ตอนที่ 19 น้ำดับกลิ่นกาย

1983 คำ
ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้วกว่า 2 เดือน ตั้งแต่ที่ครอบครัวของชิงเถามีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง ซึ่งถือได้ว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ข้าวห่อที่ทำออกมาขายหมดทุกวันแต่การผลิตก็สามารถเพิ่มได้ไม่มากนัก เพราะแรงงานกับเวลาที่มีนั้นน้อยนักจึงมีออกมาขายแค่วันละ 300 ห่อเท่านั้น ทำให้ตอนนี้ครอบครัวชิงเถามีเงินจากธุรกิจนี้เป็นร้อยตำลึงแล้ว ซึ่งมันก็สามารถหาซื้อบ้านหลังเล็กๆ ในเมืองหลวงในพื้นที่ปลอดภัยได้ซักหลังแล้ว หลังจากครอบครัวของชิงเถาปรึกษากันแล้วว่าถ้าออกจากจวนนี้แล้วจะไปอยู่ที่ไหนต่อสุดท้ายจึงเลือกลงหลักปักฐานในเมืองหลวงแห่งนี้ เนื่องจากทุกคนก็เติบโตที่นี่ จะให้ไปอยู่ที่อื่นอาจจะยากในหลายๆเรื่อง แต่การย้ายออกก็ยังไม่ใช่ในตอนนี้ ชิงเถาเสนอว่าน่าจะทำงานต่อไปอีกซักหนึ่งถึงสองเดือน ให้ได้เงินมากพอสำหรับหาบ้านดีๆ หรืออาจมีที่ว่างให้ซื้อแล้วต้องสร้างบ้านเองก็อาจต้องใช้เงินมากกว่า วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่คนในครอบครัวช่วยกันทำอาหารเตรียมขายในตอนวันต่อไป “ท่านพ่อเป็นอะไรไปเหรอเจ้าคะ เห็นทำหน้าเครียดๆ มีปัญหาอะไรหรือไม่” ชิงเถาถามบิดาหลังจากสังเกตเห็นว่าช่วงหลายวันมานี้บิดามีสีหน้าไม่ค่อยสดชื่น แต่ก็ไม่ใช่เพราะความเหนื่อยกายแต่น่าจะเป็นเพราะปัญหาอื่นมากกว่า “...” จิ้นสิงที่ได้ยินบุตรสาวถามก็ไม่ได้ตอบอะไร เพียงรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าอมทุกข์ให้ดียิ้มเพื่อแสดงให้ชิงเถาเห็นและจะได้เบาใจลงก็เท่านั้น “ก็พ่อเจ้านะสิ ช่วงนี้เป็นหน้าร้อน กลางวันก็ร้อนอบอ้าวเสียเหลือเกินทำงานทั้งวันเหงื่อก็ออกไปทั้งกาย พอเจ้านายเรียกใช้งานก็โดนดุด่าว่ามีกลิ่นตัวเหม็นจนพ่อเจ้าไม่กล้าสู้หน้าใครแล้ว” ลี่จูเอ่ยปัญหาของสามีให้ลูกฟังซึ่งนางก็เห็นใจสามีในเรื่องนี้ เพราะช่วงหน้าร้อนอีกทั้งทำงานทั้งวันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีกลิ่นกายแรง แต่ไม่ใช่แค่สามีนางคนเดียวแต่บ่าวส่วนใหญ่ที่ทำงานหนักก็มีเหงื่อมีกลิ่นกายตามมาทั้งนั้น น้ำท่าสำหรับอาบไม่ได้มากสำหรับพวกบ่าวทาสเหมือนพวกเขาเสียหน่อย “ปัญหานี้เอง แต่เรื่องกลิ่นก็เป็นปัญหาใหญ่คงทำให้ท่านพ่อขาดความมั่นใจได้เจ้าค่ะ แต่ว่าข้าก็พอจะมีวิธีให้กลิ่นกายท่านพ่อลดลงอยู่นะเจ้าคะ” ชิงเถาพูดขึ้นยิ้มๆ ออกมา หลังได้ยินปัญหาของบิดาที่มารดาเอ่ยให้ฟัง ถึงว่านางเห็นว่าหลายวันมานี้บิดาไม่ค่อยจะเข้าใกล้พวกนางเท่าไหร่ถ้าไม่ได้อาบน้ำตอนเย็นแล้ว “อย่างไรรึเถาเอ๋อร์ลูกมีวิธีช่วยพ่อใช่หรือไม่” จิ้นสิงพอได้ยินสีหน้าก็แสดงถึงความหวังและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก “เจ้าค่ะ ท่านแม่มีสารส้มหรือไม่เจ้าคะ” ชิงเถาถามออกมาหลังจากนึกถึงสิ่งหนึ่งที่เป็นก้อนรูปทรงแปลกๆ มีสีขาวขุ่นบ้าง ไม่มีสีบ้างแล้วแต่ก้อนที่สามารถใช้ดับกลิ่นกายได้โดยในยุคที่นางจากมาก็ยังมีการใช้อยู่ ซึ่งหลังมาอยู่โลกนี้นางก็เจอกับสิ่งนี้ที่คนในจวนใช้แกว่งน้ำทำให้น้ำสะอาดอยู่ “หึม? เจ้าจะเอาสารส้มมาทำอะไรรึ แม่ก็พอมีอยู่บ้าง” นางลี่จูถามบุตรสาวออกมาด้วยความสงสัย แต่กลับไม่ได้รอฟังคำตอบนางลุกขึ้นไปหยิบสารส้มที่วางอยู่ในตะกร้าเก็บของของนางมา ซึ่งมันมีไว้ใช้ตอนที่อาบน้ำ แล้วน้ำมันขุ่นจะได้ไม่ต้องไปหยิบยืมผู้อื่น เนื่องด้วยราคาก็ไม่ได้แพงนักถ้าเทียบกับการใช้งานของมันที่ก้อนเล็กๆ ก็ใช้ได้นานพอออกเงินซื้อมาแล้วก็แบ่งกับผู้อื่นได้ “นี่ลูกแม่มีก้อนแค่นี้ พอใช้ได้หรือไม่” นางลี่จูหยิบก้อนสารส้มขนาดใหญ่กว่าไข่นกกระทาไม่มากมาให้ชิงเถาดู “ใช้ได้เจ้าค่ะท่านแม่” ชิงเถาเอ่ยอย่างยิ้มๆ ด้วยความพึงพอใจ “แล้วน้องรองจะนำสิ่งนี้มาทำอะไรเหรอ” ลี่ถิงที่นั่งฟังมา ก็ถามออกมาด้วยความสงสัย “ใช้เจ้านี่จุ่มน้ำให้เปียกแล้วมาถูที่รักแร้ หรือนำไปแช่น้ำไว้แล้วนำน้ำนั้นมาแช่เท้าซักครู่ก็น่าจะลดเหงื่อและกลิ่นที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวันได้แล้วเจ้าค่ะ ข้าไม่แน่ใจว่าได้ผลหรือไม่ ท่านพ่อต้องลองใช้ดู” ชิงเถาอธิบายวิธีการใช้ออกมาให้ทั้ง 3 คนฟัง (2 แฝดนอนแล้ว) ซึ่งทุกคนก็ฟังอย่างตั้งใจพร้อมด้วยตกใจกับประโยชน์อีกอย่างของเจ้าสารส้มก้อนเล็กๆ นี้ “ได้ๆ พรุ่งนี้พ่อจะลองใช้ดูเลยว่าได้ผลอย่างไร แล้วพ่อจะรีบบอกอีกที” จิ้นสิงเอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ จนอยากจะใช้ซะตั้งแต่ตอนนี้เลย แต่ดีที่ภรรยาห้ามไว้แล้วก็ให้ทุกคนไปนอนพักผ่อนได้แล้ว วันนี้ทั้งวันทุกคนก็ทำงานกันปกติแต่ที่ไม่ปกติคือลี่จูกับจิ้นสิงสองสามีภรรยาที่ลองใช้สารส้มตามที่ลูกแนะนำ ถึงนางลี่จูจะไม่ค่อยมีกลิ่นตัวแต่ช่วงหน้าร้อนอย่างนี้นางก็ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองนัก จึงลองใช้พร้อมกับสามีดู ซึ่งปรากฏว่าทั้งสองคนในวันนี้จะทำงานด้วยความสุขกว่าด้วย ทั้งไม่มีเหงื่อออกตรงรักแร้ให้รำคาญตอนทำงาน อีกทั้งทุกชั่วยามจิ้นสิงยังตรวจสอบความมั่นใจด้วยการดมกลิ่นกายตัวเองดู ซึ่งเขาพอใจมากที่ไม่มีกลิ่นเหมือนทุกๆ วัน “เถาเอ๋อร์วิธีของเจ้าใช้ได้ดีจริงๆ วันนี้นายท่านเรียกใช้พ่อก็ไม่โดนดุด่าด้วย ดี ดีจริงๆ” จิ้นสิงเอ่ยกับบุตรสาวด้วยสีหน้าเบิกบานอารมณ์ดี “แม่ก็ด้วยไม่เหนียวตัวเลย” นางลี่จูเอ่ยออกมาให้ลูกฟัง “ดีจริงๆ ถ้าคนอื่นรู้ประโยชน์ของมันต้องขายดีกว่าเดิมแน่” จิ้นสิงเอ่ยชมออกมา “ขาย ได้เงินเยอะ ใช่แล้วเจ้าค่ะต่อไปนี้มันจะเป็นสินค้าใหม่ของเรา” ชิงเถาหลังได้ยินบิดาพูดก็คิดตามพร้อมทั้งเกิดความคิดที่จะทำเจ้าสินค้าตัวใหม่นี้ออกขายด้วยท่าทางตื่นเต้น เจ้าสิ่งนี้คนต้องสนใจมากแน่ๆ “คนเขาจะมาซื้อกับเราทำไมล่ะลูกสารส้มก็มีขายกันทั่วไป ถึงเราจะรับมาขายก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้อื่นขายเหมือนกัน” นางลี่จูถามออกมาด้วยความสงสัย “เราก็อย่าให้ใครรู้สิเจ้าค่ะว่าเป็นเจ้าสิ่งนี้ใช้ลดกลิ่นกายได้” ชิงเถาพูดออกมาพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัยจนบิดามารดาเห็นยังตกใจกับความเจ้าเล่ห์ของนาง “ทำอย่างไรรึน้องรอง” ลี่ถิงถามออกมาด้วยความสงสัย วันนี้วพวกเขาจะเริ่มทำผลิตภัณฑ์จากสารส้มแล้วจากได้เตรียมอุปกรณ์ได้ครบ “ทำให้มันเป็นน้ำเจ้าค่ะ อาจจะใส่บางอย่างลงไปด้วยให้คนอื่นไม่รู้ว่าคืออะไร” ชิงเถาพูดออกมาพร้อมกับอธิบายวิธีการทำของนางออกไป โดยก่อนหน้านี้ได้สั่งทำขวดดินเผาไว้สำหรับใส่เจ้าสิ้งนี้ไว้แล้ว ซึ่งชิงเถาจะตั้งชื่อให้ว่าน้ำดับกลิ่นกาย โดยจะผลิตก่อน 100 ขวดเพื่อดูผลตอบรับ ส่วนการผลิตของนั้นก็ไม่ยาก โดยจะต้มน้ำแล้วใส่สารส้มลงไป แต่จะต้องกะปริมาณให้ดีถ้าใส่สารส้มน้อยเกินไปอาจไม่ได้ผล แต่ถ้าใส่เยอะเกินไปมันจะกลับมาจับตัวเป็นก้อนได้หลังจากทิ้งน้ำต้มไว้ให้เย็น จากนั้นก็ใส่ดอกไม้ตากแห้งลงไปเพื่อให้มีสีและกลิ่นที่ดูน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งมีทั้ง ดอกดาวเรือง ดอกเหมย แล้วก็ดอกมะลิ ที่ชิงเถาได้ไปขโมยมาจากสวนของจวนอย่างเล็กละน้อยโดยไม่ให้ใครสงสัย การขโมยเป็นสิ่งไม่ดี แต่นางประเมินดูแล้วเจ้าของคงไม่รู้ตัวหรอกเพราะดอกไม้ในสวนก็มีเยอะแยะ หายไปเพียงชนิดละสองกำมือคงไม่เป็นไรหรอก ก็คือเหตุผลไร้ยางอายของขโมยล่ะค่ะ หลังจากลงมือทำน้ำดับกลิ่นกายบรรจุลงขวดเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันก็ยังมีส่วนที่เหลือชิงเถาให้บิดามารดาไปแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ่าวรับใช้ในจวนได้ใช้กัน ซึ่งก็ได้รับคำชมกลับอย่างล้นหลามกับเจ้าสิ่งนี้ ชิงเถายังบอกให้ทุกคนช่วยกระจายข่าวผลลัพธ์ของมันกับทุกคนในจวนและข้างนอกเมื่อได้ออกไปก็ให้ช่วยบอกต่อๆ กัน โดยบอกว่ามีขายที่ร้ายขายไก่ตระกูลเหลยในตลาดใหญ่ใกล้จวนของนาง เมื่อน้ำดับกลิ่นกายออกวางขายก็ได้ผลตอบรับดีมาก ไม่ต้องรอให้ชิงเถามาโฆษณาเลยเพราะหลังจากได้ยินคนพูดต่อๆ กันมาจากบ่าวในจวนกระทั่งบ่าวจวนอื่นๆ รวมถึงคนในตลาดเมื่อรู้ว่าสินค้าจะมีขายที่ร้านไหนผู้คนก็มีมาสอบถามกับเถ้าแก่ร้านไก่ตระกูลเหลยกันตั้งแต่ยังไม่มีของออกจำหน่าย เมื่อรู้วันเวลาที่จะน้ำดับกลิ่นกายออกขายแล้วผู้คนทั้งผู้ใช้แรงงาน นักเดินทาง จนกระทั่งคุณหนูคุณชาย เจ้านายจวนต่างๆ ก็สั่งให้คนมารอซื้อกันตั้งแต่เช้า เมื่อชิงเถาและบิดานำของมาส่งแล้วเห็นผู้คนมารอขนาดนี้นางทั้งดีใจทั้งนึกโกรธตัวเองที่ไม่กล้าทำออกมาเยอะกลัวว่าจะขายไม่ออก ซึ่งราคาที่นางตั้งไว้ก็ไม่ถือว่าถูกนักขวดละ 50 แปะ แต่ก็ไม่ได้แพงเกินไปสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เพราะแค่ขวดบรรจุก็ตั้ง 7 อีแปะแล้ว ไหนจะราคาของสารส้มอีก สรุปขวดหนึ่งนางได้ 30 อีแปะหลังจากหักจ่ายทุกอย่างแล้ว แต่เนื่องจากมันไม่ใช่สินค้าจำเป็นสำหรับทุกคนเหมือนพวกอาหาร นางจึงตั้งราคาสูงขึ้นมาหน่อยเพื่อที่จะรอรับเงินจากคนที่ต้องการใช้มันจริงๆ ซึ่งก็มีจำนวนไม่ได้น้อยเฃบ หลังจากนั้นนางก็ไปสั่งขวดไปรอขายรอบต่อไปเลยพันขวดไม่ต้องรอถึงเดือน 2 เดือนหน้าแล้ว เพียงครึ่งเดือนถ้าขายดีอย่างนี้ครอบครัวนางก็จะได้เป็นอิสระแล้ว ถึงแม้ว่าเหล่าเจ้านายทั้งหลายจะไม่ค่อยมีเหงื่อเนื่องจากไม่ได้ออกแรงทำงานหนักเหมือนคนที่มีอาชีพใช้แรงงานทั้งหลาย แต่เมื่อได้ยินว่ามีสิ่งที่ดับกลิ่นกายได้ แม้แต่เหล่าคนใช้แรงงานแลกด้วยเงินน้อยนิดก็ยังซื้อมาใช้ แล้วพวกเขาล่ะมีเงินมากมายจะไม่สนใจได้อย่างไร ถึงแม้พวกเขาจะไม่มีกลิ่นกายหรือว่ามีน้อย แต่ก็รู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาแล้วเหมือนกัน หากออกไปพบเจอผู้คนแล้วคนอื่นมองมาทางตนว่ามีกลิ่นกายล่ะ แบบนั้นเสียหน้ามากเลยน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม