“เฮ้อ จีบผู้ชายคนเดียวทำไมมันยากนักนะ”
เป็นอีกวันที่อังเปาเอาแต่คิดเรื่องของอินทรแล้วถอนหายใจ เธอนั่งหดขาอยู่บนเก้าอี้เอนนอนตัวยาวที่ระเบียง แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่คืนนี้พร่างพรายไปด้วยแสงนวลของดวงจันทร์
ติ้ง!
หญิงสาวละสายตาก้มดูโทรศัพท์มือถือ
[อายัน : พรุ่งนี้เป็นวันเกิดผมพ่อสั่งให้พี่มาด้วย]
[อังเปา : วันตายนายฉันยังไม่คิดจะไป ทำไมต้องไปวันเกิดด้วย]
[อายัน : ไม่มาก็ดีครับ ครอบครัวผมจะได้อยู่กันแบบมีความสุข]
ครอบครัวงั้นเหรอ หึ!
อ่านข้อความสุดท้ายจบอังเปาก็ได้แต่กัดฟันกรอด วันนี้ไอ้เด็กนรกที่บ้านไม่ได้แค่ตั้งใจมาชวนเท่านั้น แต่มันตั้งใจมายั่วโมโหเธอด้วย
“กรี๊ดดดด!!”
เพล้ง!!
พอคิดว่าพวกมันจะมีความสุข ไฟร้อนที่สุมอยู่ในอกของอังเปาก็ลุกโชนขึ้นมาแผดเผาเธอ เธอหยิบกระถางต้นไม้ใกล้มือเขวี้ยงเข้าผนังกำแพงระเบียงอย่างเผลอตัว ร่างกายสั่นสะท้าน ยิ่งคิดถึงภาพเหตุการณ์ในอดีตก่อนที่แม่ของเธอจะเสียชีวิตเธอยิ่งเกลียดพวกมัน เกลียดพวกมันทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อ
ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาใสทะลักออกมาไหลอาบข้างแก้มทั้งสองข้าง
“ถ้าวันหนึ่ง...โลกนี้นั้นต้องเปลี่ยนไป
ถ้าวันนั้นรอยยิ้มไม่หวนกลับมา
ให้เธอหยุดแล้วลุกขึ้นหายใจ ความรู้สึกที่เสียไปไม่ต้องคืนกลับมา
รู้แค่ว่าวันนี้มียังลมหายใจ จมปลักไปไม่มีอะไรจะดีขึ้นมา
อยากขอให้เธอยื่นมือมาแล้วจับฉันไว้
พรุ่งนี้ยังมีแสงดาวพร่างพราย ต่อไปยังมีแสงจันทร์รำไร...”
เสียงดีดกีตาร์จากข้างห้องประสานเสียงร้องอันไพเราะ ไม่รู้ว่าข้างห้องเป็นใครถึงนึกคึกมาดีดกีตาร์ร้องเพลงในเวลานี้ แต่สำหรับอังเปามันคือของขวัญที่ดีที่สุดของเธอในวันนี้เลย หญิงสาวชันเข่าฟุบหน้าและร้องไห้ระบายความรู้สึกอัดอั้นข้างในออกมา หลายครั้งที่เธอรู้สึกไม่ไหวและอยากระเบิดความรู้สึกข้างในเธอก็จะร้องไห้ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอทำได้
หลายครั้งที่โดนนอกใจหรือหักหลังจากผู้ชาย อังเปาก็จะกลายเป็นนางตัวร้ายที่ตามไปฟาดฟันเอาคืนพวกมัน แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอเองก็เสียใจ เธอเองก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งที่มีหัวใจแม้มันจะค่อยๆ ด้านชาไปแล้วก็ตาม
เช้าวันต่อมา
“กรี๊ดดด ทำไมตาฉันบวมขนาดนี้เนี่ย ฮือออ”
คนร้องไห้ทั้งคืนตื่นมาส่องกระจกก็แทบจะลมจับ หน้าเธอตอนนี้ยิ่งกว่าผีเบ้าตาปูดเสียอีก
“วันนี้ขาดเรียนไม่ได้ด้วยให้ตายเถอะ”
อังเปารีบจัดการใช้เครื่องสำอางกลบความโทรมบนใบหน้า พอเสร็จก็รีบหิ้วหนังสือเดินออกมาจากห้อง เธอใกล้สายแล้ว
หืม?
ใครเอามาแขวนไว้
ขณะกำลังจะปิดประตูห้อง อังเปาก็เห็นถุงขนมถุงหนึ่งแขวนไว้หน้าห้องเธอ ภายในบรรจุช็อกโกแลตไว้หนึ่งกล่อง เธอหยิบกระดาษโพสต์อิทที่ชมพูดขึ้นมาอ่านข้อความ
‘เดือนนี้เธอทำกระถางต้นไม้แตกไปสี่ใบแล้ว หวังว่าของหวานจะช่วยให้เธออารมณ์ดีขึ้นได้บ้างนะ’
“ทำไมพอลองใส่เสียงเข้าไปในข้อความแล้วมันฟังดูคุ้นๆ นะ”
ร่างบางพึมพำอยู่ลำพัง มองดูข้อความไม่นานก็เปิดประมวลกฎหมายในมือแปะติดโพสต์อิทแผ่นดังกล่าวเข้าไปด้านใน รื้อค้นกระเป๋าสะพายออกมาหยิบกระดาษโพสต์อิทพร้อมปากกาเขียนข้อความใหม่แปะไว้ที่หน้าประตูห้องข้างๆ
‘ขอบคุณนะ ทีหลังฉันจะเปลี่ยนเป็นกระถางพลาสติกแทน’
แปะเสร็จก็ยกยิ้มอารมณ์ดีเดินแกะช็อกโกแลตกินไปพลางฮัมเพลงไปพลาง
ณ มหาวิทยาลัย
ระหว่างทางที่เดินลงจากรถมาจนถึงโต๊ะนั่งของกลุ่มเพื่อนในห้องพักอ่านหนังสือของคณะ ทุกสายตาที่อังเปาเดินผ่านต่างจับจ้องมองเธอราวกับตัวประหลาด
“ฉันมีอะไรแปลกไปเหรอ ทำไมทุกคนถึงเอาแต่มอง”
นั่งลงปุ๊บก็ถามความเห็นเพื่อนปั๊บ
“แกเล่นทำตัวเป็นเซเลบสวมแว่นตาดำเข้ามาในคณะแบบนี้ใครจะไม่มองบ้างล่ะ” ลูกตาลเอ่ยตอบก่อนจะก้มหน้าเล่นเกมในโทรศัพท์ต่อ
“ถอดแว่นได้แล้วมั้ง นี่มันในห้องแอร์นะ” นะโมเอ่ยขึ้นอีกคนแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ
แม้จะใช้เครื่องสำอางกลบดวงตาปูดบวมแล้ว แต่อังเปาก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี เธอลังเลอยู่นานแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจถอดออกมา เพื่อนๆ ต่างมองการกระทำของเธออย่างนึกประหลาดใจ
“ฉันถอดแว่นแล้วพวกแกไม่เห็นอะไรผิดปกติเหรอ”
นะโม ลูกตาล และขนมผิงต่างหันมองหน้ากันและส่ายหัว
“จริงดิ นี่แปลว่าฉันแต่งหน้าเก่งใช้ได้เลยนะเนี่ย” อังเปากล่าวขึ้นอย่างภาคภูมิใจ
“ทำไม เมื่อคืนร้องไห้มาอีกหรือไง”
“แกรู้เหมือนมีตาทิพย์เห็นเลยนะนะโม”
“รอบนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ”
“พ่อฉันสั่งให้ไอ้กาฝากที่บ้านทักมาเรียกฉันให้ไปงานวันเกิดมัน”
“วันไหน”
“วันนี้”
“แล้วจะไปไหม”
“ไม่อยากไป แต่ก็ไม่อยากให้พวกมันฉลองกันอย่างมีความสุข ดังนั้นฉันจะไปพังงานมันเอง”
“ไม่อยากไปก็ไม่เห็นต้องไป บางครั้งแกทำแบบนี้คนที่เหนื่อยก็คือตัวแกเองนะ”
เป็นอีกครั้งที่นะโมพูดทำนองนี้ออกมา อังเปาเข้าใจสิ่งที่เพื่อนอยากเตือน แต่เธอหยุดความเกลียดที่มีต่อคนในครอบครัวนั้นไม่ได้แล้ว นับแต่ความเกลียดชังเริ่มก่อตัวขึ้นเธอเองก็จมอยู่กับมันมาตลอด ถึงตอนนี้ก็ยังทนเห็นพวกมันมีความสุขไม่ได้ เพราะนับแต่แม่จากไปอังเปาก็ไม่เคยมีความสุขเลย ดังนั้นสิ่งที่เธอสูญเสียพวกมันก็ต้องสูญเสียเช่นเดียวกัน
“อ้ะ มีช็อกโกแลตด้วย ขอกินหน่อยได้ไหมเปา”
เจ้าเด็กน้อยประจำกลุ่มเห็นของกินเป็นอันต้องตาลุกวาว
“ให้กินน่ะได้ แต่โควตาวันนี้ไม่หมดแล้วเหรอ เมื่อกี้ฉันเห็นแกกินอมยิ้มไปแล้วนะผิง”
“ไม่เป็นไร พี่เดย์ให้โควตาเพิ่มแล้ว กินช็อกโกแลตอีกหนึ่งชิ้นได้”
“ฮึก แกจะดีใจเกินไปไหมฮะแค่ได้กินของหวานเอง”
“ความหวานจากน้ำตาลช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินทำให้เราอารมณ์ พออารมณ์ดีก็มีสมาธิเรียนสมาธิอ่านหนังสือมากขึ้น”
“ข้ออ้างของคนอ้วนสิไม่ว่า” เอ่ยจบอังเปาก็ดึงแก้มย้วยของเพื่อนสาวด้วยความมันเขี้ยว
นึกแล้วเธอก็อิจฉาขนมผิงอยู่เหมือนกัน เพราะเพื่อนเธอคนนี้เป็นคนเดียวในกลุ่มที่ดูไม่ค่อยมีความเครียดเลยสักนิดชีวิตดูมีความสุขตลอดเวลา โดยเฉพาะหลังจากที่มีแฟนหนุ่มอย่างพี่เดย์
“หื้มอร่อย ซื้อมาจากไหนอ่ะ”
“มีคนให้มา”
“ใคร?” ทั้งสามคนต่างโพล่งขึ้นพร้อมกันจนอังเปาสะดุ้งตกใจ
“อะไรของพวกแกเนี่ย อยากรู้เรื่องฉันขนาดนั้นเลยหรือไง”
“แหงสิย้ะ รอบนี้ฉันอยากรู้ว่าแกจะไปหักอกหนุ่มที่ไหนอีก เอ...หรือว่าจะมีคนมาหักอกแก”
“เบาได้เบานะลูกตาล บางทีฉันอาจจะมีแฟนหนุ่มดีๆ สักคนก็ได้”
“ไว้แกเปิดใจก่อนค่อยพูดนะ ว่าแต่เรื่องไอ้เด็กหนุ่มรุ่นน้องคณะวิศวะไปถึงไหนแล้วล่ะ หรือว่าแกไม่สนใจแล้ว”
คำถามของลูกตาลทำให้อังเปาคิดบางอย่างได้ มัวแต่โมโหเรื่องไอ้เด็กอายันนั่นจนลืมไปเลยว่าวันนี้ก็เป็นวันเกิดของอีกคนเหมือนกัน
หมอนั่นจะตกใจไหมนะ ถ้าฉันรู้ว่าเขาเกิดวันนี้...
ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์
รอบนี้อังเปาจะไม่เสียเวลาตามหาอินทรอีกต่อไป เพราะเธอได้ส่งรุ่นน้องที่รู้จักกันมาเป็นสายสืบให้แล้ว และโชคดีมากที่รุ่นน้องเธอคนนั้นดันเรียนอยู่ห้องเดียวกับอินทรพอดี
“หนีฉันไม่รอดหรอก”
ติ้ง!
ทันทีที่เหยียบเท้าเข้ามาในคณะวิศวะตอนเที่ยงตรง ข้อความจากสายลับก็เด้งขึ้นมาอย่างรู้จังหวะ
‘หลับอยู่ในห้องสมุด’
อังเปายกยิ้มร้ายเดินหิ้วถุงกระดาษใบใหญ่สีน้ำตาลเข้าไปในห้องสมุดของคณะวิศวะ กวาดสายตามองหาเป้าหมาย มองหาอยู่นานจนสุดท้ายก็เห็นอินทรนอนฟุบหน้าหลับอยู่บนโต๊ะริมหน้าต่างด้านหลังสุด
อังเปาเดินเข้าไปเงียบๆ และนั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา ตอนแรกเธอก็ว่าจะเอื้อมมือไปปลุกอีกคนแต่หางตาดันเหลือบเห็นบางอย่างที่น่าสนใจ
ฝ่ามือใหญ่ของคนที่กำลังนอนหลับทับรูปถ่ายแผ่นหนึ่งไว้ อังเปาค่อยๆ ดึงรูปถ่ายแผ่นดังกล่าวออกมาดู เป็นรูปถ่ายของสองแฝดกำลังถือเค้กแล้วหันมายิ้มให้กล้อง มือเล็กลองพลิกรูปภาพดูด้านหลังก็เห็นข้อความหนึ่งที่เขียนไว้ด้วยรอยปากกา
‘ปีสุดท้ายที่เราฉลองวันเกิดด้วยกันก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะแยกเราจากกัน’
อ่านข้อความจบแว๊บหนึ่งความรู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับความเห็นใจก็วูบเข้ามา อังเปารีบนำรูปภาพแผ่นนั้นสอดกลับเข้าไปวางไว้ที่เดิมพร้อมกับหยิบเค้กที่ซื้อมาวางไว้ให้อินทร เดิมทีเธอคิดว่าจะใช้เรื่องนี้มาทำคะแนนให้เขาชอบเธอเร็วๆ จะได้ทำตามแผน แต่เห็นอีกคนหลับอย่างสบายใจเธอก็รู้สึกไม่อยากขัดรบกวน
ช่างเถอะ วันนี้ปล่อยนายไปก่อนละกัน