ตอนที่ 18 ร้านฝากขาย

1896 คำ
หลังจากชิงเถาพูดคุยกับครอบครัวแล้วสำหรับเรื่องสินค้าที่จะขาย สรุปได้ว่านางจะขายใบหญ้าหวานตากแห้ง ซึ่งนางได้ทำการสับให้ดูไม่ออกแล้วว่าใบสดจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วก็ผ้าปักของลี่ถิงที่ได้หลายผืนแล้วก็จะนำไปขายด้วย ส่วนนางลี่จูเสนอทำข้าวไปฝากขายด้วยซึ่งหลังเรือนพักบ่าวมีครัวเล็กสามารถใช้ทำอาหารได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครทำกันเพราะกินข้างจากโรงครัวได้ ชิงเถาได้ยินความคิดนี้นางก็คิดว่าดีเหมือนกัน ทำอาหารราคาไม่แพงนักไปขาย ส่วนอาหารที่จะทำชิงเถาคิดว่าต้องเป็นอะไรที่กินง่ายใส่ห่อไว้เรียบร้อยเพราะพวกนางไม่ได้ไปขายเอง ซึ่งนางคิดว่าจะทำพวกข้าวห่อเหมือนโลกก่อนโดยนางจะทำหน้าหมูฝอยกับไก่ผัดพริกลองดูก่อนว่าใช้ได้มั้ย นางคิดว่าถึงจะขายไม่ออกอย่างน้อยพวกอาหารแห้งก็อยู่ได้หลายวัน วันนี้ชิงเถาไปตลาดตามคำสั่งของหัวหน้าพ่อครัว จึงถือโอกาสซื้อของมาทำอาหารเตรียมขายในวันรุ่งขึ้นด้วย นางได้ไปบอกกล่าวกับร้านขายไก่ที่คุยกันไว้แล้วจะมาฝากขายแล้วเรียบร้อย โชคดีที่ร้านยังเหลือที่ให้นางวางของจึงไม่ต้องหาโต๊ะมาเอง วันนี้ชิงเถาต้องซื้อของเองทั้งไก่ หมู เครื่องปรุง นี่เป็นครั้งแรกที่นางต้องใช้เงินตัวเองซื้อกว่าจะได้ของครบนางถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก ทั้งๆ ที่ก็รู้ราคาดีเพราะนางมาซื้อเป็นประจำแต่ที่ไม่เหมือนคือเงินนางที่ลดลง “ข้าวห่อของลูกนี่ต้องทำยังไงบ้าง” นางลี่จูถามขึ้นหลังทุกคนกินข้าวเย็นเสร็จแล้วมานั่งรวมกันที่ครัวเล็กหลังเรือนพัก “จะมีส่วนข้าวแล้วก็กับข้าวเจ้าค่ะท่านแม่ ตอนนี้เราต้องทำส่วนกับข้าวไว้ก่อนโดย อ้อ เราต้องเก็บใบไผ่มาสำหรับห่อด้วยนะเจ้าคะ” ชิงเถาแบ่งหน้าที่ให้ทุกคนช่วยกันทำโดยมีนางลี่จูคอยกำกับอีกทีถึงเมนูนี้ชิงเถาจะเป็นคนอธิบายขั้นตอนต่างๆ แต่ตอนทำจริงคนที่เป็นแม่ครัวย่อมชำนาญกว่า ซึ่งได้เวลานานเกือบ 2 ชั่วยามกว่าหมูฝอยกับไก่ผัดพริกจะเสร็จ และจัดห่อด้วยใบไผ่ที่เก็บมาเช็ดทำความสะอาดไว้เรียบร้อยแล้ว ชิงเถาจึงนับจำนวนและจดบันทึกไว้ซึ่งนางได้ข้าวห่อชนิด 50 รวมเป็น 100 ห่อ “หมูฝอยของพี่รองอร่อยมากเลยขอรับ” หมิงลู่พูดขึ้นหลังจากทุกคนช่วยกันเก็บของเรียบร้อยแล้วกลับมาห้องแล้ว “พ่อว่าไก่ผัดพริกอร่อยกว่า มีทั้งรสเผ็ดและหวานนิดๆ” จิ้นสิงพูดคุยกับลูกชาย โดยทุกคนช่วยกันทำก็ช่วยกันชิมจนได้รสชาติที่ทุกคนเห็นตรงกันว่าอร่อย ในเมื่อทุกคนว่าอร่อยยังไงเมื่อนำไปขายคนอื่นก็ต้องว่าอร่อยอยู่แล้ว เพราะทั้งเมนูอาหารที่แปลกใหม่ อีกทั้งคนทำยังเป็นแม่ครัวของจวนตระกูลใหญ่รสชาติมันจะสามัญได้อย่างงไง ตอนเช้าชิงเถาจะต้องตื่นก่อนเวลามาช่วยนางลี่จูกับพี่สาวหุงข้าวที่จะนำไปขาย ซึ่งต้องเป็นเวลาเช้ากว่าต้องตื่นปกติ เพราะหลังจากนี้ยังต้องไปทำงานในโรงครัวต่อ หลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วชิงเถากับจิ้นสิงจะไปส่งของต่อแต่เช้า เนื่องจากตลาดตอนเช้านั้นผู้คนมาเดินตลาดกันมากกว่าเวลาอื่น ทั้งมาซื้อของกับไปทำกินเองหรือมาซื้อข้าวกินก่อนไปทำงานรับจ้างใช้แรงงานต่างๆ ถึงตอนเช้าอย่างนี้ชิงเถาจะต้องช่วยงานที่โรงครัวแต่นางก็ต้องแอบออกมาส่งของก่อน โดยคิดไว้ว่าวันต่อไปจะให้ผู้เป็นบิดามาส่งแทนเนื่องจากงานในโรงเลี้ยงม้ามิต้องเริ่มแต่เช้าตรู่เหมือนอย่างในครัว ส่วนจะแอบออกมาจากจวนของผู้เป็นเจ้านายด้วยวิธีใดนั้น ขอสงวนไว้ไม่บอกออกไปก็แล้วกัน “มาแล้วเจ้าค่ะเถ้าแก่” ชิงเถากล่าวขึ้นหลังจากมาถึงร้านขายไก่ซึ่งต่อไปก็จะเป็นร้านขายของของนางเหมือนกัน “อ้าวมาแล้วรึนางหนู จัดของเลยนะตรงที่ว่างนั้นละ” เถ้าแก่ร้านไก่อย่างเถ้าแก่เหลยเงยหน้าขึ้นมาคุยกับชิงเถาอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่เขาจะไปจัดการไก่ให้ลูกค้าต่อ ชิงเถากับบิดาช่วยกันจัดร้านในพื้นที่ที่ว่างอยู่ทั้งข้าวแล้วก็ใบหญ้าหวานตากแห้ง นางจะวางไว้หน้าสุดส่วนถัดมาก็เป็นผ้าที่ลี่ถิงปักไว้ ซึ่งสินค้าร้านนางนั้นนางได้เขียนป้ายใหญ่ตรงหน้าโต๊ะขายของ และทั้งป้ายเล็กตรงสินค้านั้นวางอยู่ เพื่อให้ทุกคนรู้ได้ทันทีว่าขายอะไรบ้างเพราะนางไม่ได้คิดว่าเถ้าแก่ร้านไก่จะมีเวลามาอธิบายแก่ลูกค้าให้ได้ ทั้ งข้าวห่อของนางก็บอกชัดเจนทั้งราคาและมีหน้าอะไรบ้าง โดยนางแยกข้าวกับกับข้าวไว้คนละห่อเพราะมันทำให้เก็บได้นานขึ้น หรือบางคนอาจจะต้องการเฉพาะกับหรือข้าวเพิ่ม ราคานั้นนางคิดที่ข้าวห่อละ 3 อีแปะ กับข้าว 7 อีแปะ ซึ่งราคานี้ถือว่าถูกแล้วสำหรับขายอยู่ในเมืองหลวง ถ้าข้าวนางขายหมดจะได้ 1 ตำลึงจากให้ร้านขายไก่ 200 อีแปะ หักค่าวัตถุดิบประมาณ 300 อีแปะ วันหนึ่งก็ยังได้ 500 อีแปะ ส่วนใบหญ้าหวานตากแห้งนั้นนางขายห่อละ 10 อีแปะ ส่วนราคาของผ้าปักนั้นต้องมีราคามากกว่าอาหารพวกนี้อยู่แล้ว ผ้าปักจากฝีมือพี่สาวนางเชียวนะ จะคิดถูกได้เช่นไร (แต่จริงๆ ก็ตั้งราคาให้เหมาะสมนั่นแหละ ประเดี๋ยวไม่มีคนซื้อ) “ข้าวห่อเจ้าค่ะ ข้าวห่อมีหน้าหมูฝอยกับหน้าไก่ผัดพริกเจ้าค่ะ ลองชิมดูได้เจ้าค่ะ” หลังจากตั้งร้าน ชิงเถานางก็เริ่มขายทันทีเนื่องจากนางมีเวลาไม่นานต้องรีบกลับจวนไปทำงานต่อ “ฮะ มีให้ชิมก่อนด้วยรึ” กลุ่มสตรีที่ออกมาจับจ่ายซื้อของถามขึ้นอย่างสนใจ ได้ยินแวบๆ ว่ามีให้ชิมก่อน ถึงตัวจะอยู่ไกล แต่ประโยคเด็ดแบบนี้หูของพวกนางย่อมได้ยินแน่นอน “เจ้าค่ะมีให้ชิมก่อนเจ้าค่ะ แต่สินค้าให้ชิมมีไม่เยอะต้องรีบแล้วนะเจ้าคะ” ชิงเถาตอบขึ้นด้วยรอยยิ้มสใส หลังนางว่าอย่างนั้นก็มีหลายคนที่เริ่มสนใจและเข้ามาชิมโดยชิงเถาจะจัดกับไว้บนข้าวเป็นคำๆ ไปให้หยิบชิมได้ง่าย “อื้ม... อร่อยดีนะนี่เรียกว่าอะไรรึ” หญิงคนหนึ่งเอ่ยถาม “นี้คือข้าวห่อเจ้าค่ะ ที่ท่านเพิ่งชิมไปเป็นข้าวห่อหมูฝอย ส่วนนี่ข้าวห่อไก่ผัดพริก” ชิงเถาอธิบายหลังมีคนชิมแล้วเริ่มถามเมื่อมีคนหนึ่งสนใจคนอื่นๆ ก็มีเริ่มตามมา “ทุกท่านร้านข้าไม่ได้มีเพียงข้าวนะเจ้าคะยังมีผ้าปัก แล้วก็หญ้าหวานด้วยเจ้าค่ะ ลองดูก่อนเจ้าค่ะ” ชิงเถาเสนอสินค้าอีกสองอย่างในร้านโดยมีจิ้นสิงเป็นผู้ขายเมื่อมีคนซื้อ “นี่คือใบหญ้าหวานแห้ง มันจะให้รสหวานใช้แทนนำตาลได้เจ้าค่ะ ราคาไม่แพงลองซื้อไปใช้ก่อนได้นะเจ้าคะเพียง 10 อีแปะเอง” “มันจะหวานจริงหรือแม่หนู” หญิงวัยกลางคนที่ชิมข้าวห่อแล้วกำลังตัดสินใจว่าจะซื้อดีหรือไม่ถามออกมา “หวานจริงเจ้าค่ะข้าได้ต้มมาให้ทุกคนลองชิม ทุกคนลองชิมดูเจ้าค่ะ” ชิงเถาเทน้ำที่ต้มจากใบหญ้าหวานใส่จอกเล็กๆวางไว้ให้ผู้คนลองชิม “ฮา... หวานจริงด้วย ไม่ต้องใช้มากรึถึงจะหวานปานนี้” ชายคนหนึ่งถามออกมา “ไม่เจ้าค่ะ หม้อนี้ข้าใส่ใบหญ้าหวานลงไปครึ่งห่อ” ชิงเถาอธิบายออกมา และอีกหลายคำถาม ทั้งนางยังบอกสรรพคุณของใบหญ้าหวานไปด้วยเพื่อเพิ่มความอยากซื้อของคน หลังจากลูกค้าเริ่มบางตาลงชิงเถาและบิดาก็รีบกลับจวนโดยฝากร้านไว้กับสะใภ้ของร้านไก่ตระกูลเหลย ซึ่งนางรู้แล้วว่าต้องอธิบายยังไงหลังได้ฟังชิงเถาตอบลูกค้าไป ชิงเถาและบิดาก่อนกลับก็ได้ซื้อของสำหรับไว้ขายพรุ่งนี้ด้วย หลังกลับถึงจวน ชิงเถากับจิ้นสิงก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อทันที ด้านร้านขายไก่ตระกูลเหลย ตอนนี้ข้าวของชิงเถาขายเริ่มดีหลังจากกลุ่มแรกๆ ที่ซื้อไปแล้วได้กินก็เริ่มบอกปากต่อปาก ไป ทำให้ช่วงเช้าข้าวก็ขายจนหมดเสียแล้ว หลังจากสะใภ้ร้านขายไก่เห็นเงินที่ได้แล้วก็ตกใจมิคิดว่าจะได้ขนาดนี้ หลังจากเมื่อเช้าที่ชิงเถามาขอต่อรองค่าฝากขายกับนาง จากตอนแรกนางจะได้ 2 ส่วนเป็น 1 ส่วนซึ่งนางบอกว่าต้องดูก่อนว่าคุ้มค่าหรือไม่โดยนางคิดว่าแค่ขายข้าวให้อย่างเดียวได้ตั้ง 100 อีแปะก็เยอะแล้ว ยังจะมีผ้าปักกับหญ้าหวานอีก แค่ 1 ส่วนนางก็ยอมดีรับได้ ดีกว่าชิงเถาย้ายไปฝากขายที่ร้านอื่นหากตนไม่ยอมลดค่าส่วนแบ่งให้ ตอนเช้าวันถัดไปชิงเถาและจิ้นสิงก็นำข้าวไปส่งตามเดิมหลังจากได้ยินว่าข้าวขายดีมากไม่นานก็หมดแล้ว ถึงชิงเถาจะต้องจ่ายส่วนแบ่งให้ร้านขายไก่ตระกูลเหลยแค่ส่วนเดียวพวกเขาก็พอใจแล้ว เนื่องจากหลังนางลองคิดคำนวณต้นทุนทั้งค่าวัตถุดิบกับค่าแรงที่ทุกคนในรอบครัวช่วยกับแล้วถือว่าได้กำไรน้อยนิด วันนี้ชิงเถาไม่ต้องอยู่ช่วยขายหลังจากเห็นว่าสะใภ้ร้านขายไก่ขายได้ดีนางและจิ้นสิงก็ไปซื้อของไว้ทำวันต่อไปโดยนางจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างละเท่าตัว!! หลังจากวันแรกที่เริ่มฝากขายของวันนี้ก็ผ่านมา 1 เดือนแล้ว ในทุกวันครอบครัวของชิงเถาก็ยังช่วยกันทำข้าวไปฝากขายที่ร้านไก่ตระกูลเหลย แล้วก็ทำงานที่จวนจนตอนนี้ทุกคนจะผอมกว่าเดิมเสียอีก จากตอนแรกที่เป็นบ่าวก็ไม่ได้จะกินอยู่ดีมากนักแต่ตอนนี้ยังมาทำงานเพิ่มอีกทำให้ทุกคนผอมลงไปอีกจนชิงเถาทนไม่ไหวต้องไปซื้อสมุนไพรบำรุงร่างกายมาต้มให้ทุกคนกิน เพราะกลัวจะพากันไม่สบายไปเสียก่อนที่ได้ใช้เงินจากที่ทำงานได้มา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม