บทที่ 4-2

1000 คำ
“เดี๋ยวก่อนไอรา” “คะคุณปู่” ไอรารีบขยับเท้ามาใกล้บรูซทันที “โทร.หาเรเชลให้ปู่หน่อย” “พี่เรเชลเหรอคะ” “ใช่ บอกให้มาหาปู่ตอนนี้เลย” “ค่ะ” แม้จะแปลกใจอยู่มาก ทว่าไอราก็รับคำอย่างกระตือรือร้น หญิงสาวรีบเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนพื้นขึ้นมา กดที่หน้าจออยู่ชั่วครู่ โชคดีที่มันยังคงใช้การได้ หญิงสาวจึงไม่รีรอที่จะกดโทร.ออก เพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ “ฮัลโหล” “สวัสดีค่ะพี่เรเชล ไอราเองนะคะ” “ไอราเหรอ โทร.หาพี่มีอะไรหรือเปล่า” “คุณปู่ต้องการให้พี่เรเชลมาพบตอนนี้เลยค่ะ” “ตอนนี้เลยเหรอ” “ใช่ค่ะ” “โอเค บอกคุณบรูซด้วยว่าพี่จะเข้าไปพบท่านเดี๋ยวนี้” “ค่ะ” พอเรเชลรับคำไอราจึงกดวางสาย หญิงสาวหันไปหาบรูซที่กำลังมองมาที่เธออย่างรอคอยคำตอบ “เรเชลว่าไงบ้าง” “พี่เรเชลบอกว่าจะรีบมาพบคุณปู่เดี๋ยวนี้เลยค่ะ” “ดี” บรูซคลี่ยิ้มออกมาได้ “ไอรามีอะไรจะทำก็ไปทำเถอะ ปู่อยากพักผ่อน แล้วถ้าเรเชลมา ฝากพาเรเชลมาหาปู่หน่อยก็แล้วกัน ปู่อยากคุยกับเรเชลเป็นการส่วนตัว” “ได้ค่ะคุณปู่” ไอรารับคำแล้วเดินออกจากห้องไป บรูซมองตามแผ่นหลังของหลานสาวบุญธรรมไปจนลับสายตา ทอดสายตาไปเบื้องหน้าอย่างครุ่นคิด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เขาจะไม่ยอมให้ฟลอเรนซาเข้ามาเหยียบในคฤหาสน์ฟรีเดลอีกเป็นอันขาด ไม่มีทาง คิ้วหนาที่พาดเหนือดวงตาเรียวรีขยับเข้าหากันจนแทบจะเป็นปม เมื่อจู่ๆ สายสนทนาระหว่างเขากับบรูซถูกตัดไปเสียดื้อๆ พอเขาโทร.กลับก็โทร.ไม่ติด เอริคจึงเดินมาที่เตียงหลังใหญ่ วางโทรศัพท์มือถือลงบนนั้น คิดเอาเองว่าหากมีเรื่องเร่งด่วนไอราคงติดต่อมาอีกครั้ง พอคิดได้แบบนั้นเอริคจึงไปหยิบเสื้อผ้าสำหรับใส่นอนออกมาจากกระเป๋า หยิบผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนใหญ่ขึ้นมาแล้วสาวเท้าเข้าห้องน้ำไป ฟลอเรนซาอยู่ในชุดนอนแบบสายเดี่ยวผ้าลื่น ความยาวของชายกระโปรงเหนือเข่าเล็กน้อย ร่างบอบบางสาวเท้ามาที่ตู้บิลด์อิน หยิบเสื้อคลุมแขนยาวขึ้นมาสวมใส่ เท้าเล็กขยับไปทางประตูเชื่อมเดินทะลุไปยังห้องนอนของเอเดรียน ก่อนจะหยุดเท้าที่ข้างเตียงของเด็กชายตัวน้อยที่กำลังหลับสนิท ฟลอเรนซาทิ้งตัวลงนั่งบนฟูกนุ่ม มือบางลูบที่ศีรษะของบุตร ชายแผ่วเบา สีหน้าแสดงออกว่ากำลังกังวลอยู่หลายส่วน แม้เอเดรียนจะไม่เคยเรียกร้องอยากเจอบิดา ทว่าเธอรับรู้ได้ว่า เอเดรียนต้องการเจอคนเป็นพ่อบ้าง หลายครั้งที่เธอเห็นบุตรชายของเธอมองเด็กๆ ที่มาพร้อมบิดาและมารดา มีคนเป็นบิดาคอยโอบอุ้ม สีหน้าของลูกชายของเธอหม่นแสงลงอย่างน่าเห็นใจ และเธอก็หวังว่าเอเดรียนคงเข้าใจ เมื่อถึงวันที่เอริคต้องกลับนิวยอร์ก ใช่ เธอควรต้องคุยกับเอริคในเรื่องนี้ พอคิดได้แบบนั้น ฟลอเรนซาจึงกดจูบลงบนหน้าผากของเอเดรียน ก่อนที่ร่างบอบบางจะขยับลุกขึ้นยืน ทิ้งสายตาที่เด็กชายตัวน้อยที่กำลังหลับสนิทอีกครู่หนึ่งแล้วขยับเท้าออกจากห้องไป ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก… ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก… ฟลอเรนซาเคาะประตูห้องของเอริค ทว่ากลับไร้การตอบรับจากคนที่อยู่ด้านใน คิ้วสวยขมวดมุ่น มือบางยกขึ้นจับลูกบิดประตูแล้วลองขยับดู เมื่อพบว่าไม่ได้ล็อก จึงถือวิสาสะเปิดประตูแล้วพาตัวเองเข้าไปในห้อง ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปรอบๆ ทว่าไม่พบร่างสูงอย่างที่ควรจะเป็น มีเพียงกระเป๋าสัมภาระกับโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนเตียงเท่านั้น “หายไปไหนของเขา” ฟลอเรนซาบ่นพึมพำ หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง ก่อนจะหยุดสายตาที่ประตูห้องน้ำที่ปิดสนิท เลยเดาเอาว่าเอริคคงอยู่ในห้องน้ำ พอคิดได้แบบนั้นจึงตัดสินใจขยับเท้าตั้งใจจะออกจากห้องไปก่อนแล้วค่อยมาพบอีกฝ่ายทีหลัง แต่เท้าเล็กขยับได้เพียงแค่สองก้าวก็ต้องชะงักอยู่ตรงนั้น เพราะเสียงประตูถูกปลดล็อกดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงทุ้มต่ำที่เธอคุ้นเคย “เดี๋ยวฟลอนซ์ มาหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่า” ฟลอเรนซาหมุนตัวกลับมามอง ทว่าทันทีที่เห็นเอริคในสภาพที่ไม่เรียบร้อยนัก ร่างสูงมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่พันรอบสะโพกสอบเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ มีผ้าเช็ดตัวผืนเล็กพาดไว้บนบ่าข้างหนึ่ง เส้นผมสีน้ำตาลทองยังดูไม่แห้งสนิท หยดน้ำบางส่วนไหลลงบนเรือนกายสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างพอดิบพอดีไม่มากไม่น้อย ใบหน้าเนียนใสเห่อร้อนขึ้นมาฉับพลัน หญิงสาวปิดเปลือกตาแน่นแล้วรีบหมุนตัวหันกลับมาทางเดิม “ฉันมีธุระจะคุยกับคุณค่ะ แต่ไว้ฉันค่อยมาใหม่ก็แล้วกัน” ฟลอเรนซาบอกเพียงเท่านั้นแล้วรีบขยับเท้า แต่ร่างบอบบางไม่ทันได้ก้าวออกจากห้อง เอริคก็สาวเท้ามาขวางทางเอาไว้อย่างรวดเร็ว “เดี๋ยวสิ จะรีบไปไหน” เอริคเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ดวงตาคมกริบจับจ้องที่ดวงหน้าของหญิงสาว ทว่าพอได้เห็นพวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีเรื่อและไม่ยอมมองหน้าเขา เอริคจึงเข้าใจได้ในทันที มุมปากหยักยกยิ้มอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนรอยยิ้มจะเลือนหายไปราวกับไม่เคยปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลามาก่อน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม