ใบหน้าหล่อเหลาของพระรามเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยกับการกระทำของร่างเล็กที่นั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้าม จันทร์เจ้าทำตัวแปลกประหลาดมาได้ห้าวันแล้ว ไม่เพียงแค่เขาที่มึนงงกับพฤติกรรมของร่างตรงหน้าที่เปลี่ยนไป คนใช้ภายในบ้านก็มึนงงเช่นกัน แม้จะข้องใจกับพฤติกรรมของผู้เป็นภรรยา แต่พระรามยอมรับว่าจันทร์เจ้าในตอนนี้ดูน่ารักและน่าเอ็นดูกว่าจันทร์เจ้าคนก่อน ได้แต่แอบคิดเงียบๆ ในใจว่าวันนั้นที่คนตรงหน้านั้นล้ม หัวได้ไปฟาดอะไรหรือเปล่า
“จะจ้องฉันอีกนานไหม”
“จ้องไม่ได้เหรอ”
เถียงเก่ง…พระรามคิดในใจ
วันนี้คนร่างสูงไม่ได้ไปทำงานเพราะต้องการจับตามองพฤติกรรมของคนตัวเล็กตรงหน้า เสียงลือเสียงเล่าอ้างจากบรรดาคนงานในบ้านบอกมาว่าจันทร์เจ้าดูแปลกไปมากๆ ทำตัวดีขึ้น ทุกเช้าหลังตื่นนอนคนตัวเล็กจะชอบออกมาคุยกับพวกแม่บ้าน คนสวน และคนขับรถ แล้วก็ชอบถามคำถามแปลกๆ ว่าที่นี่มีพารากอนไหม แล้วมีรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูหรือเปล่า…อะไรคือพารากอน แล้วรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูหน้าตาเป็นยังไง?
ทว่าก่อนที่พระรามจะได้คิดอะไรมากไปกว่านี้ก็ต้องสะดุ้งที่จันทร์เจ้าเด้งตัวลุกพรวดเข้ามาหาเขา…แล้วจากนั้นคนตัวเล็กก็นั่งพับเพียบลงที่ปลายเท้า
หืมม?
ตาคมหรี่มองอย่างจับผิดเพราะไม่รู้ว่าร่างเล็กมีแผนการอะไรกันแน่ พระรามจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวานราวกับสตรี ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเมื่อแก้มนวลเนียนแนบลงที่ขาของเขาอย่างออดอ้อน ราวกับลูกแมวที่กำลังขออาหาร
“พี่รามมม”
จันทร์เจ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงยานคาง มือน้อยกอดหมับที่ขาของคนที่นั่งอยู่บนโซฟา แนบแก้มไปกับกางเกงยีนส์เนื้อผ้าดีที่เดาว่าคงจะราคาแพงหูฉี่ตามประสาที่คนรวยๆ เขาใส่กัน
จากวันนั้นที่คนตัวเล็กคิดเอาไว้ว่าจะขอทุนคุณสามีสักก้อนมาเปิดร้านพรีออเดอร์อัลบั้มคุณเจย์ เขาก็นอนคิดแล้วคิดอีกว่าจะไปบอกคุณสามียังไงดี แล้วในตอนที่ส่องกระจกเห็นใบหน้าที่สุดแสนจะน่ารักของตัวเอง พลันสมองก็คิดได้ว่ามันจะไปยากอะไรวะ! เขามีหน้าตาน่ารักขนาดนี้ แค่อ้อนพี่รามนิดหน่อย ยังไงเงินก้อนก็อยู่แค่เอื้อม!
แต่กว่าจะทำใจกล้ามากอดแข้งกอดขาคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีก็ยากพอสมควร คนตัวสูงเมินเขาตลอดเวลา นี่อย่าบอกนะว่าก่อนที่เขาจะเข้ามาอยู่ในร่างนี้ ทั้งคู่ก็ไม่สนใจกันแบบนี้ ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกก็คงมีแค่ร่างเล็กของจันทร์เจ้าคนเก่าที่สนใจพระราม
บัดซบ!
ในขณะที่กำลังคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงต่อดี ก็สัมผัสได้ถึงฝ่ามือหนาที่ลูบหัวเขาอย่างแผ่วเบา…
มืออันแข็งแกร่งของพระรามชะงักกึกเมื่อเผลอเอื้อมมือไปลูบหัวของคนที่กำลังกอดขาเขาอยู่ คงเป็นเพราะผมสีน้ำตาลอ่อนตรงหน้าที่ดูนุ่มราวกับขนแมว ทำให้เขาเผลอเอื้อมมือไปสัมผัส…
ร่างเล็กของจันทร์เจ้าเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่นั่งอยู่สูงกว่า จันทร์เจ้าเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย แต่พระรามกลับมองว่าเด็กน้อยตรงหน้ากำลังทำหน้าออดอ้อน
เฮ้อออ
ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะสะบัดหัวเล็กน้อยเพื่อขับไล่ความคิดแปลกๆ ออกไปจากหัว เขาและร่างเล็กตรงหน้าแต่งงานกันโดยไร้ความรักความผูกพัน งานแต่งทุกอย่างจัดขึ้นรวดเร็วจนเขาเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว คุณย่าของเขากับคุณลดาคุณย่าของจันทร์เจ้าเป็นเพื่อนสนิทกัน และได้ให้สัญญากันว่าถ้ามีหลานจะให้ตบแต่งเป็นทองแผ่นเดียวกัน
พระรามเคยเจอจันทร์เจ้าแค่ตอนเด็กๆ ซึ่งตอนนั้นร่างเล็กยังเด็กมาก ดวงตากลมโตใสราวกับตากวางนั้นน่าเอ็นดูไม่น้อย แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป พระรามไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่ก็ยังได้ยินเรื่องราวของร่างเล็กตรงหน้าเพราะอาชีพนายแบบที่จันทร์เจ้าทำอยู่ จากเด็กน้อยน่าเอ็นดูในวันนั้นเปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหว จันทร์เจ้ามีนิสัยก้าวร้าวเอาแต่ใจ อะไรที่ไม่ได้ดั่งใจก็จะโวยวายจนทีมงานเอือมระอากันไปหมด
พระรามอยากปฏิเสธการคลุมถุงชนในครั้งนี้ แต่คุณย่าของเขาอ้อนวอนพร้อมกับน้ำตาว่าอยากทำตามข้อตกลงที่เคยให้ไว้กับคุณย่าลดาเพื่อนสนิทของตน และทันทีที่คุณย่าลดาเสียจากนั้นหนึ่งเดือนถัดมา งานแต่งงานก็ถูกจัดขึ้น นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ 6 เดือนแล้ว…
คุณย่าได้ยกบ้านหลังนี้ให้เป็นเรือนหอของพวกเขา แน่นอนว่าเขาและจันทร์เจ้าแต่งงานกันแค่เพียงในนามเท่านั้น เราสองคนแยกห้องกันนอน ไม่มีมื้ออาหารร่วมกัน ต่างคนต่างอยู่ เขาไปทำงานในตำแหน่งผู้บริหารที่บริษัทหัสวอนันต์ ส่วนจันทร์เจ้าก็มีออกไปถ่ายแบบบ้างในบางวัน แต่เพราะนิสัยที่เอาแต่ใจทำให้ต้องพักงานถ่ายแบบไปชั่วคราว มันเป็นแบบนี้เรื่อยมา จนกระทั่งมาพักหลังที่คนตัวเล็กพยายามเข้าหาเขาจนผิดปกติไปจากเดิม เอาแต่ใจเพื่อเรียกร้องความสนใจจนเขานึกรำคาญ
“พี่รามมมม”
ร่างสูงหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนจะเบนสายตากลับมามองยังร่างของคนที่ยังนั่งจุ้มปุ้กอยู่ที่พื้น แขนเล็กๆ แสนบอบบางนั่นก็ยังกอดขาเขาไม่ปล่อย ซ้ำยังถูแก้มไปมากับขาเขา ถ้าเป็นเมื่อก่อนพระรามอาจจะเมินไม่สนใจเหมือนอย่างเคย แต่ครั้งนี้จันทร์เจ้าเปลี่ยนไปมากจนเขาสงสัย และต้องการรู้ว่าคนตัวเล็กวางแผนอะไรไว้หรือเปล่า
“มีอะไร”
“ขอเงินหน่อย”
“...”
“จันทร์ต้องการเงินสักก้อน”
“...”
“เนี่ยจันทร์ว่าจะเปิดพรีออเดอร์อัลบั้มเพลงของคุณเจย์ จันทร์ไปส่องๆ ในโซเชียลมาแล้ว คุณเจย์ฮอตมากกกก คัมแบ็คครั้งหนึ่งคนซื้ออัลบั้มเป็นล้านๆ แผ่นเลยนะ”
“...”
“พี่รามไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพอจันทร์ขายอัลบั้มได้จะเอาเงินที่ยืมมาคืน”
“จันทร์”
“หืม?”
“เธอต้องการอะไรกันแน่” พระรามเอื้อมมือไปดึงแขนที่กอดขาเขาออก
“มีแผนการอะไร”
จันทร์เจ้าพยายามดึงแขนที่ถูกพระรามกอบกุมไว้แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะขนาดตัวและเรี่ยวแรงที่ต่างกัน แรงบีบยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อตัวเขายังเงียบไม่ตอบคำถาม ก็จะให้ตอบยังไงกันเล่า! ไม่มีแผน ไม่มีอะไรทั้งนั้นนนน
ก็ถ้าตอบว่านี่ไม่ใช่จันทร์เจ้าภรรยาคนเดิมของคุณพี่ คุณพี่จะเชื่อหนูไหมค้า
“พี่รามเชื่อเรื่องวิญญาณไหม” พระรามขบกรามแน่นเมื่อคนตัวเล็กยังพูดเพ้อเจ้อ
“ฉันถามว่าเธอมีแผนอะไร” กดเสียงต่ำพร้อมกับเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือ
“โอ๊ยย เจ็บๆๆๆ” จันทร์เจ้าร้องลั่นเมื่อแรงบีบที่ข้อมือมันมากเกินกว่าที่เขาจะรับไหว
คนตัวเล็กเด้งตัวออกห่างจากร่างสูงของพระรามทันทีที่หลุดพ้นจากพันธนาการ แม่ง! แบบนี้ต้องหนี ต้องหนีไปตั้งหลักก่อน! ฝากไว้ก่อนนะไอ้หน้าหล่อ!
สามวันผ่านไป
“พี่รามมมม”
เสียงหวานดังก้องคฤหาสน์หัสวอนันต์จนดูเป็นเรื่องปกติ เพราะสองสามวันมานี้ทุกคนจะเห็นภาพร่างเล็กๆ ของคุณหนูจันทร์เจ้าวิ่งตามผู้เป็นสามีตลอด
“น่ารำคาญ” ร่างสูงเอ่ยเสียงดุ
“ไม่ฟัง”
“เลิกวุ่นวายกับฉันสักที”
“ไม่ฟัง”
“เธอนี่มัน–”
“ไม่ฟัง” ยกมือปิดหูก่อนจะรีบเข้าไปดึงเสื้อสูทของผู้เป็นสามีเข้ามาถือเอง
“เลิกงานมาเหนื่อยๆ พี่รามไปนั่งก่อน เดี๋ยวจันทร์นวดให้นะๆ”
ร่างเล็กดันร่างผู้เป็นสามีเข้าไปนั่งยังโซฟาตัวหรู ก่อนจะบีบนวดไปตามขาเรียวยาว น้อยหน่าที่ช่วงหลังๆ เห็นภาพแบบนี้จนชินตาก็ได้แต่ถอยออกไปเพื่อที่จะให้คู่สามีภรรยาได้ใช้เวลาร่วมกัน
“ทำไมต้องทำตัวแปลกๆ” ดวงตาคมจ้องคนที่ตั้งอกตั้งใจนวดขาตน
“ถามก็ตอบ” เมื่อเห็นคนตัวเล็กยังเงียบจึงบีบเข้าไปที่ต้นแขนอย่างแรง
“โอ๊ยย ทำไมชอบบีบจันทร์แรงๆ อะ ตัวจันทร์ก็เล็กแค่นี้เอง พี่รามเบามือหน่อยไม่ได้เหรอ จันทร์รู้ว่าจันทร์น่ารัก พี่รามอาจจะมันเขี้ยว แต่ก็เบาแรงหน่อย รอบที่แล้วบีบข้อมือจันทร์จนช้ำ ลำบากพี่น้อยหน่าต้องมาทายาให้จันทร์อีก...”
จันทร์เจ้ายังขยับปากบ่นงุบงิบต่อไปโดยไม่ทันสังเกตว่าพระรามเริ่มหมดความอดทน
“หรือว่าที่ทำตัวแบบนี้เพราะอยากขึ้นเตียงกับฉัน?”
“มั่นหน้าจังนะ” คนตัวเล็กเอ่ยเบาๆ
“ว่าไงนะ”
“จันทร์หมายถึงวันนี้ร้อนจ๊างงง” พอเห็นว่าคนตาดุไม่เชื่อ ร่างเล็กจึงยิ่งโบกมือไปมาเป็นพัลวัน
“จันทร์ไม่ได้ด่าอะไรพี่รามเลยนะ!”
“จะเสียงดังทำไม”
“ไม่ได้ด่าจริงจริ๊งงงง”
พระรามกุมขมับเพราะเริ่มปวดหัวตุบๆ ช่วงนี้ที่บริษัทกำลังวุ่นวายเพราะมีโปรเจกต์สร้างห้างสรรพสินค้าสาขาใหม่ เขาเข้าประชุมแทบทุกวัน กลับบ้านมาก็อยากพักเหนื่อย แต่ติดอย่างเดียว…
“พี่รามเชื่อจันทร์ไหมว่าจันทร์ไม่ได้ด่าพี่!”
นี่ไงตัวปัญหา
ตัวปัญหาที่ชื่อจันทร์เจ้า…
ที่โต๊ะอาหารวันนี้คึกคักกว่าทุกวัน เพราะนอกจากคู่สามีภรรยาแล้ว ยังมีครอบครัวของจันทร์เจ้าแวะมารับประทานอาหารด้วย ครอบครัวสุขสันต์แบบในละครเหรอ หึ ครอบครัวที่รักลูกไม่เท่ากันต่างหาก
ในทุกค่ำคืนที่หลับตานอน คนตัวเล็กมักจะเห็นความทรงจำต่างๆ ของจันทร์เจ้าคนเก่าเสมอ อาจจะไม่ได้เห็นทั้งหมดของความทรงจำ แต่อย่างน้อยเรื่องครอบครัวเขาก็รู้ว่า…มีแค่คุณย่าที่รักเขา
จันทร์เจ้ามีพี่ชายหนึ่งคน ตัวเขาเองเป็นลูกคนสุดท้อง เขาเกิดมาจากความผิดพลาด คุณแม่ไม่ได้ตั้งใจจะมีเขา ส่วนคุณพ่อก็รักพี่น่านฟ้ามากกว่า อาจจะเพราะว่าเป็นลูกคนแรกที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต้องการจะมี
จันทร์เจ้าเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูจากคุณย่า ความอบอุ่นจากครอบครัวของผู้ให้กำเนิดจันทร์เจ้าไม่เคยได้รับ ในวัยเด็กคนตัวเล็กอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่เมื่อเติบใหญ่ขึ้นความอิจฉาและความน้อยใจที่พ่อแม่ไม่รักทำให้เขาเผลอแสดงกิริยาก้าวร้าวออกมา และนั่นยิ่งทำให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดามารดาชิงชังเขา แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของจันทร์เจ้าไม่ใช่เหรอ…
“พี่รามทานนี่ดูครับ” น่านฟ้าตักแกงส้มใส่จานให้น้องเขย ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขวยเขิน
“ขอบคุณครับ”
“วันนี้น้องน่านฟ้าไปถ่ายละครมาด้วยล่ะ เรื่องใหม่ที่จะออนแอร์ปลายปีน่ะ” รถาชมผู้เป็นลูกชายคนโตโดยไม่ปรายตามองลูกชายคนเล็กแม้แต่หางตา
พระรามรู้ว่าคุณรถาอยากให้น่านฟ้าแต่งงานกับเขามากกว่าจันทร์เจ้า แต่เพราะว่าก่อนที่คุณย่าลดาจะเสีย ท่านได้บอกคุณย่าของเขาเอาไว้แล้วว่าหลานที่เลือกที่จะให้แต่งงานกับเขาคือจันทร์เจ้า แล้วเขาก็รู้ด้วยว่าคุณรถาไม่พอใจกับการเลือกเจ้าสาวของคุณย่าลดาเป็นอย่างมาก ดูไม่ยากเลย…
ก็ทุกครั้งที่คุณรถามาทานข้าวด้วยก็มักจะกล่าวชมแต่น่านฟ้า ไม่แม้แต่จะถามไถ่ความเป็นอยู่ของจันทร์เจ้าที่เป็นลูกชายคนเล็ก และในทุกครั้งจันทร์เจ้าก็มักจะเลี่ยงการร่วมโต๊ะกับครอบครัวตัวเองเสมอ ยกเว้นครั้งนี้…
“ป้าผ่องง เติมข้าวให้จันทร์หน่อยครับ”
พระรามเหลือบตามองคนที่เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย
“น้องจันทร์วันนี้แปลกจังเลย ปกติถ้าพี่มาน้องจันทร์จะไม่ร่วมทานข้าวด้วยนี่นา”
“ก็นั่นเมื่อก่อน”
“...”
“จันทร์ก็แค่ไม่อยากให้สามีนั่งทานข้าวกับคนอื่น” คนตัวเล็กเน้นคำว่าสามีดังๆ
พระรามส่งสายตาดุๆ ไปให้คนที่นั่งข้างๆ แต่เหมือนจันทร์เจ้าจะไม่รับรู้สิ่งอื่นใดนอกจากอาหารตรงหน้า ดูเจริญอาหารเหลือเกินนะ กินเข้าไปตั้งมากมาย แต่ก็ไม่รู้เอาไปเก็บไว้ตรงไหนหมดเพราะตัวยังเล็กเหมือนเดิม
ช่วงเวลาแห่งความอึดอัดบนโต๊ะอาหารผ่านพ้นไป พระรามถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก บอกตามตรงว่าเขาอึดอัดทุกครั้งที่ได้ร่วมโต๊ะอาหารกับครอบครัวของภรรยา และที่น่าอึดอัดใจมากที่สุดก็คงจะเป็นน่านฟ้าที่เกาะเกี่ยวแขนของเขาอยู่
“น่านอยากให้พี่รามไปดูน่านถ่ายละครจังเลยครับ”
“ผมไม่ค่อยว่างครับ”
“ถ้าว่างก็จะไปใช่ไหมครับ”
น่านฟ้าตาเป็นประกาย ส่วนคนฟังอย่างจันทร์เจ้าได้แต่เบะปากมองบน นึกว่าจะมีแค่พ่อกับแม่ที่ไม่ชอบเขา นี่พี่ชายแท้ๆ ก็พลอยไม่ชอบเขาไปด้วยเหรอ เหอะ
“ยังไงจันทร์ขอขึ้นห้องก่อนนะครับ”
คนตัวเล็กไหว้บิดามารดาก่อนจะรีบเดินออกไปจากห้องทานอาหาร พระรามมองตามคนที่เดินผ่านตนไป ก่อนจะหันกลับมามองคุณไพโรจน์ที่เอ่ยเรียก
“จันทร์นี่นิสัยแย่ไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ รามคงปวดหัวไม่น้อย”
“ตอนอยู่กับผมน้องก็น่ารักดีครับ” ไพโรจน์ชะงักก่อนจะกระแอมหนึ่งที
“งั้นวันนี้พ่อกลับก่อนนะ”
“ครับ”
พระรามเดินมาส่งครอบครัวของภรรยาที่รถ ก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้าน แต่ทว่าหางตาของร่างสูงกลับเหลือบไปเห็นเงาบางอย่างเข้า จึงเปลี่ยนเส้นทางจากที่จะเดินเข้าบ้านเป็นเดินไปทางสระว่ายน้ำแทน
จันทร์เจ้าตีขาในน้ำไปมาอยู่คนเดียวเพราะยังไม่อยากกลับห้อง ไอ้ที่บอกว่าจะกลับห้องนั่นก็โกหกไปงั้นแหละ เริ่มเข้าใจความรู้สึกของจันทร์เจ้าคนเก่าแล้วว่าการที่ครอบครัวไม่รักเป็นยังไง มีครอบครัวแบบนี้ก็อย่ามีซะดีกว่า
“ทำอะไร” คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกเพราะตกใจเสียงทุ้มของพระราม
“ซักผ้ามั้ง”
“ตอบดีๆ”
“ก็แค่มานั่งเล่น ทำไมพี่รามต้องดุ”
“ฉันไม่ได้ดุ”
“เนี่ยดุ”
“ไม่ได้ดุ”
“ดุ”
“...”
“เอามา...” จันทร์เจ้าช้อนตาขึ้นมองคนที่มายืนค้ำหัวก่อนจะแบมือออกไปตรงหน้า
“เงิน”
“...”
“ให้เงินจันทร์หน่อย เป็นสามีที่ดีต้องเปย์ภรรยานะ” พูดไปก็ทำหน้าบูดบึ้งไปด้วยเพราะยังเซ็งๆ เรื่องครอบครัวไม่หาย
“จะเอาเท่าไหร่” ตาที่กลมโตอยู่แล้วยิ่งโตขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินคำตอบจากร่างสูง จันทร์เจ้าตอนนี้เหมือนมีหูกับหางทิพย์กระดิกไปมา
ดีใจเหมือนลูกหมา
“จันทร์ไม่รู้ว่ามันต้องใช้เงินเยอะไหม แต่ขอห้าแสนได้ไหม นะๆๆ”
“อืม”
“เย้~”
จันทร์เจ้ากอดหมับไปที่ขาของคนใจดี แก้มใสถูไถไปมาอย่างออดอ้อนจนพระรามมองเห็นภาพทับซ้อนเมื่อสามวันที่แล้ว พอได้เงินก็อารมณ์ดีเชียวนะ ไม่ได้ใจดี แต่รำคาญมากกว่า เงินแค่นี้มันเล็กน้อยสำหรับเขา อยากจะรู้ว่าจันทร์เจ้าจะเอาเงินห้าแสนของเขาไปทำอะไรบ้าง ทั้งๆ ที่เจ้าตัวก็มีเงินมากมายมหาศาลไม่ต่างจากเขามากนัก