หลังจากที่เขาทานข้าวที่บ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วกำลังจะเตรียมตัวนอน แต่อยู่ดี ๆ พิธาเพื่อนของเขาก็โทรมาเร่งให้เขารีบไปที่ไนท์คลับ เขาเลยจำใจรีบแต่งตัวเพื่อไปไนท์คลับในเวลาสี่ทุ่ม
@BLUE CLUB
รามสูรเดินเข้ามาในไนท์คลับที่ผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน แต่ดีหน่อยที่มีการ์ดคอยกันคนให้ เขารีบเดินตรงขึ้นไปหาเพื่อนของเขาที่โซน VIP ทันที แต่เพราะเป็นเจ้าของไนท์คลับเลยมีห้องของตัวเองโดยเฉพาะ
แอดดด
อิทธิบอดี้การ์ดส่วนตัวเปิดประตูให้เขาเข้าไป ก่อนจะเดินตามเข้ามา
“มาได้แล้วเหรอครับท่านประธาน ถ้ากูไม่โทรตามคงจะไม่มาหรอกนะ”
“มึงมีอะไรทำไมต้องโทรให้กูมาหาด้วย”
“กูไม่เจอหน้ามึงเป็นเดือนแล้ว กลัวลืมหน้าก็เลยโทรให้มาหา”
“แล้วทำไมมึงไม่ไปหากู”
“ก็งานกูเยอะมึงเห็นไหมเนี่ย”
“วันนี้เอาอะไรเหมือนเดิมไหม”
“เหมือนเดิม” พิธาก็หันไปสั่งลูกน้องตัวเองเพื่อไปบอกพนักงานให้มาเสิร์ฟเครื่องดื่มให้พวกเขา นั่งรอไม่นานก็มีพนักงานหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเขาคุ้นหน้าเธอมาก เพราะโดยปกติแล้วก็มีแค่เธอเท่านั้นที่มารินเหล้าให้เขากับเพื่อนเดินเข้ามาพร้อมถาดเครื่องดื่ม
“รินเลยไหมคะพี่ธา”
“รินเลยครับคนสวย” เธอนั่งลงเครื่องดื่มให้พวกเขาตามปกติ
“น้ำมนต์ พนักงานคนนั้นเพิ่งมาทำงานเหรอทำไมพี่ไม่เคยเห็น”
“ใช่ค่ะมาทำวันนี้วันแรก เธอเป็นรุ่นน้องที่สนิทของมนต์เองค่ะ มนต์พามาสมัครเมื่อวาน”
“อ๋อ”
รามสูรนั่งฟังเพื่อนตัวเองกับพนักงานหญิงคุยกัน พร้อมกับมองไปยังด้านนอกมองคนที่สองคนนี้พูดถึง
พิธาที่เห็นเพื่อนตัวเองเอาแต่นั่งจ้องพนักงานใหม่ไม่วางตา คลี่ยิ้มนิดหน่อยด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาไม่เคยเห็นเพื่อนตัวเองนั่งจ้องมองผู้หญิงได้นานขนาดนี้
“เป็นไงสนใจเหรอ เดี๋ยวฉันติดต่อให้ไหม”
“ก็เฉย ๆ”
“เฉย ๆ แต่มองตาไม่กะพริบเลย”
“มึงก็มอง”
“น้ำมนต์ไปเรียกพนักงานใหม่มาหน่อย เพื่อนพี่มันสนใจเธอ”
“มนต์ขอคนหนึ่งนะคะ มนต์ไม่อยากให้น้องเขารับทำแบบนั้นน้องเขาน่าสงสารมาก”
“น่าสงสารยังไง ถ้าได้ไปกับฉันสบายทั้งชีวิต ไปเรียกเข้ามาหน่อยฉันไม่ทำอะไรหรอกแค่อยากเห็นหน้าใกล้ ๆ”
“ก็ได้ค่ะ” พนักงานหญิงที่ชื่อน้ำมนต์เดินออกไป
“ได้ยินข่าวว่าแม่มึงอยากให้มึงแต่งงานเหรอวะ”
“อืม พูดกรอกหูกูทุกวันจนกูเริ่มรำคาญ”
“มึงก็รีบแต่งสิคุณแม่จะได้เลิกบ่น”
“มันหาง่ายก็ดีสิ เคยหามาให้แล้วก็ไม่ชอบกูเลยไม่รู้ว่าต้องทำยังไง”
“มึงก็หาคนที่เหมาะสมกับตัวเองสิ”
“พูดมาก”
เขาไม่สนใจคำเพื่อนพูด แต่กลับหันไปสนใจผู้หญิงด้านนอก ที่กำลังยืนคุยกันพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา
พระพายที่กำลังยืนเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับลูกค้าอยู่ หันไปด้านหลังเพราะมีคนมาสะกิด เห็นเป็นน้ำมนต์ที่กำลังยืนอยู่ “พี่มนต์มีอะไรเหรอคะ”
“เข้าไปในห้องกับพี่หน่อยพอดีเพื่อนเจ้าของไนท์คลับอยากเจอ มันไม่มีอะไรหรอกไม่ต้องกลัวพี่ก็อยู่”
“ค่ะ”
เธอเดินตามน้ำมนต์เข้ามาในห้อง ซึ่งเป็นห้องที่ค่อนข้างหรูหราที่สามารถมองไปเห็นข้างนอกได้หมด แต่ข้างนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้ พี่น้ำมนต์เปิดประตูเข้ามาในห้อง เธอก็เดินตามเข้าไปเห็นผู้ชายนั่งอยู่สองคน และมีเหมือนการ์ดยืนอยู่ประมาณห้าคนทั่วห้อง
“มานั่งนี่สิ” ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่โซฟาเรียกเธอเข้าไปนั่งข้าง ๆ เธอมองหน้าน้ำมนต์ น้ำมนต์ก็ชี้ให้เธอไปนั่งเธอก็เลยเดินไปนั่งลง ส่วนพี่น้ำมนต์ก็ลงไปนั่งกับผู้ชายอีกคน
“สวัสดีค่ะ”
“ชื่ออะไร”
“พระพายค่ะ” หลังจากผู้ชายคนที่อยู่ข้างเธอเอ่ยถามชื่อทำให้เธอต้องตอบเขาไป
“มาทำงานที่นี่วันแรก?”
“ใช่ค่ะ”
“ต้องการเท่าไร”
“คะ”
“มาเป็นผู้หญิงของฉันต้องการเท่าไร”
“คุณพูดบ้าอะไร” เธอลุกขึ้นด้วยความไม่พอใจที่อยู่ดี ๆ เขาก็พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้
“ไอ้พิธาออกไปก่อน กูขอคุยตามลำพังกับผู้หญิงคนนี้ ส่วนเธอนั่งลง” พิธากับน้ำมนต์เดินออกไปจากห้อง พร้อมกับเหล่าบอดี้การ์ดทั่วห้องก็เดินตามกันออกไป จนตอนนี้ในห้องเหลือแค่เธอกับผู้ชายคนนี้
“เป็นผู้หญิงของฉันจะเอาเท่าไร” เขายื่นข้อเสนอให้กับผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา
“ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงขายตัวนะ ทำไมต้องดูถูกกันด้วยถึงฉันจะจนแต่ก็มีศักดิ์ศรี”
“ศักดิ์ศรีของเธอมันกินได้เหรอ ถ้าทบทวนได้แล้วก็โทรมาหาฉันหรือไม่ก็ไปพบฉันที่นี่” เขายื่นนามบัตรตัวเองยัดใส่มือให้เธอ
“......” เธอไม่พูดอะไรเอาแต่นั่งนิ่งมองหน้าเขากลับ “คุณชื่ออะไรฉันยังไม่รู้เลย”
“ฉันชื่อรามสูร เก็บข้อเสนอของฉันไปคิดดี ๆ” เขาพูดแค่นั้นแล้วก็ลุกเดินออกไป ทิ้งให้เธอนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียพร้อมกับคิดทบทวนคำพูดของเขาไปด้วย