ตอนที่ 11 อีกฟากของป่าไผ่

1490 คำ
“ต้นนี้เจ้าค่ะท่านพ่อ น่าจะกำลังดีเลย” ชิงเถาชี้เลือกต้นไผ่ที่ต้องการให้กับบิดาเห็น ตอนนี้ชิงเถา จิ้นสิง ตามด้วยสองแฝดอยู่ที่ท้ายจวน จุดที่มีไผ่ขึ้นกันอยู่หนาแน่นจนเป็นป่าทอดยาวจนมองไม่เห็นอีกด้านของป่าด้วยซ้ำ ป่าไผ่นี้มีต้นไผ่อยู่เยอะแยะมาก เจ้านายในจวนเลยไม่ได้ห้ามอะไรถ้าพวกบ่าวจะมาตัดไปใช้ประโยชน์กัน โดยชิงเถาเลือกต้นที่ไม่แก่นักเนื่องจากนางต้องเอาไปดัดขึ้นโครงนั่นเอง “ได้ เจ้าเอาต้นประมาณนี้ใช่ไหม พ่อจะได้เลือกถูก” จิ้นสิงถามบุตรสาว “เจ้าค่ะท่านพ่อ สัก 2 ต้นสำหรับทำของขาย กับอีกสัก 3 ต้นสำหรับทำโต๊ะวางเจ้าค่ะ” ชิงเถาบอก “ได้ มา เจ้าทั้งสองมาช่วยพ่อทางนี้” จิ้นสิงเอ่ยเรียกลูกชายทั้งสองให้มาช่วยกัน “ขอรับ!!” สองแฝดขานรับ “ท่านพ่อ ถ้าเช่นนั้นข้าขอเดินเล่นอยู่แถวนี้นะเจ้าคะ เผื่อเจออะไรน่าสนใจ” “ได้ลูก แต่อย่าไปไกลมากล่ะ” จิ้นสิงเตือนบุตรสาว “เจ้าค่ะ” นางขานรับกลับไปยิ้มๆ เข้าใจในความเป็นห่วงของคนเป็นพ่อ หลังจากบอกกับบิดาแล้ว ชิงเถาก็เดินเข้ามาด้านในป่าไผ่ลึกเข้าไป ตอนนี้นางกำลังมองหาอะไรไปเรื่อยๆ ที่น่าสนใจนอกเหนือจากพวกต้นไผ่ที่ขึ้นอยู่หนาแน่นพวกนี้ ซึ่งนางไม่ลืมที่จะทำสัญลักษณ์ไว้ตามทางที่เดินผ่านมาไม่เช่นนั้นนางก็อาจจะมีสิทธิจะหลงได้ เดินมาไม่นานนักชิงเถาก็เห็นอีกด้านของป่าไผ่มีหลังคาเรือนดูแล้วมีอยู่หลายหลัง ทำให้นางยิ่งสงสัยแล้วรีบเดินไปดูอีกฝั่งให้ได้ว่าเป็นจวนของใครกัน “อ่า ป่าไผ่กั้นจวนทั้งสองไว้แค่นั้นรึ ไม่มีกำแพงขวางกั้นด้วยซ้ำ” ชิงเถาพูดขึ้นเมื่อมองเห็นเรือนอีกฝากหนึ่งโดยไม่ได้มีกำแพงมากั้นไว้เพื่อแสดงอาณาเขตใดๆ เช่นกัน เมื่อนางมองพิจารณาดูดีๆ แล้ว อีกฝั่งไม่น่าจะใช่จวนของบุคคลทั่วไป เพราะรูปทรงที่แปลกตาคล้ายกับอาราม ซักพักนางเห็นหญิงวัยกลางคนที่เดินออกมาจากเรือนหลังนั้นใส่ชุดสีขาวบนหัวหามีเส้นผมเพียงเส้นไม่ ชิงเถานางจึงสรุปได้ว่าจวนอีกฝากหนึ่งนี้นั้นคืออารามชีนั่นเอง!! หลังจากชิงเถาเดินแยกมาจากบิดากับน้องชายได้สักพัก นางจึงคิดที่เดินกลับเนื่องจากสิ่งที่นางสงสัยนั้นนางก็รู้แล้ว เดินกลับมาทางเดิมที่ทำสัญลักษณ์ทำให้นางเดินมาออกมาได้เร็วขึ้น “เถาเอ๋อร์ลูกอยู่ไหน เถาเอ๋อร์” จิ้นสิงเห็นว่าบุตรสาวหายไปครู่หนึ่งแล้วเขาก็เกิดร้อนใจขึ้นมา รีบร้องหาทันที “พี่รองท่านอยู่ไหน” “พี่รองไม่ต้องซ่อนแอบกับพวกข้าหรอกออกมาเถอะ” สองแฝดเองก็ร่วมด้วยช่วยเรียกหานาง ตอนนี้ทางฝั่งของสามพ่อลูกหลังจากที่จัดการกับต้นไผ่เสร็จแล้ว ก็เตรียมจะนำกลับไปเก็บยังที่บ้านพัก เพื่อที่จะกลับไปทำงานต่อช่วงบ่าย แต่ชิงเถายังไม่กลับมา นางบอกว่าจะเดินอยู่แถวนี้พวกเขาก็เดินตามหาจนทั่วแล้วแต่กลับไม่เจอ “หรือว่าพี่รองเข้าไปลึกกว่านี้ขอรับท่านพ่อ” หมิงเลี่ยนเอ่ยถามบิดา “อาจจะเป็นไปได้งั้นเรารีบเข้าไปหาพี่สาวเจ้ากันเถอะ” จิ้นสิงบอกกับบุตรชายทั้งสอง แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าไปลึกกว่านี้ ก็เจอกับชิงเถาที่รีบวิ่งออกมาเช่นกัน ทางด้านชิงเถาหลังจากนางออกมาก็ได้ยินเสียงเรียกหาตนจึงรีบวิ่งออกมา เพื่อไม่ให้พวกเขากัลวลใจไป “มาแล้วเจ้าค่ะ ข้ามาแล้ว!!” เมื่อวิ่งมาถึงตรงหน้าของบิดาและน้องชายแล้วนางก็หยุดยืน พร้อมหอบแฮกๆ “เจ้าเข้าไปถึงไหนเถาเอ๋อร์ หากเกิดอันตรายขึ้นใครจะช่วยเจ้าทัน” จิ้นสิงดุบุตรสาว “ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วงเจ้าค่ะ ข้าแค่เดินเล่นเข้าไปเรื่อยๆ เผื่อมีอะไรน่าสนใจ” ชิงเถาบอกออกมา “แล้วมีอะไรน่าสนใจหรือไม่พี่รอง” หลิงลู่ถามกลับด้วยความอยากรู้บ้าง “มีสิๆ อีกฝากของป่าไผ่นี้น่ะมีอารามอยู่ด้วยนะ” ชิงเถายังไม่ได้ตอบน้องชายออกไป บิดาก็เอ่ยตัดขึ้นมาก่อน เพราะเรื่องนี้บางคนก็รู้อยู่แล้ว เพียงแต่ก็เว้นระยะไว้ไม่เข้าไปรบกวนการปฏิบัติตนของพวกท่าน “เรื่องนั้นพักไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ก็บ่ายแล้วเราต้องรีบกลับไปทำงานต่อได้แล้วนะ” จิ้นสิงบอกกับทุกคนพร้อมเดินนำออกไปจากป่าไผ่จากนั้นแบกเอาไผ่ที่ตัดเป็นท่อนแล้วใส่บ่าจิ้นสิง เขาอาสาแบกกลับไปเก็บเองโดยไม่ให้ลูกๆ ของเขาต้องลำบากเลย ตอนเย็นหลังจากเสร็จสิ้นงานของจวนแล้ว ทุกคนมานั่งล้อมวงกันในห้องพักเพื่อแบ่งหน้าที่การทำตาข่ายดักฝันสำหรับนำไปขายนั่นเอง... “นี่เจ้าค่ะท่านพ่อ ไผ่ที่นำมาข้าอยากให้นำมาเหลาไว้สำหรับทำเป็นโครงกลมๆแบบนี้ อาจจะหลายขนาดหน่อย โดยอันใหญ่สุดกว้างซักประมาณ 3 คืบมือของท่านพ่อ อันใหญ่อาจจะทำไม่กี่อัน นอกนั้นก็ลดลั่นกันลงมาเจ้าค่ะ ส่วนพวกข้าก็จะทำไปพร้อมๆ กันเมื่อท่านพ่อเหลาไม้เสร็จ งานจะได้เดินหน้าได้เร็วขึ้น” หลังจากแบ่งแยกหน้าที่กันเรียบร้อย คืนนี้จะเป็นคืนแรกที่ช่วยกันทำงานที่พวกเขาไม่คุ้นเคย ทำงานเช่นนี้อาจจะต้องใช้แสงมากกว่าปกติซักหน่อย แต่ก็ไม่มีปัญหาใดๆ เนื่องจากชิงเถานางมีตัวช่วยอยู่นั่นเอง!! ‘เชี่ยนเชี่ยน เจ้าทำให้ห้องสว่างกว่านี้ได้หรือไม่ แสงเทียนมีแค่นี้จะทำอันใดได้’ ชิงเถาเอ่ยกับแม่สาวตัวน้อยผู้ช่วยของนางด้วยน้ำเสียงติดไปทางเว้าวอน ‘ได้สิเรื่องเล็กน้อยแค่นี้สบายมาก’ เชี่ยนเชี่ยนบอกกลับด้วยท่าทางสบายๆ แล้วก็ยกนิ้วชี้ขึ้นมาร่ายมนต์อะไรของนางครู่หนึ่งทั้งห้องก็ค่อยๆ เริ่มสว่างขึ้นโดยไม่ให้ทุกคนสงสัยมากนัก “วันนี้เทียนสว่างดีจริงๆ มาเรามาเริ่มทำงานให้ได้เยอะๆ กันเถอะ” จิ้นสิงเอ่ยบอกกับทุกคน หลังจากที่เริ่มเหลาไม้ไปได้สักครู่แล้วรู้สึกว่าตนจะมองอะไรได้ชัดเจนขึ้น โดยมีสองแฝดเป็นผู้ควบคุมการทำงานนั้นเอง หลังจากจิ้นสิงเหลาไม้อันแรกเป็นอันใช้ได้แล้ว ชิงเถาก็มาเริ่มสอนพี่สาวกับมารดาใช้เศษผ้าที่ได้มาโดยไม่ต้องเสียซักอีแปะกับเส้นด้ายที่ซื้อมาเริ่มทำก่อน โดยนางคิดว่าจะใช้เศษผ้าที่ได้มาให้หมดก่อนหากยังไม่พอจึงจะใช้ผ้าที่ซื้อมา เมื่อทั้งสามคนแม่และลูกสาวช่วยกันทำตาข่ายดักฝันอันแรกก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ทุกคนในครอบครัวก็มาชื่นชมกับผลงานชิ้นแรกกันอย่างตื่นตา เพราะทั้งบ้านเจ้านี้นี่แหละสวยที่สุดแล้ว แต่สำหรับชิงเถาอันแรกนี้ยังไม่ดีพอนางว่าจะเก็บไว้ใช้เองมากกว่า ไม่ใช่เพราะมันไม่ค่อยสวยแต่ว่าเป็นอันแรกที่ช่วยกันทำนั่นเอง!! “ชิ้นนี้เราทำเสร็จเป็นอันแรก งั้นเราน่าจะเก็บไว้เองนะเจ้าคะ อันต่อไปเราต้องทำให้สวยๆเ พื่อที่คนจะได้มาซื้อให้ได้” ชิงเถาพูดขึ้น “ได้เลย!!” ทุกคนในครอบครัวขานรับกันอย่างขันแข็ง เมื่อเห็นผลสำเร็จเป็นครั้งแรกแล้ว พวกเขาก็มีไฟขึ้นมากว่าเดิม เพราะเริ่มวาดหวังไว้แล้วว่าของสวยๆ แบบนี้จะต้องมีคนมาซื้อบ้างอย่างแน่นอน ทุกคนช่วยกันทำจนจวนจะเที่ยงคืน จนชิงเถาจึงต้องบอกแกมบังคับให้ทุกคนไปเข้านอนได้แล้ว แต่ทุกคนก็ขยันเสียเหลือเกิน อยากจะทำต่อให้ได้หลายอัน อยากจะทำจนรุ่งเช้าด้วยซ้ำอาจจะเพราะทุกคนตื่นเต้นเนื่องจากงานนี้จะเป็นรายได้แรกที่ไม่ใช่มาจากค่าแรงจากการเป็นบ่าวที่น้อยนิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม