บทที่ 3 คนใกล้ที่ไว้ใจไม่ได้

2116 คำ
ทางเข้าหมู่บ้านสุดหรูระดับหกดาวเต็มไปด้วยการตกแต่งแบบสถาปัตยกรรมหินอ่อน ปอร์เชคาเยนน์คันใหญ่ค่อยๆ เลี้ยวผ่านรั้วคฤหาสน์พันล้าน ก่อนชะลอจอดบริเวณหน้ามุข เมื่อฟ้ารดาก้าวลงมา นมนุ่มซึ่งยืนรออยู่ก่อนแล้วรีบเดินเข้ามาหาทันที ดวงตาหญิงชราแดงก่ำคลอด้วยหยาดน้ำตาอันเกิดจากความดีใจ นางเฝ้าภาวนาทุกวี่วันให้คุณหนูหายป่วยโดยไว “คุณหนูเป็นอย่างไรบ้างคะ ดูสินอนโรงพยาบาลตั้งหลายวันผอมเชียว หิวไหมคะวันนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม เดี๋ยวนมเข้าครัวทำให้” “ขอบคุณค่ะ อยู่โรงบาลกินอะไรก็ไม่อร่อยเท่าอยู่บ้านจริงๆ แหละค่ะ” “คุณหนูจำนมได้…” “พี่รัณเล่าให้ฟังค่ะ ถ้าเจอคุณยายสวยๆ ท่าทางดูใจดีหน่อยให้เรียกว่าคุณนม” ดวงตาคู่สวยขยิบให้หนึ่งที ก่อนมาที่นี่ก็ได้ยินรายละเอียด ของคนในคฤหาสน์นี้พอสมควร ภารัณเล่าความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันและพื้นฐานครอบครัวเพื่อฟื้นความทรงจำเธอบางส่วน หญิงสาวแปลกใจพร้อมกับนิ่งงันไปหลายนาที เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นลูกสาวคนเดียวของนายตำรวจใหญ่ไฮโซ ส่วนหญิงชราตรงหน้าคือคนที่เลี้ยงตนมาแต่เด็กด้วยกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด “ค่ะ จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่คุณหนูหายดีนมก็ดีใจแล้ว” นมนุ่มระบายยิ้มอ่อนๆ แต่รอยยิ้มนั้นแฝงไว้ด้วยความเศร้าใจ “ไม่ต้องห่วงนะคะ ตอนนี้จำไม่ได้แต่อีกไม่นานฟ้าจะจำ คุณนมได้แน่นอนคราวนี้จะไม่มีวันลืมอีก” “โถ คุณหนู…” นมนุ่มน้ำตาคลอ มือเหี่ยวย่นข้างที่ว่างลูบแก้มนวลปลั่งเบาๆ “เข้าข้างในกันเถอะ ถ้าสายกว่านี้แดดแรงอากาศร้อนขึ้นมาจะไม่สบายอีก ฟ้ายิ่งตัวรุมๆ อยู่” ชายหนุ่มล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อเชิ้ต เอื้อมมือมา ซับเม็ดเหงื่อที่ข้างขมับให้ จากนั้นดวงตาคมกริบก็เหลือบมอง รอบข้างพบว่าบรรยากาศตอนนี้อบอ้าวพอสมควร “ก็ได้ค่ะ” ใบหน้าหวานพยักตอบ ท่าทีใสซื่อเชื่อฟังคำพูดสามีทุกอย่าง ไม่ขัดใจเขาสักนิดเดียว อุบัติเหตุคราวนี้ทำฟ้ารดาเปลี่ยนเป็น คนละคน มาดเดิมที่เคยแข็งแกร่งเก่งไปเสียทุกเรื่องไม่มีอีกต่อไป “ไปกัน” ภารัณตัดบทสนทนาเสร็จก็ฉวยมือภรรยาเดินผ่านประตูกระจกเข้าไปด้านใน แววตาเยือกเย็นสบตานมนุ่มเพียงเสี้ยววินาที ก่อนความสนใจทั้งหมดถูกดึงกลับมายังร่างเล็กข้างกาย สองสามีภรรยาเดินมาหยุดตรงโถงกลางของคฤหาสน์ซึ่งมีโคมไฟระย้าแขวนฝ้าเพดานไว้อย่างสวยงาม ห้องรับแขกข้างล่างขนาบข้างด้วยบันไดลักษณะครึ่งวงกลมซึ่งสามารถมองทะลุไปด้านบนได้ ผู้ออกแบบเลือกคุมโทนเฟอร์นิเจอร์เป็นสีครีมและทอง เพราะอยากให้ผู้มาเยือนสัมผัสถึงความหรูหราตามสไตล์เจ้าของบ้าน “เป็นไง ตอนนี้รู้สึกคุ้นบ้างหรือยัง” “ไม่เลยค่ะ ฟ้าจำที่นี่ไม่ได้สักนิด” เสียงถอนหายใจยาวๆ สะท้อนความรู้สึกของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี ด้านภารัณพอฟ้ารดาหน้าเศร้าก็สงสารจึงเอ่ยปลอบว่า “อย่าคิดมาก ค่อยๆ นึกก็ได้ไม่ต้องรีบหรอก” เสียงทุ้มกล่าวขณะส่งยิ้มให้เธอ และเพราะใกล้กันตลอดสี่วันสามคืนที่ผ่านมาหญิงสาวจึงเริ่มไว้ใจอีกฝ่ายมากขึ้น “ค่ะ แล้วนี่พี่รัณจะพาฟ้าไปไหนต่อ” แววตาเธอเปล่งประกายไม่ต่างกับแสงแรกของวัน เห็นชายหนุ่มให้กำลังใจเมื่อครู่ เหมือนตระหนักรู้ขึ้นมาทันทีการทำตัวเซื่องซึมไม่มีประโยชน์อะไร เดี๋ยวจะพานทำให้บรรยากาศรอบข้างย่ำแย่ “ไปบอกข่าวดีของเรากับคนสำคัญของฟ้าไง” “คนสำคัญของฟ้า?” คิ้วเรียวขมวดสงสัย “พร้อมหรือยังครับคนสวย” ร่างสูงก้าวขาไปข้างหน้าหนึ่งก้าว จากนั้นก็หมุนกายส่งมือให้จับจูง ภารัณเผยรอยยิ้มกว้างราวดอกไม้ที่เบ่งบานในฤดูร้อน ทำคนมองเคลิ้มไปกับความสดใสซึ่งถูกปั้นแต่งขึ้นมา โดยหารู้ไม่ว่าทั้งหมดนี้อาจเปลี่ยนเป็นกับดักได้ทุกเมื่อ คนสำคัญที่ภารัณหมายถึงคือชายชราซึ่งท่องอยู่ใน ห้วงนิทราบนเตียง… ซ้ายมือเขามีเครื่องช่วยหายใจต่อสายระโยงระยางครอบจมูก บัดนี้บรรยากาศในห้องนอนเงียบสนิทกระทั่งได้ยินเสียงเครื่องมือดังในทุกๆ วินาที เมื่อเห็นฟ้ารดายืนนิ่งคล้ายถูกสาปชายหนุ่มก็มั่นใจขึ้นมา ต้องมีความรู้สึกบางอย่างกวนใจดวงน้อยเป็นแน่ เมื่อรู้เช่นนั้นสามีที่ดีอย่างเขาจึงกระชับมือบางแน่นกว่าเดิม “นี่ท่านอาจหาญพ่อของฟ้า เข้าไปบอกข่าวดีของเราให้ท่านฟังสิ พี่รู้นะถ้าเป็นเมื่อก่อนฟ้าคงรีบวิ่งไปบอกให้ท่านฟังคนแรก” ภารัณผละห่างร่างเล็ก