บทนำ
ร่างชายหญิงสองร่างต่างกำลังโรมรันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ด้วยความปรารถนาที่ซุกซ่อนอยู่ภายในใจถูกปลดปล่อยออกมาทางอารมณ์พิศวาสที่ลุกโชนอย่างไม่มีท่าทีว่าจะมอดไหม้
“อ๊ะ อื้มมมม” หญิงสาวเปล่งเสียงออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ บวกกับเสียงหอบกระเส่าของชายหนุ่มเมื่อเขาเร่งจังหวะเร็วแรงขึ้นเพื่อส่งเธอให้ถึงฝั่งฝัน
“อ๊าาาาา” เสียงกรีดร้องของเธอทำให้เขาฮึกเหิมเพิ่มความรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก
“โอวววว” ในที่สุดเขาก็ตามเธอไปแตะขอบสวรรค์ ส่งลาวาอุ่นเข้าไปในช่องทางรักทุกหยาดหยด
ความรู้สึกที่ได้ปลดปล่อยทำให้เขาและเธอเหมือนจะลอยขึ้นไปบนฟากฟ้าตามความสุขสม
เขาทิ้งร่างลงข้างๆ กายสาว นอนฟังเสียงหอบหายใจกันและกันบนเตียงขนาดเล็กในห้องนอนของเธอ
“ยาคุมหมดหรือยัง?” ชายหนุ่มเอ่ยถามในขณะที่เขาเอาแขนหนุนศีรษะของตัวเองข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ยื่นออกไปให้หญิงสาวหนุนนอน
“เหลือทานอีกสองวันก็หมดแล้วค่ะ” ดวงตาของเธอเหม่อลอยมองไปบนเพดาน
“งั้นฉันก็เอากับฌาได้อีกแค่สองวันสินะ..” เขาถอนลมหายใจออกมาอย่างแรงราวกับไม่พอใจ
“ค่ะ”
“แล้วไปเรียนก็อย่าลืมเอายาแก้ปวดไปล่ะ เดี๋ยวก็ปวดท้องประจำเดือนจนร้องไห้อีก ฉันขี้เกียจจะดูแล” เขาบ่นออกอย่างไม่แคร์ว่าหญิงสาวที่นอนอยู่ข้างกายจะรู้สึกอย่างไร
“ค่ะ” เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงไป ขอบตาร้อนผ่าว เธอรีบยกมือขึ้นเช็ดก่อนที่เขาจะเห็น
เธอมันก็แค่ที่ระบายความใคร่ของเขาเท่านั้น..
เพราะคำว่าตอบแทนบุญคุณที่เขาพูดใส่หน้าเธอทุกวันทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้
ธนัทธาม หรือ ที่ใครๆ ต่างก็เรียกเขาว่า ธาม เป็นลูกชายของคุณธีทัช อดีตข้าราชการทหารชั้นผู้ใหญ่ กับคุณหญิงพิมาลา ที่มีนิสัยเจ้ายศเจ้าอย่าง มีอำนาจใหญ่สุดในบ้าน เธอเป็นไฮโซชื่อดังและเป็นที่รู้จักของคนในสังคม ทั้งสองมีลูกชายด้วยกันสองคนคือ ธันธนัท พี่ชายคนโต และ ธนัทธาม น้องชายคนเล็ก แต่เนื่องจากธันธนัทเกิดมาพร้อมกับโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดทำให้เสียชีวิตตั้งแต่อายุได้สามขวบ ทั้งสองจึงเหลือลูกชายเพียงคนเดียวนั่นก็คือ ธนัทธาม ความรักและความคาดหวังทุกอย่างจึงมาตกอยู่ที่ธนัทธามคนเดียวเท่านั้น
ส่วนเธอ ฌาริยา หรือ ฌา เป็นแค่กาฝากของคฤหาสน์หลังนี้ เธอเป็นหลานของนิภา คนรับใช้ของคุณหญิงพิมาลา นิภาเป็นพี่สาวของมารดาเธอ จึงมีศักดิ์เป็นป้าของเธอ มารดาของเธอนำตัวเธอมาฝากไว้ก่อนที่จะขาดการติดต่อ ไม่มารับเธอตามที่ได้บอกไว้ พูดง่ายๆ คือต้องการนำเธอมาทิ้งไว้ให้ผู้เป็นพี่สาวดูแล คุณธีทัชและคุณหญิงพิมาลาสงสารจึงรับเลี้ยงไว้เพราะเห็นแก่เด็กตาดำๆ อย่างเธอ ท่านทั้งสองส่งเสียให้เธอได้เรียนหนังสือโรงเรียนเดียวกับบุตรชายของท่าน ซึ่งความจริงก็คือ คุณหญิงพิมาลาต้องการให้ฌาริยาคอยปรนนิบัติรับใช้บุตรชายของท่านนั่นเอง
ฌาริยา อยู่ในคฤหาสน์หลังนี้อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ใครสั่งให้ทำอะไรเธอก็ทำ ด้วยความที่เธอเป็นคนหัวอ่อน ทำให้เธอถูกเพื่อนในโรงเรียนรังแกอยู่บ่อยๆ เพราะเธอเป็นแค่เด็กรับใช้ในบ้านของธนัทธาม มิใช่ลูกพวกไฮโซ หรือลูกเศรษฐีทั้งหลาย ทุกครั้งที่เธอถูกรังแก ธนัทธามจะคอยปกป้องเธออยู่เสมอ ถึงแม้ว่าเขาจะเกลียดและไม่ค่อยชอบขี้หน้าเธอเพราะเธอมันแค่กาฝากที่บิดามารดาของเขารับเลี้ยงไว้เพื่อใช้งานเท่านั้นเอง เขาจึงไม่ให้ค่ากับคนอย่างเธอ เขาสั่งให้เธอทำอะไรเธอก็ต้องทำ ไม่มีสิทธิ์ขัดคำสั่งเขาเด็ดขาด ในขณะที่เธอนั้นแอบหลงรักเจ้านายหนุ่มอยู่เงียบๆ ถึงแม้ว่าเขาจะปากร้ายกับเธอ แต่เขาก็คอยปกป้องดูแลเธออยู่เสมอ อย่างเช่น เวลาที่เธอเป็นวันนั้นของเดือน เธอจะปวดท้องมาก ปวดจนทนไม่ได้ต้องร้องไห้ออกมา ก็มีเขาที่คอยหายามาให้เธอทาน หรือแม้แต่ตอนที่เธอถูกรังแก ก็เป็นเขาที่ปกป้องเธอ ฌาริยาไม่รู้ว่าความรู้สึกดีๆ ที่เธอมีให้เขามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรู้เพียงแค่ว่าชีวิตนี้เธอยกให้เขาไปหมดแล้ว ทั้งตัวและหัวใจ ไม่ว่าเขาจะทำอะไรกับเธอหรือให้เธอทำอะไร เธอก็ยอมทุกอย่าง
“ฌา..คิดอะไรอยู่ทำไมเงียบไป” เขาเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นว่าเธอเงียบไป
“เปล่าค่ะ..ไม่มีอะไร คุณธามจะกลับห้องเลยหรือเปล่าคะ?” ฌาริยาดึงสติกลับมาก่อนจะเอ่ยถามออกไป
“ทำไม..อยากไล่ฉันกลับแล้วเหรอ?” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด กว่าเขาจะแอบมาที่ห้องของเธอได้ในแต่ละวัน เขาต้องรอให้บิดามารดาของเขาเข้านอน และไหนจะป้านิภาของเธออีก
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ..ก็ฌาเห็นว่าหลังจากที่คุณธาม เอ่อ..มีอะไรกับฌาเสร็จแล้ว คุณธามก็จะกลับห้องทันที แต่นี่คุณธามยังอยู่ ฌาก็เลยถามแค่นั้นเองค่ะ” เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัวๆ
“ก็ฉันยังอยากจะเอาฌาอีกรอบไง..เหลือเวลาอีกแค่สองวันก็ต้องรอไปเป็นอาทิตย์ ทรมานตายห่า” เขาพ่นคำหยาบออกมา เขารู้สึกว่าตัวเองเสพติดร่างกายของเธอเข้าแล้ว วันไหนไม่ได้ปลดปล่อยกับเธอเขาจะรู้สึกหงุดหงิดและนอนไม่หลับทั้งคืน
“แต่นี่มันก็ดึกมากแล้วนะคะ..เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้าไปเรียนอีก” เธอแย้งออกไป
“ถ้าฉันไม่ตื่นฌาก็ไปปลุกสิ” เขารู้ว่าฌาริยาต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อช่วยป้านิภาเตรียมทำอาหารเช้า บางวันที่เขารังแกเธออย่างหนักหน่วง หรือบางทีก็เกือบถึงเช้าโดยเฉพาะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เธอแทบไม่มีแรงลุกไปช่วยงานป้านิภา แต่เธอก็ต้องอดทนทำเพื่อให้มันผ่านพ้นไป
“คุณธามก็ตั้งนาฬิกาปลุกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ”
“เลิกพูดเถอะ เสียเวลา มาให้ฉันเอาดีกว่า” พูดจบเขาก็พลิกตัวขึ้นมาทาบทับร่างบางเอาไว้
จากนั้นทั้งเขาและเธอต่างก็ปรนเปรอให้กันและกันครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จวบจนเวลาล่วงเลยไปยังรุ่งสางของวันใหม่ ร่างทั้งสองร่างต่างก็หมดเรี่ยวแรงก่อนที่ธนัทธามจะพยุงกายลุกขึ้นจากเตียง เขาหยิบชุดนอนที่ถอดทิ้งไว้เรี่ยราดอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะเดินไปเปิดประตู เขาโผล่ศีรษะออกไปมองซ้ายแลขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใคร ชายหนุ่มจึงรีบเดินออกไปทันที ทิ้งให้หญิงสาวนอนหอบหายใจอยู่บนเตียงเพียงคนเดียว
เมื่อชายหนุ่มออกไปแล้ว ฌาริยาก็พยุงกายลุกขึ้นก่อนจะหาเสื้อผ้ามาสวม ตอนนี้ป้านิภาน่าจะตื่นแล้ว เธอจึงรีบไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันเพื่อไปช่วยป้านิภาเตรียมอาหารเช้า
สรุปแล้วค่ำคืนที่ผ่านมาเธอไม่ได้นอนเลยสักนิด เพราะธนัทธามเอาแต่รังแกเธอทั้งคืนจนถึงเช้า ไม่รู้ว่าเขาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน
และวันนี้ทั้งเขาและเธอต่างก็ง่วงเหงาหาวนอนในห้องเรียนทั้งวัน จนในที่สุดเวลาเรียนก็สิ้นสุดลง เมื่อเขาและเธอนั่งอยู่บนรถหรู โดยที่เขาและเธอต่างก็หลับใหลบนรถ โดยมีคนขับรถที่ทำหน้าที่สารถีรับส่งเขาและเธอไปโรงเรียน ธนัทธามนั่งเบาะหลัง ส่วนฌาริยานั่งเบาะหน้าข้างคนขับรถ