“บอลมารอนานมั๊ย โทษทีนะที่เรามาสาย พอดีว่ารถโดยสารมันไม่ยอมมาสักที”
หญิงสาวเอ่ยขอโทษเพื่อน เพราะเขาส่งข้อความาบอกว่ามารอเธออยู่พอสมควรแล้ว แต่เป็นเธอที่มาสายเขาเลยต้องไปเจอเพื่อนสายไปด้วย
“ไม่เป็นไรหรอก กับน้ำหวานเรารอได้”
เด็กหนุ่มส่งสายตาหวานเยิ้มให้กับเธอ จนน้ำหวานอึดอัด เธอรู้ว่าคนตรงหน้าคิดอย่างไรกับเธอ แต่เธอก็คิดกับเขาแค่เพื่อน เพราะหัวใจทั้งดวง มันยกให้นายหัวพยัคฆ์ไปนานแล้ว
วันนี้คนที่ร้านคาเฟ่ค่อนข้างคึกคักเพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว อีกอย่างตัวร้านเองก็เพิ่งเปิดใหม่ มีคนมาถ่ายรูป เช็คอินกันเยอะแยะ รวมถึงเธอและเพื่อนๆด้วย
“อุ้ยๆ พวกแก ดูนู้น คุณน้ำเพชร ดาวติ๊กต๊อกก็มาคาเฟ่นี้ด้วย มากับใครว่ะ หล่อชะมัด”
มีนาเพื่อนสนิทของน้ำหวานเอ่ยขึ้น ทำให้หญิงสาวหันไปมอง เธอคิดว่าต้องมากับนายหัวแน่เลย เพราะเขาก็เพิ่งมาส่งเธอในเมืองเมื่อกี้ แล้วถ้าความหล่อสำหรับเธอ ไม่มีใครหล่อเท่านายหัวเสืออีกแล้ว แต่พอหันไปน้ำหวานก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะน้ำเพชรแฟนพ่อเลี้ยงมากับผู้ชายหน้าตาดี ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนแถวนี้แน่นอน ที่สำคัญคือ ดูรวยตั้งแต่หัวจรดเท้า แถมยังอยู่สนิทสนมกันอย่างมาก
“เออ โคตรหล่อเลย มึงๆๆๆ เหมือนดาราเลยว่ะ ใครว่ะ วาสนาคุณน้ำเพชรจริงๆ” เพื่อนเธอยังเม้าท์มอยซอยเก้าไม่เลิก
“จะบ้าเหรอ วาสนาอะไร คุณน้ำเพชรเขาเป็นแฟนนายหัวเสือ ใช่มั๊ยว่ะ ไอ้หวาน”
“เออๆ” เธอบอกปัดๆไป ไม่อยากสนใจให้มากนัก ก่อนจะก้มลงดูดน้ำหวานที่สั่งมา แก้วละเกือบร้อย เรียกว่าแพงหูฉี่กันเลยทีเดียว
“ผู้หญิงกับผู้ชาย มาเที่ยวสนิทสนมกันขนาดนี้ ไม่ใช่กิ๊กแล้วจะเป็นอะไรกันว่ะ” เพื่อนสาวเธอตั้งคำถามไม่เลิกกับน้ำเพชรแฟนของนายหัวเธอ
“เขาอาจจะเป็นญาติกันก็ได้ มึงก็ มองโลกในแง่ร้าย” เพื่อนอีกคนแก้ต่างให้ เพราะในใจแอบเป็นแฟนคลับของน้ำเพชร
น้ำหวานได้แต่ฟังเฉยๆ เพราะเธอรู้ดี นายหัวเธอรักและแคร์น้ำเพชรขนาดไหน อีกทั้งนายหัวเสือก็ทั้งหล่อ ทั้งรวย ผู้หญิงกว่าครึ่งเมืองนี้ รวมทั้งเธอ ก็ชอบเขา เพราะฉะนั้น เธอมั่นใจว่าน้ำเพชรไม่มีทางปล่อยพยัคฆ์ให้หลุดมือแน่
น้ำเพชรพายศกรซึ่งเป็นเพื่อนของญาติมาเที่ยวคาเฟ่นี้ เธอเจอยศกรครั้งแรกก็แอบตกตะลึงในความหล่อ ดูดี ภูมิฐานของเขา ถือว่าเป็นสเปกชายในฝันเธอเลยทีเดียว ยศกรมาทำธุระในเมืองนี้ พี่ชายเลยถือโอกาสแนะนำทั้งสองให้รู้จักกันและฝากฝังให้ไร้เพชรช่วยเหลือดูแล แน่นอนว่าเธอทำหน้าที่ เกินคำว่า เจ้าบ้านที่ดี เพราะดูแลต้อนรับขับสู้ยิ่งกว่าเพื่อนของตัวเอง โดยการควงกันไปเที่ยวไหนต่อไหนมากมาย เลยทำให้เธอรู้สึกสนิทกับเขาในเวลาอันสั้น เธอยังแอบได้ยินญาติกระซิบมาบอกว่า ยศกร ทั้งรวย แถมยังมีพ่อเป็นตำรวจยศใหญ่โต เรียกว่าเขาเกิดมาบนกองเงินกองทองชัดๆ เธอพิจารณาแล้วและเท่าที่สังเกตุดู เขาคงรวยจริง เพราะใส่เสื้อผ้าและเครื่องประดับราคาแพง แล้วยังยังขับรถหรูที่แฟนเธอไม่มีทางซื้อ นอกจากขับรถปิ๊กอัพเก่าๆไว้ทำสวน ทั้งที่เงินทองก็มี มารับเธอแต่ละที ทั้งขี้ฝุ่น ขี้โคลน งานจากในไร่ ทำเอาเธอเบือนหน้าหนีตลอด
เมื่อเกือบถึงเวลาสี่โมงเย็น น้ำหวานก็ให้บอลที่อาสาไปส่งเธอที่สถานีรถโดยสารประจำทางเพื่อกลับเข้าไร่
แต่พอไปถึงปรากฏว่า คนที่ขายตั๋วบอกว่ารถเที่ยวสุดท้ายของวันนี้เพิ่งออกไปเพราะคนเต็มแล้ว เจ้าของรถเลยออกก่อนเวลา ทำเอาน้ำหวานทำตาปริบๆจะร้องไห้ ถ้าเธอตกรถ แน่นอนว่าพ่อแม่ไม่สามารถมารับได้แน่ เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกลพอสมควร ไหนจะไม่มีรถมารับเธออีก
บอลที่เห็นท่าทีเศร้าๆของน้ำหวาน เลยอาสาไปส่ง แต่เธอเกรงใจ บ้านบอลอยู่ในตัวอำเภอไม่ไกลจากตรงนี้ ถ้าไปส่งเขาต้องไปกลับเกือบสี่สิบกิโลเลยทีเดียว แต่บอลก็ขยั้นคะยอให้ไปจนได้เพราะสงสารหญิงสาว เธอเลยขออาสาใส่น้ำมันรถให้เขา ไม่งั้น เธอไม่กล้ารบกวนแน่ๆ ชายหนุ่มเลยตกลงทั้งที่ใจจริงเขาก็ดีใจที่ได้ไปส่งเธอ เพราะยังอยากอยู่กับเธอนานๆ
เมื่อบอลมาถึงหน้าไร่ รถของนายหัวหนุ่มก็ผ่านมาพอดี เขาได้แต่มองแล้วยิ้มเยาะอยู่ในใจ เด็กสมัยนี้ ทำไมไวไฟกันนะก็ไม่รู้ แสดงว่าไม่ได้ไปหาเพื่อนจริงๆ แต่นัดกับผู้ชาย ตอนนี้ก็คงเสร็จสมอารมณ์หมายกันแล้ว ถึงขับมาส่งที่ไร่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของเขา แค่ เด็กใจแตกคนหนึ่ง แค่อดรู้สึกแย่ไม่ได้ ที่ก่อนหน้านี้เอ็นดูเธอ จนเกือบจะเอ่ยปากส่งเธอเรียนเอง ถ้าเขาพูดไปก็คงเสียใจ ดูท่าทรงนี้ ไม่มีทางเรียนจบหรอกนอกจากท้องโตซะก่อน
“ขอบคุณมากนะบอลที่มาส่งเรา นี้ค่าน้ำมัน” น้ำหวานยื่นเงินใบร้อยให้เพื่อนแต่ชายหนุ่มมีท่าทีลังเล
“รับไปเถอะ ถ้าบอลไม่เอา เราต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ ที่รบกวนบอลขนาดนี้” เธอรีบยัดใส่กระเป๋าเสื้อของเพื่อนเพื่อไม่ให้เขาปฏิเสธได้
“งั้นเราเดินเข้าไร่แล้วนะ ”
“เค เดินดีๆนะ แน่ใจนะ ว่าไม่ให้เราไปส่งข้างใน”
ชายหนุ่มยังลังเลเพราะเห็นสองข้างทางค่อนข้างเปลี่ยว แต่เธอยืนยันว่าไม่เป็นอะไร เพราะในไร่นี้ นายหัวเสือเข้มงวดมาก ไม่มีการทำผิด หรืออะไรในไร่เด็ดขาด เธอเลยเดินได้อย่างสบายใจ
“ไม่มีอะไรน่ากลัว เดินแค่ 5 นาทีก็ถึงบ้านเราแล้ว บ๊ายๆนะ”
“บ๊ายจ้า” ถึงแม้เธอจะบอกว่าไม่มีอะไรน่ากลัว แต่เขาก็ยืนมองจนลับสายตาด้วยความเป็นห่วง โดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตาคมเข้มมองคนทั้งสองอยู่ด้วยเช่นกัน เมื่อมองไม่เห็นเธอแล้ว เด็กหนุ่มจึงขับบิ๊กไบค์ออกไปด้วยรอยยิ้มแต้มบนหน้า