การประชุมในช่วงเช้าที่ว่าหนักแล้วยังแพ้ให้กับการประชุมผู้บริหารของธารารินทุกสาขาทั่วโลกผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ นอกจากจะกินเวลานานแล้วยังมีปัญหาของแต่ละสาขาที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ท่านประธานใหญ่ของสาขาหลักเดือนพาลสั่งให้ผอ.แต่ละสาขารีบแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เสร็จภายในเดือนนี้
ทั้งการขนส่ง การผลิตงานที่ผิดพลาดรวมไปถึงการตลาดที่สื่อสารไม่เข้าใจกันอีกทำให้สูญเสียมูลค่าทางธรุกิจไปหลายล้านเหรียญถ้าคำนวณเป็นเงินบาทก็เกือบหนึ่งร้อยล้าน
ธรณ์โยนแว่นสี่เหลี่ยมราคาแพงทิ้งลงบนโต๊ะทันทีที่การประชุมจบลง เขาใช้มือลูบดวงตาที่ใช้งานอย่างหนักหน่วงหวังให้มันคลายความเหนื่อยล้านี้
“เดี๋ยวตาก็อักเสบหรอกค่ะ”
กลิ่นหอมคุ้นเคยที่มาพร้อมมือนุ่มจับมือเขาจากใบหน้าคม แม้ตอนนี้ธรณ์จะหลับตาแต่เขาก็รู้ว่าเจ้าของมือหอมนุ่มนี่คือใคร ชายหนุ่มไม่รอช้าดึงแขนเจ้าของมือขาวให้มานั่งเกยบนตักซึ่งเจ้าหล่อนเองก็ไม่ได้ขัดขืน
รมิตาถูกเรียกเข้ามาร่วมประชุมที่ห้องทำงานของท่านประธานหลังจากที่เธอกำลังค้นหาข้อมูลในห้องเอกสาร ซึ่งปกติการประชุมสำคัญกับสาขาย่อยจะเป็นหน้าที่ของชยพล แต่ท่านประธานให้เหตุผลว่าชยพลติดธุระอย่างอื่นจึงเรียกรมิตาเข้าร่วมการประชุมแทน
แน่นอนว่ามิตาแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออก ในเมื่อเป็นหน้าที่เธอก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยง
“มิตานวดให้ค่ะ”
“อืม”
ต่อให้เหตุการณ์เมื่อเช้าจะทำร้ายจิตใจและความรู้สึกของตัวเองมากแค่ไหน แต่พอเห็นใบหน้าคมคายแสดงออกถึงความเครียดรมิตาก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้ กลืนความขุ่นเคืองของตัวเองลงไปใช้นิ้วเรียวยาวนวดไปตามขมับช้าๆเมื่อได้รับอนุญาต
คนตัวเล็กลอบสำรวจใบหน้าคมคายหล่อเหลาผิวหน้าเกลี้ยงเกลาเนียนละเอียด เขามีโครงหน้าที่ชัดเจนคิ้วดกหนาแต่ก็เรียงรางเป็นระเบียบรับกับจมูกโด่งคมสันริมฝีปากหยุ่นสีสดนั้นทำให้รมิตาแอบกลืนน้ำลาย
ให้ตายสิยิ่งเห็นหน้าเขาชัดเจนแบบหัวใจเธอดันเต้นแรงราวกับจะกระโจนออกมาประจานความอ่อนไหวที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน
แล้วแบบนี้จะตัดใจจากเขาได้ยังไงกันมิตา!
“หน้าฉันมีอะไรติด”
“คะ?”
เปลือกตาคมคู่นั้นค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นใบหน้าของรมิตาใกล้กับใบหน้าของเขามากจนมองเห็นเงาตัวเองในตาดำของอีกฝ่าย
“ก็เธอแอบมอง”
“เปล่าซะหน่อย ก็มิตานวดให้คุณก็ต้องมองหน้าคุณสิคะ”
มุมปากข้างหนึ่งของชายหนุ่มยกยิ้ม เขาจับมือขาวเนียนข้างหนึ่งขึ้นมาจูบเบาๆให้รางวัลที่มิตาเป็นเด็กดี
รมิตาเป็นแบบนี้เสมอเธอรู้ใจเขาไปหมดเสียทุกอย่าง ไม่งี่เง่าไม่เอาแต่ใจ รู้ว่าเวลาไหนควรทำอะไรไม่เคยทำให้เขาลำบากใจสมกับเป็นเลขาคนโปรด
ฝ่ามือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นลูบใบหน้างามเบาๆ เรื่องเมื่อเช้าจริงๆ แล้วเขาตกใจมากที่รมิตาพูดว่าอยากไปจากเขาหรือช่วงหลังมานี่เธอคงเหนื่อยเกินไปจริงๆ จะว่าไปเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาให้เธอเหมือนเก่าไหนจะเรื่องงานไหนจะเรื่องคู่หมั้นหรือเขาอาจจะละเลยจนเธอน้อยใจ ถึงได้พูดออกมาแบบนั้น
“ปวดหัวไหมคะ เป็นไมเกรนหรือเปล่าเดี๋ยวมิตาไปเอาของหวานมาให้”
“ไม่ล่ะ แค่วันนี้รู้สึกใช้พลังเยอะไปหน่อย หลังจากนี้มีงานอะไรอีกไหม”
“มีนัดกับคุณเดียวหนึ่งทุ่มค่ะ เหมือนจะเป็นงานเลี้ยงขอบคุณที่ท่านประธานบริจาคเงินงานการกุศลคราวก่อน” รมิตาลูบคิ้วที่ขมวดเป็นปมให้คลายออก
“พักสักหน่อยไหมคะ กว่าจะถึงเวลานัดพอจะมีเวลาอยู่”
การประชุมเมื่อครู่กินพลังชีวิตเขาไปเยอะจริงๆ แต่ธรณ์ไม่อยากออกห่างร่างนุ่มนิ่มของเลขาคนโปรด
“ห่วงแต่ฉันแล้วเธอไม่เหนื่อยหรือไง”
รมิตาไม่ตอบแต่ซบใบหน้างามที่กำลังแดงปลั่งลงในอ้อมแขนของเขา
“ถามแค่นี้เขินทำไม”
“มิตาไม่ได้เขินที่คุณถามแค่ แต่เขินที่อะไรก็ไม่รู้ทิ่มขามิตาอยู่”
ความเครียดเมื่อครู่หายไปเกือบหมดเมื่อธรณ์หลุดขำให้กับท่าทางน่ารักของรมิตา
“คุณธรณ์!” มิตาแสร้งเอ็ด
“หึหึ”
“ไหนบอกเหนื่อยไงคะ” เหนื่อยยังไงแค่นั่งทับตักส่วนนั้นของเขาก็แข็งขันพร้อมใช้งานไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยเลยสักนิด
“ก็เหนื่อยแล้วก็หิวด้วย”
“งั้นมิตาไปหาอะไรมาให้…”
“อยากกินนม” น้ำเสียงและแววตาหื่นกระหายบ่งบอกว่าต้องเป็นนมสดๆ ที่มาจากเต้าเท่านั้น
รมิตาหน้าแดงก่ำร้อนลามไปถึงใบหู
“ขอดื่มนมได้ไหมมิตา”
“มิตาว่าคุณคงไม่ได้เหนื่อยหรอกค่ะ”
เขาน่าจะหื่นมากกว่าถึงได้หาเรื่องแทะโลมร่างกายของเธอไปเรื่อย อยู่กันมาเกือบปีทำไมรมิตาจะรู้ไม่ว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ขนาดไหน
“เหนื่อยจริงๆ”
แม้น้ำเสียงจะไม่ได้ออดอ้อนอ่อนหวานแต่ทั้งสองแขนของเขาก็รวบร่างบางเข้าไปกอดเกยปลายคางที่เริ่มมีหนวดเปื้อนจางๆ ไว้บนไหล่เล็ก
“มิตายังเจ็บอยู่เลยค่ะ เมื่อคืนคุณก็กินแล้วทั้งคืน” พูดไปก็อยากกัดลิ้นตัวเองตายด้วยความกระดากอาย
ก็เพราะเมื่อคืนเขากินแม่เด็กดื้อคนนี้ทั้งคืนไงเมื่อเช้าถึงได้โมโหที่รมิตาดื้อแพ่งตื่นมาทำงานทั้งที่นอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง
ใบหน้าหล่อถอนออกมาจากไหล่เล็กแล้วใช้มือบีบแก้มนุ่มทั้งสองข้าง
“เจ็บเป็นด้วยเหรอ บอกให้นอนพักก็ยังจะดื้อ” แก้มขาวเนียนถูกบีบเข้าหากันอย่างมันเขี้ยว
“เจ็บค่ะ บีบมาได้”
ใบหน้าสวยง้ำงอแต่มันดูน่ารักน่าเอ็นดูสำหรับธรณ์ รมิตาไม่รู้หรอกว่าอารมณ์ที่แสดงออกผ่านทางสีหน้ามันมีอิทธิพลกับใจเขามากขนาดไหน
บทจะดื้อก็ดื้อเสียจนอยากจับมาตีก้นแรงๆ ให้หายพยศ พอบทจะน่ารักก็ดาเมจแรงเสียจนใจเขาอ่อนระทวย
ธรณ์ยิ้มเยาะกับคนที่ยังเปลี่ยนสีหน้าบึ้งตึงภายในเสี้ยววินาทีเขาไม่ได้ตอบโต้อะไรเลขาคนโปรดอีก เพียงแต่ซบหน้าลงไปสูดดมกลิ่นหอมในซอกคอ สองแขนกอดร่างนุ่มแนบชิดเบียดเข้าหาอกแกร่งแน่น รมิตาเองก็ยอมปล่อยให้เขาทำตามใจ
เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วยังรู้สึกเหนื่อยล้าจนสายตัวแทบขาด เพียงแค่ได้หยอกเย้าเลขาที่เขาให้ตำแหน่งเธอแค่บนเตียงกลับทำให้ร่างกายมีชีวิตชีวา ราวกับต้นไม้แห้งเหี่ยวกลางทะเลทรายที่ยืนต้นอยู่ท่ามกลางความแห้งแล้งได้รับน้ำฝนชุ่มฉ่ำ
ดูท่าเขาคงจะหลงเลขาคนโปรดคนนี้มากเอามากๆ
ถ้ามีใครรู้คงโดนหัวเราะเยาะ
ว่าเสือผู้หญิงจะสิ้นลายเพราะไก่วัดตัวงาม…