แย่งเหยื่ออันโอชะ

2030 คำ
เป็นเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ที่อังเปาไปตามหาอินทรที่คณะ แต่ทว่าหนุ่มคนนี้กลับลึกลับนัก เธอไปทุกวันกลับไม่เจอหน้าเขาเลยสักวัน จนตอนนี้เธอกลายเป็นลูกค้าร้านประจำของร้านป้าขายเครปหน้าคณะวิศวะไปแล้ว “เหมือนเดิมค่ะป้า” “อีกแล้วเหรอ หนูไม่เบื่อบ้างหรือไงกินเมนูเดิมอยู่ทุกวัน” “ไม่เบื่อหรอกค่ะ กินไปทั้งเดือนยังได้เลย” ระหว่างคุยกับแม่ค้าขายเครปอังเปาก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ป้าคะ ป้าเคยเห็นผู้ชายคนนี้บ้างไหม” เธอยื่นรูปภาพอินทรที่อุตส่าห์ไปขุดมาจากเพจคนหน้าตาดีคณะวิศวะให้แม่ค้าขายเครปดู “เคยเห็นสิพ่อหนุ่มคนนี้มาซื้อเครปร้านป้าบ่อยนะ หนูมาตามหาเขาเหรอ” “ค่ะ! ป้ารู้ไหมคะว่าเขาชอบมาซื้อเครปร้านป้าเวลาไหน” “อืมเขามาไม่เป็นเวลานะ แต่ส่วนใหญ่จะแว๊บมาช่วงเที่ยง” มิน่าล่ะถึงไม่เจอเลยสักวัน ช่วงเที่ยงอังเปามักไปเฝ้าเขาที่โรงอาหารวิศวะแต่ทว่าอีกคนกลับมาอยู่หน้าคณะแทน ครืดดดด เสียงโทรศัพท์ดึงความสนใจให้สาวสวยหยิบมือถือเครื่องแพงขึ้นมากดรับสาย “ว่าไงลูกตาล” (มาเรียนด่วนก่อนที่ยัยนะโมจะไปตามแกถึงคณะวิศวะ!) “นี่นะโมรู้เหรอว่าฉันอยู่นี่” (พี่โยธาบอกเห็นแกที่คณะวิศวะทุกวัน จะแก้ตัวยังไงหื้ม รอบนี้ไปตามผู้ชายคนไหนอีกล่ะ) “กรี๊ดดด ไม่เคยตามผู้ชายย้ะ” ยกเว้นหมอนี่ไว้หนึ่งคน (ไม่ตามก็รีบกลับมาให้ทันเรียนคาบบ่าย วันนี้มีควิซกลุ่มถ้าแกพลาดคะแนนเก็บอันน้อยนิดที่อาจารย์อุตส่าห์เจียดมาให้แทนการสอบร้อยเปอร์เซ็นต์ของแกได้จบเห่แน่) “ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” ไม่รอให้เสียเวลานานจ่ายเงินเสร็จอังเปาก็รีบคว้าเครปวิ่งกลับไปที่รถ ระหว่างที่เธอวิ่งจากไปชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอตามหามาทั้งอาทิตย์ก็ก้าวเท้าออกมาจากหลังต้นไม้ “ไปได้สักที” ณ คณะนิติศาสตร์ “มาแล้วๆๆๆๆ” แม่คนเฟียสประจำคณะวิ่งตะโกนมาแต่ไกล แต่ก็กลายเป็นภาพชินตาที่ทุกคนมักเห็นประจำเวลามีควิซ “มาสักทีนึกว่าต้องจุดธูปอัญเชิญ” “คนนะไม่นางฟ้า ไม่ต้องมาจุดธูปย้ะ” “ฉันหมายถึงสัมภเวสีต่างหาก คณะตัวเองก็มีแต่เร่ร่อนไปอยู่คณะวิศวะอยู่ได้ เป้าหมายรอบนี้เป็นใครล่ะแกถึงได้ดูกระตือรือร้นนัก” ลูกตาลไม่อ้อมค้อมถามอย่างตรงไปตรงมา “ก็แค่เด็กคนหนึ่ง” เด็กเปรตดีๆ นี่เอง คิดจะหลบหน้าฉันไม่มีทางหรอก! “เด็กที่ว่าคงไม่ได้หมายถึงคนที่เตะบอลอัดหน้าแกใช่ไหม” นะโมเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับช้อนตามองเพื่อนสนิทอย่างจับผิด “มะ ไม่ใช๊” “อ่าชัวร์!” ลูกตาลโพล่งขึ้นอย่างมั่นใจ “ผู้ชายคนนี้เป็นขนมเค้กรสอะไรเหรอ” ขนมผิงถามต่อ “คงเป็นช็อกโกแลตเข้มข้นมั้ง สัมผัสแรกขมสัมผัสต่อไปก็ขมเหมือนเดิม” คนพูดกลั้วหัวเราะ “รอบนี้น่าจะอาการหนัก” ทั้งสามสาวต่างมองหน้ากันและพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของลูกตาล 3 ชั่วโมงผ่านไป “คืนนี้ฉันว่าจะไปเที่ยวพวกแกจะไปดริ๊งด้วยกันไหม ยังไงวันนี้ก็วันศุกร์” ในที่สุดก็ถึงคืนปล่อยผีของอังเปาเสียที เธอสัญญากับนะโมไว้ว่าเทอมนี้จะเที่ยวให้น้อยลงและตั้งใจเรียนขึ้น ดังนั้นจึงกำหนดวันเที่ยวแค่หนึ่งวันต่ออาทิตย์เท่านั้น ซึ่งก็คือคืนนี้นี่เอง “วันเดอะบีคลับ แล้วเจอกัน หึ!” อังเปาก้มมองนาฬิกาข้อมือดิจิตอลพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มตรงถือว่าเป็นฤกษ์ดีของวันนี้ แม่เสือสาวที่เตรียมออกล่าเหยื่อก้าวเข้าไปในคลับใหญ่อย่างมีเป้าหมาย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาคลับแห่งนี้ หากไม่ใช่เพราะใครบางคนเธอคงไม่เหาะมาไกลถึงที่นี่เพื่อเที่ยวหรอก ร่างบางในชุดเดรสสีดำแขนยาวปาดไหล่ขวาเผยให้เห็นผิวขาวช่วงหัวไหล่ แหวกเอวบางเล็กน้อยให้เห็นทรวดทรง กระโปรงสั้นเหนือเข่าเผยเรียวขายาว เสื้อผ้าและการแต่งหน้าของเธอวันนี้คิดมาดีแล้วว่าหากเขายังไม่สนใจ เธอจะเตรียมเงินก้อนใหญ่ให้เขาไปผ่าตัดตาทันที แต่ก่อนทำเธอจะควักลูกตาเขาออกมาดูก่อนว่ามันบอดหรือฟ่าฟาง อังเปาเดินมานั่งที่บาร์สั่งค็อกเทลเบาๆ มาดื่มให้ชุ่มคอ ระหว่างนั้นก็เอียงหน้ามองไปทางเวทีซึ่งตอนนี้เป้าหมายของเธอกำลังทำการแสดงอยู่ เขาดีดกีตาร์และร้องเพลง เสน่ห์ตอนนี้มีไม่เบาเลยแต่ทว่าน่าเสียดายหากผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ลูกชายของศัตรูเธอ บางทีเธออาจชอบเขาก็ได้ “มาคนเดียวเหรอครับ” พวกแมลงวี่แมลงวัน “ค่ะ” “ผมขอเลี้ยงแก้วนี้ของคุณนะ” “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมีเงิน” คนตอบยกยิ้มก่อนจะหุบลงในเวลาต่อมา การแสดงออกของเธอชี้ชัดแล้วว่าไม่อยากคุยต่อ แต่ทว่าผู้ชายคนนี้กลับชอบท่าทีดื้อรั้นของเธอนัก “งั้นมาดื่มกันสักแก้วไหม หรือไม่กล้า” “ได้สิ แต่ดื่มเสร็จช่วยไปไกลๆ หน่อยนะ พอดีฉันแพ้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงที่ติดบนตัวนาย” ก่อนเข้ามาเธอบังเอิญเห็นชายคนนี้กำลังนัวอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่ทางไปห้องน้ำ บอกตามตรงว่าแม้เธอจะไม่คิดมากเรื่องพวกนี้ แต่ทว่าหากได้ชื่อว่าเป็นอังเปาแล้วอะไรที่เธอมองว่าเป็นของมือสองหรือสกปรก เธอก็ไม่สนใจชิมเหมือนกัน กริ้ง เสียงแก้วกระทบกันดังหนึ่งครั้ง ไม่นานเครื่องดื่มของสองแก้วก็หายลงคอทั้งสองคน “ผมชื่อนทีนะ ยินดีที่ได้รู้จัก” “ฉันไม่สะดวกบอกชื่อ และไม่ยินดีที่รู้จักนายด้วยขอตัวนะ” ว่าจบอังเปาก็ลุกเดินหนีออกมา แต่ก็ไม่ใช่ต้องการหนีเสียทีเดียว เมื่อกี้ขณะที่เธอชนแก้วดื่มเป้าหมายของเธอก็ลงจากเวทีพอดี เผลอแป๊บเดียวก็หายไปเสียแล้ว อุตห์ส่ามานั่งเฝ้าคลาดสายตาไปเสียได้! ตึก ตึก ตึก! เสียงส้นสูงปลายแหลมกระแทกพื้นทางเดิน อังเปาก้าวฉับๆ ไปพร้อมกับมองหาอินทร เธอมาที่นี่เพราะในข้อมูลบอกไว้ว่าคลับนี้เป็นของแม่เลี้ยงเขาที่ปัจจุบันพ่อเขาเป็นคนบริหาร และเขาเองก็มาร้องเพลงให้ที่นี่เป็นประจำ “หายไปไหนแล้วนะ” “นี่ พี่อุตส่าห์มาเฝ้าเธอตั้งแต่ขึ้นเวทีเลยนะ ไม่คิดจะให้กำไรพี่หน่อยเหรอ” ระหว่างที่เดินผ่านห้องหนึ่งซึ่งบังเอิญแง้มประตูไว้ หูของอังเปาก็กระดิกดิ๊กๆ เรียกให้เธอรู้สึกสนใจ คนอยากรู้อยากเห็นแอบแง้มบานประตูนั้นดูซึ่งโชคดีที่เหมือนจะแง้มถูกบานพอดี ที่นี่เป็นห้องพักของนักดนตรี ภายในมีแค่อินทรที่นั่งจิบน้ำอยู่บนโซฟา ส่วนข้างๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูโตกว่าอังเปาเล็กน้อยนั่งขนาบข้าง มองแค่แว๊บเดียวก็รู้แล้วยัยนั่นอยากกินเหยื่อของเธอ “ห้องนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของผมกรุณาออกไปด้วยครับ” “ทำไมเย็นชานักล่ะ พี่ตื๊อเธอมาเป็นเดือนแล้วนะไม่สนใจหน่อยเหรอ” อินทรเริ่มแสดงท่าทางไม่สบอารมณ์ออกมาแต่ก็ใช้เพียงสายตาสื่อสารเท่านั้น ทุกครั้งที่มีลูกค้าเข้าหาแม้จะไม่ชอบใจแต่เขาก็มักจะอดทนเพราะไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้พ่อ ดังนั้นหลังจากเล่นดนตรีเสร็จก็มักจะหายออกมาอยู่ในห้องพักเงียบๆ แต่ใครจะคิดล่ะว่ารอบนี้ลูกค้าเจ้าประจำจะมาดักรอเจอถึงที่นี่ “เอางี้ไหม ถ้าเธอยอมนอนกับพี่หนึ่งคืน พี่สัญญาว่าจะให้สิ่งที่เธอต้องการหนึ่งอย่างพร้อมกับจะไม่มาให้เธอเห็นหน้าพี่อีก” อังเปาฟังผู้หญิงคนนั้นพูดก็อยากจะหลุดหัวเราะ มีแต่คนโง่ที่กินหญ้าแทนข้าวเท่านั้นแหละถึงจะยอมนอนด้วย “ได้สิ” วะ ว่าไงนะ! นายโง่ไหมเนี่ย ปึง! อังเปาทนฟังต่อไม่ไหวรีบผลักประตูเข้ามาอย่างหมดความอดทน เนื้อชิ้นนี้เธอเล็งไว้แล้วใครก็ห้ามยุ่งทั้งนั้น! “นี่น้องชาย นายจะนอนกับคนอื่นไม่ได้นะ” ร่างบางเดินเข้าไปหย่นก้นนั่งลงบนตักอินทรอย่างถือวิสาสะ “เธอเป็นใครย้ะ! ออกไปเลยนะ” “ป้าคะ นี่แฟนหนูค่ะ ป้านั่นแหละค่ะที่ต้องออกไป” “กรี๊ดดด เธอเรียกใครว่าป้าย้ะ อีกอย่างฉันไม่เชื่อหรอกว่าน้องอินเป็นแฟนเธอ” “เฮ้อ ก็ได้ๆ งั้นป้าดูดีๆ นะอย่าเพิ่งหัวใจวายไปก่อนล่ะ” พรึ่บ! คนเจ้าแผนการอาศัยจังหวะชุลมุนโอบคอหนุ่มรุ่นน้องเข้ามาประกบริมฝีปาก ประทับตรารอยจูบอย่างแนบแน่นต่อหน้าหญิงสาวอีกคน “กรี๊ดดด! ยัยบ้า” ผู้หญิงคนดังกล่าวทนดูไม่ไหวสุดท้ายก็ดีดตัวเองออกจากห้อง ซึ่งทันทีที่เธอคนนั้นออกไปร่างอังเปาที่นั่งอยู่บนตักแกร่งก็ถูกหนุ่มน้อยหน้าหล่อโยนลงไปพื้นอย่างไม่เกรงใจ ตุ้บ! “โอ๊ย! ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย มันเจ็บนะย้ะ” “ออกไปซะก่อนที่ฉันจะจับเธอโยนออกไปอีกคน” “นายกล้าเหรอ?” “อย่าท้าดีกว่า เธอรู้ว่าฉันกล้า” แววตาแข็งกร้าวจ้องมองอังเปาอย่างเอาจริง “ก็ได้ งั้นฉันขอพูดกับนายแค่เรื่องเดียวแล้วจะออกไป” คนถูกโยนลงพื้นแข็งชันตัวลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าปั้นปึ่ง จ้องหน้าคู่สนทนาด้วยแววตาเดียวกับที่เขาจ้องเธอ “มานอนกับฉัน แล้วนายอยากได้เท่าไหร่ก็บอกมา” ไม่เกินคาดไปจากที่อินทรคิดเลยสักนิด เขาถอนหายใจหนักพลันปรับสายตาหน่ายใจมองอังเปาแทน “เธอก็สวยนะ แต่เสียดายที่ดูไร้สมองไปหน่อย นักดนตรีขายแค่ดนตรีและความเพลิดเพลิน ไม่ได้ขายตัว” “เหรอ งั้นตอบฉันมาสิว่าทำไมเมื่อกี้นายยอมขายตัวให้ยัยป้านั่น หรือเขาจ่ายหนักกว่างั้นนายก็เรียกค่าตัวมาสิ ฉันจ่ายได้ไม่อั้น” อินทรถอนหายใจหนักอีกครั้ง อังเปาในสายตาเขาเกินเยียวยาไปแล้วจริงๆ “ฉันไปขายตัวให้ผู้หญิงคนนั้นตอนไหน?” “ก็นายตอบตกลงคำขอเธอ” “ที่ตอบไปแบบนั้นเพราะฉันไม่ได้ตาบอดไง เห็นเธอแอบฟังอยู่ตั้งนานเลยเชิญให้เข้ามาฟังด้านใน” “นี่นายตั้งใจตอบตกลงเพื่อกระตุ้นฉันเหรอ” “ฉลาดขึ้นมาแล้วสินะ” “แล้วนายรู้ได้ไงว่าฉันจะโผล่ออกไปเพราะคำพูดนาย” “เพราะสายตาเวลาเธอมองฉันดูหิวน่ะสิ เป้าหมายก็เลยคิดว่าไม่น่าต่างกัน และคนชอบเอาชนะแบบเธอมีเหรอที่จะยอมให้คนอื่นแย่งเป้าหมายไป” “หะ หิว ฉันไปมองนายเหมือนหิวตั้งแต่ตอนไหนไม่ทราบ!” เป็นครั้งแรกเลยที่อังเปารู้สึกไม่สบอารมณ์เหมือนเธอกำลังกลายเป็นเหยื่อของอีกคนแทน “มองฉันตอนนั่งที่บาร์ไม่ละสายตาขนาดนั้น จะปฏิเสธเหรอว่าเธอไม่หิว” หึ! หลงตัวเองชะมัดนายมันก็แค่เหยื่อให้ฉันเอาคืนยัยแม่ตัวดีของนายเท่านั้นแหละ คอยดูเถอะถ้าฉันทำสำเร็จเมื่อไหร่นายจะเป็นคนแรกที่ฉันจะเฉดหัวทิ้งเลย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม