เสียงรถสปอร์ตคันคุ้นเคยแล่นเข้ามาจอดเทียบข้างฟุตบาทหน้าอาคารคณะบริหารอย่างนุ่มนวล
เกนที่นั่งข้างๆ เอียงหน้าไปมองคีย์ ก่อนที่เธอจะยิ้มหวานให้เขา
“ลงได้แล้วครับ คุณนักศึกษา” คีย์เลิกคิ้วมองพร้อมยกมุมปากยิ้มเจ้าเล่ห์
เกนกลอกตาเล็กน้อยก่อนจะปลดเข็มขัด
“ขอบคุณที่มาส่งนะคะ” น้ำเสียงเธอเหมือนจะปกติ แต่จริงๆ ก็มีหัวใจเต้นแรงนิดหน่อย ทุกครั้งที่คีย์ทำตัวน่ารักแบบนี้
ก่อนที่เกนจะเปิดประตูลงจากรถ คีย์โน้มตัวข้ามมาหา ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้ใบหน้าหวานจนน่าหวาดเสียว
“เรียนเสร็จ เดี๋ยวพี่มารับ ห้ามปฏิเสธ ห้ามดื้อเข้าใจมั๊ย”
เกนเผลอยิ้มออกมาอย่างหมั่นใส้ในคำสั่งของเขา
“วันนี้พี่คีย์ไม่มีเรียนเหรอคะ”
“ไม่มี แต่มีอย่างอื่นที่ต้องทำ” เขาตอบสั้นๆ
แต่สายตาที่เขามองเธอกลับเหมือนจะมีความหมายมากกว่าแค่เรื่องงานหรือการบ้าน
เกนพยักหน้ารับ ก่อนลงจากรถไป เธอเดินเข้าไปในรั้วคณะ ขณะที่สายตาหลายคู่หันมามองเธออย่างสนใจ
ไม่ใช่เพราะสนใจเธอเพียงอย่างเดียว แต่เพราะชายหนุ่มในรถสปอร์ตที่เพิ่งมาส่งเธอต่างหาก
ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าเจ้าของรถหรูคันนี่คือ “คีย์” เจ้าพ่อวิศวะสุดหล่อ
“ยัยเกน! ทางนี้!” เสียงอิงฟ้าร้องเรียกจากม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าตึกเรียน
“โห ดูหน้าแกดิ ยิ้มไม่หุบเลยนะ” มายด์แซวทันทีที่เพื่อนรักเดินมาถึง
เกนหัวเราะแล้ววางกระเป๋าลง “เว่อร์น่า”
“เว่อร์ที่ไหน ฉันเห็นหมดนะว่าเมื่อกี้ใครมาส่ง” อิงฟ้าทำเสียงล้อเลียน
“แล้วก็อย่าคิดว่าฉันไม่เห็นตอนที่พี่คีย์โน้มหน้ามาใกล้ๆ”
เกนหน้าแดงขึ้นทันที เธอส่ายหน้าเบาๆ พยายามทำหน้าปกติ แต่แก้มกลับขึ้นสีชัดเจน
“พวกแกก็ชอบคิดไปเอง”
ทั้งสามนั่งคุยกันไม่นาน เสียงโทรศัพท์ของมายด์ก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดูแล้วเลิกคิ้ว
“เอ๊ะ ข่าวลือมาแล้วเว้ย”
“ข่าวลืออะไร” เกนหันไปถาม
มายด์ยื่นหน้าจอให้ดู เป็นโพสต์ในเพจแฟนคลับทีมแข่งรถของพี่คีย์
[Patricia K กลับมาไทยแล้ว เตรียมเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ให้ทีม!]
เกนขมวดคิ้ว “แพทริเซีย…?”
อิงฟ้ารีบเสริม “อดีตแฟนพี่คีย์ไง ยัยนี่ทั้งสวย ทั้งรวย บ้านเขาทำธุรกิจใหญ่ด้วยนะ”
หัวใจเกนสะดุดไปชั่วครู่ แม้จะบอกตัวเองว่าไม่ควรคิดมาก แต่ชื่อที่ไม่คุ้นหูก็ยังทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในใจ
“มายด์รีบตีนแขนอิงฟ้าทันที” เพื่อให้อิงฟ้าหยุดพูด
ทั้งสองเหลือบไปมองหน้าเกนเล็กน้อย
เกน..แกโอเคป่ะว่ะ มันไม่น่ามีอะไรหรอก พี่คีย์กับยัยแพทริเชียนั้นก็เลิกกันมาตั้งนานแล้ว
อืม…เกนตอบกลับเพื่อนแล้วยิ้มจางๆบนใบหน้า
ช่วงบ่าย คีย์ส่งข้อความมาว่าเกนจะมารับตามสัญญา เกนยืนรออยู่หน้าอาคารคณะ
ลมเย็นๆ พัดโชยผ่านมา ผมเธอปลิวเล็กน้อย
เสียงรถยนต์คันหรูขับเข้ามาจอด แต่ครั้งนี้กลับมีเสียงผู้หญิงแทรกเข้ามาในบรรยากาศ
เธอสูง เพรียว สวมเดรสเรียบหรูสีขาวครีม ใบหน้าคมสวยแบบลูกครึ่ง และดวงตาที่เหมือนมีประกายบางอย่าง
“คีย์” น้ำเสียงของเธอนุ่มนวล แต่เต็มไปด้วยความคุ้นเคย
คีย์ที่เพิ่งลงจากรถจากฝั่งโน้นชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหันไป
“แพทริเซีย…”
เกนมองภาพตรงหน้าอย่างไม่ตั้งใจให้ตัวเองจ้อง แต่กลับละสายตาไม่ได้
แพทริเซียยิ้มบางๆ ให้คีย์แล้วเอื้อมมือแตะต้นแขนเขาอย่างสนิทสนม
คีย์ไม่ได้ปัดมือออก แต่ก็ไม่ได้ยิ้มกว้าง เขาเพียงพูดสั้นๆ ว่า “มาทำอะไรที่นี่”
“พรุ่งนี้มีประชุมเรื่องสปอนเซอร์ทีมที่นี่ ฉันเลยแวะมาดูสนามก่อน” เธอตอบเรียบๆ
เกนยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว แต่คีย์ไม่ทันเห็นเธอ เกนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกในฉากนี้
ทั้งที่เมื่อเช้าเขายังบอกว่าจะมารับเธออยู่เลย ระหว่างทางกลับบ้าน
คีย์พยายามทำตัวปกติ แต่เกนสังเกตได้ว่าบรรยากาศในรถเงียบกว่าที่ผ่านมา
เขาไม่พูดถึงแพทริเซียแม้แต่นิดเดียว เกนเองก็เลือกจะไม่ถามอย่างน้อยก็ในตอนนี้
แต่ในใจของเกน ชื่อ “แพทริเซีย” กลับติดอยู่ในหัว ราวกับเป็นประกายไฟเล็กๆ ที่อาจลุกลามเป็นพายุในไม่ช้า
เธอสูดหายใจลึกก่อนจะหันไปมองนอกกระจกรถ แสงไฟริมถนนระยิบระยับอยู่ข้างแก้ม ที่เริ่มเย็นชาโดยไม่รู้ตัว
“พี่คีย์คะ วันนี้เกนขอกลับคอนโดเกนนะคะ” น้ำเสียงเธอฟังดูปกติ แต่หัวใจกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ
คีย์เหลือบมองเพียงเสี้ยววินาที “ทำไมล่ะ ปกติก็กลับคอนโดพี่นี่”
“คือ…วันนี้มีรายงานที่เกนต้องทำส่งอาจารย์อ่ะค่ะ” เธอยิ้มบางๆ พยายามไม่ให้ดูเหมือนกำลังหนี
ปกติแล้ว ต่อให้เธอมีงานล้นมือ คีย์ก็จะพยายามพาเธอไปทำที่คอนโดเขาเสมอ
เขาอ้างว่าจะได้ไม่ต้องห่างกัน แต่ครั้งนี้เขากลับเพียงพยักหน้า
“อืม ก็ได้” แล้วไม่พูดอะไรต่อ
หัวใจเกนกระตุกเล็กน้อย ความเงียบที่ตามมาระหว่างทั้งคู่ในรถไม่เหมือนทุกครั้ง
มันไม่ใช่ความสบายใจเงียบๆ แบบเดิม แต่เหมือนมีบางอย่างที่ทั้งคู่กำลังหลบเลี่ยงจะพูดออกมา
เกนหันไปมองใบหน้าคมเล็กน้อย หวังนิดๆว่าเขาจะพูดอะไรออกมา แต่ก็ไร้วี่แวว
เส้นกรามของเขาขึงตึง ดวงตาเหม่อมองถนนข้างหน้า ไม่แม้แต่จะปรายตามามองเธอเหมือนเคย
บรรยากาศที่เย็นลงอย่างไม่มีสาเหตุ กลับทำให้เกนรู้สึกหน่วงในอกยิ่งกว่าเดิม
เมื่อรถสปอร์ตสีดำเลี้ยวเข้ามายังคอนโดของเกน ไฟสว่างจากโถงล็อบบี้สะท้อนเงาทั้งคู่ผ่านกระจกหน้ารถ
คีย์ดับเครื่อง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจาก “ถึงแล้วครับ”
เกนคลี่ยิ้มบางๆ “ขอบคุณนะคะ” เธอปลดเข็มขัดนิรภัย รวบกระเป๋าขึ้นมากอด
แต่ก่อนจะเปิดประตูลง คีย์ก็เอ่ยขึ้นเสียงทุ้มต่ำ
“นอนเร็วๆ หน่อยนะ อย่าหักโหม”
“ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ แล้วลงจากรถ
ประตูปิดลง คล้ายเป็นเส้นแบ่งขนายใหญ่ระหว่างความใกล้ชิดและความห่างไกลที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
คีย์มองตามร่างบางที่เดินเข้าไปในคอนโดอย่างเงียบๆ พลางถอนหายใจเบาๆ
เหมือนเขากำลังกังวัลอะไรสักอย่าง ที่เขายังไม่กล้าพูดออกมา
เกนขึ้นลิฟต์มาถึงห้องของตัวเอง เธอถอนหายใจยาว เหมือนปล่อยน้ำหนักทั้งวันลงไปกับโซฟา
เธอพยายามไล่ความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมอออกจากหัว แต่ดวงตากลับเผลอจ้องไปที่โทรศัพท์ในมือ
นิ้วโป้งเลื่อนหน้าจออย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งโพสต์เก่าๆ ในโซเชียลก็เด้งขึ้นมาเป็น
“ความทรงจำเมื่อ 2 ปีก่อน”
รูปถ่ายคีย์ในชุดสูทเนี๊ยบ ยืนคู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง สวย หรู สง่า
และที่สำคัญผู้หญิงคนนั้นคือเธอ…แพทริเซีย
รอยยิ้มของทั้งคู่ในรูปดูสนิทเกินกว่าคำว่าเพื่อนหรือคนรู้จัก
หัวใจเกนกระตุกทันที เหมือนภาพนั้นกดซ้ำลงบนความไม่สบายใจที่ฝังอยู่แล้วตั้งแต่ตอนเย็น
ข้อความแคปชันใต้ภาพที่ใครบางคนเคยเขียนไว้ก็ยิ่งตอกย้ำ “Power Couple ของวงการธุรกิจ”
เธอวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะแรงกว่าปกติ แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก แต่ก็ไล่ความรู้สึกขุ่นในอกไม่ออกสักที
ภาพรอยยิ้มของคีย์ในรูปกับแพทริเซียยังคงวนอยู่ในหัวไม่หยุด คืนนี้ คงไม่ง่ายที่เกนจะข่มตาหลับ