“ดิฉันจะคิดว่ามันเป็นความผิดพลาด” ใช่ หล่อนผิดพลาดเองตรงไปยืนผิดที่ผิดเวลา บางทีถ้าย้อนกลับไปได้หล่อนจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ อย่างนั้นเด็ดขาด
“ฉันไม่สนใจ” เขาบอกเสียงหนักแน่นทันควัน “ที่ฉันสนใจก็คือเธอต้องไปกับฉัน”
“ดิฉันจะไม่ไปกับคุณค่ะ”
สิ่งที่เสียไปเรียกคืนไม่ได้ สิ่งที่ดีกว่าก็คือการที่จะต้องถอยห่างจากเขา ผู้ชายคนนี้คือมารร้าย จัสติน อัลวาเรซ ชื่อเสียงเขาลือกระฉ่อนว่าร้ายกาจ หล่อนไม่มั่นใจว่าเขาจะวางแผนอะไรเอาไว้หรือเปล่า
“เธอจะไม่สนใจหน่อยหรือไงว่าฉันมาหาเธอทำไม” เขาย้อนถามหล่อน ดวงตาคมกริบเขย่าขวัญคนคู่นั้นหรี่แคบลง มองหล่อนด้วยสายตาราวกับจะจับผิด
“งั้นคุณมาหาฉันทำไม”
หญิงสาวย้อนถามเขากลับทันควันตามที่เขาชี้นำ
จัสตินมองดวงหน้าเล็ก ๆ ของหล่อนราวกับจะสำรวจ ตอนนี้ใบหน้าของหล่อนดูซีดเซียว พอปล่อยผมอย่างนี้แล้วหล่อนดูเด็กเสียจนถ้าเขาไม่รู้ประวัติหล่อนมาก่อนคงต้องด่าตัวเองแรง ๆ แน่ ๆ ที่เผลอไปมีอะไรกับเด็ก โชคดีที่หล่อนบรรลุนิติภาวะแล้วถึงจะเป็นเมื่อวานนี้...ก็ตามที
เห็นได้ชัดว่าแม่กวางน้อยกำลังหวาดระแวงถึงขีดสุดว่าเขามาหาหล่อนทำไม สมองของชายหนุ่มคิดอย่างเร็วจี๋ ทุกอย่างดูผิดแผนตั้งแต่ที่หล่อนไม่ได้มีท่าทีดีใจที่เห็นเขามาหยุดอยู่ตรงหน้าหล่อนแล้ว
ดูท่า...การจะได้ตัวแม่กวางน้อยไปอยู่ด้วยกันชั่วคราวนี่ท่าจะยากกว่าที่คิด หล่อนไม่พูดถึงเรื่องเงินเลยแม้แต่น้อยทั้ง ๆ ที่เจอหน้าเขา แสดงว่าสิ่งที่หล่อนต้องการย่อมไม่ใช่เงิน แต่…อะไรที่ทำให้หล่อนดั้นด้นขึ้นไปหาเขาถึงบนห้อง จะบอกว่าเป็นเพราะต้องทำความสะอาดก็ไม่ใช่ เพราะหล่อนจงใจเคาะประตูห้องของเขา
เมื่อคืนนี้ถ้าจำไม่ผิด ก่อนจะเข้าใจผิดดูเหมือนหล่อนพยายามจะบอกอะไรแก่เขาสักอย่าง
ดูเหมือนว่านี่เป็นเวลาที่เขาสมควรจะฟังแล้วสินะ
“เธอรู้ไหมว่าการบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามนั้นเป็นอย่างไร” แน่นอน ชั้นที่ยี่สิบแปดเป็นชั้นต้องห้าม เขาสั่งไปแล้วว่าไม่ต้องขึ้นไปทำความสะอาดเมื่อวานนี้ ฉะนั้นถ้าหล่อนจะอ้างว่าทำความสะอาดย่อมตัดทิ้งได้เลย
เขาหรี่ตามองหล่อนอย่างจับผิด อยากจะดูว่าหล่อนจะแก้ตัวอย่างไร เพื่อที่เขาจะได้แก้เกมตามหล่อนอีกที
ถึงจะดูเหมือนหลอกเด็กไปหน่อย เอ่อ... อันที่จริงหล่อนก็เด็กกว่าเขาถึงสิบสามปีน่ะนะ แต่เขาไม่คิดจะปล่อยมือหล่อนไปในตอนนี้เด็ดขาด เขาติดใจหล่อนแล้ว แน่นอน…การทดลองใช้เมื่อคืนนี้ทำให้เขาอยากจะต่อสัญญาระยะยาวจนตัวสั่นระริกเลยเชียวล่ะ!
“อ๋อ…” หล่อนลากเสียงยาวเมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าเพราะเหตุใดหล่อนถึงต้องดั้นด้นขึ้นไปหาอีกฝ่ายจนเกิดเรื่่อง “ฉันแอบเห็นคนเข้าไปค้นห้องทำงานของคุณ พวกเขาขโมยเอกสารอะไรสักอย่างในเซฟ แล้วเขาก็พูดกันว่าคุณกำลังตรวจหาอะไรสักอย่างและพวกเขากลัวความผิดเลยต้องขโมยมันมาก่อน” หญิงสาวบอกเขาเท่าที่หล่อนจะจำได้ “เขาพูดว่าคุณอยู่ชั้นบน ฉันเลยคิดว่าฉันควรจะรีบไปบอกคุณ แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะ...”
“โดนฉันลากขึ้นเตียง”
เขาต่อประโยคที่หล่อนค้างไว้ทันควัน ส่งผลให้ดวงหน้าเล็ก ๆ สวยหวานแปลกตาอย่างลูกครึ่งสองเชื้อชาตินั้นแดงก่ำราวกับเชอร์รี่สุกในทันที
“นั่นแหละค่ะคือสิ่งที่ฉันอยากจะบอกคุณ ฉันไม่อยากถูกมองว่า...”
ดวงตาสีมรกตหรี่มองหล่อนอย่างจับผิด เอกสารในเซฟอย่างนั้นหรือ...
แล้วเขาก็เอ่ยแทรกหญิงสาวทันควันก่อนที่หล่อนจะพูดจบ
“งั้นเธอยิ่งต้องไปกับฉัน...”
“คะ?” ดวงตากลม ๆ ของหล่อนเบิกกว้างอีกครั้ง และนั่นทำให้เขากระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจที่เขย่าขวัญของหล่อนได้
“เธอควรจะได้รู้ก่อนว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้นสำคัญต่อเอซีมากแค่ไหน” เขาเริ่มตะล่อมเหยื่อของตนเองด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันควัน ตาโต ๆ ของหล่อนเบิกกว้างเป็นคำถาม ส่งผลให้มหาเศรษฐีหนุ่มอธิบายต่อไปอย่างรวดเร็ว “เอาเป็นว่าเอกสารในเซฟนั้นเป็นเอกสารสำคัญทั้งนั้น แสดงว่าถ้าสิ่งที่เธอเล่ามาทั้งหมดเป็นความจริง เธอก็คือพยานสำคัญของฉันที่จะจับคนผิดเข้าคุกได้”
“ฉะ…ฉันไม่ได้อยากจะยุ่งเกี่ยว” หล่อนรีบละล่ำละลักปฏิเสธ เมื่อได้ยินว่าเรื่องนั้นถึงขั้นเกี่ยวพันกับคุกตะราง ทว่าเขากลับจุปาก แล้วส่ายหน้า
“เธอจะไม่เกี่ยวได้ยังไง ในเมื่อเธออาจจะหลอกฉันก็ได้ เธออาจจะยอมขึ้นเตียงของฉันเพื่อถ่วงเวลาให้พวกนั้นก็ได้”
ดวงตาของหล่อนเบิกกว้าง ไม่คิดว่าจู่ ๆ จะถูกยัดเยียดความผิดไปด้วยเสียอย่างนั้น
“ฉันไม่ได้ทำ!” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน แต่ดูเหมือนจัสตินจะไม่เชื่อหล่อนแม้แต่น้อย
“อะไรคือหลักฐานล่ะ” เขาแย้งเสียงเย็น “เธอไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเธอพูดความจริง”
“คุณตรวจเอกสารของคุณก็รู้แล้ว!” หญิงสาวเถียงทันควัน
เขาไหวไหล่
“ฉันไม่เห็นความผิดปกติ” จริง ๆ แล้วเขาไม่แม้แต่จะเปิดเซฟด้วยซ้ำ ถ้าหล่อนไม่พูดเขาก็คงไม่สนใจมันสักนิด “บางทีอาจจะเป็นไปได้ว่าเธอร่วมมือกับคนพวกนั้นหรือเปล่า” เขาเอ่ยแล้วจ้องมองหล่อนด้วยสายตาจับผิดที่ทำให้หล่อนตัวสั่นสะท้านด้วยความโกรธที่แล่นลิ่วขึ้นมา
“ฉันไม่ได้ร่วมมือกับใคร! ฉันเห็นสิ่งไม่ดีฉันก็อุตส่าห์บอกคุณ!” หล่อนระเบิดออกมาอย่างอัดอั้น “ถ้ารู้ว่าจะซวยแบบนี้ฉันจะปล่อยมันไปเลย!”
“ถ้ามันเป็นความจริง เธอก็คงจะถูกจับแน่นอนในข้อหาสมรู้ร่วมคิด เธอรู้ไหมเอกสารในเซฟนั้นสำคัญมากแค่ไหน มันสามารถสั่นคลอนเอซีให้สะเทือนได้ถ้ามันหลุดออกไป” เขาข่มขู่หล่อน อันที่จริงมันไม่ถึงขั้นนั้น แล้วการที่มีคนเข้าไปที่นั่นไม่ได้เหนือความคาดหมาย
แต่…เรื่องอะไรเขาจะบอกหล่อน ในเมื่อเห็นช่องทางเสียขนาดนี้
“ฉันพูดความจริง! มันคือความจริง!”
หล่อนตะโกนก้องอย่างเดือดดาล แต่ชายหนุ่มก็ยังมองหล่อนด้วยสายตาเย็นชาอยู่ดี
“เธอไม่มีหลักฐาน” เขายืนยันคำเดิม แม้ว่าใจจริงอยากจะบอกหล่อนว่าเขารู้ว่าหล่อนพูดความจริง แต่เรื่องอะไรเขาจะยอมรับมันล่ะ “ถ้าเธออยากให้ฉันเชื่อว่าเธอพูดความจริงเธอก็ต้องไปกับฉัน”
“ทำไมฉันต้องไป” หญิงสาวถามอย่างตื่นตระหนก “แค่ฉันไม่ได้หนีไปไหนนี่ก็เป็นการพิสูจน์มากพอแล้ว”
เขาเหยียดยิ้ม มองหล่อนอย่างไม่เชื่อถือแม้แต่น้อย “เธออาจจะโกหกก็ได้”
นิศามาศนิ่วหน้าไม่ชอบใจ “ฉันไม่ได้โกหก”
“แล้วฉันจะเชื่อเธอได้ยังไงล่ะนิศามาศ” เขาย้อนถามหล่อนกลับทันควัน “แค่พนักงานทำความสะอาดตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง มีอะไรที่ทำให้ฉันเชื่อถือคำพูดของเธอได้กัน”
“มิสเตอร์อัลวาเรซ!” เสียงหล่อนสั่นสะท้าน เห็นได้ชัดว่าหล่อนโกรธเขามากจริง ๆ
ทว่าดวงหน้าแดงก่ำในยามโกรธนี่ก็สวยไปอีกแบบ ดีกว่าหน้าซีด ๆ ก่อนหน้านี้เยอะเลย มารร้ายคิดอย่างพึงพอใจ แต่ถ้าจะให้ดี เขาอยากให้หล่อนหน้าแดงเพราะอารมณ์พิศวาสในตอนที่อยู่ใต้ร่างของเขามากกว่า ริมฝีปากของชายหนุ่มกลับฉีกยิ้มเหี้ยมออกมาก่อนจะบอกหญิงสาวเสียงเย็นชา แฝงความท้าทายอยู่ในที
“พิสูจน์สิ”
“ได้เลย!”
สงสัยความโมโหทำให้เห็นช้างตัวเท่าหนู และเห็นนายพรานตรงหน้าเป็นแค่คนธรรมดา กวางน้อยก็กระโจนเข้าไปในบ่วงของนายพรานโดยไม่ทันตั้งตัว แต่เขาน่ะ...แทบจะอ้าแขนรอเลยล่ะ
“พิสูจน์ยังไงบอกมาเลย แต่ถ้าฉันถูกแล้วคุณผิด คุณต้องขอโทษฉัน...” หล่อนบอกเสียงสั่นสะท้าน ทรวงอกอวบเกินตัวนั้นสะท้านขึ้นลงตามแรงหายใจด้วยความโกรธ “ขอโทษกับสิ่งที่คุณทำกับฉันทุกสิ่งทุกอย่าง”
“แน่นอน” เขาไม่ขอโทษหรอก เขามีอะไรดี ๆ ให้หล่อนมากกว่านั้นแทนคำขอโทษ เขาจะปรนเปรอหล่อนทุกสิ่งทุกอย่างโดยเฉพาะบนเตียง แทนคำขอโทษก็แล้วกัน
ไม่ใช่ขอโทษที่เขาเข้าใจหล่อนผิดว่าหล่อนเป็นนางนกต่อหรือร่วมมืออะไรกับใคร เขาไม่ได้โง่จนมองไม่ออกว่าหล่อนไม่รู้ แต่จะขอโทษ...ที่อยากได้หล่อนมากจนต้องหลอกลวงด้วยวิธีนี้ก็แล้วกัน
“งั้นคุณจะให้ฉันทำอะไร”
“ฉันยังคิดไม่ออก” เขาตอบตามตรง แน่นอน…สิ่งเดียวที่เขาคิดออกตอนนี้คือลากหล่อนขึ้นเตียงแล้วจะรักหล่อนจนหมดแรงยังไงล่ะ
“อ้าว” หญิงสาวอุทานออกมาราวกับจะผิดหวัง
“ฉันคิดออกวิธีเดียว”
“อะไร” หล่อนถามเสียงเขียว
จัสตินจ้องมองหล่อนนิ่ง ปรายตามองหล่อนอย่างเย็นชาพร้อมตอบว่า
“เธอต้องไปกับฉัน”