ภายในโรงแรมที่หรูหรา พนักงานของเดอะ ไดมอนด์ กำลังดื่มด่ำกับเสียงดนตรีสดและอาหารเครื่องดื่ม ผู้คนมากมายที่อยู่ในชุดราตรีหลากสีกำลังเพลิดเพลินอยู่ข้างริมสระ ใบหน้าอิ่มเอมบอกถึงความสุขที่ได้ปลดปล่อยหลังจากที่โหมงานหนักมาทั้งปี หากจะมีคนที่กำลังอมทุกข์ คนคนนั้นก็คงเป็นฉันแค่เพียงคนเดียว
บอกตามตรงว่ากังวลกับแผนที่เตรียมไว้จนนอนไม่หลับ ถึงแม้ยัยไอรินจะกำชับว่าหากใจไม่ถึงก็ห้ามทำ แต่ฉันกลับยังรู้สึกลังเลไม่เลิก มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่อยู่ภายในโซนชงเครื่องดื่มแล้ว
“พอแล้วมั้งลิสา ออกไปสนุกกับคนอื่นกันเถอะ”
พี่ฟ้าที่เข้ามาช่วยจัดเครื่องดื่มหันมาบอกฉัน ที่จริงแล้วตำแหน่งนี้มีพนักงานที่จ้างมาคอยบริการอยู่แล้ว แต่เกิดเหตุขัดข้องนิดหน่อย พี่ฟ้ารู้สึกไม่ทันใจ เลยจูงแขนฉันเข้ามาชงเองเสียเลย
“ได้ค่ะ งั้นหนูขอชงแก้วนี้ให้เสร็จก่อนนะ กำลังสนุก”
พี่ฟ้าแกเคยทำงานในร้านเหล้าช่วงมหาวิทยาลัย ถึงได้ถนัดเรื่องแบบนี้ ฉันที่เป็นน้องรักในที่ทำงานจึงได้รับอานิสงส์ไปด้วย
“รีบชงให้เสร็จแล้วรีบขึ้นไปหาคุณเหมันต์นะ อย่าให้เขารอนาน เดี๋ยวโดนดุอีก”
“จะเสร็จแล้วค่ะ”
“งั้นพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“ได้ค่ะ”
พี่ฟ้าหันหลังเดินออกไปได้ไม่นานฉันก็ชงเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายเสร็จ แต่จังหวะที่ยกถาดเครื่องดื่มขึ้นมาถือ ฉันก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ทำไมทุกอย่างมันถึงดูเป็นใจขนาดนี้ เพราะฉันกำลังอยู่ในห้องชงเหล้าแค่เพียงลำพัง โดยที่ห้องนี้ยังไม่มีกล้องวงจรปิด และแก้วที่อยู่ตรงหน้าฉันคือแก้วเหล้าของคุณเหมันต์...
“เอาไงดี...”
ฉันเม้มปากเล็กน้อย เริ่มใช้ความคิดอย่างหนัก ก่อนจะวิ่งไปส่องดูที่หน้าประตู พบว่าไม่มีใครเดินผ่านแถวนี้เลย ฉันไม่คิดว่าทางจะสะดวกขนาดนี้
“เอาวะ ไหน ๆ โอกาสก็มาแล้ว”
ที่จริงฉันล้มเลิกความตั้งใจไปแล้วละ เพราะไม่คิดว่าจะหาโอกาสที่เหมาะเจาะขนาดนี้ได้ เมื่อโอกาสมาถึงขนาดนี้ ก็ต้องลองดูมันสักตั้ง
มือที่สั่นเทาล้วงหยิบซองยาออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะแกะแคปซูลแล้วนำมาชงใส่แก้วเหล้าที่อยู่ตรงหน้า ลองดมดูมันไม่มีกลิ่นอย่างที่ยัยไอรินบอกจริง ๆ เมื่อคนให้มันเข้ากันก็กลมกลืนไม่ทิ้งร่องรอย ฉันแอบนึกสงสัยในรสชาติ คิดว่าคงไม่เป็นอะไรหากจะลองเองสักอึกหนึ่ง พอลองจิบเข้าไปแล้วก็พบกับความปกติทุกอย่าง
“โห ไอ้ยานี้มันเนียนได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย”
“เอ้า ยังไม่เสร็จอีกเหรอ”
ฉันรีบวางแก้วลงอย่างลุกลี้ลุกลนตามประสาคนมีความผิด แต่ก็พยายามแสร้งยิ้มเจื่อน ๆ กลบเกลื่อนพิรุธนี้ไว้
“สะ เสร็จแล้วค่ะ”
“ปะ ออกไปข้างนอกกัน เดี๋ยวอีกหน่อยพนักงานก็เข้ามาประจำจุดนี้แล้ว”
“ได้ค่ะพี่ฟ้า งั้นพี่ฟ้าเข้าไปสนุกก่อนเลยนะคะ หนูจะเอาเครื่องดื่มขึ้นไปให้คุณเหมันต์ จะไปคุยเรื่องงานประมูลเพชรด้วย”
“มาทำงานแท้ ๆ ไม่รู้จะหอบงานมาให้เราทำทำไม คุณเหมันต์นี่ก็แปลกคน”
พี่ฟ้าส่ายหัวอย่างปลง ๆ แต่ก็บ่นได้เพียงเท่านี้แล้วขอตัวแยกไปหาคนอื่น ๆ ส่วนฉันก็ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดของโรงแรม เพื่อคุยรายละเอียดงานที่คุยค้างเอาไว้กับคุณเหมันต์ เขาไม่ยอมลงมาที่ชั้นล่างเลย เห็นบอกว่าไม่ชอบเสียงดัง เพราะมันทำให้เขาคิดงานไม่ออก มาเที่ยวแท้ ๆ ยังจะมานั่งทำงานอีก เมื่อไหร่จะเลิกเห่อตำแหน่งเนี่ย
ก๊อก ๆ
“ขออนุญาตค่ะ”
ฉันเดินเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง แล้วยืนรออยู่สักพัก เพียงไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกโดยเจ้าของห้อง
เขาอยู่ในชุดลำลองธรรมดา ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม บ่งบอกว่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จ นี่ตั้งใจจะไม่ลงไปแจมกับคนอื่น ๆ จริง ๆ เหรอ?
“เครื่องดื่มค่ะคุณเหมันต์”
ฉันยิ้มกว้างแม้ภายในใจจะเริ่มประหม่าจนหน้าเจื่อน แล้วเดินไปวางถาดเครื่องดื่มลงบนโต๊ะที่มีโน้ตบุ๊กของเขาเปิดไว้อยู่
“ยกมาซะเยอะเลย จะเอามามอมฉันหรือไง”
“ปะ เปล่านะคะ”
ฉันส่ายหน้าพัลวันพลางโบกไม้โบกมือด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ยิ่งทำแบบนี้ อีกฝ่ายก็ยิ่งเพ่งมองฉันด้วยสายตาแปลกขึ้น
“ฉันก็แซวไปแบบนั้น ไม่ได้จริงจังสักหน่อย”
คนร่างใหญ่ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ ก่อนจะหันหน้าจอโน้ตบุ๊กมาให้ฉันดู
“ฉันอยากได้ตัวอย่างแบบนี้ เพียงแค่เปลี่ยนธีมเป็นสีแดง มันจะได้เข้ากับช่วงตรุษจีนด้วย”
“ได้ค่ะ”
ฉันพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจด แต่จังหวะควักโทรศัพท์ออกมา กลับเผลอทำซองยาหล่นลงพื้น จึงรีบก้มลงเก็บใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็ว คุณเหมันต์ก็ดูจะมองเห็นเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้ใส่ใจ ถือว่าโชคดีไป
“พรมทางเข้าผมขอแบบนี้เลย แต่ตัดดอกไม้ตรงนี้ออก มันดูไม่เข้ากัน”
“ได้ค่ะ”
ฉันเตรียมจะเขียนรายละเอียดใส่โทรศัพท์มือถือไว้ เพราะไอแพดอยู่ในห้อง ไม่ได้พกติดตัวมาด้วย แต่ยังไม่ทันที่จะเขียนรายละเอียดเสร็จ หน้าจอก็โชว์เบอร์ของเพื่อนสนิท ฉันจึงรีบตัดสายทิ้ง
“ตรงนี้ผมขอเอาภาพที่คุณส่งมาครั้งสุดท้าย ใส่ตรง...”
อีกฝ่ายชะงัก เพราะเสียงมือถือของฉันดังขึ้นมาขัดอีกครั้ง และปลายสายก็ยังคงเป็นยัยไอรินอีกเช่นเคย โทรมาเช็กงานอะไรตอนนี้เนี่ย
“ขะ ขอโทษค่ะ”
ฉันเอ่ยขอโทษอย่างละล่ำละลัก เพราะสีหน้าของคุณเหมันต์เริ่มแสดงออกถึงความไม่พอใจแล้ว
ยังไม่สะดวก ตอนนี้กำลัง...
ฉันพิมพ์ข้อความเตรียมส่งกลับไปในช่องแชตของยัยไอริน ทว่ากลับต้องชะงัก เพราะยัยนั่นชิงส่งข้อความเข้ามาก่อน แถมใจความที่ส่งเข้ามา ยังทำให้ฉันตาโตแทบถลน
(ยกเลิกแผนด่วน! ยานั่นไม่ใช่ยานอนหลับ ฉันสลับซองกับยาปลุกเซ็กซ์ที่ตั้งใจเอาไว้แกล้งไอ้คุณราชันย์)
เพียงแค่เงยหน้าขึ้นด้วยใจที่เต้นระส่ำ หัวใจฉันก็ร่วงตกไปที่ตาตุ่ม เพราะตอนนี้คุณเหมันต์กำลังกระดกแก้วนั้นเข้าปากแล้ว
“คุณเหมันต์คะ!”
จังหวะที่สติหลุด ฉันคิดอะไรไม่ออกจริง ๆ นอกจากกระชากเหล้าแก้วนั้นออกจากปากคุณเหมันต์ให้เร็วที่สุด โชคดีที่เขาเพิ่งยกขึ้นดื่มได้ยังไม่ถึงครึ่งแก้วด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังจ้องฉันตาเขียวปั๊ด จะโดนไล่ออกก็งานนี้แหละ
“คะ คือแก้วนี้เป็นแก้วของฉันเองค่ะ ฉันดื่มไปแล้ว นี่ไงคะ รอยลิปสติก”
ฉันเพ่งมองไปเห็นรอยลิปสติกจาง ๆ ติดอยู่ขอบแก้วพอดี น่าจะเป็นตอนที่ลองชิมแล้วไม่ระวัง
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ถือ”
เขาว่าพลางเอื้อมมือเข้ามา หมายจะคว้าแก้วไปอีกรอบ ฉันจึงต้องกำจัดเหล้าในแก้วนี้ให้เร็วที่สุด โดยการ...
อึก ๆ ๆ
“อะไรของเธอเนี่ย?”
คนร่างหนาแสดงออกถึงความไม่พอใจ พร้อมกับกอดอกมองฉันที่เพิ่งกระดกเหล้าเข้าปากไปจนหมด จริง ๆ ฉันควรแกล้งทำหก แต่ฉันดันคิดไม่ทัน ก็คนมันลนลานนี่
“ขอโทษค่ะ”
ฉันเอาแต่ผงกหัวแล้วกล่าวขอโทษซ้ำ ๆ เพราะไม่มีอะไรจะแก้ตัวแล้ว ไอ้ยานี่ก็ไม่รู้จะออกฤทธิ์ตอนไหน ฉันคงต้องรีบเคลียร์งานแล้วขังตัวเองในห้องแล้วละ