ชิงเถาเดินซื้อของต่อจนครบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรุงต่างๆ แล้วก็พวกเส้นด้ายเล็กใหญ่ที่นางต้องใช้ด้วยตอนไปซื้อนางก็ลืมซื้อซะได้เลยต้องหาร้านซื้อใหม่
ตอนเย็นหลังจากทำงานเสร็จแล้วครอบครัวของชิงเถาก็เข้าห้องพักเตรียมนอนตามปกติแล้ว แต่วันนี้ไม่ปกติ เพราะชิงเถานางเรียกประชุมในครอบครัวและกำลังนำเสนอสิ่งที่นางกำลังจะทำให้ทุกคนฟัง
“ห๊า!! ลูกบอกว่าจะขายของตอนงานปีใหม่นี้เหรอ เราไม่มีเงินไปลงทุนหรอกนะลูก ปีที่แล้วป้าฉูแม่ครัวทำขนมไปขายหักค่าเช่าที่แล้วกำไรก็เกือบจะไม่ได้ด้วยซ้ำ เจ้ายกเลิกความคิดนี้เถอะ” ลี่จูผู้เป็นมารดาพูดคัดค้านความคิดลูกสาวทันที
“น่าสนุกนะพี่รอง ข้าก็จะไปขายของช่วยขอรับ”
“ข้าก็จะไปช่วยขอรับ” สองแฝดเสนอออกมา
“แต่ข้าจ่ายค่าเช่าครึ่งหนึ่งที่ไปแล้วนะเจ้าคะท่านแม่ ถ้าไม่ขายก็เสียดายแย่เลย” ชิงเถาพูดออกมาเสียงอ่อยๆ หลังจากได้ยินว่าแม่ไม่เห็นด้วย
“น่าอาจู ลูกอยากจะขาย ค่าเช่าที่จ่ายเขาไปแล้วตั้งครึ่งหนึ่ง ไหนล่ะของที่ลูกบอกว่าซื้อมา จะเอาทำไปขายน่ะ” จิ้นสิงเอ่ยถามลูกสาวขึ้น ยังไงคนเป็นพ่อก็เข้าลูกสาวอยู่แล้ว ส่วนชิงเถาก็วิ่งไปหยิบของต่างๆ ที่นางไปเดินซื้อมาวันนี้ออกมาให้ทุกคนได้เห็นกัน
“นี่เจ้าค่ะ ผ้าที่จะใช้ทำ แล้วก็พวกเส้นด้ายเจ้าค่ะ ส่วน 2 พับนี้ข้าซื้อมาให้ท่านแม่เย็บประชุนชุดให้พวกเราเจ้าค่ะ” ชิงเถาอธิบายออกมา
“แม่ว่าจะถามตั้งแต่ลูกบอกว่าไปเช่าที่แล้ว ไหนจะผ้าพวกนี้อีก ลูกไปเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ ลำพังค่าแรงลูกก็ได้ 25 อีแปะต่อเดือนเท่านั้น แล้วทุกเดือนลูกก็ฝากไว้กับแม่มิใช่รึ แล้วเงินพวกนี้มันมาจากไหน หรือว่าเจ้าจะขโมย” นางลี่จูเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความสงสัยแต่ช่วงท้ายประโยคก็ไม่กล้าจะพูดเสีสยงดังออกไป ทำเพียงแค่กระซิบถามออกมาเท่าไหร่
“ไม่ใช่นะเจ้าคะท่านแม่ ข้าไม่เคยขโมยใครมานะเจ้าคะ ข้าแค่...” ชิงเถารีบพูดตัดคำมารดาขึ้นมาแล้วอธิบายว่าตนได้เงินมายังไง
“แต่มันก็ไม่ดีอยู่ดี ลูกควรเอาเงินนี้ไปคืนหัวหน้านะ” นางลี่จูยังไม่เห็นด้วยกับบุตรสาว แล้วต้องการให้นางเอาเงินที่ได้ไปคืนให้กับหัวหน้าโรงครัว
“ฟังจากที่ลูกพูดมา เถาเอ๋อร์ของของเราก็ไม่ผิดนะ มันเป็นความสามารถของนางที่ได้เงินนี้มา แล้วอีกอย่างถ้านำเงินไปคืน ถึงเราจะอธิบายตามที่ลูกบอกคนอื่นจะเชื่อรึ ลูกเราอาจโดนลงโทษอย่างหนักก็ได้โทษฐานเป็น ขโมย” จิ้นสิงอธิบายให้ภรรยาฟังถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น ถ้าเขาเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น ทำให้ลี่จูผู้เป็นภรรยาค่อยใจเย็นลงและยอมความในที่สุด
“ได้ แต่อย่าให้มีครั้งต่อไปอีก ไม่งั้นแม่จะ-” นางลี่จูเอ่ยเตือนลูกสาว
“ข้าก็จะทำเหมือนเดิมเจ้าค่ะท่านแม่” ชิงเถาพูดด้วยความมั่นใจ
“นี่เจ้า!!” นางลี่จูไม่คิดว่าลูกคนนี้เริ่มจะไม่เชื่อฟังนางซะแล้ว
“เอ่อ เอาเถอะน่าจบเรื่องนี้แล้วนะ พวกเราทุกคนต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับห้ามบอกใครเด็ดขาด ไม่งั้นเราทุกคนเดือดร้อนกันหมดแน่” ทุกคนพยักหน้าหลังจากที่ฟังคำสั่งจากผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวแล้ว
“แล้วนั้นถุงอะไรรึพี่รอง” หมิงเลี่ยนแฝดพี่ถามออกมาเมื่อเห็นยังมีถุงที่วางอยู่ข้างชิงเถายังไม่ได้เปิดออก
“นี่นะเหรอ” ชิงเถาพูดพร้อมหยิบเอาถุงเครื่องเขียนมาเปิดแล้วหยิบเอาสิ่งของที่อยู่ในถุงผ้านั้นออกมา
“โหวววว” สองแฝดเมื่อเห็นสิ่งที่เอาออกมาก็ส่งเสียงตื่นเต้นพร้อมกับดวงตาเบิกกว้างทันที
“นี่น้องรอง สิ่งนี้เจ้าก็ซื้อมารึ ชุดเครื่องเขียนมันแพงมากเลยนะ” ลี่ถิงถามน้องสาวออกมาหลังจากเงียบฟังคนอื่นพูดกันอยู่นาน
“นี่ข้าไม่ได้ซื้อมาหรอกเจ้าค่ะพี่ใหญ่ ข้าได้มาเปล่าๆ ต่างหากล่ะ” ว่าแล้วนางก็อธิบายที่มาของสิ่งนี้ให้ทุกคนฟัง
“เจ้าไม่ควรไปยุ่งกับคุณหนูใหญ่มากนะ เราอาจจะเดือดร้อนได้ ใครๆ ในจวนก็รู้ถ้าไม่อยากมีปัญหากับฮูหยินใหญ่ก็ไม่ควรเข้ามายุ่งเรื่องนี้จนมากเกินไป” จิ้นสิ้งเอ่ยเตือนบุตรสาวออกมาเพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับผู้มีอำนาจในจวนนี้ ถ้ารู้ถึงหูคนของฮูหยินใหญ่เข้าล่ะก็ แม้แต่เรื่องที่ชิงเถาทำผิดก่อนหน้านี้ก็เป็นแค่ฝุ่นผง
“เจ้าค่ะ ข้าจะระวังตัวไว้ให้มาก” แต่นางไม่ได้บอกว่าจะเลิกยุ่ง
“เอาล่ะ เปลี่ยนเรื่องๆ แล้วไอ้ตาข่ายอะไรนะดักฝันดีฝันร้ายนั้นน่ะ จะต้องทำยังไง เราจะได้ช่วยทำ เหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียวเท่านั้น แล้วแต่ละวันเรามีเวลากันแค่ช่วงนี้เท่านั้นนะ” จิ้นสิงถามบุตรสาวออกมาหลังจบเรื่องอื่นแล้ว
“สิ่งที่ข้าต้องการก็คือไม้ไผ่เจ้าค่ะ เอาไว้ทำเป็นโครง ใช้สักต้น 2 ต้นก็น่าก็พอเจ้าค่ะ แต่ว่าข้าอยากจะทำโต๊ะไว้ตอนตั้งขายด้วยไม่รู้ว่าต้องใช้เยอะไหมต้องรบกวนท่านพ่อแล้ว” ชิงเถาบอกออกมา
“ได้ พรุ่งนี้พ่อจะตัดไม้มาให้เจ้าเอง” “ข้าก็จะช่วย/ถ้าจะช่วยท่านพ่อเอง” สามพ่อลูกเอ่ยอาสา
“ได้เจ้าค่ะ พรุ่งนี้เราได้ไม้มาทำเป็นโครงก่อนแล้วค่อยช่วยกันทำขั้นตอนต่อไปนะเจ้าคะ มีเครื่องเขียนแล้วเดี๋ยวข้าจะวาดแบบไว้ให้ว่าต้องทำอย่างไร” ชิงเถาบอกกับทุกคน
“ทุกคนเข้าใจตรงกันแล้ว งั้นก็แยกย้ายกันไปนอนได้แล้วลูก” ลี่จูบอกทุกคน
แล้วก็ทุกคนก็แยกย้ายกันไปนอน แต่ที่ยังไม่นอนหลับไปคือสองแฝดที่เดินมาหาชิงเถา
“พี่รอง เอ่อ.. คือ..” หมิงเลี่ยนมีท่าทีอึกอัก
“มีเรื่องอะไรรึเจ้าแฝด อ้ำอึ้งอยู่ได้”
“คือว่าเราสองคนอยากจะขอใช้พวกเครื่องเขียนด้วยได้หรือไม่ขอรับ” หมิงลู่ถามออกมาหลังจากแฝดพี่ไม่พูดออกไปซักที
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ ถ้าเจ้าอยากเริ่มเรียนวันไหนก็บอกพี่สาว หรือไม่ก็พี่ใหญ่ให้ช่วยฝึกก่อนได้นะ ฝากด้วยนะเจ้าคะพี่ใหญ่” ชิงเถาหลังบอกกับสองแฝดแล้ว ก็หันไปคุยกันพี่สาวที่นั่งอยู่ด้านข้างต่อ
“ได้อยู่แล้ว พวกเจ้าพร้อมเมื่อไหร่พี่จะสอนอ่านเขียนให้เอง” ลี่ถิงบอกกับน้องชายทั้งสองอย่างเต็มใจมากๆ ถึงนางเองจะไม่ได้เรียนมามากเพียงแค่อาศัยเป็นสาวใช้ของคุณหนูรองแล้วมีอาจารย์มาสอนที่เรือน นางก็ได้ฟังได้จำมาบ้าง ถึงจะไม่มากแต่เรียนหลายปีเข้านางก็อ่านเขียนได้มากพอดู เช่นเดียวกับชิงเถานางเป็นผู้ช่วยให้กับหัวหน้าโรงครัวทำให้นางได้เรียนกับหัวหน้าโรงครัวจึงอ่านออกเขียนได้
“ขอรับ” สองแฝดตอบอย่างดีใจ
“แต่ตอนนี้ ลูกๆ ต้องเข้านอนก่อนนะ” เสียงนางลี่จูดังมาจากอีกฟากของผนังไม้ไผ่สานบางๆที่กั้นอยู่ขัดไว้ก่อน
“เจ้าค่ะ/ขอรับ” เสียงของคนทั้งสี่ดังออกมาเกือบจะพร้อมกัน แต่ก็เพิ่งนึกได้ว่านี่ดึกแล้ว เสียงดังไปก็อาจจะรบกวนห้องข้างๆ ที่กำลังพักผ่อนเอาไว้ เลยได้แต่หันมองมองหน้ากันยิ้มๆ และก็กลั้นขำไว้เพียงเท่านั้น
จากนั้นคนทั้งครอบครัวก็เข้าสู่ห่วงนิทราหลับฝันไป เพื่อเก็บออมแรงเพื่อเริ่มต้นการทำงานในวันต่อไป