บทที่ 2-1

1068 คำ
ห้าปีก่อน ฟลอเรนซามาร่วมงานแต่งของฟอซโซพี่ชายฝาแฝดของเธอกับนีรญาน้องสาวบุญธรรมของเธอที่โบสถ์แห่งหนึ่งในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เอริคถูกเชิญมาร่วมงานด้วย ระหว่างพิธีทั้งคู่นั่งด้วยกันและพูดคุยกันตามประสาคนที่คุ้นเคยกันในระดับหนึ่ง ระหว่างที่เอริคกำลังจะเดินทางกลับ ฟลอเรนซาบังเอิญได้ยินชายหนุ่มคุยโทรศัพท์กับใครสักคน “ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่ขาย ต่อให้คุณจะให้ราคามากกว่าสองร้อยล้านดอลลาร์ผมก็ไม่ขาย” ฟลอเรนซาค่อนข้างแปลกใจที่ได้ยินเอริคพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด ปกติแล้วเอริคเป็นคนที่สุภาพมาก น้ำเสียงที่ชายหนุ่มใช้ก็จะนุ่มนวลตามแบบฉบับสุภาพบุรุษ ไม่เคยมีสักครั้งที่คนอย่างเขาจะใช้น้ำเสียงที่ดูดุดันในการสนทนากับคนอื่นแบบนั้น “เพชรสีชมพูรูปไข่เป็นสมบัติของตระกูลผม ยังไงผมก็ไม่ขาย แค่นี้นะ” แล้วเอริคก็กดตัดสาย สีหน้าของชายหนุ่มบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าไม่สบอารมณ์อย่างถึงขีดสุด ก่อนที่ร่างสูงจะสาวเท้าขึ้นรถแล้วขับออกไป ฟลอเรนซามองตามรถคันดังกล่าวไปจนลับสายตา ในหัวของหญิงสาวเต็มไปด้วยสิ่งที่ได้ยินจากริมฝีปากได้รูป “เพชรสีชมพูรูปไข่เป็นสมบัติของตระกูลผม ยังไงผมก็ไม่ขาย แค่นี้นะ” ฟลอเรนซาคลุกคลีในวงการอัญมณีมาพอสมควร และหญิงสาวก็ทราบว่านอกจากเพชรสีน้ำเงินหรือโฮป ไดมอนด์ที่เป็นเพชรที่หายากแล้ว ก็มีเพชรสีชมพูรูปไข่ที่หายากไม่ต่างกัน ซ้ำยังมีราคาสูงกว่าเพชรสีน้ำเงิน และที่สำคัญเชื่อกันว่าเพชรสีชมพูเป็นตัวแทนของความรัก ความโรแมนติก และความสมปรารถนาที่นักสะสมเพชรต่างใฝ่ฝันอยากจะได้ครอบครอง และถ้าเป็นเพชรเม็ดเดียวกันที่ถูกค้นพบในเหมืองเพชร ประเทศแอฟริกาแล้วละก็ ตอนนี้ราคาของมันสูงถึงหนึ่งร้อยยี่สิบห้าล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราวๆ สี่พันล้านบาท “เพชรสีชมพูรูปไข่” ฟลอเรนซาพึมพำกับตัวเองก่อนที่คำพูดของเอริคจะลอยเข้ามาในหัวเธอ “ผมบอกแล้วไงครับว่าไม่ขาย ต่อให้คุณจะให้ราคามากกว่าสองร้อยล้านดอลลาร์ผมก็ไม่ขาย” นั่นยืนยันได้อย่างชัดเจนว่ามีคนให้ราคาสูงมากกว่าที่มีการประเมินราคาเอาไว้ แต่ถึงกระนั้นเอริคก็ปฏิเสธโดยไม่เสียเวลาคิดเลยสักนิด แล้วถ้าเธอต้องการเป็นผู้ครอบครองเพชรเม็ดนั้น เธอต้องทำอย่างไร ฟลอเรนซาไม่เคยคิดว่าตนเองปรารถนาจะครอบครองสิ่งใดมากขนาดนี้ และหญิงสาวก็ไม่อาจหยุดความคิดดังกล่าวที่เกิดขึ้นได้เลย จนกระทั่งเธอกลับมาถึงคฤหาสน์คาสซาโน่ซึ่งคือบ้านของเธอ หญิงสาวก็ไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้ ในอกร้อนรุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ภาพเพชรสีชมพูรูปไข่ที่เธอเคยเห็นผ่านสื่อชื่อดังอย่างนิวยอร์กไทม์ที่เคยนำเสนอมูลค่าของเพชรเม็ดนั้นลอยวนในหัวของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเธอไม่สามารถสลัดมันออกไปจากหัวได้ และเช้าวันต่อมา ฟลอเรนซาก็ตัดสินใจบินไปที่มหานครนิวยอร์กอย่างไม่ลังเล ทันทีที่เครื่องลงจอดยังสนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ.เคนเนดี ฟลอเรนซาลากกระเป๋าใบโตไปยังม้านั่งสำหรับผู้โดยสาร ร่างบอบบางทิ้งตัวลงนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่ง หญิงสาวเคยมาเที่ยวนิวยอร์กอยู่สองสามครั้ง มือบางหยิบโทรศัพท์ มือถือเครื่องที่ใส่ซิมการ์ดสำหรับใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาออกมาจากกระเป๋าสะพายใบเก๋แล้วกดโทร.ออก ส่วนเครื่องที่สำหรับใช้ในกรุงโรมถูกปิดเครื่องไปเรียบร้อยแล้ว ครู่ใหญ่กว่าปลายสายจะกดรับ “สวัสดีครับ” ฟลอเรนซาคลี่ยิ้มกว้างมากกว่าครั้งไหนๆ เพราะมัวแต่ดีใจที่เอริครับสาย หญิงสาวจึงโต้ตอบกลับไปช้ากว่าที่ควรจะเป็นจนปลายสายต้องเอ่ยซ้ำ “สวัสดีครับ นั่นใครครับ” เสียงทุ้มนุ่มที่ถามย้ำมาอีกครั้งทำให้ฟลอเรนซาทราบว่าต้องรีบแสดงตัวก่อนที่ชายหนุ่มจะตัดสายไปเสียก่อน หญิงสาวแอบกระแอมในลำคอเบาๆ ก่อนริมฝีปากอวบอิ่มจะขยับบอกอย่างชัดถ้อยชัดคำ “สวัสดีค่ะคุณเอริค” ปลายสายเงียบไปอึดใจ ฟลอเรนซาเกือบจะบอกออกไปว่าเป็นเธอ ทว่าอีกฝ่ายก็ชิงตัดหน้าเอ่ยขึ้นมาเสียก่อน “คุณฟลอนซ์เหรอครับ” “ใช่ค่ะฟลอนซ์เอง” ฟลอเรนซาคลี่ยิ้มกว้าง ดวงหน้าหวานซึ้งมีรอยยิ้มเกลื่อนอยู่บนใบหน้า ฝั่งเอริคดึงโทรศัพท์ออกจากใบหูเพื่อมองหน้าจอที่กำลังสว่างวาบ เพราะเป็นหมายเลขโทรศัพท์ภายในประเทศ คิ้วหนาจึงขยับเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะสนทนากับปลายสาย “คุณฟลอนซ์อยู่อเมริกาเหรอครับ” “ใช่ค่ะ” “โทร.หาผมมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า” พอเอริคบอกออกมาแบบนั้น ดวงหน้าหวานซึ้งก็คลี่ยิ้มกว้าง ก่อนที่จะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดูคล้ายจะเกรงใจ อย่างที่เจ้าตัวตั้งใจปั้นแต่งให้เป็นเช่นนั้น “ก็นิดนึงค่ะ” “มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกมาได้เลยครับ” คำตอบจากปลายสายทำให้ฟลอเรนซาแทบจะกระโดดโลดเต้น เรียวปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อไม่ให้หวีดเสียงร้องเพราะความดีใจออกไป แล้วบอกความต้องการของตัวเองให้เอริครับรู้ ซึ่งเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่เธอจงใจสร้างขึ้นมา “คือฟลอนซ์นัดเพื่อนไว้ค่ะว่าจะเที่ยวด้วยกัน แต่พอดีเพื่อนของฟลอนซ์ติดธุระด่วน ด่วนมากจริงๆ ค่ะ ตอนนี้ ฟลอนซ์ก็เลยติดแหง็กอยู่ที่สนามบิน” “คุณฟลอนซ์จองที่พักเอาไว้หรือยังครับ ผมรู้จักที่พักดีๆ วิวสวยและระบบรักษาความปลอดภัยอยู่ในขั้นยอดเยี่ยม ถ้ายังไม่ได้จอง เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ” ฟลอเรนซาลอบย่นจมูก ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาพลางบ่นกระปอดกระแปดในใจ ก่อนจะพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมา ‘คนบ้า เราไม่ได้อยากได้ที่พักแบบนั้นซะหน่อย’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม