ตอนที่ 3
“ขอเวลาอีกสองสามวันได้มั้ยครับ..คุณปู่ เดี๋ยวผมจะรีบพาเธอมาแนะนำให้คุณปู่รู้จักอย่างเป็นทางการแน่นอนครับ”
“งั้นเอาอย่างนี้มั้ยล่ะ...ฌาวีร์!! ไหน ๆ คุณปู่ของเราก็แต่งตัวเตรียมมาพร้อมแล้วนี่ ให้แม่เชิญหนูอังศนา มาทานมื้อเที่ยงกับเราซะเลยดีมั้ย” อุทุมพรมารดาของฌาวีร์ที่เดินเข้ามาแล้วได้ยินสองตาหลานคุยกันถึงเรื่องเมื่อสักครู่ก็โพล่งขึ้นมาทันทีเพื่อเล่นตามเกมที่วางเอาไว้ตั้งแต่แรก
“โถ่ว!!..คุณแม่ครับ ก็ผมบอกแล้วไงครับ ว่าผมไม่ได้ชอบคุณหนูอัง อะไรของแม่นั่นเลย” ฌาวีร์พูดด้วยความอ่อนใจ เพราะเคยพูดเรื่องนี้กับมารดาไปหลายรอบแล้ว แต่คุณอุทุมพรก็ไม่ถอดใจ เพราะไม่เคยเห็นลูกชายจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที มีแต่คบคนนั้นคบคนนี้ไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างไม่ยอมอีกต่อไป
“แกก็โตแล้วนะ..ฌาวีร์ ปีนี้อายุของแกก็ปาไปตั้ง 32 แล้ว จะมาลอยไปลอยมานอนกับผู้หญิงไปทั่วแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน อีกหน่อยแกก็ต้องเลื่อนขึ้นมาเป็นผู้บริหารแทนแม่ แกควรจะมีเมียเอาไว้เป็นคนคอยช่วยเหลือในกิจการสิ” อุทุมพรต่อว่าฌาวีร์ เพราะบุตรชายเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย และละเอียดรอบคอบน้อย จึงอยากให้ลูกชายรีบแต่งงานมีครอบครัวสักทีจะได้มีคนคอยช่วยคิดช่วยตัดสินใจ คุณอุทุมพรยังมีความคิดแบบคนหัวโบราณที่อยากให้ลูกชายของเธอมีภรรยาเอาไว้เก็บเงินเก็บทอง
“แต่ผมยังไม่พร้อมนี่ครับ แล้วอีกอย่างแฟนผมเธอก็ยังไม่อยากแต่งงานเร็ว ๆ นี้ด้วย” ฌาวีร์รีบอ้างกับผู้เป็นมารดา เขาเป็นหนุ่มเจ้าสำราญและรักความโสดจึงไม่อยากมีครอบครัวอย่างที่มารดาของเขาต้องการ
“งั้นแกก็ต้องพาแฟนของแกมาให้แม่รู้จัก แม่จะได้ตกลงกับเธอ” คุณอุทุมพรเชื่อว่าคงไม่มีสาวคนกล้าปฏิเสธฌาวีร์ หากว่าเขาเอ่ยปากขอเธอคนนั้นแต่งงาน ยกเว้นลูกชายของเธอจะไม่จริงจังกับสาว ๆ เหล่านั้นเสียมากกว่า สิ่งนี้แหละที่ทำให้คุณอุทุมพรเป็นห่วง เพราะระยะหลัง ๆ มานี้ลูกชายของเธอคบ ๆ เลิก ๆ อยู่บ่อย ๆ
“เอาไว้วันหลังนะแม่” ฌาวีร์รีบอ้างก็จะไปพามาได้ยังไงล่ะ เพิ่งจะบอกเลิกกับเธอคนนั้นไปเมื่อวานนี้เอง
“วันหลังตลอดเลย สรุปแกจริงจังกับใครเค้าบ้างมั้ยเนี่ย..ห๊า!”
“โถ่ว!!!...จริงจังสิครับแม่..คนนี้ผมจริงจัง” ฌาวีร์รีบอ้างกับผู้เป็นมารดาทันที เพราะกลัวจะถูกยัดเยียดลูกสาวเพื่อนแม่ที่ชื่ออังศนาให้
“ไม่รู้แหละ แต่ยังไงวันนี้แม่นัดหนูอังเค้าแล้ว” อุทุมพรใช้วิธีมัดมือชก
“แม่นัดเค้าแม่ก็ไปตามนัดเองสิครับ ผมเกี่ยวอะไรด้วย” ฌาวีร์บอกปัดแบบไร้เยื่อใย
“อ้าว!..ไอ้ลูกคนนี้ แกจะให้หนูอังศนามาถอนหงอกแม่รึไง” อุทุมพรขึ้นเสียงใส่ลูกชาย
“ฌาวีร์ ปู่ว่าตามใจแม่เค้าเถอะ ชอบไม่ชอบยังไง เดี๋ยวค่อยมาว่ากันก็ได้ ทำแบบนี้มันจะเสียผู้ใหญ่เอานะ” คุณปู่ของเขารีบเตือนหลานชาย และก็ไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีของลูกสะใภ้สักเท่าไหร่
“นั่นสิลูก ถึงยังไงหนูอังเธอก็เป็นลูกสาวเพื่อนแม่นะ”
“แม่ก็ชอบทำแบบนี้อยู่เรื่อย ถ้าหนูอังของแม่เสียใจร้องไห้ขี้มูกโป่งอย่ามาโทษผมก็แล้วกัน” พูดจบฌาวีร์ก็รีบเดินออกไปจากห้องด้วยความโมโห ก่อนจะขึ้นรถของตัวเองแล้วขับทะยานออกไปอย่างบ้าคลั่ง
“เฮ่ย!..ไอ้ฌาวีร์ นี่แกจะขับเร็วเกินไปแล้วนะโว้ย เดี๋ยวก็ได้ไปเฝ้ารากมะม่วงหรอก” พุฒิพงศ์รีบปรามเพื่อน
“ทำไม แกกลัวรึไง ไอ้พุฒิ” ฌาวีร์ถามอย่างไม่แคร์
“เปล่าหรอก แต่แกยังไม่บอกชั้นเลยนะว่าที่แกมารับฉันเนี่ย...จะพาไปไหน” พุฒิพงศ์รีบบอกเพราะรู้ดีว่าถ้าเอ่ยคำว่ากลัวออกไป เพื่อนจะต้องแกล้งเค้าอีกแน่ ๆ
“ก็แกอยากได้เมียไม่ใช่รึไง”
“ทำไมแกจะหาเมียให้ฉันรึ”
“เอ่อน่า!! เดี๋ยวก็รู้”
“ก็ได้ ๆ แต่แกช่วยลดความเร็วหน่อยสิวะ ฉันใจคอไม่ดีเลย” สุดท้ายพุฒิพงศ์ก็ทนความใจกล้าบ้าบิ่นของเพื่อนไม่ไหว
“ลงทางด่วนเดี๋ยวฉันจะเบาให้” เขาบอกปัด ก่อนพุฒิพงศจะรีบกำพระที่ห้อยคอด้วยความหวาดกลัว
เมื่อมารดาของเขาชวนบุตรสาวของเพื่อนที่เพิ่งเรียนจบจากเมืองนอกมาทานมื้อเที่ยงพร้อมกันที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ฌาวีร์ก็แกล้งเอาคืนผู้เป็นมารดาโดยการให้เพื่อนมาเป็นไม้กันหมาทันที และพุฒิพงศ์ก็ออกอาการว่าจะชอบอังศนาเสียด้วย หลังทานมื้อกลางวันเสร็จ ฌาวีร์ก็ขับรถไปส่งเพื่อน พอกลับมาถึงคุณอุทุมก็รอเชือดลูกชายอยู่ที่ห้องทำงานของเขา
“แกนึกยังไงมาหักหน้าแม่แบบนี้ห๊า!!!..”
“ก็แม่บอกเองนี่ครับว่าน้องเค้าโสด ผมก็อยากให้น้องเค้าเจอคนดี ๆ แล้วเพื่อนผมมันไม่ดีตรงไหน หล่อก็หล่อ รวยก็รวย”
“ก็ชั้นไม่ได้พาหนูอังมาให้ชอบกับเจ้าพุฒิเพื่อนแกนี่”
“ตอนแรกแม่บอกกับผมว่าไง.. งานนี้จะไม่มีการคลุมถุงชนไม่ใช่เหรอครับ แล้วถ้าสองคนนั้นเค้าชอบกันจริง ๆ มันก็เป็นสิทธิ์ของเค้านี่ครับแม่ แล้วผมผิดอะไร”
“ฉันชักอยากจะเห็นแฟนของแกซะแล้วสิ..ว่าจะสวยสู้หนูอังเค้าได้มั้ย แกถึงได้ปฏิเสธเค้าแบบนี้”
“เอาน่าแม่...ไม่เกินสองสามวันนี้ ถ้าน้องเค้าว่าง ผมจะรีบพามาทานมื้อเย็นที่บ้านเราเลย”
“ขอให้มันจริงเถอะ..ถ้าเบี้ยวรอบนี้แกได้เมียชื่ออังศนาแน่” พูดจบคุณอุทุมพรก็ปิดประตูเสียงดังแล้วเดินออกไปอย่างไม่สบอารมณ์