ห้องประชุมกระจกบนชั้น 42 ของตึกสูง
กลางเมืองเพิ่งปิดประชุมใหญ่จบลงไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
แสงอาทิตย์ช่วงบ่ายสะท้อนผ่านผนังกระจกใสเข้ามา เผยให้เห็นทิวทัศน์ตึกระฟ้าเบื้องล่างอย่างงดงาม
บนโต๊ะยาวรูปวงรี หนึ่งในนักธุรกิจต่างชาติผู้เป็นลูกค้าคนสำคัญของโครงการอสังหาฯ มูลค่าหลายพันล้าน กำลังยิ้มด้วยความพึงพอใจเต็มใบหน้า
“ผมต้องขอชมเลยนะครับ... คุณทั้งสองเป็นสามีภรรยาที่เหมาะสมกันมากจริงๆ”
สิรณัฐกับวราลีสบตากันชั่ววินาที ก่อนจะหันไปยิ้มให้ลูกค้าพร้อมกัน รอยยิ้มจืดๆ แต่พยายามแต่งแต้มความอบอุ่นปลอมๆ ใส่เข้าไป
“ขอบคุณครับ / ค่ะ”
ทั้งคู่พูดพร้อมกันราวกับการประสานเสียง
ลูกค้าหัวเราะร่วนอย่างพอใจ พลางพูดเสริมขึ้นอีก
“ความจริงใจของพวกคุณตอนอยู่ด้วยกันมันชัดมากนะครับ... มันทำให้ผมมั่นใจว่าโปรเจกต์นี้จะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน”
สิรณัฐเอื้อมแขนโอบเอววราลีไว้หลวมๆ ราวกับคู่สามีภรรยาที่รักกันมาก
วราลีสะดุ้งเล็กน้อย และพยายามขืนตัวออกโดยอัตโนมัติ แต่เสียงกระซิบชิดหูจากชายข้างตัวทำให้หล่อนชะงักไป
“อยากให้ดีลล่มหรือไง?”
น้ำเสียงของเขาเบาแต่อัดแน่นไปด้วยแรงกดดัน
วราลีกัดฟันแน่น ก่อนจะปรับสีหน้ายิ้มให้เหมือนคนมีความสุขที่สุดในชีวิต
ลูกค้าหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง พลางตบมือเบาๆ
“ดีลนี้ผมสบายใจแล้วครับ และคืนนี้... ขออนุญาตชวนคุณทั้งสองท่านไปร่วมงานวันเกิดของภรรยาผมที่จัดบนเรือยอร์ชส่วนตัวด้วยนะครับ”
สิรณัฐกับวราลีรีบส่ายหน้าแทบพร้อมกัน แต่ลูกค้าไม่ยอม
“ไม่ต้องเกรงใจครับ ผมเข้าใจว่าคงเหนื่อยกัน แต่... ผมอยากจะพูดคุยรายละเอียดบางอย่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับดีลนี้เพิ่มด้วยน่ะครับ”
คำพูดของลูกค้านั้นฟังดูสุภาพ แต่แรงกดดันแฝงอยู่ชัดเจน ทำให้สิรณัฐและวราลีไม่มีทางเลือก นอกจากยิ้มรับอย่างเสียไม่ได้
“ด้วยความยินดีครับ / ค่ะ”
ลูกค้าพยักหน้าพอใจ ก่อนจะจับมือทั้ง
คู่แน่นๆ และเดินออกจากห้องไปพร้อมทีมงานของเขา
ทันทีที่ประตูกระจกปิดลง...
สิรณัฐกับวราลีก็กระโดดถอยห่างจากกันแทบจะพร้อมกัน
“นายมาแตะต้องฉันอีกแล้วนะ!”
วราลีเสียงเขียว ใบหน้าขึ้นสีด้วยความโกรธ
“มันก็แค่การแสดง อย่าคิดมากน่ะ”
สิรณัฐตอบกลับด้วยเสียงนิ่งๆ เหมือนไม่ใส่ใจ
“แต่การแสดงของนาย มันทำให้ฉันเสียหายนะ!”
“ฉันก็เสียหายเหมือนกัน! ใครอยากโอบเอวคนที่กัดฉันทุกครั้งที่อ้าปากล่ะ?”
ทั้งคู่จ้องหน้ากันฟึดฟัด ก่อนจะสะบัดหน้าไปคนละทาง
วราลีเดินออกจากห้องประชุมทางซ้าย ในขณะที่สิรณัฐหมุนตัวกลับขวา
เหล่าพนักงานที่ยืนอยู่หน้าห้องประชุมมองภาพนั้นแล้วถอนหายใจเบาๆ ราวกับเพิ่งดูละครน้ำเน่าหลังข่าวจบไปอีกหนึ่งตอน
บนดาดฟ้าของเรือยอร์ชสุดหรู ที่กำลังลอยอ้อยอิ่งอยู่กลางทะเลยามเย็น
แสงอาทิตย์สีส้มทองค่อยๆ ลากเส้นผ่านโค้งขอบฟ้า เงาสะท้อนบนผิวน้ำระยิบระยับราวกับเพชรนับล้านเม็ดที่กระจายอยู่รอบลำเรือ
เสียงดนตรีแจ๊สเบาๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะของแขกในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของภรรยาลูกค้าคนสำคัญ
โต๊ะจัดเรียงไว้อย่างหรูหรา บาร์แชมเปญตั้งตระหง่านกลางลานดาดฟ้า พร้อมป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า
“Happy Birthday Miranda”
งานนี้ไม่ได้เป็นเพียงปาร์ตี้ธรรมดา แต่มันคือจังหวะสำคัญของการเจรจาธุรกิจครั้งใหญ่
ลูกค้าคนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเซ็นสัญญากับบริษัท ทำให้สิรณัฐและวราลีต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่
สิรณัฐอยู่ในชุดสูทลำลองสีครีม ดูสบายตาแต่ยังคงความหล่อเนี้ยบราวกับเทพบุตร
วราลีอยู่ในเดรสเปิดไหล่สีทองแชมเปญ แสงไฟสะท้อนผิวผ้าซาตินอ่อนแวววาว และแค่ก้าวขึ้นเรือมา หล่อนก็ดูเหมือนดึงแสงอาทิตย์ให้หยุดที่หล่อนเพียงคนเดียว
สิรณัฐเหลือบตามอง โดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะชะงัก เพราะวราลีในชุดนี้ช่างน่ามองเหลือเกิน สวยจนเขาตะลึงไปชั่วขณะ
เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ควบคุมตัวเอง ก่อนจะเดินเคียงข้างกับวราลีตรงไปยังเวทีที่จัดไว้สำหรับต้อนรับแขกคนสำคัญ
ลูกค้าหันมาหาทันทีที่เห็นพวกเขาปรากฏตัวขึ้น
“ยินดีต้อนรับคู่รักสุดสมบูรณ์แบบที่สุดในค่ำคืนนี้ครับ”
วราลียิ้มตอบแบบที่ซ้อมมาก่อนล่วงหน้า
“เรารู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะ ที่ได้รับโอกาสนี้ค่ะ”
“ภรรยาของผมดีใจมากเลยนะครับ ที่คุณสองคนมาร่วมงานในค่ำคืนนี้ครับ” ลูกค้าพูดเสริมด้วยรอยยิ้ม
สิรณัฐยิ้มบางๆ แล้วขยับมือโอบเอววราลีเอาไว้ ซึ่งก็เป็นจังหวะที่กล้องจากทีมงานสื่อมวลชนหันมาพอดี
หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้หลบ เสียงกระซิบของเขาก็ดังขึ้นเบาๆ ที่ข้างหู
“อยากให้ดีลนี้หลุดไหมล่ะ...คุณเมีย?”
วราลีกัดฟันในใจ แต่ยิ้มต่อได้อย่างแนบเนียนแบบมืออาชีพ
“คืนนี้จะมีเกมเล็กๆ บนเวทีด้วยนะครับ” ลูกค้าพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นและอารมณ์ดี
“ผมอยากให้พวกคุณร่วมเล่นด้วยกันครับ”
สิรณัฐพยักหน้าแทบจะทันที
“ด้วยความยินดีครับ”
วราลีหายใจเข้าลึก ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมกับรอยยิ้ม
ซึ่งกล้องก็หันมาหาพวกเขาอีกครั้ง สิรณัฐจึงไม่พลาดโอกาส เขายื่นมือมากุมมือเล็กของวราลีเอาไว้แน่น
ฝ่ามือเขาอุ่นเกินไป
และวินาทีที่เขากดมือแนบแน่น...
หัวใจของหล่อนก็เต้นแรงเหมือนเครื่องยนต์เรือที่เร่งสปีด
“ปล่อยได้แล้วมั้ง?” หล่อนกระซิบเบาๆ
“ยัง...กล้องยังอยู่”
เสียงเขาแนบชิดข้างแก้มนวลของหล่อน
“แล้วอีกอย่าง... เธอก็ไม่ได้พยายามดึงมือออกเลยนี่?”
คำพูดนั้นทำเอาวราลีหน้าร้อนผ่าว ก่อนจะสะบัดมือออกแรงๆ ทันที
สิรณัฐหัวเราะเบาๆ ในลำคอ แต่ความรู้สึกในอกของเขากลับไม่ได้เบาเลยสักนิด เพราะมันทั้งหนักอึ้งและร้อนรุ่มแปลกๆ