ตอนที่ 8

1071 คำ
ห้องประชุมกระจกบนชั้น 42 ของตึกสูง กลางเมืองเพิ่งปิดประชุมใหญ่จบลงไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แสงอาทิตย์ช่วงบ่ายสะท้อนผ่านผนังกระจกใสเข้ามา เผยให้เห็นทิวทัศน์ตึกระฟ้าเบื้องล่างอย่างงดงาม บนโต๊ะยาวรูปวงรี หนึ่งในนักธุรกิจต่างชาติผู้เป็นลูกค้าคนสำคัญของโครงการอสังหาฯ มูลค่าหลายพันล้าน กำลังยิ้มด้วยความพึงพอใจเต็มใบหน้า “ผมต้องขอชมเลยนะครับ... คุณทั้งสองเป็นสามีภรรยาที่เหมาะสมกันมากจริงๆ” สิรณัฐกับวราลีสบตากันชั่ววินาที ก่อนจะหันไปยิ้มให้ลูกค้าพร้อมกัน รอยยิ้มจืดๆ แต่พยายามแต่งแต้มความอบอุ่นปลอมๆ ใส่เข้าไป “ขอบคุณครับ / ค่ะ” ทั้งคู่พูดพร้อมกันราวกับการประสานเสียง ลูกค้าหัวเราะร่วนอย่างพอใจ พลางพูดเสริมขึ้นอีก “ความจริงใจของพวกคุณตอนอยู่ด้วยกันมันชัดมากนะครับ... มันทำให้ผมมั่นใจว่าโปรเจกต์นี้จะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน” สิรณัฐเอื้อมแขนโอบเอววราลีไว้หลวมๆ ราวกับคู่สามีภรรยาที่รักกันมาก วราลีสะดุ้งเล็กน้อย และพยายามขืนตัวออกโดยอัตโนมัติ แต่เสียงกระซิบชิดหูจากชายข้างตัวทำให้หล่อนชะงักไป “อยากให้ดีลล่มหรือไง?” น้ำเสียงของเขาเบาแต่อัดแน่นไปด้วยแรงกดดัน วราลีกัดฟันแน่น ก่อนจะปรับสีหน้ายิ้มให้เหมือนคนมีความสุขที่สุดในชีวิต ลูกค้าหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง พลางตบมือเบาๆ “ดีลนี้ผมสบายใจแล้วครับ และคืนนี้... ขออนุญาตชวนคุณทั้งสองท่านไปร่วมงานวันเกิดของภรรยาผมที่จัดบนเรือยอร์ชส่วนตัวด้วยนะครับ” สิรณัฐกับวราลีรีบส่ายหน้าแทบพร้อมกัน แต่ลูกค้าไม่ยอม “ไม่ต้องเกรงใจครับ ผมเข้าใจว่าคงเหนื่อยกัน แต่... ผมอยากจะพูดคุยรายละเอียดบางอย่างเพิ่มเติมเกี่ยวกับดีลนี้เพิ่มด้วยน่ะครับ” คำพูดของลูกค้านั้นฟังดูสุภาพ แต่แรงกดดันแฝงอยู่ชัดเจน ทำให้สิรณัฐและวราลีไม่มีทางเลือก นอกจากยิ้มรับอย่างเสียไม่ได้ “ด้วยความยินดีครับ / ค่ะ” ลูกค้าพยักหน้าพอใจ ก่อนจะจับมือทั้ง คู่แน่นๆ และเดินออกจากห้องไปพร้อมทีมงานของเขา ทันทีที่ประตูกระจกปิดลง... สิรณัฐกับวราลีก็กระโดดถอยห่างจากกันแทบจะพร้อมกัน “นายมาแตะต้องฉันอีกแล้วนะ!” วราลีเสียงเขียว ใบหน้าขึ้นสีด้วยความโกรธ “มันก็แค่การแสดง อย่าคิดมากน่ะ” สิรณัฐตอบกลับด้วยเสียงนิ่งๆ เหมือนไม่ใส่ใจ “แต่การแสดงของนาย มันทำให้ฉันเสียหายนะ!” “ฉันก็เสียหายเหมือนกัน! ใครอยากโอบเอวคนที่กัดฉันทุกครั้งที่อ้าปากล่ะ?” ทั้งคู่จ้องหน้ากันฟึดฟัด ก่อนจะสะบัดหน้าไปคนละทาง วราลีเดินออกจากห้องประชุมทางซ้าย ในขณะที่สิรณัฐหมุนตัวกลับขวา เหล่าพนักงานที่ยืนอยู่หน้าห้องประชุมมองภาพนั้นแล้วถอนหายใจเบาๆ ราวกับเพิ่งดูละครน้ำเน่าหลังข่าวจบไปอีกหนึ่งตอน บนดาดฟ้าของเรือยอร์ชสุดหรู ที่กำลังลอยอ้อยอิ่งอยู่กลางทะเลยามเย็น แสงอาทิตย์สีส้มทองค่อยๆ ลากเส้นผ่านโค้งขอบฟ้า เงาสะท้อนบนผิวน้ำระยิบระยับราวกับเพชรนับล้านเม็ดที่กระจายอยู่รอบลำเรือ เสียงดนตรีแจ๊สเบาๆ คลอไปกับเสียงหัวเราะของแขกในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของภรรยาลูกค้าคนสำคัญ โต๊ะจัดเรียงไว้อย่างหรูหรา บาร์แชมเปญตั้งตระหง่านกลางลานดาดฟ้า พร้อมป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนว่า “Happy Birthday Miranda” งานนี้ไม่ได้เป็นเพียงปาร์ตี้ธรรมดา แต่มันคือจังหวะสำคัญของการเจรจาธุรกิจครั้งใหญ่ ลูกค้าคนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเซ็นสัญญากับบริษัท ทำให้สิรณัฐและวราลีต้องร่วมมือกันอย่างเต็มที่ สิรณัฐอยู่ในชุดสูทลำลองสีครีม ดูสบายตาแต่ยังคงความหล่อเนี้ยบราวกับเทพบุตร วราลีอยู่ในเดรสเปิดไหล่สีทองแชมเปญ แสงไฟสะท้อนผิวผ้าซาตินอ่อนแวววาว และแค่ก้าวขึ้นเรือมา หล่อนก็ดูเหมือนดึงแสงอาทิตย์ให้หยุดที่หล่อนเพียงคนเดียว สิรณัฐเหลือบตามอง โดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนจะชะงัก เพราะวราลีในชุดนี้ช่างน่ามองเหลือเกิน สวยจนเขาตะลึงไปชั่วขณะ เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ควบคุมตัวเอง ก่อนจะเดินเคียงข้างกับวราลีตรงไปยังเวทีที่จัดไว้สำหรับต้อนรับแขกคนสำคัญ ลูกค้าหันมาหาทันทีที่เห็นพวกเขาปรากฏตัวขึ้น “ยินดีต้อนรับคู่รักสุดสมบูรณ์แบบที่สุดในค่ำคืนนี้ครับ” วราลียิ้มตอบแบบที่ซ้อมมาก่อนล่วงหน้า “เรารู้สึกเป็นเกียรติมากค่ะ ที่ได้รับโอกาสนี้ค่ะ” “ภรรยาของผมดีใจมากเลยนะครับ ที่คุณสองคนมาร่วมงานในค่ำคืนนี้ครับ” ลูกค้าพูดเสริมด้วยรอยยิ้ม สิรณัฐยิ้มบางๆ แล้วขยับมือโอบเอววราลีเอาไว้ ซึ่งก็เป็นจังหวะที่กล้องจากทีมงานสื่อมวลชนหันมาพอดี หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้หลบ เสียงกระซิบของเขาก็ดังขึ้นเบาๆ ที่ข้างหู “อยากให้ดีลนี้หลุดไหมล่ะ...คุณเมีย?” วราลีกัดฟันในใจ แต่ยิ้มต่อได้อย่างแนบเนียนแบบมืออาชีพ “คืนนี้จะมีเกมเล็กๆ บนเวทีด้วยนะครับ” ลูกค้าพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นและอารมณ์ดี “ผมอยากให้พวกคุณร่วมเล่นด้วยกันครับ” สิรณัฐพยักหน้าแทบจะทันที “ด้วยความยินดีครับ” วราลีหายใจเข้าลึก ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมกับรอยยิ้ม ซึ่งกล้องก็หันมาหาพวกเขาอีกครั้ง สิรณัฐจึงไม่พลาดโอกาส เขายื่นมือมากุมมือเล็กของวราลีเอาไว้แน่น ฝ่ามือเขาอุ่นเกินไป และวินาทีที่เขากดมือแนบแน่น... หัวใจของหล่อนก็เต้นแรงเหมือนเครื่องยนต์เรือที่เร่งสปีด “ปล่อยได้แล้วมั้ง?” หล่อนกระซิบเบาๆ “ยัง...กล้องยังอยู่” เสียงเขาแนบชิดข้างแก้มนวลของหล่อน “แล้วอีกอย่าง... เธอก็ไม่ได้พยายามดึงมือออกเลยนี่?” คำพูดนั้นทำเอาวราลีหน้าร้อนผ่าว ก่อนจะสะบัดมือออกแรงๆ ทันที สิรณัฐหัวเราะเบาๆ ในลำคอ แต่ความรู้สึกในอกของเขากลับไม่ได้เบาเลยสักนิด เพราะมันทั้งหนักอึ้งและร้อนรุ่มแปลกๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม