“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์....”
ครั้งหนึ่งอังเปาเคยกลายเป็นคนที่ได้รับความรักมากที่สุดจากคนที่เธอเรียกว่าพ่อและแม่ อยู่ท่ามกลางวงล้อมของคำว่าครอบครัว พ่ออุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด แม่ถือเค้กร้องเพลงฉลองวันเกิดให้เธอฟัง สามคนพ่อแม่ลูกมีเสียงเพลงเสียงหัวเราะและความสุข
แต่แล้ววันหนึ่งความสุขนั้นก็หายไปหลังจากพ่อของเธอได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นทำให้ครอบครัวอังเปาค่อยๆ เหินห่างกัน พ่อมีบ้านหลังใหม่และไม่ค่อยได้กลับมาหาเธอและแม่ แม่ของอังเปาเป็นทนายความที่เก่งและมีความสามารถ เธอเด็ดเดี่ยวและตัดสินใจเด็ดขาดว่าอยากจะหย่ากับพ่อของเธอ
ทะเลาะกันหนักอยู่หลายครั้งจนครั้งหนึ่งอังเปาเคยเข้าไปในห้องทำงานของแม่เธอ เห็นหนังสือประมวลกฎหมายเปิดไปในมาตรา 1516 เหตุในการฟ้องหย่าที่อาจารย์เคยถามอังเปา เธอจำมันขึ้นใจได้ทุกตัวอักษร
ไม่นานหลังตัดสินใจหย่าแม่ของอังเปาก็ไปหาพ่อเธอที่บ้านของผู้หญิงคนนั้น เธอไปโดยไม่รู้ว่าอังเปาแอบตามขึ้นรถมาด้วย เด็กน้อยวัยแปดขวบลงจากรถแอบตามแม่เข้าไปในบ้าน เห็นภาพพ่อแม่ทะเลาะกันใหญ่โต เจอหน้าผู้หญิงที่ทำให้พ่อเธอเปลี่ยนไป
เธอเปิดประตูผลักเข้ามาท่ามกลางเสียงโวยวายทะเลาะใหญ่โตของผู้ใหญ่ น้ำตาไหลอาบกรอบหน้า พ่อแม่ที่เห็นเธอต่างตกใจ
“คุณพ่อคุณแม่เสียงดังใส่กันทำไมคะ” เธอถามทั้งที่ยังร้องไห้ ผู้เป็นแม่รีบปาดน้ำตาบนใบหน้าของตัวเองทรุดตัวนั่งข้างลูกสาว กอดเธอและยิ้มให้เธอ
“พ่อกับแม่แค่คุยกันนะ หนูไม่ต้องตกใจนะลูก”
อังเปาไม่ใช่เด็กโง่เธอรับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดของแม่ วินาทีนั้นก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาเด็กนั่นดูอายุน้อยกว่าเธอ อังเปามองเห็นพ่อเธอจับมือผู้หญิงอีกคนที่ไม่ใช่แม่ ข้างๆ ผู้หญิงคนนั้นมีเด็กชายหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ดวงตากลมคู่นั้นจ้องมาที่หน้าอังเปาก่อนจะร้องไห้ส่งเสียงดังจนแม่เด็กคนนั้นต้องอุ้มโอ๋ ภาพนั้นยังจำได้ดี ตอนนั้นคนที่อยู่ข้างเธอมีแค่แม่คนเดียว ส่วนพ่อกลับยืนข้างผู้หญิงอีกคนทั้งที่เธอเองก็ร้องไห้เช่นเดียวกัน
นาทีนั้นความรู้สึกหนึ่งก็ผลุบเข้ามาในหัวใจของเด็กวัยแปดขวบ อังเปามองหน้าพ่อเธอด้วยความผิดหวังและเสียใจ เธอรับรู้ได้เพียงว่าตอนนี้พ่อของเธอไม่ใช่พ่อคนเดิมอีกต่อไป
จากนั้นแม่ก็พาเธอออกจากบ้าน แม้จะเสียใจมากขนาดไหนแต่แม่ของเธอก็ยังส่งยิ้มให้แม้ว่าการยิ้มนั้นจะเป็นการยิ้มทั้งน้ำตาก็ตาม
ระหว่างขับรถกลับบ้านอังเปาก็ยื่นมือน้อยๆ ของเธอไปจับมือแม่หวังปลอบใจ แม่เธอร้องไห้อย่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ จนสุดท้ายยังไม่ทันถึงบ้านเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เธอและแม่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์
มีรถบรรทุกแหกโค้งเข้ามาพุ่งชน เพื่อปกป้องอังเปาแม่เธอยอมใช้ร่างกายเป็นเกราะกำบังลูกสาวตัวน้อย จนภาพสุดท้ายอังเปาก็เห็นคราบเลือดเต็มร่างกายของแม่ และแม้ลมหายใจจะรวยรินแม่ก็ยังคงยิ้มให้เธอพร้อมกับอ้าปากพูด แต่คำพูดนั้นกลับมีแต่ลมไม่มีเสียง เธอทำได้เพียงอ่านปากแม่ก่อนจะสลบไป
‘แม่รักเปานะลูก’
นับแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นผ่านพ้นไป จากเดิมที่อังเปาเคยเป็นเด็กร่าเริงสดใสก็เริ่มกลายเป็นเด็กเก็บตัว ไม่ค่อยยิ้ม ไม่เข้าสังคม ต่อมาก็เริ่มก้าวร้าวเอาแต่ใจ จนท้ายที่สุดเธอก็ตั้งตนเป็นปรปักษ์กับคนทั้งบ้านทำให้ตอนนี้ไม่มีใครเลยที่ชอบเธอ
แปะ แปะ แปะ
ทันทีที่เทียนถูกเป่าดับร่างบางในชุดเดรสสั้นสีดำก็ก้าวเข้ามาในห้องรับแขกพร้อมกับเสียงปรบมือ เหล่าแม่บ้านที่ถูกเรียกให้มาร่วมร้องเพลงฉลองวันเกิดให้อายันต่างหน้าเสียกันเป็นแถบๆ ทั้งบ้านไม่มีใครยิ้มจริงใจเลยสักนิดเมื่อได้เห็นอังเปา
“เป็นอะไรกันไปคะ เชิญหนูมาเองนี่ทำไมดูไม่ดีใจเลยล่ะ”
“มาแล้วเหรอจ้ะ นั่งก่อนสิ”
“ไม่ต้องนั่งหรอกค่ะแค่มาแสดงความยินดีด้วย แป๊บเดียวก็กลับ”
“มาแล้วก็อยู่ให้นานหน่อยสิ แกจะรีบกลับไปไหน”
“แหม เพิ่งรู้นะคะว่าพ่ออยากให้หนูอยู่ด้วย แต่ไม่ต้องฝืนพูดหรอกค่ะ สายตาพ่อที่มองหนูเมื่อกี้มันชัดเจนแล้วว่าพ่อหนักใจ” รอยยิ้มมุมปากผุดขึ้นทันทีที่เธอเอ่ยจบ
“ไม่ใช่แบบนั้นนะหนูเปาคุณพ่อแค่แปลกใจที่หนูมา งั้นเดี๋ยวหนูนั่งคุยกับคุณพ่อไปนะน้ากับตาอายันจะออกไปก่อน”
“แม่” อายันมองหน้าแม่ตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ทำไมเธอต้องยอมยัยพี่สาวเอาแต่ใจที่ไม่เคยเห็นพวกเราเป็นคนในครอบครัวด้วย
“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น วันนี้เป็นงานวันเกิดลูกชาย คุณและลูกอยู่ที่นี่แหละ”
“แหมๆ เรียกลูกชายเสียเต็มปากเลยนะคะ แต่พ่อลืมไปหรือเปล่าว่าเด็กนั่นมันลูกผัวเก่าเมียใหม่พ่อ”
“ยัยเปา! แกมันปากร้ายเกินไปแล้วนะ”
“ก็ถ้าหนูไม่ร้ายจะมีนางเอกเจ้าน้ำตาอย่างเมียใหม่พ่อโผล่มาได้ไง นี่หนูอุตส่าห์ยอมสละตัวเองเป็นคนร้ายเลยนะ”
“แกหยุกสักทีได้ไหมเปา นี่งานวันเกิดน้องทำไมแกต้องมาหาเรื่องด้วย”
“ในสายตาพ่อหนูก็แค่มาหาเรื่องสินะ” อังเปาหัวเราะเสียดสี “แต่ไม่ผิดหรอกค่ะ เพราะหนูไม่ได้มาแสดงความยินดีเฉยๆ หนูมีของขวัญมาให้น้องชายด้วย”
หญิงสาวโค้งยิ้มมุมปากก่อนจะปรบมือเรียกให้แม่บ้านหิ้วของขวัญที่เธออุตส่าห์ซื้อมาให้ ทันทีที่ของขวัญถูกหิ้วเข้ามาในบ้านสีหน้าของพ่อเธอก็เริ่มแดงก่ำด้วยความโมโห เจ้าของวันเกิดตวัดสายตาอารมณ์เสียใส่เธอ มีแต่แม่เลี้ยงจอมปลอมที่ทำหน้าสลดเหมือนคนจะขาดใจตาย
“ดอกไม้ช่อนี้พี่ให้นาย ขอให้ไปสู่สุคติ เอ้ย! ขอให้มีความสุขนะ”
พวงหรีดประดับดอกไม้สีขาวถูกยื่นให้อายัน แต่เจ้าตัวยังไม่ทันรับไปพวงหรีดดังกล่าวก็ถูกเขวี้ยงเข้าผนังด้วยฝีมือพ่อเธอ
ไม่เพียงเท่านั้นความโมโหทำให้พ่อของอังเปาขาดสติฟาดมือหนักใส่หน้าลูกสาวอย่างแรงจนเธอหน้าหัน บรรยากาศตอนนั้นเหมือนถูกสตัฟฟ์เวลาไว้ ทุกคนต่างอึ้งนิ่งและตกใจ แม้กระทั่งอังเปาเองก็ไม่คาดฝันว่าพ่อจะกล้าตบเธอทั้งยังฟาดมาเต็มแรงจนมุมปากเธอมีเลือดไหลซิกออกมาอีก
มือเล็กลูบข้างแก้มที่ถูกตบเบาๆ คนตบถอยหลังออกห่างลูกสาวหนึ่งก้าวด้วยความตกใจ เขาเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะฟิวส์ขาดจนพลั้งมือไป
อังเปาเงยหน้าสบตาพ่อเธอ แววตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ โกรธ เกลียด เสียใจ ผิดหวัง สายตาเธอไร้ซึ่งความอ่อนโยน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเต็มไปด้วยความแข็งกร้าว
“รอบนี้ลงมือหนักดีนะคะ แต่ก่อนจะฟาดลงมาพ่อได้เตรียมใจไว้หรือยังว่าฟางเส้นสุดท้ายระหว่างพ่อกับหนูได้ขาดลงแล้ว”
“พะ พ่อ..”
คนที่คิดว่าตัวเองไม่มีอะไรให้เสียแล้วหัวเราะทั้งน้ำตาราวกับคนเสียสติ แววตาเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหลือคณา
“สุขสันต์วันเกิดนะน้องชาย”
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่อังเปาเอ่ยกับอายันก่อนจะเดินจากออกมา เหตุการณ์เมื่อครู่นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนทุกคนตกใจ แต่เมื่อดึงสติกลับมาได้แม่ของอายันก็รีบดึงมือสามีของเธอออกมาหน้าบ้านรั้งลูกสาวไว้ อายันวิ่งตามออกมาอีกคน แต่ก็ไม่ทัน
รถเบนซ์คันหรูสีดำถูกขับออกไปอย่างรวดเร็ว จนไม่นานก็หายลับสายตาไป
ผ่านไปสองชั่วโมง อังเปาก็โผล่มาอยู่ที่ร้านวันเดอะบีคลับ สภาพเธอตอนนี้แทบพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วด้วยซ้ำ ยังดีที่ประคองสติอยู่ได้เล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น” เสียงทุ้มหนึ่งดังขึ้นถามพนักงานที่บาร์
“เธอดื่มไม่หยุดเลยครับ ทั้งดื่มทั้งร้องไห้เอายังไงดีครับ”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมดูแลเธอเอง”
“ครับคุณอิน งั้นผมไปทำงานต่อก่อนนะครับ”
“อืม”
อินทรที่บังเอิญหันมาเจอเธอขณะขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีเดินลงมาหาเธอทันทีที่ทำงานเสร็จ
“เมื่อคืนเคว้งกระถางต้นไม้ มาวันนี้ยังเมาเละเป็นหมาอีก ชีวิตเธอมันบัดซบมากนักหรือไงนะ”