ตอนนี้หลังจากชิงเถาบอกให้ทุกคนไปคิดมาก่อนว่าจะขายอะไรดี ทำให้คนในครอบครัวไม่ว่าจะทำงานอยู่ไหนของจวนก็มองทุกสิ่งเป็นสินค้าทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นลี่จูทำอาหารอยู่ในครัว ในหัวนางก็คิดไปด้วยว่าอาหารจานไหนที่พอจะทำแล้วไปฝากขายได้บ้าง
จิ้นสิงทำงานที่คอกดูแลม้าของจวนที่นี่มีม้ากว่า 20 ตัว ทุก 3 วันจะต้องอาบน้ำให้ม้า และทุกๆ วันก็ต้องแปรงขนให้ม้า ถ้าไม่ติดว่าทางหัวหน้าให้เก็บขน(ส่วนหาง หน้าและแผงคอ)ม้าที่หลุดล่วงไว้ไม่อย่างนั้นจิ้นสิงก็คงหวีขนม้าจนขนหลุดหมดแล้วนำไปขายแทน
ทางด้านสองแฝดก็ไม่น้อยหน้า คิดวิธีกันอย่างหัวหมุนแต่ก็ยังคิดไม่ออกจนอยากจะไปนั่งขอทานในเมืองแทนอยู่แล้ว ได้เงินไวแล้วก็ไม่ต้องลงทุนใดๆ เลยแม้แต่น้อย
ส่วนลี่ถิงนางถนัดด้านเย็บปักผ้า หลังจากครอบครัวมีเงินจากขายตาข่ายดักฝันก็ได้นำเงินไปซื้ออุปกรณ์ปักเย็บมา ปกตินางจะปักผ้าตอนเย็นแต่ตอนนี้นางเอาผ้าไปปักตอนรับใช้ด้วย พอคุณหนูรองเผลอเมื่อไหร่นางก็เอาผ้าขึ้นมาปักทันที นางคิดดีแล้วว่าจะฝากผ้าของนางไปขายด้วย
ด้านผู้มอบการบ้านให้ทุกคนไปอย่างชิงเถานั้น นางก็ยังคิดไม่ออกเช่นกันว่าจะทำอะไร แต่วันนี้ถ้าได้ออกไปข้างนอกนางจะต้องไปติดต่อพูดคุยกับร้านค้าที่นางสนิทไว้ก่อนว่าอยากมาฝากสินค้าขายเมื่อมีของจะได้มีที่ขายแน่นอน
“ชิงเถา คุณหนูต้องการพบ” สาวใช้เป่ยเดินมาหาชิงเถา แล้วบอกความต้องการกับนางออกมาเบาๆ
“เจ้าค่ะ ข้าขอไปบอกท่านหัวหน้าก่อน เดี๋ยวข้าตามพี่สาวเป่ยไปทีหลังนะเจ้าค่ะ” ชิงเถาบอกกับสาวใช้เป่ย เนื่องจากตอนนี้ยังเป็นเวลางานนางอยู่ถ้านางหายไปนานๆ นางต้องถูกดุแน่
เรือนไผ่ท้ายจวน หลังชิงเถาปลีกตัวได้แล้วก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นสักหน่อยตรงมาที่นี่ทันที
“คำนับคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ มีอะไรให้ข้าน้อยรับเหรอใช้เจ้าคะ” ชิงเถาเอ่ยถามเทียนซืออิ๋งที่นั่งบนเก้าอี้ในห้องนั่งเล่นออกมาทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
“ที่เจ้าบอกว่าอีกด้านของป่าไผ่เป็นอารามสามารถออกไปข้างนอกได้ ข้าคิดดูแล้วว่าข้าก็อยากออกไปข้างนอกสักครั้ง จึงอยากจะรบกวนเจ้าเสียหน่อย” เทียนซืออิ๋งบอกความต้องการของตนเองออกมา
“ข้าน้อยน้อมรับใช้คุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ” ชิงเถาตอบตกลงกลับไปโดยที่ไม่ต้องคิดก่อนให้ยุ่งยาก อย่างไรเสียนางก็เป็นผู้เสนออีกฝ่ายออกไปเอง
“งั้นก็ไปกันเลยแล้วกันนะ เราจะได้ไม่กลับมาเย็นนัก” เทียนซืออิ๋งที่แสดงออกถึงท่าทางตื่นเต้นเอ่ยออกมา พร้อมเดินนำออกไปทางด้านหลังของเรือน
ชิงเถาก็ไม่ได้ขัดอันใดเรื่องงานก็ไม่ต้องห่วงเพราะจัดการไว้แล้วถึงได้หนีมาได้แบบนั้น นางเดินตามออกไปพร้อมทำหน้าที่ผู้นำทางที่ดี ซึ่งระหว่างทางนั้นนางเจอกับหน่อไม้หลายหน่อ นางหมายตาไว้แล้วว่าต้องกลับมาเก็บให้ได้
“เชิญทางนี้เจ้าค่ะ ระวังพื้นด้วยนะเจ้าคะพื้นไม่ค่อยจะเรียบนัก บ้างก็เป็นหลุม บ้างก็เป็นหิน” ชิงเถาบอกทั้งสองคนที่เดินตามนางมา โดยทิ้งระยะห่างไว้เพียง 2-3 ก้าวเท่านั้น
หลังจากเดินออกจากป่าไผ่สูงและหนาแน่นมาได้ ด้านหน้าของคนทั้งสามก็คืออารามชีที่ไม่คอยจะมีคนนัก ทำให้เดินออกมาได้อย่างสะดวกไม่มีเหตุอันให้ตกใจ หรือต้องแอบซ่อนให้ยุ่งยาก
“ถึงหน้าอารามแล้ว คุณหนูใหญ่จะให้ข้านำทางไปไหนต่อเจ้าคะ” ชิงเถาถามพร้อมกันนั้นก็มองซ้ายขวาเพื่อเก็บข้อมูล ครั้งก่อนนางมาถึงแค่หลังอารามเท่านั้น ยังไม่ได้เข้าใกล้และเดินผ่านเข้ามาถึงหน้าประตูอารามขนาดนี้
“ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้วล่ะ หลังจากนี้พวกเราจะไปต่อเอง” สาวใช้เป่ยบอกพร้อมกับหยิบถุงเงินออกให้ชิงเถา
“ไม่ต้องให้ข้าก็ได้เจ้าค่ะ” ชิงเถาเอ่ยบอกหลังเห็นค่าตอบแทนในถุงผ้า ดูมันมีน้ำหนักสังเกตได้จากการทิ้งตัวของถุง
“รับไปเถอะอาเถา ถือเป็นค่าเหนื่อยและไม่รู้ไม่เห็นอะไร” เทียนซืออิ๋งบอกออกมาด้วยมีนัยแฝง หมายว่านางจะไม่รู้ไม่เห็นไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปเด็ดขาด!!
“เช่นนั้นก็... ขอบพระคุณคุณหนูมากเจ้าค่ะ ไปกลับปลอดภัยนะเจ้าคะ” ชิงเถารับถุงเงินมา นางคาดว่าน่าจะหลายร้อยอีแปะอยู่ จากนั้นนางก็แยกกับทั้งสองโดยนางเข้าไปในตลาดเพื่อไปเจรจาฝากขายของกับร้านค้า ไหนๆ ก็ได้ออกมาแล้วก็ใช้เวลาให้คุ้มค่าก็แล้วกัน
ชิงเถาเลือกร้านขายเป็ดไก่เป็นเป้าหมายแรกในการเจรจา เนื่องจากข้างแผงขายไก่อยู่ตรงที่ผู้คนเดินจับจ่ายตลอด ทั้งยังเหลือที่ว่างให้นางนำของมาฝากขายและเป็นธุรกิจแบบครอบครัวทำงานทั้งพ่อ แม่ ลูกสะใภ้ ทำให้มีเวลาดูแผงให้นางได้ด้วย
เหตุผลสุดท้ายเลยก็คือครอบครัวนี้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนางนั่นเอง
“เถ้าแก่ เถ้าแก่เนี้ยสบายดีนะเจ้าคะ” ชิงเถาเอ่ยหลังจากยืนรอให้ลูกค้าคนสุดท้ายเดินออกไปแล้วพร้อมรอยยยิ้มแบบเห็นฟันหน้าครบทุกซี่
“อ๊าว ว่ายังไงล่ะอาเถา วันนี้เอาเป็ดหรือไก่ล่ะ วันนี้มีแต่ตัวอ้วนๆ ทั้งนั้นเลยนะ” เถ้าแก่ร้านวัยใกล้ 60 ถามออกมาด้วยความเป็นกันเอง
“วันนี้ข้าไม่ได้มาซื้อเจ้าคะ แต่มีเรื่องจะรบกวน ก็คือว่า...” หลังจากนั้นนางก็พูดแผนการของนางออกไป โดยนางจะนำโต๊ะของนางมาวางขายกับสินค้าของร้านขายเป็ดไก่ โดยจะให้ทางร้านเป็นผู้ขายให้นาง ซึ่งนางอาจจะออกมาขายช่วยได้เป็นบางครั้งโดยนางจะให้ส่วนแบ่ง 2 ใน10 ส่วน
“ไม่ต้องให้เราก็ได้อาเถา พวกเราคนกันเองอยู่แล้ว ใช่มั้ยเจ้าคะท่านแม่” ลูกสะใภ้ของร้านเอ่ยขึ้นหลังได้ยินข้อเสนอของชิงเถา ซึ่งนางคิดว่าไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรที่จะช่วยขายของเล็กๆ น้อยๆ เพราะนางก็เอ็นดูชิงเถาไม่น้อย
“ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ คนทำค้าขายจะเอาเปรียบกันได้อย่างไร ขายของก็ต้องมีค่าเหนื่อยบ้างแค่นี้ไม่ถือว่าเยอะเจ้าค่ะ ถือซะว่าเป็นค่าเช่าร้านที่ข้าจ่ายให้เถ้าแก่แล้วกัน” ชิงเถาพูดออกมาอย่างสรุปเอาเอง ถึงนางจะชอบเงินแต่นางก็ไม่อยากเอาเปรียบใครหรอกนะ โดยเฉพาะคนที่ดีกับนาง
“เอาเถอาะๆ จะอย่างนั้นก็ได้ แล้วจะเริ่มขายวันไหนล่ะ” เถ้าแก่ถามขึ้น
“แฮ่ๆ ยังไม่มีของจะขายหรอกเจ้าคะ ถ้าแค่จะมาคุยไว้ถ้าวันไหนพร้อมขายแล้วข้าจะมาแจ้งอีกทีนะเจ้าคะ” หลังพูดจบก็ตามมาด้วยประโยคบ่นนางอย่างไม่จรงจังนัก แต่นางก็ต้องยอมรับไว้ ก็ยังไม่ได้คิดจริงๆ นี่นะ ว่าจะขายอะไรดี
หลังชิงเถาพูดคุยเรียบร้อยแล้ว นางก็กลับจวนทันทีโดยวันนี้นางจะกลับทางท้ายจวนเหมือนรอบออกมา ถึงจะไกลหน่อยแต่ก็ต้องกลับ เนื่องจากไม่มีใครเห็นนางตอนออกมาทางประตูข้าง(ที่บ่าวทาสใช้กัน) แล้วจะให้กลับเข้าไปยังทางนั้นใครเห็นก็ต้องเป็นงง แล้วก็ตามด้วยการสอบสวนว่านางออกไปได้อย่างไร โดยที่พ้นหูพ้นตาคนที่เฝ้าประตูตลอดเวลา
“ล่า ลา ลา ลาลา” เสียงร้องเพลงเพี้ยนๆ ถูกเปล่งออกมาจากริมฝีปากบางสีชมพูอ่อนๆ ของชิงเถา มันแสดงออกถึงผู้เป็นเจ้าตัวว่ากำลังอารมณ์ดี
‘เสียงห่วยแตกมาก มานี่ข้าจะร้องให้ฟังเอา ลาลาลา~~~’ ชิงเถาถูกปรามาสอย่างหนักจากเชี่ยนเชี่ยน แล้วนางก็ต้องถูกลงโทษด้วยการเดินกลับบ้านแบบที่ต้องฟังเสียงเชี่ยนเชี่ยนร้องเพลงจนถึงป่าไผ่
“มาๆ เจ้าหน่อไม้กลับไปกับข้าซะดีๆ” ชิงเถาพูดขึ้นหลังเจอหน่อไม้ แล้วหักออกมาเสียงดัง เปาะ นี่คือเสียงของความอ่อนและสดใหม่!!
‘ชิ แค่หน่อไม้ทำเป็นตื่นเต้นไปได้’ เชี่ยนเชี่ยนพูดด้วยท่าทางดูถูก ใช่สิแม่นางน้อยผู้ที่เท้าและตัวไม่ยอมให้ติดดิน
“ของกินได้ ของที่ใช้ประโยชน์ได้ข้าก็ดีใจหมดแหล่ะ” ชิงเถาตอบออกมา อย่างไม่ใส่ใจในท่าทางดูถูกของเจ้าตัวเล็ก
‘ที่สวนไผ่เล็กๆ นี้ ถึงจะไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ก็มีที่น่าสนใจกว่าเจ้าหน่อไม้นี้ก็แล้วกัน’ เชี่ยนเชี่ยนบอกออกมาด้วยท่าทางของคนเหนือกว่าที่สามารถพบเห็นสิ่งนั้นได้ก่อน
“เอ๊ะ!! แล้วมันอยู่ไหนเชี่ยนเชี่ยนคนสวย พาข้าไปดูหน่อย เร็วเข้าๆ” ชิงเถาเร่งหลังจากได้ยินว่ามีอะไรน่าสนใจ
‘ทีนี้มาคนสงคนสวย ไม่เป็นไร เห็นแก่ที่เจ้าอุตส่าห์กลั้นใจชื่นชมข้า ตามข้ามาสิ’ ว่าจบแล้วเชี่ยนเชี่ยนก็บินนำชิงเถาไปอีกด้านหนึ่งของป่าไผ่ทันที แกล้งบินเร็วบ้างช้าบ้างให้ชิงเถาได้บ่นแล้วก็หัวเสียไปด้วย
เชี่ยนเชี่ยนว่า ก็สนุกดี!!