แค่เพียงสบตา
แสงแดดยามเที่ยง ชวนให้ร่างกายที่กำลังปั่นจักรยานในไร่ที่ปลูกไม้ผลทั้งมะม่วง ส้ม ลำไยและลิ้นจี่ รวมทั้งพืชผลเศรษฐกิจสลับกันไป มีไร่อ้อย มันสำปะหลัง และข้าวโพดที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ดูคร่าวๆน่าจะกินพื้นที่หลายร้อยไร่ อากาศตอนนี้ร้อนจนเกือบจะเป็นลม แต่หญิงสาวใส่หมวกฟางคาดไว้ใต้คาง ตอนนี้มันปลิวไปด้านหลังเรียบร้อยแล้ว หน้าเธอปะทะแรงลมที่พัดเข้ามา เผยให้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์ สวยผุดผาด แต่ก็ยังดูเด็กนัก ผิวเนียนละเอียด แม้จะไม่ขาวเหมือนไข่ปอก แต่เมื่อเทียบกับคนงานในไร่ ผิวเธอก็ยังสวยอยู่ดี ถ้ากะจากสายตาเธอน่าจะอายุราวๆ 17-18 ปีเท่านั้น เมื่อถึงที่หมาย น้ำหวาน ก็จอดรถจักรยานที่ปั่นมา ไว้บนถนนแล้วรีบหยิบปิ่นโตที่อยู่ตะกร้ารถจักรยาน ไปให้ผู้เป็นพ่อที่รออยู่ในไร่ เนื่องจากวันนี้ นายหัวแจ้งว่า จะให้ทุกคนพักเที่ยงในไร่ คนงานทุกคนเลยต้องห่อข้าวมา แต่ครอบครัวเธอพักอยู่แถวๆนี้ แม่เลยทำอาหารสดใหม่และให้เธอเอามาให้พ่อในไร่ ซึ่งเธอก็ยินดีเป็นอย่างมาก็เพราะจะได้มาเจอ นายหัวพยัคฆ์ หรือ นายหัวเสือ ผู้ชายอายุ 26 ที่หน้าตาหล่อเหลา กล้ามเนื้อเป็นมัดๆบอกถึงความแข็งแรงคนที่เป็นเจ้านายของพ่อและเจ้าของไร่ที่กว้างใหญ่นี้ เธอรู้ว่าเขาอยู่เกินเอื้อม เขาไม่เคยชายตามามองเธอ คิดว่าเธอเป็นเพียงลูกคนงานในไร่เท่านั้น ต่างจากเธอที่เมื่อแตกเนื้อสาว เธอก็หลงรักเขาจนหมดหัวใจ ถึงแม้เขาจะมีแฟนแล้วคือ คุณน้ำเพชร เธอก็ไม่สน เพราะเธอเป็นคนที่แค่แอบรักและอยู่ในพื้นที่ของตัวเองไม่ได้คิดจะแย่งมาสักหน่อย
“เอาพ่อ ข้าวเที่ยง แม่ให้เอามาให้ ร้อนจะแย่ปั่นมาตอนเที่ยง ถ้าไม่ติดว่าหนูอยากเจอนายหัว หนูไม่ปั่นมาหรอก” เธอพูดเสียงเบาๆ ส่วนประโยคหลัง เธอได้แต่คิดในใจ ก่อนสายตาจะหันไปมองนายหัวเสือที่กำลังนั่งกินข้าวร่วมกับคนงาน ชายหนุ่มเหมือนจะรู้ตัวว่ามีคนแอบมอง เขาปรายตามามองเธอแว๊บนึง แค่แว๊บเดียวเท่านั้น แต่ทำเธอรู้สึกร้อนสะบัดหนาว จนหน้าที่แดงจากการตากแดดอยู่แล้ว ยิ่งร้อนไปใหญ่ด้วยความเขินอาย เพราะสายตาเขาสมชื่อเหมือนเสือที่จ้องมองเหยื่อ เธอรีบหลบสายตา หัวใจเธอจะวายเพียงแค่เผลอสบตากับเขา ยัยน้ำหวานเอ้ย ขวัญอ่อนจริงๆ
“มาส่งข้าวเสร็จ ก็กลับได้แล้ว”
คนเป็นพ่อหันมาดุลูกเบาๆ เพราะน้ำหวานมันก็กำลังโตเป็นสาวแล้ว คนงานในไร่ก็เป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ทั้งนั้น คงจะไม่ดีถ้ายังยืนเป็นเป้าสายตาของหนุ่มแบบนี้
“จ๊ะ พ่อ”
เธอรับคำเบาๆ ก่อนที่จะมองนายหัวหนุ่มอีกทีก่อนกลับ เขาก็สรวลเสเฮฮากับลูกน้องไปตามประสา ไม่มีท่าทีจะสนใจเธอเหมือนคนงานหนุ่มคนอื่นๆ เลย เธอถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปหาจักรยานที่จอดไว้เพื่อปั่นกลับบ้าน ก็ยังดีที่วันนี้ได้เห็นหน้าเขา แม้จะไม่ได้พูดหรืออะไร ไม่รู้เขารู้รึเปล่าว่าเธอเป็นคนที่แอบรักเขามาตลอด โอกาสที่จะเข้าถึงเขาช่างยากเหลือเกิน เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา คุยกันแทบนับครั้งได้ และเขามองเธอเป็นเด็กเสมอในสายตาเขา เพราะตอนนั้นพ่อกับแม่มาทำงานในไร่เขา เธอยังอยู่มัธยมต้นอยู่เลย ร่างบางคิดไปเรื่อยเปื่อยกว่าจะรู้ตัว ก็ปั่นถึงบ้านแม่ก็กำลังจะไปทำความสะอาดบ้านนายหัวพอดี เธอเลยรับอาสาไปด้วย อ้างว่าจะช่วยทำงาน แต่จริงๆ แค่อยากไปใกล้ๆแม้ไม่ได้ใกล้ตัว แต่ใกล้ข้าวของเขาก็ยังดี
ห้องของเขาสะอาดและเป็นระเบียบดี เรียกว่าเป็นผู้ชายที่เรียบร้อยคนหนึ่ง จริงๆแทบจะไม่ต้องจัดเก็บอะไร แต่นายหัวก็จ้างแม่เธอมาทำความสะอาด ซักผ้า รีดผ้า ถ้าเธอว่างเช่น วันเสาร์ อาทิตย์ ไม่ไปโรงเรียนก็จะรับอาสามาช่วยตลอด ยิ่งตอนนี้เธอเรียนจบ มอ หก แล้ว เลยว่างตลอด จะมาช่วยแม่เสมอ เพียงแต่ไม่เคยเจอเจ้าของบ้านเพราะเขาเสร็จจากงานในไร่ก็ไปกินเหล้าต่อกับลูกน้องที่โสดๆ ค่ำๆ ดึกๆ นู้นแหละ ถึงจะกลับมา ถึงเวลานั้น หญิงสาวก็ต้องกลับบ้านกับแม่ เพราะเขาให้มาทำแค่ช่วงกลางวันเท่านั้น พอหกโมงก็ต้องกลับ ผ้าของนายหัวหนุ่มก่อนจะเอาไปซัก บางทีเธอก็แอบสูดดมก่อนจะเอาไปซัก แม้นายหัวจะทำงานในไร่ทั้งวัน แต่แปลกที่ไม่มีกลิ่นเหงื่อเหม็นๆเลย กลับหอมกลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัวของเขา หอมจนเธออยากขโมยกลับมาดมที่บ้านให้หายคิดถึง แต่เสื้อนายหัวแม่บอกว่าเป็นตัวที่มีราคาแพงทั้งนั้น เธอเลยไม่กล้า กลัวเขาจับติดและอาจจะคิดว่าเธอเป็นพวกโรคจิตก็ได้
.
“ลูกพี่เชิดตอนนี้อยู่ ม.ไหนแล้วเหรอ” พยัคฆ์เอ่ยถามพ่อของเด็กสาว ที่เพิ่งปั่นจักรยานกลับไป ด้วยความเป็นกันเองของนาย ทำให้นายจะเรียกลูกน้องที่อาวุโสกว่าพี่ ยกเว้นกับคนสนิทเท่านั้น จึงจะใช้สรรพนาม มึง กู
“มันเรียนจบมอ หก แล้วครับนาย”
“แล้วเรียนต่อที่ไหน”
“ยังไม่รู้ว่าจะได้เรียนต่อมั๊ยครับ เพราะผมเองหาเช้ากินค่ำกับเมีย ไม่รู้ว่าจะมีปัญญาส่งมันเรียนมั๊ย” เชิดพูดพลางถอนหายใจ ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี แต่ลำพังหนี้สินที่มีกับรายได้ มันช่างสวนทางกันเหลือเกิน ขนาดเขาเป็นคนขยัน ทำงานหนักตั้งแต่วัยหนุ่ม จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะได้ลืมตาอ้าปากกับเขา แค่พอจ่ายหนี้และกินไปวันๆ
นายหัวพยัคฆ์หน้าอย่างเข้าใจเพราะทุกคนก็ล้วนมีปัญหากันทั้งสิ้น แล้วแต่ว่าใครจะมีปัญหามากน้อยแค่ไหน นึกถึงใบหน้าหวานๆอ่อนเยาว์มาแว๊บนึงในหัว ใบหน้าเป็นสีแดงระเรื่ออาจจะแดด ความร้อน หรือเพราะอะไรก็ไม่รู้ แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มนึกเอ็นดูอย่างประหลาด