ความรู้สึกบางอย่างที่แปลกไป

1693 คำ
“เฮ้อ จีบผู้ชายคนเดียวทำไมมันยากนักนะ” เป็นอีกวันที่อังเปาเอาแต่คิดเรื่องของอินทรแล้วถอนหายใจ เธอนั่งหดขาอยู่บนเก้าอี้เอนนอนตัวยาวที่ระเบียง แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่คืนนี้พร่างพรายไปด้วยแสงนวลของดวงจันทร์ ติ้ง! หญิงสาวละสายตาก้มดูโทรศัพท์มือถือ [อายัน : พรุ่งนี้เป็นวันเกิดผมพ่อสั่งให้พี่มาด้วย] [อังเปา : วันตายนายฉันยังไม่คิดจะไป ทำไมต้องไปวันเกิดด้วย] [อายัน : ไม่มาก็ดีครับ ครอบครัวผมจะได้อยู่กันแบบมีความสุข] ครอบครัวงั้นเหรอ หึ! อ่านข้อความสุดท้ายจบอังเปาก็ได้แต่กัดฟันกรอด วันนี้ไอ้เด็กนรกที่บ้านไม่ได้แค่ตั้งใจมาชวนเท่านั้น แต่มันตั้งใจมายั่วโมโหเธอด้วย “กรี๊ดดดด!!” เพล้ง!! พอคิดว่าพวกมันจะมีความสุข ไฟร้อนที่สุมอยู่ในอกของอังเปาก็ลุกโชนขึ้นมาแผดเผาเธอ เธอหยิบกระถางต้นไม้ใกล้มือเขวี้ยงเข้าผนังกำแพงระเบียงอย่างเผลอตัว ร่างกายสั่นสะท้าน ยิ่งคิดถึงภาพเหตุการณ์ในอดีตก่อนที่แม่ของเธอจะเสียชีวิตเธอยิ่งเกลียดพวกมัน เกลียดพวกมันทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อ ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาใสทะลักออกมาไหลอาบข้างแก้มทั้งสองข้าง “ถ้าวันหนึ่ง...โลกนี้นั้นต้องเปลี่ยนไป ถ้าวันนั้นรอยยิ้มไม่หวนกลับมา ให้เธอหยุดแล้วลุกขึ้นหายใจ ความรู้สึกที่เสียไปไม่ต้องคืนกลับมา รู้แค่ว่าวันนี้มียังลมหายใจ จมปลักไปไม่มีอะไรจะดีขึ้นมา อยากขอให้เธอยื่นมือมาแล้วจับฉันไว้ พรุ่งนี้ยังมีแสงดาวพร่างพราย ต่อไปยังมีแสงจันทร์รำไร...” เสียงดีดกีตาร์จากข้างห้องประสานเสียงร้องอันไพเราะ ไม่รู้ว่าข้างห้องเป็นใครถึงนึกคึกมาดีดกีตาร์ร้องเพลงในเวลานี้ แต่สำหรับอังเปามันคือของขวัญที่ดีที่สุดของเธอในวันนี้เลย หญิงสาวชันเข่าฟุบหน้าและร้องไห้ระบายความรู้สึกอัดอั้นข้างในออกมา หลายครั้งที่เธอรู้สึกไม่ไหวและอยากระเบิดความรู้สึกข้างในเธอก็จะร้องไห้ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอทำได้ หลายครั้งที่โดนนอกใจหรือหักหลังจากผู้ชาย อังเปาก็จะกลายเป็นนางตัวร้ายที่ตามไปฟาดฟันเอาคืนพวกมัน แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเธอเองก็เสียใจ เธอเองก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งที่มีหัวใจแม้มันจะค่อยๆ ด้านชาไปแล้วก็ตาม เช้าวันต่อมา “กรี๊ดดด ทำไมตาฉันบวมขนาดนี้เนี่ย ฮือออ” คนร้องไห้ทั้งคืนตื่นมาส่องกระจกก็แทบจะลมจับ หน้าเธอตอนนี้ยิ่งกว่าผีเบ้าตาปูดเสียอีก “วันนี้ขาดเรียนไม่ได้ด้วยให้ตายเถอะ” อังเปารีบจัดการใช้เครื่องสำอางกลบความโทรมบนใบหน้า พอเสร็จก็รีบหิ้วหนังสือเดินออกมาจากห้อง เธอใกล้สายแล้ว หืม? ใครเอามาแขวนไว้ ขณะกำลังจะปิดประตูห้อง อังเปาก็เห็นถุงขนมถุงหนึ่งแขวนไว้หน้าห้องเธอ ภายในบรรจุช็อกโกแลตไว้หนึ่งกล่อง เธอหยิบกระดาษโพสต์อิทที่ชมพูดขึ้นมาอ่านข้อความ ‘เดือนนี้เธอทำกระถางต้นไม้แตกไปสี่ใบแล้ว หวังว่าของหวานจะช่วยให้เธออารมณ์ดีขึ้นได้บ้างนะ’ “ทำไมพอลองใส่เสียงเข้าไปในข้อความแล้วมันฟังดูคุ้นๆ นะ” ร่างบางพึมพำอยู่ลำพัง มองดูข้อความไม่นานก็เปิดประมวลกฎหมายในมือแปะติดโพสต์อิทแผ่นดังกล่าวเข้าไปด้านใน รื้อค้นกระเป๋าสะพายออกมาหยิบกระดาษโพสต์อิทพร้อมปากกาเขียนข้อความใหม่แปะไว้ที่หน้าประตูห้องข้างๆ ‘ขอบคุณนะ ทีหลังฉันจะเปลี่ยนเป็นกระถางพลาสติกแทน’ แปะเสร็จก็ยกยิ้มอารมณ์ดีเดินแกะช็อกโกแลตกินไปพลางฮัมเพลงไปพลาง ณ มหาวิทยาลัย ระหว่างทางที่เดินลงจากรถมาจนถึงโต๊ะนั่งของกลุ่มเพื่อนในห้องพักอ่านหนังสือของคณะ ทุกสายตาที่อังเปาเดินผ่านต่างจับจ้องมองเธอราวกับตัวประหลาด “ฉันมีอะไรแปลกไปเหรอ ทำไมทุกคนถึงเอาแต่มอง” นั่งลงปุ๊บก็ถามความเห็นเพื่อนปั๊บ “แกเล่นทำตัวเป็นเซเลบสวมแว่นตาดำเข้ามาในคณะแบบนี้ใครจะไม่มองบ้างล่ะ” ลูกตาลเอ่ยตอบก่อนจะก้มหน้าเล่นเกมในโทรศัพท์ต่อ “ถอดแว่นได้แล้วมั้ง นี่มันในห้องแอร์นะ” นะโมเอ่ยขึ้นอีกคนแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ แม้จะใช้เครื่องสำอางกลบดวงตาปูดบวมแล้ว แต่อังเปาก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี เธอลังเลอยู่นานแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจถอดออกมา เพื่อนๆ ต่างมองการกระทำของเธออย่างนึกประหลาดใจ “ฉันถอดแว่นแล้วพวกแกไม่เห็นอะไรผิดปกติเหรอ” นะโม ลูกตาล และขนมผิงต่างหันมองหน้ากันและส่ายหัว “จริงดิ นี่แปลว่าฉันแต่งหน้าเก่งใช้ได้เลยนะเนี่ย” อังเปากล่าวขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “ทำไม เมื่อคืนร้องไห้มาอีกหรือไง” “แกรู้เหมือนมีตาทิพย์เห็นเลยนะนะโม” “รอบนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ” “พ่อฉันสั่งให้ไอ้กาฝากที่บ้านทักมาเรียกฉันให้ไปงานวันเกิดมัน” “วันไหน” “วันนี้” “แล้วจะไปไหม” “ไม่อยากไป แต่ก็ไม่อยากให้พวกมันฉลองกันอย่างมีความสุข ดังนั้นฉันจะไปพังงานมันเอง” “ไม่อยากไปก็ไม่เห็นต้องไป บางครั้งแกทำแบบนี้คนที่เหนื่อยก็คือตัวแกเองนะ” เป็นอีกครั้งที่นะโมพูดทำนองนี้ออกมา อังเปาเข้าใจสิ่งที่เพื่อนอยากเตือน แต่เธอหยุดความเกลียดที่มีต่อคนในครอบครัวนั้นไม่ได้แล้ว นับแต่ความเกลียดชังเริ่มก่อตัวขึ้นเธอเองก็จมอยู่กับมันมาตลอด ถึงตอนนี้ก็ยังทนเห็นพวกมันมีความสุขไม่ได้ เพราะนับแต่แม่จากไปอังเปาก็ไม่เคยมีความสุขเลย ดังนั้นสิ่งที่เธอสูญเสียพวกมันก็ต้องสูญเสียเช่นเดียวกัน “อ้ะ มีช็อกโกแลตด้วย ขอกินหน่อยได้ไหมเปา” เจ้าเด็กน้อยประจำกลุ่มเห็นของกินเป็นอันต้องตาลุกวาว “ให้กินน่ะได้ แต่โควตาวันนี้ไม่หมดแล้วเหรอ เมื่อกี้ฉันเห็นแกกินอมยิ้มไปแล้วนะผิง” “ไม่เป็นไร พี่เดย์ให้โควตาเพิ่มแล้ว กินช็อกโกแลตอีกหนึ่งชิ้นได้” “ฮึก แกจะดีใจเกินไปไหมฮะแค่ได้กินของหวานเอง” “ความหวานจากน้ำตาลช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นโดรฟินทำให้เราอารมณ์ พออารมณ์ดีก็มีสมาธิเรียนสมาธิอ่านหนังสือมากขึ้น” “ข้ออ้างของคนอ้วนสิไม่ว่า” เอ่ยจบอังเปาก็ดึงแก้มย้วยของเพื่อนสาวด้วยความมันเขี้ยว นึกแล้วเธอก็อิจฉาขนมผิงอยู่เหมือนกัน เพราะเพื่อนเธอคนนี้เป็นคนเดียวในกลุ่มที่ดูไม่ค่อยมีความเครียดเลยสักนิดชีวิตดูมีความสุขตลอดเวลา โดยเฉพาะหลังจากที่มีแฟนหนุ่มอย่างพี่เดย์ “หื้มอร่อย ซื้อมาจากไหนอ่ะ” “มีคนให้มา” “ใคร?” ทั้งสามคนต่างโพล่งขึ้นพร้อมกันจนอังเปาสะดุ้งตกใจ “อะไรของพวกแกเนี่ย อยากรู้เรื่องฉันขนาดนั้นเลยหรือไง” “แหงสิย้ะ รอบนี้ฉันอยากรู้ว่าแกจะไปหักอกหนุ่มที่ไหนอีก เอ...หรือว่าจะมีคนมาหักอกแก” “เบาได้เบานะลูกตาล บางทีฉันอาจจะมีแฟนหนุ่มดีๆ สักคนก็ได้” “ไว้แกเปิดใจก่อนค่อยพูดนะ ว่าแต่เรื่องไอ้เด็กหนุ่มรุ่นน้องคณะวิศวะไปถึงไหนแล้วล่ะ หรือว่าแกไม่สนใจแล้ว” คำถามของลูกตาลทำให้อังเปาคิดบางอย่างได้ มัวแต่โมโหเรื่องไอ้เด็กอายันนั่นจนลืมไปเลยว่าวันนี้ก็เป็นวันเกิดของอีกคนเหมือนกัน หมอนั่นจะตกใจไหมนะ ถ้าฉันรู้ว่าเขาเกิดวันนี้... ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ รอบนี้อังเปาจะไม่เสียเวลาตามหาอินทรอีกต่อไป เพราะเธอได้ส่งรุ่นน้องที่รู้จักกันมาเป็นสายสืบให้แล้ว และโชคดีมากที่รุ่นน้องเธอคนนั้นดันเรียนอยู่ห้องเดียวกับอินทรพอดี “หนีฉันไม่รอดหรอก” ติ้ง! ทันทีที่เหยียบเท้าเข้ามาในคณะวิศวะตอนเที่ยงตรง ข้อความจากสายลับก็เด้งขึ้นมาอย่างรู้จังหวะ ‘หลับอยู่ในห้องสมุด’ อังเปายกยิ้มร้ายเดินหิ้วถุงกระดาษใบใหญ่สีน้ำตาลเข้าไปในห้องสมุดของคณะวิศวะ กวาดสายตามองหาเป้าหมาย มองหาอยู่นานจนสุดท้ายก็เห็นอินทรนอนฟุบหน้าหลับอยู่บนโต๊ะริมหน้าต่างด้านหลังสุด อังเปาเดินเข้าไปเงียบๆ และนั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา ตอนแรกเธอก็ว่าจะเอื้อมมือไปปลุกอีกคนแต่หางตาดันเหลือบเห็นบางอย่างที่น่าสนใจ ฝ่ามือใหญ่ของคนที่กำลังนอนหลับทับรูปถ่ายแผ่นหนึ่งไว้ อังเปาค่อยๆ ดึงรูปถ่ายแผ่นดังกล่าวออกมาดู เป็นรูปถ่ายของสองแฝดกำลังถือเค้กแล้วหันมายิ้มให้กล้อง มือเล็กลองพลิกรูปภาพดูด้านหลังก็เห็นข้อความหนึ่งที่เขียนไว้ด้วยรอยปากกา ‘ปีสุดท้ายที่เราฉลองวันเกิดด้วยกันก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะแยกเราจากกัน’ อ่านข้อความจบแว๊บหนึ่งความรู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับความเห็นใจก็วูบเข้ามา อังเปารีบนำรูปภาพแผ่นนั้นสอดกลับเข้าไปวางไว้ที่เดิมพร้อมกับหยิบเค้กที่ซื้อมาวางไว้ให้อินทร เดิมทีเธอคิดว่าจะใช้เรื่องนี้มาทำคะแนนให้เขาชอบเธอเร็วๆ จะได้ทำตามแผน แต่เห็นอีกคนหลับอย่างสบายใจเธอก็รู้สึกไม่อยากขัดรบกวน ช่างเถอะ วันนี้ปล่อยนายไปก่อนละกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม