หลังจากที่เริ่มขายน้ำดับกลิ่นกายวันแรก ถึงตอนนี้ก็ผ่านมากว่า 10 วันแล้ว การค้าถือว่าเป็นไปด้วยดีมากทีเดียว กระทั่งสินค้ารอบ 2 ที่ทำไว้ขายนับหนึ่งพันขวดก็จะหมดแล้ว
ตอนนี้ชิงเถากับครอบครัวก็กำลังช่วยกันเร่งมือทำน้ำดับกลิ่นกายกันอีกพันขวด ซึ่งต้องเร่งให้ขายได้มากๆ เพราะว่าหน้าร้อนเหลืออีกเพียงเดือนกว่าๆ เท่านั้น พอหมดหน้าร้อนสินค้าชนิดนี้ผู้คนก็อาจจะไม่ได้ใช้แล้ว พวกนางจะต้องรีบกอบโกยให้ได้มากๆ
แต่ก็ใช่ว่าจะเร่งแต่ทำงานค้าขายส่วนตัวเท่านั้น เพราะอาชีพหลักของทุกคนตอนนี้ก็คือบ่าวในบ้านคนอื่น งานหลักก็ยังทำงานรับใช้บ้านเจ้านายตามที่ได้รับมอบหมายอยู่
“ท่านลุงเจ้าคะ พอจะรู้จักบ้านราคาไม่เพียงหรือที่ดินว่างเปล่าปล่อยขายไหมเจ้าคะ” ชิงเถาเอ่ยถามเถ้าแก่ร้านขายเครื่องเทศหลังจากได้ของตามที่หัวหน้าโรงครัวสั่งให้มาซื้อ
“ที่ดินรึ ข้าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ด้วยสิ แต่ทุกๆ ปีก็มีผู้คนย้ายเข้าย้ายออกหลายครอบครัว ก็น่าจะมีที่ดินหรือจวนบ้าง เรื่องนี้เจ้าต้องไปสอบถามกับทางที่ว่าการเจ้าเมืองดูเอาเถอะ” เถ้าแก่เสนอชิงเถา เพราะวันๆ เขาก็อยู่แค่ร้านขายเครื่องเทศนี้ ไหนเลยจะรู้จักเรื่องที่ดิน
“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ ข้าจะลองไปถามดู” ชิงเถาตอบกล่าวขอบคุณ หลังจากที่ออกจากร้านขายเครื่องเทศแล้วนางเห็นว่ายังไม่สายมากจึงเดินทางไปยังที่ว่าการเจ้าเมืองต่อทันที ของที่นางถูกสั่งให้มาซื้อก็ไม่ใช่ว่าต้องใช้เร่งด่วนอะไร ยังพอมีเวลาเที่ยวเตร่อยู่บ้าง...
หลังจากเดินเข้ามาถึงหน้าที่ทำการเจ้าเมือง มีทหารประจำการอยู่ข้างหน้า 2 คน หลังจากนางสอบถามเรื่องที่นางต้องการมาติดต่อแล้วจึงเดินตรงไปยังฝ่ายที่ดินทันที ซึ่งที่ทำการเจ้าเมืองนั้นหลังจากเดินผ่านประตูเข้ามาแล้วจะเจอกับเรือนใหญ่ตรงกลางที่เป็นที่ทำการของท่านเจ้าเมือง แล้วก็จะมีเรือนหลังเล็กตั้งอยู่ขนาบข้างทั้งสองฝั่งโดยแยกเป็นฝ่ายต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อเรื่องต่างๆ หลังจากที่ชิงเถาเดินมาเรือนที่รับเรื่องเกี่ยวกับที่ดินนางก็เดินเข้าไปสอบถามด้านในทันที
“นายท่านเจ้าคะ ข้าน้อยมาติดต่อสอบถามเรื่องซื้อที่ดินเจ้าค่ะ” ชิงเถาพูดขึ้นหลังจากเดินเข้าไปยืนอยู่ด้านหน้าชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านหลังของโต๊ะทำงานที่มีกระดาษมากมายกองอยู่
“หืม เจ้านะรึมาติดต่อ” เจ้าหน้าที่ถามขึ้นด้วยความแปลกใจ เมื่อเงยหน้ามาเจอกับเด็กสาว ดูจากการต่างกายเป็นไปได้ของแบบ ไม่เป็นเป็นสาวใช้ของจวนไหนสักจวนก็เป็นแค่ลูกสาวของชาวบ้านทั่วๆ ไป เขาจึงถามออกไปถึงน้ำเสียงจะไม่ได้ดูแคลนแต่ก็ไม่ได้ยินดีนัก
“ใช่เจ้าค่ะ วันนี้ข้าน้อยเป็นผู้มาติดต่อสอบถามไว้ก่อน วันหลังนายท่านจะส่งผู้มาเจรจาซื้อขายอีกทีเจ้าค่ะ” ชิงเถาเอ่ยตอบ นางเข้าใจดีว่าผู้อื่นก็ต้องมองว่านางไม่มีปัญญาจะหาเงินมาซื้อได้นางจึงต้องอ้างว่ามาสอบถามให้กับเจ้านาย นางรู้ตัวเองดีเพราะการแต่งกายตอนนี้ก็ไม่น่าจะใช่คนมีเงินเท่าไหร่
“อย่างนั้นรึ แล้วนายท่านของเจ้าต้องการจวนแบบไหน” เจ้าหน้าที่ถามขึ้นด้วยท่าทีที่ให้ความสนใจมากขึ้น ยามเมื่อเข้าใจว่านางคือสาวใช้ที่มาติดต่อแทนผู้เป็นเจ้านาย
“จวนขนาดเล็ก บ้านสักหลัง หรือว่าที่ดินว่างเปล่าสักแปลง ที่ราคาไม่สูงนักเจ้าค่ะ” ชิงเถาอธิบายตามที่นางต้องการออกมา ตอนนี้ครอบครัวนางมีเงินอยู่เพียงหลักร้อยตำลึงถ้าเทียบกับชาวบ้านทั่วไปอาจจะเยอะแต่ถ้าเทียบกับคหบดีซักคนเท่านี้ถือว่าเป็นเพียงเงินที่ใช้หมดแค่ในวันเดียว
“หืม ที่ดินเล็กๆ เหรอ ต้องการอยู่แถบไหนของเมืองล่ะ” เจ้าหน้าที่สอบถามต่อถึงเขาจะสงสัยว่าเจ้านายของแม่หนูคนนี้จะซื้อที่เล็กๆ ไปทำไมก็ตาม
“ตรงไหนก็ได้เจ้าค่ะ แต่ถ้าใกล้แหล่งน้ำด้วยก็จะเป็นการดีทีเดียว” ชิงเถาตอบออกไป ตอนนี้ครอบครัวนางยังมีเงินไม่เยอะแค่มีบ้านเป็นของตัวเองก่อนก็พอไม่เรื่องมาก ส่วนถ้ามีเงินเพิ่มค่อยอยากขยับขยายก็ค่อยว่ากันอีกที
“ตรงไหนก็ได้รึ แล้วต้องการในเมืองหรือว่า รอบนอกกำแพงเมือง” เจ้าหน้าที่ถามต่อเขาจะได้หาที่ดินได้ถูก
“วันนี้ข้าน้อยอยากรู้ข้อมูลของพื้นที่กับราคาก่อนเจ้าค่ะ ส่วนด้านนอกหรือในกำแพงเมืองจะต้องให้นายท่านตัดสินใจอีกที” ชิงเถากล่าวออกมาเพราะเรื่องนี้จะต้องปรึกษากับครอบครัวก่อนนางแค่มาหาข้อมูลเท่านั้น
“เช่นนั้น รอสักครู่” เจ้าหน้าที่เอ่ยขึ้นจากนั้นจึงลุกขึ้นไปหาข้อมูลที่ถูกจัดเก็บไว้ในตู้ที่อยู่ด้านหลังของตน หลังจากได้ข้อมูลตามที่ชิงเถาต้องการเขาก็นำมาวางลงบนโต๊ะเปิดออกแล้วอธิบายที่ดินให้ชิงเถาฟังทันที ซึ่งมีหลายที่มากที่เขาเสนอมา แต่ที่ตรงตามความต้องการของนางนั้นมีทั้งหมด 5 ที่ซึ่งนางได้จดบันทึกไว้แล้วเพื่อที่ไปอธิบายต่อให้ครอบครัวฟังในภายหลัง...
กลับจากที่ว่าการเจ้าเมือง ชิงเถาก็กลับไปทำงานช่วยในโรงครัวต่อตามปกติ ส่วนตอนเย็นก็มาช่วยกันเตรียมทำข้าวห่อ ทำน้ำดับกลิ่นกาย แล้วก็ห่อหญ้าหวานตากแห้งช่วยกันดังเช่นทุกวัน ดีที่มีกัน 6 คน ทำให้เสร็จในเวลาไม่นานเพราะทุกคนชำนาญแล้วนั่นเอง
เมื่องานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วทุกคนช่วยกันยกของเข้ามาเก็บในห้อง แล้วชิงเถาก็เริ่มพูดถึงเรื่องที่ดินที่ตนได้ไปสอบถามมา
“วันนี้ลูกไปสอบถามที่ว่าการเจ้าเมืองมาเจ้าค่ะ มีบ้านหลายที่ที่น่าสนใจเดี๋ยวลูกจะอธิบายให้ทุกคนฟัง” ชิงเถาเริ่มพูดที่ดินแต่ละที่ที่นางได้จดมา
โดยที่แรกเป็นที่ดินในเมือง มีเรือนใหญ่ขนาด 3 ห้องนอนและห้องเล็กอื่นๆ(เช่นห้องทำครัว ห้องกินข้าว เป็นต้น) กับเรือนเล็กอีกหนึ่งหลังของพ่อค้าจากเมืองอื่นที่แต่ก่อนจะเดินทางมาพักเวลาเดินทางมาเมืองหลวง พอแก่ตัวไม่ได้เดินทางแล้วจึงฝากขายไว้ซึ่งมีเนื้อที่ 2 หมู่ครึ่ง ราคาอยู่ที่ 500 ตำลึง ซึ่งอยู่ในชุมชนของพ่อค้าคหบดีทั่วไป (1 หมู่ เท่ากับ 166.5 ตารางวา)
แห่งที่สอง อยู่ในกำแพงเมืองเช่นกัน เป็นบ้านหลังเล็กมีแค่ไม่กี่ห้องแต่ก็มีเนื้อที่กว้างกว่าบ้านหลังแรกนิดหน่อย มีราคาอยู่ที่ 600 ตำลึง ตั้งอยู่ที่เขตชุมชนใกล้กับสถานที่จัดสอบของเมืองหลวงที่จะปล่อยเช่าให้กับบัณฑิตมาพักช่วงใกล้สอบเข้าราชการ จึงทำให้รอบบ้านมีที่ว่างห่างกันเพื่อความสงบในการอ่านหนังสือของบัณฑิต แต่ที่เจ้าของต้องจำใจขายบ้านหลังนี้ในราคาถูก เนื่องจากมีบัณฑิตเคยตายในบ้านหลังนี้หลังจากนั้นจึงไม่มีใครกล้ามาเช่า อีกทั้งมีเรื่องเล่าน่ากลัวหรือทั้งบัณฑิตกลัวว่าจะเป็นเหมือนบัณฑิตที่เคยตายเนื่องจากสอบระดับประเทศไม่ผ่านจึงดื่มสุราอย่างหนักจนเสียชีวิต เจ้าของจึงต้องขายทั้งๆ ที่ให้เช่าได้ราคาดีกว่าแท้ๆ
แห่งที่สาม เป็นที่ว่างเปล่า มีเนื้อที่ประมาณ 5 หมู่ ราคา 870 ตำลึง ตั้งอยู่ในเขตบ้านขุนนางคหบดี แต่เดิมที่ตรงนี้เคยเป็นจวนของเสนาบดีมีชื่อเสียง แต่เนื่องด้วยกระทำความผิดจึงถูกเนรเทศไปอยู่ชายแดนทั้งตระกูล เมื่อไม่มีผู้อาศัยทางการจึงประกาศขายแต่ไม่มีผู้ใดซื้อจนเรือนต่างๆ ในจวนทรุดโทรมเนื่องจากผ่านไปหลายสิบปี จนเมื่อปีที่แล้วคหบดีผู้หนึ่งซื้อไว้แต่ก็ไม่ได้เข้ามาอยู่อาศัย แต่กลับแบ่งพื้นที่หลายๆ ส่วนแล้วประกาศขายเป็นที่เล็กๆ จนตอนนี้ขายออกจนเกือบหมดแล้ว เนื่องจากการอยู่ในเขตผู้มีอิทธิพลมากมายผู้คนที่พอจะมีเงินอยู่บ้างอยากย้ายตนเองมาอยู่ในเขตชุมชนผู้ดีนี้ เพื่อเพิ่มสถานะตนให้ดูสูงและได้ผูกมิตรกับเพื่อนบ้านผู้ดีได้อีกด้วย
แห่งที่สี่ อยู่นอกกำแพงเมืองประมาณ 6 ลี้ เป็นหมู่บ้านทำการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ซึ่งที่ดินที่ขายมีพื้นที่ 10 หมู่ เป็นบ้าน 3 ห้องนอน พร้อมหลังบ้านที่เป็นพื้นที่ทำการเกษตร ราคา 350 ตำลึง
แห่งที่ 5 อยู่หมู่บ้านด้านนอกกำแพงเมือง กว้าง 12 หมู่ ไกลจากตัวเมือง 7 ลี้ มีเรือนขนาดใหญ่หนึ่งหลังและขนาดเล็กอีก 2 หลัง ราคาอยู่ที่ 700 ตำลึงเท่านั้น
เมื่อชิงเถาอธิบายให้ทุกคนฟังแล้วต่างก็เลือกกันไปคนละที่ตามความชอบของตน โดยจิ้นสิงเลือกแห่งที่ห้าเนื่องจากมีพื้นที่มากที่สุดแล้วก็ราคาก็น่าฟัง ส่วนนางลี่จูและลี่ถิงเลือกจวนของคหบดีต่างเมืองเนื่องจากพวกนางเห็นว่าอยู่ในเมืองน่าจะสะดวกสบายดี ส่วนสองแฝดเลือกที่ว่างในเขตชุมชนขุนนางเพราะจะได้มีเพื่อนเยอะๆ หลังจากที่นางเล่าว่ารอบที่ดินนั้นมีผู้คนมาจับจองเยอะน่าจะมีเพื่อนมากนั่นเอง
หลังจากฟังทุกคนแสดงความคิดเห็นมา ชิงเถาก็อยากจะได้ทุกที่เลย เนื่องจากนางเป็นคนเลือกมาก่อนแล้วแสดงว่าทุกที่ตรงตามความต้องการของนางแล้วทำให้นางเลือกไม่ได้ นางขอให้เชี่ยนเชี่ยนช่วยโดนไปตรวจสอบที่ดินทั้งห้าที่นางเลือกไว้ว่าที่ไหนน่าสนใจกว่ากัน