จากนั้นก็ดันแผ่นหลังบางให้หยุดบริเวณ ข้างเตียง “ทำไมคุณพ่อถึงเป็นแบบนี้ เกิดอะไรขึ้นกับท่านคะ” “อุบัติเหตุน่ะ ท่านประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้เกือบ หกเดือนแล้วมั้ง” เสียงเข้มไม่ลงรายละเอียด ทว่าหวนนึกถึงเรื่องนี้ทีไรใบหน้าคมมักราบเรียบเสมอ ตอนเกิดเหตุร้ายใหม่ๆ เขา ไม่แยแสทำเอาคนเก่าแก่ในคฤหาสน์ตั้งแง่ไม่พอใจ พวกเขาตัดสินว่าภารัณแต่งงานกับฟ้ารดาเพื่อผลประโยชน์ ไม่ใช่เพราะรักคุณหนูอย่างที่ปั้นหน้าหลอกลวง “อุบัติเหตุอีกแล้วเหรอ…” หญิงสาวแค่นยิ้มเย้ยหยันโชคชะตาที่ครอบครัวเผชิญ “คงเป็นกรรมของคนบ้านนี้ใช่ไหมคะ ทำไมถึงเกิดเรื่องร้ายๆ กับคุณพ่อด้วย” ดวงตาคู่งามกะพริบถี่ๆ ขับไล่น้ำตาซึ่งไม่รู้คลอหน่วยตั้งแต่เมื่อไร “นี่คงเป็นเหตุผลที่ท่านไม่เคยไปเยี่ยมฟ้าที่โรงบาลสินะ” ชายหนุ่มไม่ตอบแต่พยักหน้ารับแทน “ตอนแรกฟ้าก็คิดน้อยใจแบบเด็กๆ แต่คงไม่มีพ่อที่ไหนไม่รักลูกหรอกเนอะพี่รัณว่าไหม” “ฟ้าใช้เวลาเงียบๆ คุยกับท่านเถอะ ส่วนพี่ออกไปรอข้างนอกดีกว่า” คนพูดหน้าเครียดชัดเจน “ก็ได้ค่ะ ฟ้าขออยู่กับท่านก่อนนะ” “โอเคเรียบร้อยเมื่อไรตามมานะ” เอ่ยจบแล้วหมุนกายจากไปทันที ไม่รู้เพราะหวังดีอยากให้เธออยู่ใกล้พ่อ หรือไม่อยากเห็นน้ำตาอีกฝ่ายกันแน่ คนตัวสูงก็ไม่อาจตอบคำถามเกี่ยวกับการกระทำงี่เง่าพวกนี้ได้ เกือบยี่สิบนาทีเห็นจะได้ฟ้ารดาจึงเดินออกมา ตาสีน้ำตาลเหลือบมองรอบกายจากนั้นล็อกเป้าหมายทิศขวามือ คิ้วเรียวมุ่นทันทีที่เห็นภารัณคุยกับใครบางคน ก้าวเพียงไม่ กี่ก้าวเธอก็ถึงตัวพวกเขา “พี่รัณ” ฟ้ารดามองคู่สนทนาสามีคล้ายมีคำถามในใจ และเหมือนชายหนุ่มเองก็พอรู้สึกได้จึงกล่าวแนะนำว่า “นี่คุณฉัตร เธอเป็นภรรยาพ่อฟ้า” “คุณฟ้าหายดีแล้วใช่ไหมคะ” ปากอิ่มระบายยิ้มจางๆ ทักคุณหนูเจ้าของคฤหาสน์ ‘คุณฉัตร’ หรือ ‘ร่มฉัตร’ คือหญิงสาวใบหน้างดงามดุจนางพญา ดวงตาทรงเสน่ห์ยามสบตาฟ้ารดาดู เป็นมิตร แต่แวบนึงก็ฉายแววแข็งกระด้างเช่นกัน ร่มฉัตรดูเยาว์วัย คาดคะเนอายุหล่อนคงแก่กว่าภารัณไม่กี่ปี “ฉัตรดีใจด้วยนะ เด็กคนนี้โชคดีมากๆ เพราะเกิดจากความรักของพ่อและแม่ สมบูรณ์แบบจริงๆ ค่ะ” หล่อนจับมือฟ้ารดา น้ำเสียงหวานช่างอบอุ่นแต่กลับทำให้ผู้ฟังเคลือบแคลงใจอย่างบอกไม่ถูก หรือเพราะบุคลิกนิ่งๆ เหมือนเข้าถึงยากของร่มฉัตรจึงดูมีไอเย็นอยู่รอบกายตลอดเวลา “ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวขืนตัวจากการเกาะกุม ผุดยิ้มน้อยๆ ตามมารยาท “เย็นนี้ว่างหรือเปล่าหรือมีแพลนทานมื้อค่ำนอกบ้านกันคะ ถ้าไม่มีฉัตรขอโอกาสชวนดินเนอร์เลยได้ไหม เราไม่ได้ร่วมโต๊ะอาหารกันนานแล้วถือว่าต้อนรับคุณฟ้ากลับบ้าน เดี๋ยวฉัตรเตรียมทุกอย่างเอง” “เอ่อคือฟ้า…” เจ้าของใบหน้าหวานคล้ายขอความเห็นจากสามี เธอมีท่าทีลังเลอย่างเห็นได้ชัด “แหม เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าจะทำอะไรต้องปรึกษาคุณรัณก่อนแล้วเหรอคะ คู่นี้น่ารักจัง” หล่อนป้องปากแซว “พี่ได้หมด ฟ้าตัดสินใจเลย” “งั้นก็ตกลงค่ะ” ในที่สุดก็ตัดสินใจรับคำชวน มองเผินๆ อาจเป็นเพราะมารยาทเธอจึงไม่ออกปากปฏิเสธ แต่ลึกๆ มีเหตุผลมากกว่านั้น ซึ่งฟ้ารดารู้เพียงคนเดียว เข็มนาฬิกาเดินหน้าเข้าสู่เลขเจ็ดไม่ขาดไม่เกิน สวนสวยสไตล์อังกฤษใกล้บริเวณสระว่ายน้ำ ใช้เวลาตกแต่งเพียงไม่นานก็สามารถเนรมิตให้เหมาะสมสำหรับดินเนอร์เล็กๆ ยามค่ำคืน ร่มฉัตรออร์เดอร์อาหารที่รังสรรค์โดยเชฟระดับมิชลินสตาร์ ซึ่งเปิดมาด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง Shrimp cocktail กุ้งเนื้อเด้งดึ๋งเคลือบซอสเปรี้ยวอมหวานที่มีความสุกกำลังพอดี “รสชาติถูกปากคุณฟ้าหรือเปล่าคะ” จัดการอาหารในจานเรียบร้อยหล่อนก็ชวนอีกฝ่ายพูดคุย “อร่อยดีค่ะ ฟ้าชอบ” “คุณฟ้าชอบฉัตรก็ดีใจ” คำตอบที่ได้ยินทำความรู้สึกบางอย่างก่อขึ้นในใจร่มฉัตร ทว่าเลือกซ่อนเอาไว้และไหลตามน้ำต่อไป “คุณฟ้าแพลนเรื่องคนดูแลน้องไว้หรือยังคะ มีคุณหมอ หรือเปล่าฉัตรแนะนำได้นะ พอดีฉัตรรู้จักหมอสูติเก่งๆ เยอะค่ะ ตัวเองอยากมีลูกเหมือนกัน แต่เสียดายท่านอาจหาญดันป่วยก่อน” “พี่รัณบอกว่าคุณพ่อประสบอุบัติเหตุไม่ใช่เหรอคะ” ฟ้ารดา ขมวดคิ้วถามภารัณที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่กลายเป็นร่มฉัตรตอบแทน “ใช่ค่ะเลยป่วยติดเตียงแบบทุกวันนี้” ไม่รู้ทำไมเห็นเมียพ่อทีไร ฟ้ารดาไม่รู้สึกถึงความรักเลยสักนิด อาจเพราะหล่อนไม่ได้ดูเสียใจขนาดนั้น แถมแววตายังเฉยชาเหมือนไม่อยากมีอาจหาญในชีวิต หล่อนจึงสามารถเล่าถึงอาการป่วยของท่านเหมือนเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป “คุณฉัตรคงลำบากไม่น้อยกว่าจะผ่านมาได้” “ฮ่าๆ อย่าทำหน้าเครียดสิคะ ฉัตรแค่แซวเล่นเฉยๆ” ร่มฉัตรหัวเราะอย่างมีจริตจะก้าน แต่ไม่ลืมรักษามาดผู้ดี “ชีวิตฉัตรตอนนี้สบายจะตาย ไม่ได้ลำบากอะไรมากอย่างที่คุณฟ้าเข้าใจหรอกค่ะ” “งั้นเหรอคะ แต่ฟ้าว่า…” “ฟ้าแบ่งปลาพี่ไปกินดีกว่า” เสียงทุ้มโพล่งขึ้นขณะหั่นอาหารจานที่สองให้เธอ หลังจากค็อกเทลกุ้งรสเลิศ เชฟเลือกเสิร์ฟคอร์สที่สองเป็น เนื้อปลาราดซอสทรัฟเฟิล “ไม่เป็นไรของฟ้าก็มีเหมือนกัน” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ “พี่อยากให้ ฟ้าต้องกินเยอะๆ เพื่อบำรุง อย่าลืมสิเราไม่ได้ ตัวคนเดียวอีกแล้ว มีเจ้าตัวแสบอีกหนึ่งในท้องกินแค่นี้ลูกพี่จะอิ่มได้ยังไง” พูดจบก็ลูบศีรษะคนตัวเล็ก เป็นเชิงเอ็นดู “สามีใส่ใจแบบนี้น่าอิจฉาจังเลยนะคะ ทำไมฉัตรรู้สึกว่าพอมีลูกคุณรัณสวีตกับคุณฟ้ามากกว่าเดิม” แววตาดุดันสบตาภารัณชั่วครู่ จากนั้นก็ถอนสายตากลับมา เรียบนิ่งดังเดิม “ฉัตรลืมไปสนิทเลย” อยู่ดีๆ หล่อนก็ป้องปากแล้วเบิกตากว้าง “พอดีเตรียมซุปบำรุงสูตรพิเศษให้คุณฟ้าค่ะ ฉัตรเข้าครัว ทำเองกับมือเลยนะ จริงๆ เห็นอย่างนี้ฉัตรชอบทำอาหารมาก เดี๋ยวให้แม่บ้านยกมาเสิร์ฟร้อนๆ นะคะ คุณฟ้าจะได้ทานเลย” ร่มฉัตรเหลือบมองทางขวาราวส่งสัญญาณ ใช้เวลาไม่ถึงนาทีเมนูดังกล่าวก็เสิร์ฟตัดหน้าคอร์สถัดไป ซุปใสปรุงด้วยเครื่องสมุนไพรชั้นดี เมื่อวางบนโต๊ะกลิ่น ความหอมก็ลอยเข้าจมูกทันที ฟ้ารดาเผยยิ้มจางๆ เป็นการขอบคุณ มือกำลังจะหยิบช้อนแต่ไวไม่เท่าชายหนุ่มข้างกาย “อร่อยดีนะครับ” ภารัณไม่รอเมียอนุญาต มือตักน้ำซุปเข้าปากแล้วชมร่มฉัตร “คุณรัณชิมแล้วรสชาติผ่านไหมคะ” มุมปากเคลือบลิปสติก แดงเลือดนกข้างหนึ่งยกขึ้นเล็กน้อย “ครับ ผ่าน” “ถ้าคุณบอกว่าผ่าน งั้นคุณฟ้าคงทานได้แล้ว” สายตาเย็นชาจ้องมองเจ้าของใบหน้าคมคาย แวบหนึ่ง ความผิดหวังฉายชัดผ่านแววตาเจ้าหล่อนก่อนแปรเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม