4

1632 คำ
หลังจากชิดหทัยมาอาละวาดกับเขาอย่างสาสมใจเรียบร้อย เจ้าหล่อนก็สะบัดหน้าหนีไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ไทเลอร์ที่ได้แต่ยืนหัวเราะอย่างขบขันกับท่าทางของเสือสาวปกป้องลูกน้อยของอีกฝ่าย และหลังจากนั้นเมื่อมองเวลาไทเลอร์เห็นว่านี่ใกล้จะถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว ชายหนุ่มจึงออกจากห้องของตนเองแล้วตรงไปยังห้องพักของผู้เป็นมารดาที่เขาไม่ได้กลับมาเยี่ยมท่านนานนับปี เมื่อไปถึงก็พบว่ามารดาของเขาตื่นจากการพักผ่อนในช่วงกลางวันแล้ว ร่างผอมบางนั่งอยู่บนเตียงกว้าง เมื่อเห็นว่าเขาเป็นผู้มาเยือน นางก็ยิ้มกว้างแล้วกวักมือเรียกให้เขาเข้าไปหา ไทเลอร์ปิดประตูห้องนอนของท่านอย่างแผ่วเบา แล้วค่อยๆ ก้าวไปนั่งริมขอบเตียงของผู้เป็นมารดาด้วยกริยานุ่มนวลผิดกับร่างกายใหญ่โตของเขา ชายหนุ่มก้มหน้าลงไปหอมแก้มตอบของท่านสองข้างสลับกัน ก่อนจะปล่อยให้ท่านลูบใบหน้าของเขาในยามที่ท่านเอ่ยว่า “นานแล้วนะที่แม่ไม่ได้เห็นลูกน่ะไทเลอร์” ชายหนุ่มได้แต่คลี่ยิ้ม เป็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่เขามีให้กับคนสนิทกันเพียงไม่กี่คนบนโลกใบนี้เท่านั้นที่จะได้เห็นมัน “ผมขอโทษที่ไม่ค่อยได้กลับบ้านครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงนุ่ม “แต่แม่น่าจะย้ายไปอยู่กับผมนะครับ เราจะได้เจอหน้ากันทุกวัน” เขาเคยชวนท่านมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ทว่าทุกครั้งมารดาของเขากลับไม่เคยใจอ่อนเลย และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันเพราะท่านคงจะปฏิเสธเขาอย่างแน่นอน ดูได้จากรอยยิ้มของท่านเขาก็รู้แล้ว “แม่ชอบที่นี่ ลอนดอนพลุกพล่านเกินไป แม่ไม่ชอบ” คำตอบนั้นไม่เคยผิดไปจากที่คิด เขารู้ดีว่าคำตอบของแม่ไม่ได้มีแค่นั้น หากแต่เป็นเพราะบ้านหลังนี้คือบ้านที่ท่านได้อยู่ร่วมกันกับบิดาของเขา ก่อนที่บิดาจะจากไปด้วยอุบัติเหตุ แม่ของเขาอยากอยู่ในความทรงจำของตัวเองให้ยาวนานที่สุดเท่าที่ท่านจะสามารถทำได้ต่างหาก “งั้นเรื่องที่เราเคยพูดกันว่าจะให้ชิดหทัยย้ายไปอยู่กับผม...ผมอยากให้แม่ทบทวนใหม่นะครับ” เขาเกริ่นขึ้นมา นี่เป็นหนึ่งในข้อตกลงที่เขากับผู้เป็นมารดาทำกันอย่างลับๆ ก่อนหน้างานหมั้นจะเกิดขึ้น โดยที่ตัวคู่หมั้นหมาดๆ ของเขาไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย ที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยกลับบ้านบ่อยนัก เพราะตั้งแต่มีหญิงสาวคนนั้นมาอยู่ที่นี่เขาก็ไว้วางใจให้เธอดูแลมารดาผู้ชรา แต่ในเมื่อตอนนี้ผู้เป็นมารดาคิดจะให้เธอย้ายมาอยู่กับเขา ชายหนุ่มจึงเกิดอาการลังเลใจ แต่ผู้เป็นแม่กลับเด็ดขาดกว่าเขานัก ท่านส่ายหน้าช้าๆ เป็นการปฏิเสธ “แม่ยังยืนยันคำเดิมจ้ะ” เขารู้...ที่ท่านทำอย่างนี้ก็เพื่อเขา แต่ถึงอย่างนั้นไทเลอร์ก็ไม่อยากเห็นแก่ตัว ด้วยการดึงคนที่ดีที่สุดที่จะคอยดูแลและช่วยเหลือท่านไป “ผมว่าถ้าชิดหทัยอยู่ดูแลแม่ที่นี่ตามเดิม ผมคงจะสบายใจกว่า...” ชายหนุ่มพยายามโน้มน้าวท่านอีกครั้ง แต่ผู้เป็นมารดาก็ยังคงปฏิเสธอย่างแข็งขันเช่นเดิม “มาร์ธาก็ดูแลแม่มาตั้งนานแล้ว ให้พิงกี้ย้ายไปอยู่กับลูกนั่นแหละดีแล้ว” “แต่…” “ลูกเป็นคนตัดสินใจรับข้อเสนอเอง” เทเรน่าใช้มือเหี่ยวย่นของตนเองตบบนหลังมือใหญ่ของผู้เป็นลูกชายเบาๆ เป็นการบอกให้เขาหยุดโต้แย้งเสียที “แล้วแม่ก็รักพิงกี้เกินกว่าจะบังคับให้เธอให้หมั้นและแต่งงานกับลูกเพราะคำท้าทายเล่นๆ พวกนั้น ทั้งสองคนยังไม่รู้จักกันดีพอเลยก่อนจะแต่งงาน ฉะนั้นแม่อยากให้ไปเรียนรู้นิสัยใจคอกันเสียก่อน” นางให้เหตุผลออกมา ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผลอยู่บ้างในความคิดของเขา ตอนแรกที่ยอมรับข้อเสนออันท้าทายของผู้เป็นมารดาที่ต้องการให้เขาแต่งงาน และเขาเลือกชิดหทัยมาเป็นผู้หญิงคนนั้น ซึ่งมารดาของเขาก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน จนกระทั่งเมื่อท่านแน่ใจแล้วถึงได้ยอมรับสิ่งที่เขาเลือก ทว่าถึงอย่างนั้นข้อแม้ต่างๆ ที่มีก็ไม่ได้ทำให้เขาเดือดร้อน...จนกระทั่งวันนี้ เพราะตอนแรกเขาคิดว่าท่านจะยอมอ่อนข้อแล้วย้ายไปอยู่ด้วยกัน...มากกว่าจะเลือกปล่อยให้คนสนิทไปห่างตัวเช่นนี้ อีกอย่าง...นิสัยใจคอของชิดหทัยเขารู้ทะลุปรุโปร่ง ไม่จำเป็นต้องให้เธออยู่ชิดใกล้ ทั้งๆ ที่เธอคือคนที่เขาไว้ใจที่สุดที่ให้ช่วยดูแลมารดาผู้ชราของเขา “เธอเป็นคนดี ผมรู้เรื่องนั้นแล้ว” คำตอบของคนเป็นลูกชาย ทำให้คนเป็นแม่ส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะย้อนกลับทันควันว่า “แต่พิงกี้ยังไม่รู้นี่จ๊ะว่าลูกน่ะนิสัยเสียขนาดไหน” ประโยคนั้นทำให้ไทเลอร์หน้ามุ้ยเหมือนตอนยังเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ “แม่ครับ” เทเรน่าหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยต่อไปว่า “เอาเป็นว่าแม่ไม่รับฟังคำโต้แย้งนะ เราพูดเรื่องนี้กันมาแล้วและได้บทสรุปไปเรียบร้อยแล้วด้วย” “…” “ลูกควรจะปฏิบัติตามมากกว่าโต้แย้งจ้ะไทเลอร์” คำตอบรวบรัดนั้นทำให้ไทเลอร์ได้แต่ถอนหายใจยาวด้วยความจำนน “เคยมีสักครั้งไหมครับที่ผมจะเอาชนะแม่ได้” เขาถามมารดาด้วยน้ำเสียงขุ่นนิดๆ และหัวเสียหน่อยๆ ถึงแม้จะรู้เต็มอกว่าสิ่งที่ท่านทำนั้นเป็นความปรารถนาดีที่มีต่อเขา และยิ่งไปกว่านั้นท่านคือผู้ที่รู้ใจของเขามากที่สุดเสมอ และเพราะรู้ใจ...ท่านถึงได้ทำกับเขาเช่นนี้! ได้ยินคำตัดพ้อของลูกชายแล้ว เทเรน่าก็ได้แต่หัวเราะออกมา “แม่แพ้ลูกเสมอนั่นแหละ อย่าพูดให้แม่ดูดีเลย” ไทเลอร์ได้ยินอย่างนั้นก็เลยร่วมหัวเราะไปกับผู้เป็นมารดา บรรยากาศชื่นมื่นระหว่างสองแม่ลูกนั้นทำให้เทเรน่าดูสดใสกว่าทุกวันที่ผ่านมา พอเสียงหัวเราะซาลง ไทเลอร์จึงเอ่ยถึงเรื่องที่ลืมบอกแก่ท่านว่า “อ้อ…แม่ครับ จัสตินฝากขอโทษที่ต้องกลับไปก่อน เขาพามูนนี่...เพื่อนสนิทของชิดหทัยเป็นภรรยาของเขาน่ะครับกลับไปด้วยกันเลย พอดีทั้งสองคนทะเลาะกันนิดหน่อยป่านนี้คงไปปรับความเข้าใจกันอยู่ เขาฝากขอโทษแม่ด้วยที่ไม่ได้อยู่อธิบายอะไรๆ ด้วยตัวเองได้” ประโยคนั้นทำให้เทเรน่าพยักหน้ารับเบาๆ ไม่ได้มีท่าทีโกรธเคืองอะไรเพื่อนสนิทของผู้เป็นลูกชาย เนื่องจากตนได้สังเกตเห็นอะไรแปลกๆ ระหว่างคู่นี้มาตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว “แม่ก็ว่าแล้วว่าสองคนนี้ต้องรู้จักกันมาก่อน เอาเถอะจ้ะ แม่จะไม่ถือ แต่คนที่จะอาละวาดน่าดูคือพิงกี้นะ” นางคิดถึงท่าทีหัวฟัดหัวเหวี่ยงซึ่งคาดเดาว่าต้องมีแน่ๆ ของชิดหทัยคนสนิท นางก็อดขำไม่ได้เพราะรู้ดีว่าชิดหทัยนั้นรักและห่วงใยเพื่อนสนิทของตนเองมากแค่ไหน ไทเลอร์ยิ้มกว้างอย่างอดไม่อยู่ ก่อนจะสารภาพกับผู้เป็นมารดาตรงๆ “ผมโดนไปแล้วครับเมื่อตอนบ่ายนี่เอง” ท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงนั้นไม่ผิดไปจากที่มารดาบอกเลยสักนิดเดียว คิดถึงคนตัวเล็กที่ทำท่าข่มขู่เขา ไทเลอร์ก็ได้แต่ขำมากกว่าจะเคือง “ตายจริง” เทเรน่าได้แต่อุทาน ยกมือทาบอก “หวังว่าลูกจะไม่ถือสาน้องนะ เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์กับตัวเองค่อนข้างสูง” อันที่จริงควรจะบอกว่าชิดหทัยนั้นโผงผางและดื้นรั้น ดันทุรังสูงถึงจะถูก เห็นได้ชัดว่าถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเป็นที่รักของผู้เป็นมารดา นางถึงได้ออกโรงปกป้องเช่นนี้ “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมไม่ได้โกรธอะไร ก็แค่ขำนิดหน่อยเท่านั้นเอง” ไทเลอร์บอกอย่างไม่ถือสา เพื่อให้มารดาสบายใจว่าเขาจะไม่เอาเรื่องอะไรกับชิดหทัยแน่ๆ “ดีจ้ะ หวังว่าการเป็นกามเทพครั้งนี้ของแม่จะไม่ทำให้แม่ผิดหวังหรอกนะ” คำถามนั้นไทเลอร์ไม่ตอบ ทำเพียงยิ้มรับคำพูดของมารดาเท่านั้น แม้ว่าจะเห็นด้วยกับท่านไม่ได้ว่าท่านเป็น ‘กามเทพ’ ของเขาจริงๆ แต่…ไม่ใช่ครั้งนี้หรอกนะ มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนต่างหาก! และก่อนที่จะมีใครเอ่ยอะไรขึ้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เทเรน่าเหลือบตาไปมองนาฬิกา ก่อนจะหันไปเอ่ยกับบุตรชายตนเองว่า “สงสัยพิงกี้จะมาแล้ว” สิ้นประโยคนั้น นางก็ส่งเสียงบอกคนที่เคาะประตูยืนรออยู่หน้าห้องไปว่า “เข้ามาเถอะจ้ะพิงกี้” ประตูไม้เปิดออกกว้าง และร่างที่ก้าวเดินเข้ามาภายในห้องก็เป็นชิดหทัยจริงอย่างที่คาด เจ้าหล่อนส่งยิ้มสดใสนำเข้ามาก่อน ทว่ารอยยิ้มนั้นชะงักไปเพียงเสี้ยววินาทีเมื่อเห็นว่าใครกำลังนั่งเคียงข้างเทเรน่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม