห่งนี้ เพื่อขัดขวางผู้ฝึกวิถีเทพมารไม่ให้ผ่านบ่อเข้าไปได้ คาดว่าต้องการตัดกำลังผู้ฝึกตนทั้งสองสาย” “ทำตามหน้าที่ บ่อปราณทิพย์อยู่มาหลายพันปี เพียงระเบิดคงไม่อาจทำลายบ่อนี้ได้ แต่หากบ่อถูกทำลายนับว่าเป็นเรื่องดียิ่ง คนจะได้เลิกแบ่งฝ่ายฝึกเทพฝึกมารเสียที” แม่ทัพเอ่ยอย่างอารมณ์ดี “ท่านสะสางงานกองทัพเสร็จก็ออกมาเอาของฝากด้วยเล่า ข้ากับเหล่าทหารทำไก่อบฟาง เตรียมสุราดีไว้ให้ท่านเอาไปกินกับพ่อตาแม่ยาย” “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าวันนี้ข้าจะพานางกลับไปเยี่ยมบ้าน” “เด็กสามขวบยังรู้เลยขอรับ เมื่อครบสามวันหลังแต่งงานสามีต่างพาภรรยากลับไปเยี่ยมบ้านทั้งนั้น” “ข้าต้องรีบเข้าไปสะสางงานก่อน ข้าจะรีบพานางกลับไปเยี่ยมบ้าน” แม่ทัพรีบเดินเข้าไปในห้องหนังสือ สะสางสาส์นรายงาน จดหมายกองใหญ่ส่งมาจากแถบชายแดน หานฟงเรียกกุนซือเข้ามาวางแผนงบประมาณ จัดการเรื่องซื้ออาวุธจนแล้วเสร็จ แม่ทัพหานฟงควบม้าอย่างอารมณ์ดีเข้ามาในจวน จวนแม่ทัพเป็นจวนขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ มีเรือนย่อยอีกหกเรือนด้านข้าง เรือนบ่าวไพร่สาวใช้อยู่ด้านหลัง แม่ทัพหานฟงอายุยี่สิบเจ็ดปี เขายังไม่เคยแต่งงาน ไม่มีอนุในเรือน ยามเมื่อมีความต้องการก็ไปหอนางโลม เขามีอี้จีขาประจำคนหนึ่งชื่อเสี่ยวลี่ฉิง ม้าสีเทาตัวใหญ่วิ่งเข้ามาลานหน้าจวน แม่ทัพกระโดดลงจากหลังม้า นำข้าวของออกจากกระเป๋าข้างอานม้า ไก่ย่างตัวอ้วนสีสวยหนังกรอบสามตัว สุราดีอีกสามไห ในค่ายทัพมีการหมักสุรามงคลของกองทัพ สุราชนิดนี้ต้องหมักถึงสองปี นำมากินกันเฉพาะในงานสำคัญหรือให้เป็นของขวัญเมื่อมีทหาร นายกอง หรือแม่ทัพคนใดก็ตามแต่งงาน สุรานี้มีชื่อเรียกว่าสุราวสันต์ ดื่มแล้วอยากเสียวกระสันทุกค่ำคืน “เหลียนหลิงซือ ยาหยีของพี่ ยอดรักอยู่ที่ใด” แม่ทัพร้องเรียกฮูหยินของตนอย่างไม่ระวังกิริยา เขาเป็นคนโผงผาง อารมณ์ดี พูดจาตรงไปตรงมา “...” ไม่มีเสียงตอบรับ เขาเดินเข้าไปที่เรือนด้านข้าง เรือนอิงฮวาเป็นเรือนที่เขาตกแต่งใหม่เพื่อให้ฮูหยินได้พักอาศัยหลังแต่งงาน “ฮูหยินข้าเล่า นางอยู่ไหน” “คือนาง เอ่อ..” สาวใช้สี่คนยืนก้มหน้าไม่กล้าตอบ “ข้าถามว่านางอยู่ที่ใด พวกเจ้าไม่ได้ยินรึ” เขาเอ่ยเสียงต่ำ บรรยากาศชักเคร่งเครียด “นางเขียนหนังสือหย่าให้ท่านวางไว้บนโต๊ะ นางกลับจวนสกุลเหลียนไปแล้วเจ้าค่ะ ไม่เก็บของไปแม้แต่ชิ้นเดียว” สาวใช้ก้มหน้าตอบไม่กล้ามองหน้าแม่ทัพผู้ที่บัดนี้กำลังยืนนิ่งเป็นตอไม้ “ว่าอย่างไรนะ? ข้าฟังผิดใช่หรือไม่ หนังสือหย่าอย่างนั้นรึ” “เจ้าค่ะ หนัง-สือ-หย่า” สาวใช้เงยหน้าพูดย้ำคำว่าหนังสือหย่า เหมือนสายฟ้าฟาดกลางร่างกลางวันแสกๆ เขาเพิ่งแต่งงาน เขาเตรียมสุราอาหารมงคล เตรียมตัวพานางกลับไปเยี่ยมบ้านตามธรรมเนียม กลับมานางเขียนหนังสือหย่าไว้ให้ แม่ทัพหานฟงปวดร้าวหัวใจ ความเจ็บปวดแล่นขึ้นมาถึงลำคอ ‘ข้าไม่ดีตรงที่ใด ข้าทำอะไรผิด’ เขาได้แต่ถามตัวเองในใจ เขาก้าวเดินเข้าหาโต๊ะกลาง มือหนาสั่นระริกยามหยิบหนังสือหย่าขึ้นมาดู เขาอ่านหนังสือหย่าทุกตัวอักษร ทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง “เหลียนหลิงซือ เจ้าทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้” เขาตะโกนลั่นห้อง มือฉีกหนังสือหย่าเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ร่างหนากำยำพรวดพราดออกจากห้องไปราวพายุ เขากระโดดขึ้นม้ารีบควบไปจวนสกุลเหลียนทันที คิดจะหย่าก็หย่า คิดจะไปก็ไปอย่างนั้นรึ สตรีผู้นี้คิดสิ่งใดอยู่ ความปวดร้าวหัวใจสัมพันธ์อย่างไรกับดวงตา แม่ทัพหานฟงเริ่มไม่แน่ใจ ดวงตาคมกล้าดั่งพญาอินทรีย์มีน้ำตาเอ่อคลอ เขาปวดใจแต่เหตุใดน้ำมันจะไหลออกจากตา ตรรกะงี่เง่าอันใดกัน!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม