"แล้วห้องมันอยู่ไหนล่ะเนี่ย" วิเวียนพูดพึมพำคนเดียว ขณะที่กำลังเดินหาห้องเรียน พร้อมกับมองป้ายห้องแต่ละห้องไปเรื่อย ๆ
"เธอ"
และในตอนที่กำลังเดินหาห้องเรียนอยู่นะ ก็ได้ยินเสียงเรียกด้านหลัง หญิงสาวจึงหันกลับไปมอง ก็พบเป็นผู้หญิงที่ตัวค่อนข้างเล็ก กำลังยืนยิ้มให้เธออยู่
ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ยิ้มตอบอะไร เพียงแค่ทำหน้านิ่งจ้องมองกลับไป
"หาอะไรเหรอ ฉันเห็นเธอเดินวนกลับไปกลับมาหลายรอบแล้ว"
"ก็หาห้องเรียนน่ะสิ อยู่ชั้นไหนก็ไม่รู้เดินหลายรอบแล้วเนี่ย"
"เธอไม่รู้ห้อง แสดงว่าอยู่ปีหนึ่งใช่ไหม"
"ใช่ ฉันอยู่ปีหนึ่ง"
"ดีใจจังที่เจอเพื่อนรุ่นเดียวกัน ฉันชื่อ เวียงพิงค์ นะ เธอชื่ออะไรเหรอ"
"วิเวียน"
"ชื่อเพราะจัง แล้วเธอเรียนสาขาอะไร"
"เรียนสาขาวารสารศาสตร์น่ะ"
"เหมือนกันเลย ฉันก็เรียนสาขานี้เหมือนกัน"
“…..”
"ดีจัง คิดถูกจริง ๆ ที่เข้ามาทักเธอ รู้ไหม ฉันนั่งอยู่หน้าคณะตั้งนาน แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปทักใครเลย เธอเป็นคนแรก"
"ฉันก็ดีใจเหมือนกันที่เธอเข้ามาทัก เพราะถ้าเธอไม่ทักฉันก่อน ฉันก็ไม่มีทางทักเธอก่อนแน่นอน" เธอตอบกลับไปพร้อมกับก้มมองเวลาที่หน้าจอโทรศัพท์พบว่าตอนนี้ใกล้ถึงเวลาเรียนตัวเองแล้ว "แล้วนี่เธอรู้จักห้องxxไหม ว่ามันอยู่ตรงไหน"
"รู้สิ พอดีเมื่อเช้าขึ้นมาสำรวจแล้ว"
"เธอก็เรียนห้องนี้ใช่ไหม"
"ใช่"
"โอเค งั้นเดินนำฉันไปเลย"
"ได้ ๆ" เพื่อนตัวเล็กก็เดินนำเธอไปยังห้องเรียนที่เธอเรียน ส่วนวิเวียนก็เดินตามมาเงียบ ๆ จนมาหยุดอยู่ห้องห้องหนึ่ง ที่ตอนนี้มีนักศึกษาหลายสิบคนกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่
โดยพอเธอกับเวียงพิงค์เดินเข้ามา คนทั้งห้องที่กำลังพูดคุยกันอยู่ก็เงียบลงทันที พร้อมกับหันมาจ้องมองเราสองคน ซึ่งเธอก็มองกลับไปแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
"เราไปนั่งกันข้างหน้ากันดีกว่า เวลาอาจารย์พูดอะไรเราจะได้ยินอะไรชัด ๆ"
"ไม่เอา ฉันไม่ชอบนั่งข้างหน้า มันเด่นเกินไป"
"อ้าวเหรอ งั้นเธออยากนั่งตรงไหนล่ะ"
"ตรงนี้" เธอชี้ไปยังบริเวณโต๊ะตรงกลางที่ว่าง
"โอเค" พอเวียงพิงค์ตอบแบบนั้น เธอก็เดินมานั่งลงส่วนเพื่อนตัวเล็กก็มานั่งลงด้านข้าง
"ตื่นเต้นจัง"
ขณะที่กำลังนั่งนิ่งอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงบ่นพึมพำจากคนด้านข้าง
"ตื่นเต้นอะไร"
"ก็ที่ได้กลับมาเรียนอีกครั้งไง"
"คือยังไง เธอจะบอกว่าเคยมาเรียนที่นี่แล้ว แต่ได้ลาออกไปแบบนี้เหรอ"
"ไม่ใช่เรียนที่นี่หรอก แต่เมื่อสามปีก่อนฉันเคยเรียนที่มหาวิทยาลัยอื่นน่ะ แล้วพอดีมีปัญหา ก็เลยได้ลาออกไป พอเคลียร์ธุระอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็เลยกลับมาเรียนอีกครั้ง"
"งั้นแสดงว่าเธอก็เป็นรุ่นพี่ฉันหลายปีเลยน่ะสิ ฉันต้องเรียกเธอว่าพี่"
"ไม่เป็นไรหรอก เรียกเหมือนเก่าก็ได้ ฉันไม่ถือ"
"โอเค งั้นฉันเรียกแบบสนิทสนมเลยนะ"
"ได้ ๆ"
"แล้วตอนไหนอาจารย์จะมาเนี่ย เลยเวลามาห้านาทีแล้ว" เธอรู้สึกเซ็ง ๆ ยังไงก็ไม่รู้ จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา
"สวัสดีพวกเธอ"
เธอที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงพูดคุยด้านข้างเวียงพิงค์ จึงหันไปมองก็พบว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตัดผมบ๊อบสั้น พร้อมกับสวมแว่นหนาเตอะยกมือทักทายเธอและคนด้านข้างเธออยู่
"สวัสดี" เวียงพิงค์เอ่ยทักทายคนด้านข้าง ที่นั่งข้างตัวเอง
"เราขออยู่กับพวกเธอได้ไหม คือเราไม่มีเพื่อนมาเรียนที่นี่ด้วยเลย พอดีเป็นเด็กนักเรียนทุนจากต่างจังหวัดน่ะ"
"ได้สิ"
"ขอบคุณนะ"
"เด็กนักเรียนทุนต้องเรียนเก่งมากแน่ ๆ เลย"
"ก็ไม่ได้ขนาดนั้นหรอก เราฟลุ๊คน่ะ"
"ฟลุ๊คอะไรกัน จะสอบได้ทุนของมหาวิทยาลัยเอกชนอันดับต้น ๆ ของประเทศเลยนะ"
"....."
"แล้วนี่ชื่ออะไร ฉันชื่อเวียงพิงค์นะ ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านข้างเราชื่อวิเวียน"
"เราชื่อ พิมพ์สุข' "
"ชื่อแปลกจัง ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย"
"ใครที่เราบอกชื่อก็ต่างพูดเป็นสิ่งเดียวกันว่าชื่อเราแปลก แต่ชื่อนี้พ่อเราเป็นคนตั้งให้ โดยเอาชื่อของพ่อกับแม่มารวมกันเป็นชื่อของเราน่ะ"
"คุณพ่อเธอครีเอตชื่อได้ดีมากเลย"
"ใช่ ๆ เราก็ชอบชื่อนี้มาก"
วิเวียนก็นั่งฟังเวียงพิงค์กับพิมพ์สุขคุยกันอยู่เงียบ ๆ เพราะตัวเองนั้นดันเป็นคนที่คุยไม่เก่งเอาเสียเลย ส่วนมากที่พูดคุยไม่หยุดด้วยได้ ก็คือเฮียควันหลง หวานใจของตัวเองนั่นเอง แค่นึกถึงหน้าก็คิดถึงใจจะขาดอยู่แล้ว อยากเรียนถึงคาบสุดท้ายสักที เธอจะได้ไปหาเขาที่คณะ
"ไม่เห็นวิเวียนพูดเลย หรือรำคาญที่เราพูดหรือเปล่า ขอโทษด้วยนะ พอดีเราชอบพูดมากไปหน่อย"
โดยพอพิมพ์สุขพูดออกมาแบบนั้นก็ทำสีหน้าแบบรู้สึกผิด เวียงพิงค์ก็หันมาจ้องมองเธอด้วยเช่นกัน
"ไม่ได้รำคาญ เธอไม่ต้องคิดมาก คือพอดีฉันไม่ค่อยชอบพูดน่ะ ชอบฟังมากกว่า "
"อ๋อ งั้นต่อไปเราจะเป็นผู้พูดที่ดีแล้วกัน"
ซึ่งพอพิมพ์สุขพูดออกมาแบบนั้นเธอกับเวียงพิงค์ก็หลุดหัวเราะกัน จนเพื่อนที่นั่งอยู่ร่วมห้องต่างมองมาที่เราทั้งสามคน เพื่อนตัวเล็กทั้งสองคนก็รีบเอ่ยขอโทษ ส่วนเธอก็เอาแต่นั่งนิ่งตามแบบฉบับของตัวเอง
ทางด้าน 'ควันหลง' พอเรียนหมดคาบเช้าเรียบร้อยแล้ว เขาก็รีบเดินลงมาจากอาคารเรียนก็เห็นราชากับนาเนียร์เพื่อนสนิทของตัวเองกำลังยืนรออยู่
"กว่าจะลงมา ฉันยืนรอตั้งนานแล้ว"
"ก็ไม่ได้บอกว่าให้รอนี่นา" ควันหลงเดินไปคว้ากอดคอนาเนียร์ พร้อมกับพาเดินมาที่โรงอาหารของคณะ
"กินอะไรกัน" ราชาที่เดินนำมารีบหันมาสอบถามเพื่อนทั้งสอง
"ก๋วยเตี๋ยว"
"แล้วเธอล่ะนาเนียร์"
"ข้าวผัดหมู"
"โอเค งั้นมึงก็ไปซื้อของมึงเถอะ ส่วนเธอนาเนียร์ เธอไปซื้อน้ำนะ แล้วไปนั่งรอที่โต๊ะเลย เดี๋ยวฉันจะไปซื้อข้าวให้ด้วย เพราะฉันจะกินข้าวผัดเหมือนเธอ"
"โอเค(นาเนียร์)/.....(ควันหลง)"
หลังจากที่พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามคนก็ต่างแยกย้ายกัน โดยเขาก็เดินมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊พร ร้านประจำของตัวเองที่กินแทบทุกวัน ดีหน่อยที่วันนี้ไม่มีคิวเลย เพราะเขาลงมากินค่อนข้างช้า เนื่องจากติดธุระชมรมอยู่ ซึ่งเขาเป็นประธานนักศึกษาปีสี่ ทำให้ค่อนข้างยุ่งตลอดเวลา
"วันนี้เอาอะไรครับสุดหล่อของเจ๊ เหมือนเดิมไหมเอ่ย"
"ครับ"
โดยพอเขาบอกไปแบบนั้น เจ๊เจ้าของร้านก็รีบทำตามเมนูที่เขาสั่งทันที
ซึ่งยืนรอไม่นานเลยเมนูที่ตัวเองสั่งก็ได้มา ชายหนุ่มจึงยื่นเงินค่าก๋วยเตี๋ยวพร้อมกับรับมาปรุง พอปรุงเสร็จแล้วก็รีบเดินมายันโต๊ะที่นาเนียร์กำลังนั่งอยู่
"ทำไมวันนี้ได้เร็วจังล่ะ"
"ร้านไม่มีคน"
"ดีจัง นายดูร้านที่ฉันกินสิคนโคตรเยอะ" เขาจึงมองตามนิ้วที่นาเนียร์ชี้ไปยังร้านอาหารตามสั่งที่มีคนกำลังต่อแถวค่อนข้างเยอะ แต่ดีหน่อยที่ราชาใกล้ถึงคิวแล้ว
"กินของฉันก่อนไหม"
"ไม่เอาหรอก นายกินเถอะฉันไม่ชอบก๋วยเตี๋ยว"
"งั้นก็อย่ามาบ่นแล้วกันว่ารอนาน"
"ชิ ฉันไม่บ่นหรอกน่า" คนตรงข้ามบ่นพึมพำด้วยความไม่พอใจใส่เขา
ส่วนชายหนุ่มที่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร นั่งกินก๋วยเตี๋ยวของตัวเองอย่างสบายใจ