ตอนที่ 23 เดินออกมาด้วยรอยยิ้ม

1727 คำ
ครึ่งเดือนแล้วหลังจากผลึกสีสินค้าชนิดใหม่ของชิงเถาออกวางขาย เชี่ยนเชี่ยนได้บินดูผลงานของชิงเถารอบเมืองผลคือกระแสตอบรับดีมาก ตอนนี้บ้านเรือนคุณหนูในเมืองหลวงทั้งหลายจะต้องมีมันประดับอยู่แม้กระทั่งร้ายน้ำชายังมีผลึกสีแขวนไว้ตามหน้าต่างประตูไม่ต่างจากโมบายเลยทีเดียว จนตอนนี้ผู้ผลิตอย่างครอบครัวของชิงเถาเพิ่มการผลิตเป็นวันละร้อยกว่าชิ้น จนทำไม่หวาดไม่ไหวจึงต้องมีการสั่งจองล่วงหน้าและราคาที่ชิงเถาเรียกเพิ่มอีกถึงกระนั้นก็ยังมีคนสั่งเข้ามากันเยอะอยู่ดี จนตอนนี้พวกนางเลิกขายข้าวห่อแล้ว เพราะเอาเวลามาทำผลึกสีกันอย่างจริงจัง ตอนนี้ครอบครัวชิงเถามีเงินเพียงพอที่จะซื้อที่ดินแปลงนั้นแล้ว ในวันที่มีงานไม่ยุ่งนัก ชิงเถากับบิดาจึงปลีกตัวออกมาเพื่อทำธุระเรื่องซื้อที่ดิน นำทางโดยชิงเถาที่เคยมาติดต่อแล้วครั้งหนึ่งกับบิดาที่หอบเงินหลายร้อยตำลึงเพื่อมาซื้อที่กันทันทีเพราะยิ่งพวกนางรีบซื้อเท่าไหร่ ก็จะได้ออกไปอยู่ข้างนอกเร็วขึ้นเท่านั้น “นายท่านเจ้าคะ วันนี้ข้าน้อยมาซื้อที่ดินเคยดูไว้ เป็นที่ดินในเขตชุมชนชั้นขุนนางและคหบดีทางด้านทิศใต้ของเมืองที่แบ่งเป็นแปลงขายไม่ทราบว่ามีอยู่หรือไปเจ้าคะ” ชิงเถากับบิดาหลังจากนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ก็ถามกับเจ้าหน้าที่ที่นั่งทำงานอยู่ซึ่งเป็นคนละคนกันวันนั้นที่นางมาติดต่อ “อ้อ ที่ตรงนั้นเอง ยังมีเหลืออยู่สองแปลงพวกเจ้าลองดูก่อน” เจ้าหน้าที่นำแผนที่ของที่ดินมาให้นางกับบิดาดู ซึ่งที่ดินแบ่งได้ 10 กว่าแปลงเลยทีเดียวซึ่งการจัดนั้นชิงเถาเอ่ยชื่นชมในใจเพราะจัดวางแบ่งได้ดีมากโดยมีถนนตรงกลางตัดเข้าไปพอถึงจุดหนึ่งก็แยกออกเป็นซ้ายขวาเป็นถนนที่เป็นรูปตัวอักษรทีในภาษาอังกฤษในโลกก่อนของนาง “ต้องจ่ายเงินจำนวน 870 ตำลึงเต็ม ไม่มีจ่ายมัดจำ ต่อราคา หรือขอจ่ายก่อนครึ่งหนึ่งทั้งนั้น” เจ้าหน้าที่เอ่ยออกมาด้วยเสียงเข้ม เพราะเขาเจอหลายคนแล้วที่อยากได้ที่ตรงนี้แต่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านที่พอจะมีเงินหรือเศรษฐีใหม่ที่อยากจะเพิ่มสถานะตัวเองเข้ามาดูที่ตรงนี้แต่กลับไม่เงินซื้อ แล้วการแต่งตัวของสองพ่อลูกที่นางเห็นก็ไม่คิดว่าจะมีปัญหาซื้อน่าจะมาทำให้เขาอารมณ์เสียเปล่าๆ “ไม่มีปัญหาเจ้าค่ะ วันนี้ท่านพ่อข้าเตรียมเงินมาพร้อมเรียบร้อยแล้ว” ชิงเถาเอ่ยขึ้นหลังจากจับน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะพอใจของเจ้าหน้าที่คนนี้ได้ จากนั้นนางก็ปรึกษากับบิดาต่อก่อนจะตัดสินใจเลือกที่ดินแปลงสุดของถนนด้านซ้ายติดกับจวนตระกูลอื่นส่วนด้านขวาติดกับที่ดินอีกแปลงที่แบ่ง “พวกข้าเลือกแปลงนี้เจ้าค่ะ” ชิงเถาเอ่ยบอกเจ้าหน้าที่พร้อมชี้บอกตำแหน่งไป “ได้ รอสักครู่” เจ้าหน้าที่ตอบจากนั้นจึงลุกออกไปเตรียมเอกสารต่างๆ ในการซื้อขายที่ดินที่อยู่ในตู้ไม้ด้านข้างสักครู่ก่อนจะกลับมานั่งที่ของตนพร้อมกับกระดาษ 4 แผ่น เป็นเอกสารการซื้อขายสองชุด และเอกสารแสดงตนว่าเป็นเจ้าของที่อีกสองชุด หลังจากชิงเถาและบิดาอ่านเอกสารเพื่อเตรียมลงลายมือชื่อเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ลุกเดินออกไปจากห้องก่อนจะกลับมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่อีกคน “ท่านต้องลงชื่อตรงนี้และตรงนี้” พอเจ้าหน้าที่กลับมาก็เริ่มให้จิ้นสิงเขียนชื่อตนลงไปในกระดาษและใช้นิ้วหัวแม่มือจุ่มในหมึกแล้วกดลงในกระดาษทุกแผ่น เพื่อเป็นการแสดงตนจากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งสองจึงนำเอกสารไปลงชื่อและประทับลายนิ้วมือต่อในฐานะของเจ้าหน้าที่ โดยเอกสารจะเก็บไว้กับพวกนางแล้วก็ที่ว่าการเจ้าเมืองอย่างละชุด จากนั้นก็ตรวจนับเงินที่จิ้นสิงจ่ายไปเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว สองพ่อลูกก็เดินออกมาด้วยหน้าตายิ้มแย้มที่สุดเท่าที่เคยทำมาจนคนอื่นพบเห็นอาจจะหาว่าสองคนนี้เป็นบ้าได้ ช่วงค่ำหลังเสร็จงานในจวนวันนี้ครอบครัวงดทำของออกขาย เพื่อที่จะต้องไปบอกกล่าวเรื่องไถ่ถอนตัวเองกับพ่อบ้านของตระกูลก่อน จะนำเรื่องในเรียนแก่ฮูหยินใหญ่ซึ่งเป็นผู้ดูแลของจวน ซึ่งก็ไม่นานนักเนื่องจากตอนเย็นเจ้านายทุกคนก็อยู่ที่จวน จึงไม่ต้องรอให้อนุญาตนาน ก็ได้หนังสือยืนยันว่าพวกนางเป็นอิสระกันแล้ว ช่างเป็นวันที่ดีของครอบครัวเสียจริง หลังจากบ่าวไพร่คนอื่นรู้เรื่องก็ตกใจนักเพราะไม่คิดว่าครอบครัวนี้จะไถ่ถอนตัวเองออกไปจากจวนทั้งยังเสียค่าไถ่ตัวทั้งบ้านตั้งยี่สิบกว่าตำลึงได้ จนมีการพูดกันในหมู่บ่าวไพร่ว่าครอบครัวนางแอบทำเรื่องไม่ดีทำให้ได้มีเงินมาไถ่ตัว ครอบครัวของชิงเถา บ้างก็ถูกมองว่าเป็นขโมย หรือแอบส่งของหรือขายของผิดกฎหมายต่างๆ แต่อย่างไรเสีย ชิงเถาหลังจากได้ยินคนพูดกันนางก็หาสนใจไม่ เพราะถึงจะสืบไปก็เท่านั้น พวกนางไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา (เอ่อ อาจจะผิดกฎบ้างในบางเรื่อง) อีกอย่างถ้าเจ้านายของจวนจะเอาเรื่องก็คงสั่งตรวจสอบไปแล้ว คงไม่อนุญาตและออกหนังสือให้เร็วขนาดนี้ คืนนี้ทุกคนไม่ได้ทำงานดั่งเช่นทุกวันแต่ก็ยังไม่มีใครนอนหลับเนื่องจากตื่นเต้นดีใจ พูดถึงสิ่งที่จะทำหลังจากออกจากจวนนี้แล้ว ชิงเถานึกขึ้นมาได้ว่ามารดานางเคยพูดว่าตอนนางตกน้ำมีบ่าวชายเป็นคนช่วยนางขึ้นมาพอมารดานางจะให้เงินเป็นค่าตอบแทนเขาก็ไม่รับนางจึงพูดคุยเรื่องนี้กับบิดาและมารดาว่าอยากตอบแทนเขาก่อนที่พวกนางจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว จนสุดท้ายสรุปได้ว่าบิดานางจะนำเงิน 10 ตำลึงไปเป็นค่าตอบแทนแก่เขาที่เคยช่วยนางไว้ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถไถ่ถอนตัวเขาได้แล้วยังให้เขาใช้ชีวิตข้างนอกก่อนที่จะหางานใหม่ทำได้อีกด้วย หลังจากบิดานางนำเงินนี้ไปให้แก่ชายที่เคยช่วยชีวิตนางไว้ตอนแรกเขาไม่รับดังเช่นครั้งก่อนที่มารดานางเคยให้ แต่บิดานางพูดโน้มน้าวให้รับไว้เพราะเงินนี้จะทำให้เขาเป็นอิสระได้ถ้าเขาต้องการสุดท้ายเขาจึงรับเพราะแท้จริงแล้วเขาก็มีเรื่องกังวลที่แก้ไม่ได้มาเป็นปีแล้ว เนื่องจากเขารักกับหญิงชาวบ้านนอกกำแพงเมืองที่นำพืชผักมาขายในตลาด แต่เขาก็ไม่กล้าเอ่ยปากขอแต่งงานกับนางออกไป เนื่องจากไม่อยากให้นางที่เคยใช้ชีวิตอิสระจะต้องมาอยู่เป็นบ่าวเหมือนตน แต่ตอนนี้เขาจะเป็นคนไถ่ถอนตัวเองแล้วแต่งงานไปอยู่กับนางแทน คืนนี้ไม่ใช่แค่ครอบครัวชิงเถาตื่นเต้นจนไม่ได้นอน แต่ยังมีบ่าวคนอื่นเดินมาทักทายที่ห้องของนางกันหลายทั้งสอบถามด้วยความห่วงใยทั้งสงสัยใคร่รู้จึงมาสอบถามว่าพวกเขาทำยังไงให้มีเงินไถ่ถอนตัวเองได้และยังถามว่าต่อไปพวกเขาจะไปอยู่ไหน ซึ่งบางคำถามพวกนางก็ตอบออกไปตามความจริงแต่ไอ้เรื่องมีเงินเท่าไหร่หรือยืมเงินใช้พวกนางคงไม่ตอบหรอก หรือว่าต่อไปจะอยู่ไหนใครจะกล้าตอบเลี่ยงๆ ว่าคงไปอยู่ตามหมู่บ้านรอบนอกที่สามารถให้แรงทำมาหากินได้นั่นแหละ ตอนเช้าวันนี้ครอบครัวของชิงเถาได้ตื่นสายกันครั้งแรกเพราะไม่ต้องลุกไปทำงาน แต่จริงๆ ทุกคนก็ตื่นกันแล้วแหล่ะแต่ชิงเถาบอกว่าให้ทุกคนนอนต่อเพราะอีกชั่วยามกว่าพระอาทิตย์จะขึ้นถึงตอนนั้นพวกนางถึงจะออกเดินทางได้ ท้องฟ้าเริ่มสว่างครอบครัวชองเถาลุกอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดที่ดีที่สุดของตนเองพร้อมแบ่งของต่างๆ ที่ต้องขนย้ายออกไปซึ่งก็ไม่ได้เยอะอะไร ส่วนใหญ่ก็เป็นเสื้อผ้าไม่กี่ชุดส่วนอุปกรณ์ทำการค้าของพวกนางซึ่งชิงเถาให้บิดาสานตะกร้าไว้แล้วนำไปไว้ในป่าไผ่พร้อมกับต้นหญ้าไผ่หยกขาวกับหญ้าหวานที่นางขุดใส่กระถางรอขนย้ายไว้เรียบร้อยแล้ว นางจะเดินมาเอาเมื่อออกจากจวนไปแล้ว พอทุกคนหอบหิ้วสิ่งของกันครบแล้วก็เริ่มออกจากเรือนพักบ่าวเดินไปประตูด้านหน้าจวนซึ่งเดินผ่านบ่าวคนอื่นก็มีทักทายกล่าวลากันบ้างตามรายทาง หรือแม้กระทั่งพวกไม่ชอบพวกนางก็ได้ทำคำสวดส่งกันหลายความ แต่พวกนางหาสนใจไม่เดินยิ้มหน้าบานกันอย่างเดียวจนถึงประตูหน้าจวนที่มีเวรยามยืนประจำอยู่ก่อนออกไป พวกเขาจะต้องโดนตรวจสอบสิ่งของกันก่อนเพื่อที่ดูว่าพวกนางไม่ได้หยิบจับฉกฉวยเอาของในจวนไปด้วย ซึ่งไม่พบอะไรนอกจากเสื้อผ้าเก่าๆ ของพวกนางกับของใช้ส่วนตัวอีกเล็กน้อยเท่านั้น หลังไม่มีอะไรแล้วเวรยามก็ปล่อยออกมา ซึ่งหลังขาทั้งสองข้างเดินพ้นประตูจวนออกมา ใบหน้าของทุกคนที่ยิ้มอยู่แล้วก็เหมือนจะฉีกยิ้มได้มากกว่าเดิมเสียอีก ต่อไปพวกเขาจะเป็นเจ้านายตัวเองแล้ว ไม่มีใครมาสั่งพวกเขาได้ยกเว้นคำสั่งซื้อจากลูกค้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม