ตอนที่ 12 ขายของวันแรก

1918 คำ
หลังจากวันที่ครอบครัวของชิงเถาเริ่มทำตาข่ายดักฝันร้าย เวลานี้ก็พัดผ่านมาเป็นเดือนแล้ว จนตอนนี้หน้าหนาวก็กำลังจะหมด หิมะก็ละลายไปเกือบหมดสิ้นแล้ว สัปดาห์หน้าจะเข้าฤดูใบไม้ผลิ และเริ่มต้นงานฉลองปีใหม่ของแคว้นหรือทั้งของทวีปนี้อย่างเป็นทางการ แคว้นที่ชิงเถาอาศัยอยู่นั้นชื่อว่าแคว้นฉวนอู่ โดยเมืองหลวงก็ชื่อเดียวกันนี้ ปกครองโดยกษัตริย์นามว่าฉวนเยว่ฉีมามากว่า 20 ปีแล้ว แคว้นฉวนอู่ขณะนี้ถือว่าร่มเย็นสุขสบายมาก เพราะไม่ได้เกิดสงครามมาหลายสิบปีแล้วตั้งแต่กษัตริย์องค์ก่อน อาจเป็นเพราะว่าทั้ง 4 แคว้นใหญ่ อย่าง ฉวนอู่ เยว่อู่ หวงอู่ และเตี้ยนอู่ ในทวีปอู่นี้เป็นการปกครองของเชื้อพระวงศ์และผู้มีอำนาจเท่านั้น แต่ผู้ที่แข็งแกร่งจริงๆ อาจหลบซ่อนอยู่ที่ไหนซักที่ในทวีปนี้ มีทั้งผู้ฝึกตนอิสระ ทั้งนิกาย ทั้งสำนัก ทั้งพรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายน้อยใหญ่ ถ้าหากมีสงครามเกิดขึ้นที่ไหนซักแห่ง ก็อาจเป็นการรบกวนการฝึกตนของผู้ที่แข็งแกร่งกว่าคนของแคว้นก็เป็นได้ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้แคว้นต้องล่มสลาย เพราะความโกรธหรือรำคาญใจจากใครสักคนที่เก่งกาจก็ไม่ควรก่อเหตุอันใดขึ้น นี่คือสิ่งที่ทุกแคว้นคิดและเห็นพร้อมกัน เพราะมีเคยมีตัวอย่างแล้วจากเหตุการณ์เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับเมืองหนึ่งที่อยู่ๆ ก็ล่มสลายลงโดยเพียงผู้ฝึกตนขั้นสูงคนหนึ่งเท่านั้น! “ตรงนี้ใช้ด้ายสีนี้ดีกว่าพี่ใหญ่ ตรงนี้ท่านแม่ต้องเพิ่มอันนี้เข้าไปสักหน่อยจะได้สวยขึ้นไปอีกเจ้าค่ะ” ตอนนี้ครอบครัวของชิงเถาก็กำลังนั่งทำตาข่ายดับฝันช่วยกันอย่างเร่งมือ นางกำหนดว่าอย่างน้อยต้องได้ซัก 100 ชิ้น ซึ่งตอนนี้ก็ได้เกือบจะครบแล้ว โดยตาข่ายดักฝันของนางไม่ได้มีแค่เส้นด้ายตกแต่งเหมือนวันแรกๆ แล้ว ตอนนี้นางมีขนเป็ดที่ได้จากโรงครัวมาต้มกับสีของพืชชนิดต่างๆ ที่พอจะหาได้จากเปลือกที่เหลือทิ้งในครัว กับลูกปัดไม้ในตลาดที่นางเจอมาเห็นว่าราคาไม่แพงนางเลยซื้อมาตกแต่งเพิ่ม จนตอนนี้ตาข่ายดักฝันที่ทำได้นางก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่แตกต่างจากโลกก่อนมากนักทั้งวัสดุที่นางหามา กับรูปทรงต่างๆ ที่นางจะทำแบบที่เคยเห็นจากโลกก่อน จึงแน่ใจว่าต้องแปลกตา คนที่นี่ต้องสนใจ แล้วก็ขายได้อย่างแน่นอน ในที่สุด เทศกาลฉลองขึ้นปีใหม่วันแรกก็มาถึง ครบครัวของชิงเถาหลังจากทำงานที่จวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็กำลังช่วยกันเก็บและขนย้ายข้าวของต่างๆ เดินทางไปที่จัดงาน โชคดีที่ท่านรองเจ้ากรมพิธีการนายท่านของจวน อนุญาตให้ทุกคนหลังเสร็จงานสามารถออกไปเที่ยวได้อย่างอิสระ แถมยังสั่งให้รับสำรับเร็วขึ้นอีกด้วย เพราะเจ้านายในจวนบางคนก็ต้องออกไปร่วมงานฉลองเหมือนกัน “ถุงข้าช่วยท่านพ่อถือเองเจ้าค่ะ ส่วนสองแฝดมาถือถุงนี้ไป” ครอบครัวชิงเถาตอนนี้กำลังแบ่งกันถือข้าวของกันให้ยุ่ง กว่าจะเดินมาถึงมาก็ผ่านไป 2 เค่อได้ โดยชิงเถาจะต้องไปจ่ายเงินค่าเช่าอีกส่วนเสียก่อน จึงจะไปตั้งร้านตรงที่ทางการจัดไว้ให้ตามชื่อที่ลงไว้ได้ เมื่อมาถึงจุดที่ตั้งแล้วทุกคนก็ช่วยกันจัดร้าน ตั้งแต่ประกอบโต๊ะวางขายที่ชิงเถาออกแบบมาโดยเฉพาะให้สามารถถอดชิ้นสวนได้ มันง่ายต่อการเก็บและยังมีที่แขวนตาข่ายที่อยู่รอบโต๊ะด้วย ร้านอาข่ายดักฝันยังมีป้ายขนาดใหญ่อีกด้วย ชิงเถาคิดว่าการโฆษณาก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน จึงนำป้ายผ้าที่เขียนอักษรที่น่าสนใจมาติดไว้ จริงๆ สองแฝดเคยถามนางว่าตาข่ายดักฝันร้ายนี้มันดักฝันร้ายได้จริงๆ เหรอ ตอนนั้นนางก็ตอบไม่ได้เหมือนกันจนรู้สึกว่าที่ลงแรงทำไปจะเปล่าประโยชน์หรือเปล่า แต่แล้วนางก็ยังมีตัวช่วยนั่นก็คือเชี่ยนเชี่ยนน้อยนั่นเอง! โดยเชี่ยนเชี่ยนได้ร่ายมนต์ให้คำอวยพรลงไปว่าผู้ที่ใช้ก็อย่าได้เจอกับฝันที่โหดร้ายนัก ซึ่งสองแฝดลองใช้งานก็ชมกันไม่ขาดปากว่าหลับสบายไม่ฝันอะไรเลย(เอ่อ... นั่นพวกเจ้าง่วงมากหรือเปล่า) “เร่เข้ามาเจ้าค่ะ เร่เข้ามา... ร้านของเรามีตาข่ายดักฝันร้าย เชิญเข้ามาดูก่อนเจ้าค่ะ ตาข่ายดักฝันร้ายสวยๆ ทั้งดักฝันร้ายได้ทั้งตกแต่งห้องได้ ราคาไม่แพงเชิญมาดูก่อนเจ้าค่ะ” หลังจากตั้งร้านเสร็จชิงเถาก็เริ่มเป็นแม่ค้าเรียกหาลูกค้าทันที จริงๆ ร้านนางคนก็เริ่มสนใจตั้งแต่มีป้ายร้านขนาดใหญ่แล้ว แต่พออ่านดูรู้สึกว่ามันไร้สาระเลยไม่ได้สนใจจะเข้ามาดู “ตาข่ายดักฝันร้ายขอรับ เชิญเข้ามาดูก่อน” สองแฝดก็ช่วยเรียกลูกค้าอย่างขยันขันแข็ง ถึงคนจะเริ่มมาเดินงานกันมากขึ้นแล้วแต่ก็ยังไม่มีใครเข้าร้านเลย “ทำยังไงดีน้องรอง ยังไม่มีใครเข้าร้านเราสักคน” ลี่ถิงถามขึ้นหลังช่วยกันตะโกนเรียกลูกค้ามาได้สักพักแล้วด้วยน้ำเสียงทดท้อใจ “นั่นสิขอรับหรือเราจะขายไม่ได้ ฮือ... ขนมข้า สงสัยจะไม่กินเสียแล้ว” หมิงลู่พูดขึ้น เนื่องจากชิงเถาบอกไว้ว่าถ้าเราขายได้ก็จะมีเงินซื้อขนมกิน “นั่นสิ ทำไงดี อ๊ะ! คิดออกแล้ว ทุกคนฟังนะเจ้าค่ะ” ชิงเถาคิดแผนการตลาดแบบเฉพาะหน้าออกแล้ว โดยพวกนางจะแบ่งกันเป็น 3 กลุ่ม คือ ท่านแม่ลี่จูกับหมิงเลี่ยน ลี่ถิงกับหมิงลู่ ชิงเถากับท่านพ่อจิ้นสิง ชิงเถาจะให้กลุ่มของมารดากับของพี่สาวแยกกันไปเป็นผู้ที่มาเดินเที่ยวงาน แล้วก็เดินถือตาข่ายดักฝันคนละอัน สองอัน เดินเล่นไปมารอบๆ งาน แล้วจะต้องทำเหมือนบังเอิญพูดชื่นชมตาข่ายดักฝันให้คนสนใจจนมาซื้อ แต่ก็ต้องไม่พูดมากเกินเหมือนเป็นแม่ค้ามาขายซะเอง แค่เดินถือผ่านหน้าคนมากก็น่าจะได้ผลแล้ว หลังจากตกลงกันได้แล้ว ทั้ง 2 กลุ่มก็ออกปฏิบัติหน้าที่กันทันทีโ ดยก่อนไปชิงเถาก็ให้ค่าขนมกับน้องชายนิดหน่อยทั้งสองจะได้มีแรงทำงาน ส่วนนางกับบิดานั้นก็ช่วยกันเฝ้าร้านเพื่อเรียกลูกค้าต่อไป ด้านนางลี่จูและหมิงลู่ลูกชายคนเล็ก หลังจากที่เริ่มแยกออกมาปฏิบัติงานแล้ว “ท่านแม่ ข้าอยากได้อีกเยอะๆ ทำไมท่านแม่ซื้อตาข่ายดักฝันให้ข้าแค่ 2 อันล่ะขอรับ ข้าอยากได้อีกเยอะๆๆ ข้าจะได้ไม่ฝันร้ายอีก” หมิงลู่ผู้เป็นแสดงเด็ก ได้รับบทเป็นเด็กงอแงอยากได้ของ เดินไปทางไหนก็มีแต่คนมองเพราะเสียงก็ดังพอสมแล้วพอเห็นสิ่งเขาอยากได้ บ้างมองมาก็เกิดสนบ้าง ส่วนบางคนก็คิดว่าเป็นเพียงของเล่นเด็กเท่านั้น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ผล “ท่านแม่ๆ ดูพี่ชายคนนั้นสิเจ้าค่ะร้องไห้งอแงใหญ่เลย ฮ่าๆๆ แต่ว่าในมือเขาถืออะไรอยู่ก็ไม่รู้สวยจัง ข้าอยากได้ๆ ซื้อให้ข้านะเจ้าคะ” เสียงเด็กหญิงตัวน้อยเมื่อเห็นสิ่งที่หมิงลู่ถืออยู่ในมือแน่น ก็เกิดอยากจะได้จึงดึงแขนมารดาให้พาไปซื้อ หรือจะเป็นอีกคนก็... “ท่านพ่อเจ้าคะ เห็นเด็กคนนั้นพูดว่าสิ่งนั้นดักความฝันร้ายเราซื้อไปฝากน้องเล็กที่บ้านหน่อยดีหรือไม่เจ้าคะ” เด็กสาวอายุราวชิงเถาเอ่ยขอบิดาที่พามาเดินเที่ยวงานแล้วคิดถึงน้องน้อยที่เรือน ด้านนักแสดงเด็กอย่างหมิงลู่กับมารดากำลังแสดงบทบาทไปได้อย่างดี ส่วนทางด้านลี่ถิงกับหมิงเลี่ยนก็เล่นสุดฝีมือเช่นกัน “ตาข่ายดักฝันสวยมากเลยข้ารับพี่ใหญ่ ข้าจะเอาไปแขวนไว้รอบๆ ห้องเลย ต่อไป ข้าจะต้องไม่ฝันร้ายเลยซักวันเดียว” “ดีแล้วล่ะ น้องชายพี่ต้องหลับฝันดีนะ” ลี่ถิงเอ่ยกับน้องชายยิ้มๆ ยามเมื่อหมิงเลี่ยนที่เดินทีก็หมุนตัวที เอ่ยปากชมตาข่ายดักฝันเต็มที่ มือซ้ายก็ถือตาข่ายดักฝันขึ้นสูงๆ แล้วมองด้วยสายตาเป็นประกาย ส่วนอีกมือก็ถือถังหูลู่ที่พึ่งจะแวะซื้อมา ผู้คนที่อยู่รอบๆ ตัวหมิงลู่ก็เริ่มสนใจ บ้างมาคนเดียว บ้างมาเป็นคู่ บ้างมาเป็นครอบครัว บางคนถึงกลับเข้ามาถามของที่เด็กน้อยถือว่าร้านตั้งอยู่ที่ไหนเพราะคิดว่าเด็กน้อยน่าจะไม่โกหกว่าดักฝันร้ายได้จริง บ้างคู่รักก็อยากซื้อให้กันเป็นของแทนใจ เมื่อฝ่ายประชาสัมพันธ์เริ่มออกไปปฏิบัติงานแล้ว ด้านชิงเถาก็เริ่มมีคนให้ความสนใจมากขึ้น ทั้งจากนางป่าวประกาศเองหรือจากแผนการตลาดของนาง “เชิญเลยเจ้าค่ะ ตาข่ายดักฝันร้าย ได้ผลจริงๆ ข้ารับประกันได้ ผ่านการอำนวยอวยพรและลงอักขระจากผู้ทรงศีล โดยเฉพาะเด็กต้องมีไว้นะเจ้าคะ” ผู้ทรงศีลเชี่ยนเชี่ยนเชี่ยวนะ คิกคิก “จริงรึแม่หนู ข้าเอาอันหนึ่ง ราคาเท่าไหร่ละ” หญิงวัยกลางคนถามขึ้นเนื่องจากลูกสาวนางรบเร้าให้มาซื้อให้ “ขนาดใหญ่สุด 600 อีแปะ เล็กลงก็มีราคา... เจ้าค่ะ” เมื่อชิงเถานางพูดบิดานางถึงกับตกใจ ทำไมนางตั้งราคาสูงขนาดนี้โดยไม่ปรึกษาพวกเขาก่อน “โห แม่หนูทำไมแพงขนาดนี้ละ นี่ซื้อเครื่องประดับได้หลายชิ้นเลยนะ” หญิงอีกคนเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินราคาพวกเขาส่วนมากเป็นชาวบ้านถึงจะมีรายได้อยู่ แต่ทำไมเขาต้องมาเสียเงินตั้งเยอะซื้อของที่ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์จริงหรือเปล่าไปด้วย ต้องบอกก่อนว่าตาข่ายดักฝันอักเล็กก็ราคาปาไปกว่า 80 อีแปะแล้ว ซึ่งนั้นซื้อหมูได้ 2 จินเชียวนะ!! โอ้โห โถถัง ทำไมไม่มาปล้นกันเลยล่ะเนี่ย... “โถ่ ท่านป้านี้ของนี่ผ่านมือท่านผู้ทรงศีลมาแล้ว ราคาก็ต้องแพงเป็นธรรมดาเจ้าค่ะ ข้าก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกันที่ลงทุนไปก็มากโข จริงๆ ราคานี้ก็ลดได้บ้างอยู่เจ้าค่ะ ท่านลองเลือกดูก่อนเจ้าค่ะ ราคาต่อรองได้ ยิ่งซื้อเยอะยิ่งลดเยอะเจ้าค่ะ!!” เมื่อได้ยินว่ามีการลดราคาสินค้า ตั้งแต่วันแรกของงานใครละจะไม่สนใจ ที่ไหนก็เหมือนกันทั้งนั้นแค่มีลดแลกแจกแถมคนก็มามุงแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม