เช้าวันต่อมา...
ฉันขยับตัวด้วยความยากลำบากเพราะมันเจ็บไปหมดทั้งร่างกายโดยเฉพาะตรงส่วนนั้น มันเจ็บมากทั้งเจ็บทั้งแสบจนไม่อยากขยับตัวอาจจะเป็นเพราะมันคือครั้งแรกของฉันก็เลยเจ็บมากขนาดนี้ ฉันหันไปมองเพลิงที่นอนอยู่ข้างๆที่ตอนนี้ยังไม่ตื่น พอคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนระหว่างฉันกับเพลิงฉันก็รู้สึกผิดกับตัวเองฉันรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปมันไม่ถูกต้องแต่ฉันไม่โทษเพลิงฝ่ายเดียวหรอกเพราะฉันเองก็มีส่วนผิดที่ยอมให้เขา ตอนนี้ฉันเป็นของเขาแล้วทั้งตัวและหัวใจและฉันก็หวังว่าเขาจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังหรือเสียใจ ฉันก้มลงเก็บเสื้อผ้าตัวเองที่ถูกเขาถอดทิ้งกระจัดกระจายข้างเตียงแต่แค่ฉันขยับตัวเพียงนิดเดียวฉันก็ถูกคนที่นอนอยู่เอามือมาโอบที่เอวแล้วดึงฉันให้ลงไปนอนด้วย
"จะไปไหนหื้มมมม"
"ไปอาบน้ำเดี๋ยวหนึ่งต้องไปทำงาน"
"ไปไหวเหรอหื้มมม โดนเอาทั้งคืนยังมีแรงลุกไปทำงานอีกเหรอ"
"ไม่ไหวก็ต้องไหว หนึ่งไม่อยากขาดงานบ่อย"
"ไม่ให้ไปผัวไม่สบายอยู่เมียก็ต้องดูแลสิ"
"เพลิงพูดอะไรน่าเกลียด"
"น่าเกลียดตรงไหนพูดเรื่องจริง หรืออยากให้พิสูจน์อีกสักยกสองยกว่าหนึ่งเป็นเมียเพลิงจริงๆหรือเปล่า"
"หื้ออออไม่เอา หนึ่งจะไปทำงานแล้ว" ฉันรีบผลักเขาออกเมื่อมือเขาเริ่มซุกซนจับโน่นจับนี่ แต่สุดท้ายฉันก็ไม่รอด และกว่าฉันจะได้ออกมาจากคอนโดของเพลิงก็เกือบบ้ายแล้ว
เวลาต่อมา....
"ขอบคุณนะที่มาส่ง" ฉันขอบคุณเพลิงหลังจากที่เขามาส่งฉันที่หอพักเพราะตอนเย็นฉันต้องไปทำงานที่ร้านพี่ทรายต่อ
"เมื่อคืนเพลิงไม่ได้ป้องกันรู้ใช่ไหม" เขาบอกฉันเสียงเครียด
"อื้มมม" ฉันพยักหน้ารับรู้เพราะเมื่อคืนเขาไม่ยอมใส่เครื่องป้องกันทั้งที่เขามี
"นี่ยาคุมอย่าลืมกินล่ะ" เขายื่นยามาให้ฉันซึ่งมันคือยาคุมฉุกเฉินที่เขาเพิ่งแวะซื้อเมื่อครู่นี้ก่อนมาส่งฉัน
"อื้มมมไม่ลืมหรอก" ฉันรับยามาแล้วรีบเก็บใส่กระเป๋า
"กินเป็นหรือเปล่า" เขาถามย้ำ
"ไม่เป็นแต่ดูวิธีกินได้เค้าเขียนไว้อยู่"
"วันนี้เพลิงมีซ้อมบาสอาจจะไม่ได้ไปรับนะ"
"แต่เพลิงเพิ่งหายป่วยนะทำไมถึงรีบไปซ้อมล่ะเดี๋ยวก็ไม่สบายอีกหรอก" ฉันบอกเขาด้วยความเป็นห่วงเพราะเขาเพิ่งหายป่วยแม้ว่าสิ่งที่เขาทำกับฉันเมื่อคืนหมือนเขาไม่ไ่ด้ป่วยก็ตาม คิดแล้วฉันก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ก่อนที่จะพยายามปรับสีหน้าให้ปกติมากที่สุดเพราะกลัวเขาจะจับได้ว่าฉันกำลังคิดถึงเรื่องเมื่อคืน
"ถ้าเพลิงไม่สบายเพลิงก็ให้เมียดูแลไงไม่เห็นยากเลย มีเมียแล้วผัวไม่สบายก็ให้เมียดูแลสิจริงมั้ย"
"เพลิงหนึ่งบอกว่าห้ามเรียกแบบนี้ไง!!!" ฉันขอให้เขาห้ามเรียกฉันแบบนี้เพราะมันดูไม่ดีถ้ามีใครมาได้ยิน
"5555โอเคไม่เรียกก็ได้ครับคุณเมียถ้างั้นผัวไปนะ จุ๊บ" เขาหอมแก้มฉันโดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัวก่อนจะรีบสตาร์ทรถออกไป ฉันจับแก้มตัวเองข้างที่ถูกเขาหอมแล้วยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า ก่อนจะรีบเดินขึ้นห้อง
พอกลับขึ้นมาที่ห้องฉันก็หยิบยาคุมฉุกเฉินออกมาจากกระเป๋าเพื่อดูวิธีการกินอย่างละเอียดพออ่านจนเข้าใจแล้วฉันก็รีบแกะยากินไปก่อนหนึ่งเม็ดส่วนอีกหนึ่งเม็ดที่เหลือฉันต้องกินหลังจากนี้สิบสองชั่วโมงซึ่งฉันตั้งเวลาไว้เพราะกลัวลืมจากนั้นฉันก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและหาครีมมาปกปิดรอยต่างๆที่เห็นได้ชัดเพราะฉันไม่อยากให้พี่ทรายหรือใครเห็น
"พี่ทรายสวัสดีค่ะ"
"อ้าวหนึ่งพี่นึกว่าวันนี้จะไม่มาซะอีก ก็เลยโทรเรียกโซ่มาช่วย" พอพี่ทรายบอกแบบนั้นฉันก็รีบมองหาโซ่ทันที ซึ่งเขากำลังเก็บโต๊ะอยู่ ฉันไม่รู้ว่าจะทักเขายังไงดีหลังจากที่เขาสารภาพกับทุกคนว่าเขา...เคยแอบชอบฉันและตอนนี้ก็ยังชอบอยู่
"เอ่อ....โซ่หวัดดี" ฉันตัดสินใจทักโซ่ก่อนเมื่อเขาเดินถือถาดเครื่องดื่มเข้ามาด้านใน
"อืมมม"
"เอ่อ เรื่องเมื่อวานที่นาย..."
"ถ้าเธอหมายถึงเรื่องที่ฉันพูดเมื่อวานว่าฉันชอบเธอฉันแค่แหย่ไอ้เพลิงเฉยๆเพราะฉันหมั่นไส้มันเธออย่าคิดเป็นจริงเป็นจังล่ะว่าฉันชอบเธอจริงๆ อย่างเธอฉันไม่ตาต่ำไปชอบหรอกสบายใจได้สเป๊กของฉันต้องสวยหุ่นดีเซ็กซี่ๆหน้าอกใหญ่ๆ ไม่ใช่หน้าตาขี้เหร่นมแบนๆอย่างเธอ"
"นายพูดจริงๆเหรอ" ฉันไม่ได้โกรธที่โซ่พูดแบบนั้น ฉันดีใจต่างหากที่ได้ยินแบบนี้
"อืม หรือเธอคิดว่าเธอสวยมากจนฉันกับไอ้เพลิงต้องแย่งกันจีบ"
"เปล่า แต่เมื่อวานตอนที่นายพูดแบบนั้นฉันยอมรับว่าตกใจมากแต่พอมาคิดดูดีๆแล้วนายไม่มีทางชอบผู้หญิงอย่างฉันจริงๆหรอกจริงไหม"
"อืมมใครจะไปชอบลงผู้หญิงหน้าตาขี้เหร่แบบเธอ" ฉันยิ้มให้กับคำพูดของโซ่จนถูกเขาแซวว่าฉันเหมือนคนบ้า จากนั้นฉันกับโซ่ก็ช่วยกันทำงานพูดเล่นกันไปหัวเราะกันไปอย่างมีความสุข ฉันเพิ่งรู่ว่าการที่เรามีเพื่อนมันทำให้เรามีความสุขได้เหมือนกัน แต่ก็คงจะมีแค่เขาคนเดียวที่ยอมเป็นเพื่อนกับฉัน
ครืดดด ครืดดดด ครืดดดด เสียงมือถือของฉันดังขึ้นฉันหยิบมันออกมาดูปรากฏว่าเป็นมาร์ชที่โทรมาฉันรีบกดรับสายทันทีเพราะนานแล้วที่มาร์ชไม่โทรหาฉันเลย
"ฮัล...."
"ฮือออ ฮือออ พี่หนึ่ง ฮือออ"
"มาร์ชเป็นอะไรร้องไห้ทำไม" ฉันเริ่มใจคอไม่ดีที่ได้ยินเสียงมาร์ชร้องไห้
"พี่หนึ่ง ฮือออ คุณพ่อ ฮือออ คุณพ่อเสียแล้ว ฮืออออพี่มาที่โรงพยาบาลด่วนเลยฮืออออ"
"ไม่จริง มาร์ชล้อพี่เล่นใช่มั้ย" ฉันรู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครมาล้อเล่นแต่ฉันอยากให้มันเป็นอย่างนั้น
"ฮือออ คุณพ่อเสียแล้วจริงๆพี่หนึ่ง ฮือออๆ เมื่อวานมาร์ชได้ยินคุณพ่อทะเลาะกับคุณแม่แล้วจู่ๆท่านเป็นลมล้มฟุบไปพอมาถึงโรงพยาบาลท่านก็เสียแล้วคุณพ่อไม่อยู่กับพวกเราแล้วพี่หนึ่ง ฮือออ"ฉันชอคจนทำอะไรไม่ถูกมือไม้ฉันสั่นไปหมด
"เธอเป็นอะไรของเธอวะ หนึ่ง หนึ่ง" โซ่มาเขย่าตัวฉันตอนนี้ฉันเหมือนไม่มีชีวิตจิตใจไม่รับรู้อะไรทั้งนั้นน้ำตาฉันไหลออกมาไม่ขาดสายฉันนั่งทรุดตัวลงกับพื้นแล้วร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น
"ฮือออ ฮือออ ฮือออ"
"หนึ่ง หนึ่งเป็นอะไรบอกพี่มาซิ"
"ฮือออ พี่ทรายคุณพ่อบุญธรรมของหนึ่งเสียค่ะ ฮือออ ฮือออ" ฉันโผเข้ากอดพี่ทรายเพราะตอนนี้ฉันต้องการที่พึ่งพิงทางใจ ฉันทำใจไม่ได้จริงๆ เมื่อหลายวันก่อนฉันยังโทรคุยกับท่านอยู่เลยท่านยังให้สัญญากับฉันว่าวันที่ฉันเรียนจบท่านจะมาแสดงความยินดีกับฉันที่โรงเรียนแต่ตอนนี้ท่านไม่อยู่แล้ว
"พี่เสียใจด้วยนะหนึ่ง แต่ตอนนี้พี่ว่าหนึ่งไปหาคุณพ่อก่อนดีกว่านะท่านน่าจะรอหนึ่งอยู่"
"ฉันจะไปส่งเธอเอง ป่ะ" โซ่ดึงแขนฉันขึ้นก่อนจะพาฉันซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปยังโรงพยาบาล
พอมาถึงโรงพยาบาลฉันก็รีบถามเจ้าหน้าที่เพราะฉันไม่รู้ว่าตอนนี้คุณพ่ออยู่ที่ไหน ฉันเดินมาตามทางที่เจ้าหน้าที่บอกจนกระทั่งมาถึงหน้าห้องห้องหนึ่งที่ตอนนี้ทุกคนบ้านต่างพากันยื่นร้องไห้อยู่ ส่วนคุณแม่นั่งอยู่อีกฝั่งซึ่งพอฉันดินไปหาท่านแล้วยกมือไหว้ท่านก็สะบัดหน้าหนีไปอีกทาง
"หนึ่งมาหาย่านี่ลูก" คุณย่าเรียกฉันให้ไปหา ฉันรีบเดินไปกอดท่านแล้วก็ร้องไห้อีกครั้ง
"คุณย่าขาคุณพ่อไม่อยู่แล้วจริงๆเหรอคะ หรือว่าหนึ่งฝันไป" ฉันหวังว่ามันจะเป็นแค่ความฝันเท่านั้น
"คุณพ่อของหนึ่งท่านหมดกรรมท่านไปเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์สบายแล้วนะลูก มีแต่พวกเราๆนี่แล่ะที่ยังต้องอยู่ชดใช้กรรมกันต่อไป" ฉันรู้ว่าคุณย่าพูดเพื่อให้ฉันและทุกคนไม่เศร้าเสียใจ
"เด็กคนนี้ใครเหรอคะคุณแม่" ผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังดูสาวและสวยอยู่มากถามคุณย่าซึ่งฉันไม่เคยเห็นและไม่รู้จัก
"วันหนึ่งลูกบุญธรรมของตาพงค์น่ะ หนึ่งสวัสดีคุณภารดีซะสิลูก เธอเป็นภรรยาคนแรกของคุณพ่อนะ"
"สวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้ภรรยาเก่าคุณพ่อทั้งน้ำตา
"หน้าตาน่าเอ็นดูดีจังเลยนะคะคุณแม่ ว่าแต่หนูอายุเท่าไหร่แล้วจ๊ะ"
"สิบแปดค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับมิย่าเลยสิคะคุณแม่"
"ใช่จ๊ะอายุเท่ากันถ้ามิย่ามาไทยก็จะได้มีเพื่อนเนอะ^^" ฉันคิดว่ามิย่าคงจะเป็นลูกสาวแท้ๆของคุณพ่อที่ป้าแม่ครัวเคยพูดให้ฉันฟังเมื่อคราวก่อน
เวลาต่อมา...
เมื่อเสร็จธุระเรื่องของคุณพ่อที่โรงพยาบาลแล้วโซ่ก็อาสามาส่งฉันที่ห้องซึ่งก็เกือบตีหนึ่งแล้ว ร่างกายของฉันตอนนี้แทบจะหมดแรง ระหว่างทางกลับบ้านฉันคิดมาตลอดทางว่าต่อไปนี้ฉันจะทำยังไงดี ตอนนี้ฉันไม่มีคุณพ่อแล้วซึ่งฉันไม่เคยเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้เลยว่าจะเสียคุณพ่อไปแบบกระทันหันแบบนี้เพราะเราเพิ่งคุยกันเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้นี่เอง มันทำให้ฉันรู้ว่าชีวิตคนเรามันไม่มีอะไรแน่นอน "อย่าคิดมากนะคิดซะว่าพ่อเธอไปสบายแล้วเหมือนที่ย่าเธอพูดนั่นแล่ะ" โซ่ปลอบฉันเพราะเห็นฉันนั่งร้องไห้ตลอด
"อื้มมมม ฉันพยักหน้ารับแม้จะทำใจได้ยากก็ตามที
"เธอขึ้นไปนอนได้แล้วพรุ่งนี้ต้องไปช่วยงานไม่ใช่เหรอ"
"อื้มมมม ขอบใจนะที่มาส่ง"
"ถ้างั้นพรุ่งนี้เช้าให้ฉันมารับเธอไปที่วัดดีไหม"
"ไม่เป็นไรเกรงใจฉันนั่งรถเมล์ไปเองดีกว่าสะดวกกว่าเยอะเลย"
"ทำไมกลัวแฟนขี้หึงของเธอจะไม่พอใจล่ะสิ"
"ก็ด้วยแล่ะ เพลิงคิดว่านายชอบฉันจริงๆ แต่ไม่เป็นไรไว้ฉันจะบอกเพลิงเองว่านายไม่ได้ชอบฉันจริงๆหรอกนายแค่แกล้งเขา"
"ปล่อยให้มันคิดไปแบบนั้นขอมันนั่นแล่ะดีแล้ว"
"นายหมายความว่าไงฉันไม่เข้าใจ"
"ไม่ต้องเข้าใจหรอก แค่รู้ไว้ว่าฉันหวังดีกับเธอแค่นั้นก็พอ"
เปลี่ยนพระเอกตอนนี้ทันมั้ยนะ555555