“คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ” เสียงใสเอ่ยขึ้นพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งแกะฝ่ามือหนาของคนตัวโตกว่าออกจากแขนของเธอ ทว่าเรี่ยวแรงที่มีตอนนี้ก็ไม่อาจแกะมือที่เหนียวยิ่งกว่าปลาหมึกของคามินออกไปได้
“เมื่อกี้ยังเรียกผมว่าที่รักอยู่เลย ตอนนี้เรียกคุณซะแล้ว” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฎขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัด จนทำเอาหัวใจดวงน้อยๆของนับดาวเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง
ถ้ารู้ว่าเขาจะอุ้มเธอเข้ามาในห้องนี้ เธอก็คงไม่คิดวิธีแกล้งเขาแบบนี้ตั้งแต่แรก
“เมื่อกี้ฉันก็แค่ อำคุณเล่นเฉยๆเอง” เธอก็แค่เกิดความหมั่นไส้ ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้จะฮอตปรอทแตกไปถึงไหน
ยิ่งเมื่อกี้ตอนที่ได้ยินพวกผู้หญิงกลุ่มนั้นพูดกันก็ยิ่งหมั่นไส้เข้าไปใหญ่ เธอก็เลยอยากแกล้งไง แต่ไม่คิดว่าเขาจะถึงขั้นอุ้มเธอขึ้นมายังบนชั้นสามนี้จริงๆ
แล้วที่น่าตกใจคือบนนี้มีห้องพักขนาดใหญ่อยู่ด้วย
“เผอิญว่าผมไม่ใช่คนเล่นๆด้วยสิครับ ยิ่งสวยๆแบบคุณ ผมก็ยิ่ง….จริงจัง” ชายหนุ่นเอ่ยขึ้นพร้อมกับดึงร่างบางเข้าไปใกล้ตัวเองมากกว่าเดิม มากซะจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน
และก็เป็นอีกครั้งที่เธอทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นมา เต้นแรงชนิดที่ว่าถ้าออกมาเต้นข้างนอกได้ มันคงจะออกมาเต้นไปแล้ว
สายตาคมเอาแต่จ้องมองใบหน้างดงามของหญิงสาวตรงหน้าอย่างหลงใหล เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กอ้วนๆตัวดำๆ ที่ชอบเอาแต่วิ่งไล่ตามเขาเมื่อสิบปีก่อน โตมาแล้วจะสวยขนาดนี้
สวยชนิดที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะทุกทีที่ได้สบสายตา
แล้วยิ่งได้อยู่ใกล้ขนาดนี้ อวัยวะที่เป็นก้อนๆในอกด้านซ้ายก็แทบจะทะลุออกมาเต็มที
“ที่คุณบอกว่าจริงจังนี่...เรื่องไหนเหรอคะ?” เสียงใสเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างต้องการคำตอบ เธอสบตาเขาโดยที่ไม่ยอมละสายตาไปไหน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแอลกอร์ฮอร์ที่ดื่มเข้าไปหรือเปล่าที่ทำให้เธอใจกล้าขนาดนี้
จากที่ตอนแรกคิดอยากจะหนีออกจากห้องนี้เต็มที แต่ตอนนี้เธอกลับเปลี่ยนใจ
“เรื่องของเราสองคนไง”
“เรื่องอะไรคะ?”
“ที่บอกว่าจะจีบคุณ ผมพูดจริงนะ”
“ที่ฉันบอกว่าไม่ชอบคนกะ…อื้อออ”
O.O
คำพูดสุดท้ายถูกกลืนหายลงไปในลำคอนทันทีหลังจากที่ริมฝีปากหนาของคนตัวโตกว่าประทับลงบนริมฝีปากบางของนับดาว เขาใช้มือข้างหนึ่งจับท้ายทอยของเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอได้ขยับหนีไปไหน
ก่อนจะค่อยๆขบเม้มริมฝีปากอย่างละเมียดละไม จนร่างบางเผยอปากออกจากกัน ทำให้คามินนั้นสอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปตักตวงเอาความหอมหวานจากโพรงปากของเธอ
กลิ่นของแอลกอฮอล์ที่ผสมปนเปไปกับกลิ่นลิปสติกที่อยู่บนริมฝีปากบาง ยิ่งทำให้คามินบดขยี้จูบเธอแรงยิ่งกว่าเดิม แรงซะจนร่างบางถึงกับหลุดเสียงครางในลำคอออกมา
ปึกปึกปึก!!
เสียงกำปั้นน้อยๆของหญิงสาวทุบลงบนแผงอกแกร่งของชายหนุ่มเจ้าของความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดเซ็นติเมตร หลังจากที่เธอเริ่มรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ
เพราะจูบของเขามันร้อนแรงเกินไป ร้อนแรงซะจนร่างกายของเธอเริ่มจะต้านทานไม่ไหว
นานนับหลายนาทีที่คามินช่วงชิงเอาลมหายใจของนับดาวไป ก่อนจะยอมผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากของเธออย่างอ้อยอิง แล้วกระซิบไปที่ข้างกกหูของเธอเสียงแผ่ว
“คนแก่อย่างพี่ เอวดีนะบอกเลย”
พลั่ก!!
สิ้นเสียงของชายหนุ่ม ร่างบางก็ใช้เรี่ยวแรงที่มีทั้งหมด ผลักเขาให้ออกห่างจากตัวของเธอ ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องนี้ไป ด้วยหัวใจที่เต้นแรงมากกว่าเดิม
ส่วนคามินเองก็ได้แต่มองตามแผ่นหลังของร่่างบางที่วิ่งออกไป พร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าคืนนี้เขาเผลอยิ้มให้กับนับดาวไปกี่ครั้ง แต่ทุกๆครั้งเขารู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
@คอนโดนับดาว 10.30 น.
“เดี๋ยวค่ะ รอฉันด้วย” ฉันตะโกนไปทางประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิดลง ก่อนจะรีบลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ภายในบรรจุพวกเสื้อผ้าและของใช้ต่างๆ ที่ขนมาจากบ้าน เข้าไปด้านในที่ตอนนี้มีคนยืนอยู่ประมาณสามถึงสี่คน
“ขอบคุณค่ะ รบกวนช่วยกดชั้นสี่สิบให้ทีได้ไหมคะ” ชั้นสี่สิบที่ว่าเป็นชั้นสุดท้ายของคอนโดหรูใจกลางเมืองแห่งนี้ ซึ่งเป็นชั้นที่แม่ซื้อห้องชุดเอาไว้ในราคาเกือบสิบห้าล้านเห็นจะได้ และตอนนี้ฉันก็กำลังจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่อย่างถาวร
ใช้เวลาไม่นานฉันก็ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดของคอนโดนี้ ก่อนที่จะลากกระเป๋าแล้วเดินตรงไปยังห้องพักของตัวเอง อยากจะบอกเหลือเกินว่าทั้งชั้นมีแค่สองห้องเท่านั้น นั่นก็คือห้องของฉัน กับอีกห้องหนึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่าเจ้าของเป็นใคร แต่ฉันก็ตั้งใจว่าถ้าเก็บของเข้าที่เข้าทางเสร็จเมื่อไหร่ ฉันจะไปทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านเอาไว้ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินอะไรจะได้ขอความช่วยเหลือเอาไว้ได้ทัน
และในขณะที่ฉันกำลังจะใช้คีย์การ์ดเปิดห้องพักของตัวเองนั้น จู่ๆเสียงบานประตูห้องพักที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็ดังขึ้นมา ก่อนจะตามมาด้วยเสียงผู้ชายที่ฉันรู้สึกว่าคุ้นหูเอามากๆ
“ครับแม่ ผมรู้แล้วครับ นี่ก็กำลังจะไปแล้วครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมขับรถก่อน”
ฉันแทบอยากจะหยุดหายใจหรือไม่ก็หายตัวไปจากตรงนี้หลังจากที่ฉันหันไปสบตาเข้ากับใครบางคนพอดิบพอดี ใครบางคนที่เพิ่งจะเปิดประตูออกมา และใครบางคนที่ว่าคือผู้ชายที่ขโมยจูบแรกของฉันไปเมื่อหลายวันก่อน
พี่คามิน!!
ใช่เขาจริงๆ ฉันไม่ได้ฝันไป นี่อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้
“นับดาว” เขาเองก็ดูเหมือนจะตกใจที่เจอฉันเหมือนกัน เพราะตอนนี้สายตาของเขานั้นมองฉันสลับกับกระเป๋าบานใหญ่ไปมา
“คุณพักอยู่ห้องนี้เหรอคะ?” ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ก็เลยเลือกที่จะถามคำถามที่ตัวฉันเองก็น่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้วออกไป
“ครับ แล้วนี่....”
“พอดีแม่ให้ฉันย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ค่ะ บังเอิญจังเลยนะคะ” ฉันทำตัวเหมือนตัวเองปกติดีทุกอย่าง ทั้งๆที่ภายในใจมันจะไม่ปกติก็ตาม เพราะว่าตอนนี้ อวัยวะภายในอกด้านซ้ายของฉันมันกำลังเต้นแรงมากขึ้นทุกที เต้นแรงพอๆกับคืนนั้นที่ฉันวิ่งหนีเขาออกมา
“ผมว่ามันไม่ใช่ความบังเอิญหรอกนะ แต่เป็นเพราะพรหมลิขิตมากกว่าที่ทำให้เราสองคนได้มาอยู่ใกล้กัน”