“ใช่...พ่อมีเรื่องกับแกจริงๆ คีรินทร์” คีรีตอบ แต่ดูเหมือนสรรพนามที่คีรีใช้แทนตนเองคราวนี้จะทำให้คนที่พอจะอารมณ์ดีอยู่บ้างขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่ชอบใจ “พ่อ...คุณกล้าแทนตัวเองด้วยคำๆ นี้ด้วยเหรอคุณคีรี” เขาแค่นถามเสียงเข้ม “แล้วคิดหรือว่าผมจะยอมรับคุณนะหึ?” “พ่อไม่มีเวลามาล้อเล่นกับแกอีกแล้วนะ แกก็รู้ว่าพ่อกำลังป่วย และที่จริงพ่อป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบมานานแล้วด้วย และมันก็รุนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ” คีรีตอบโต้อย่างใจเย็น “แล้วยังไง?” คีธจ้องมองกวนๆ คีรีถอนใจยาว มองใบหน้าดื้อดึงของคีธนิ่งๆ “พ่อคิดว่ามันถึงเวลาที่พ่อจะต้องบอกความจริงบางอย่างกับแกแล้วนั่นแหละ ความจริงที่ตอนแรกพ่อไม่คิดจะพูดเพราะมันจะหมายความว่าพ่อผิดสัญญากับแม่ของแก...ตาของแก” “มัมกับตาไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้” คีธผุดลุกขึ้นยืนทันที สีหน้าของเขาแสดงความไม่พอใจที่คีรีเอ่ยพาดพิงถึงบุคคลที่เขารัก “ทุกสิ่งที่คุณทำมันก็เกิดจากตัวคุณ