ตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัว

1897 คำ
ไอเดีย... ตอนนี้นักศึกษาทุกคนกำลังลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวกลับหลังจากประชุมรับน้องเสร็จ "ที่รัก" นักรบเดินเข้ามากระซิบข้างหูฉันขณะที่ฉันกำลังช่วยเพื่อนๆเก็บอุปกรณ์ข้าวของต่างๆ พอได้ยินเขาเรียกแบบนี้ฉันก็รีบหันไป ทำตาขวางใส่เขาทันที ดีที่ตรงนั้นไม่มีใครอยู่ก็เลยไม่มีใครได้ยินสรรพนามที่เขาใช้เรียกฉัน "ขอร้องล่ะอย่ามาเรียกกันแบบนี้ได้ไหม นี่มันในมหาลัย" "อ่อแปลว่าเรียกที่อื่นได้ใช่ไหม" "ไม่ได้ที่ไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้นถ้านายยังเรียกแบบนี้อีกฉันจะไม่พูดกับนายอีก" "โอเค ไม่เรียกที่รักก็ได้^^" เขาตอบพร้อมกับส่งยิ้มด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ฉันว่าเขาไม่มีทางยอมทำตามที่ฉันพูดง่ายๆหรอกเชื่อไหม หลังจากเก็บของอะไรเสร็จฉันก็ต้องจำใจเดินตามนักรบมาที่รถเพราะกระเป๋าของฉันอยู่ที่เขา ถามว่ากระเป๋าของฉันไปอยู่ที่เขาได้ยังไงเขาอาศัยจังหวะที่ฉันกำลังเก็บของอยู่เขาเดินไปหยิบมันแล้วเอามาคล้องไว้ที่ไหล่ฉันขอก็ไม่ยอมคืนให้จนยัยปุ้ยแซวบอกว่าฉันน่าอิจฉาที่มีผู้ชายมาช่วยถือกระเป๋าให้ พอมาถึงบนรถฉันก็นึกขึ้นได้ว่าฉันมีเรื่องจะถามเขา ก็เรื่องที่จะไปเข้าค่ายนั่นแล่ะ เขาอาจจะไม่อยากไปเพราะการเดินทางมันลำบากไหนจะต้องตื่นแต่เช้าไปขึ้นเครื่องที่สนามบินพอไปถึงก็ต้องนั่งรถไปบนดอยอีกแล้วกว่าจะถึงหมู่บ้านก็ต้องเดินเท้าเข้าไป ถามว่าทำไมมหาลัยKถึงมีกิจกรรมรับน้องแบบนี้ทั้งที่นักศึกษาส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นลูกคุณหนูผู้ดีมีเงินไม่เคยใช้ชีวิตลำบากยกเว้นแต่เด็กนักเรียนทุนที่บ้านไม่ค่อยมีฐานะเช่นฉันเป็นต้น เท่าที่ฉันรู้มาก็คือผู้บริหารของมหาลัยKท่านต้องการให้นักศึกษาทุกคนรับรู้ถึงความลำบากไม่ใช่ว่าใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเพียงอย่างเดียวและอีกอย่างซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญก็คือเป็นการช่วยเหลือสังคมด้วย แต่ท่านก็ไม่ได้บังคับว่าทุกคนต้องไปคือถ้าใครไม่สะดวกใจที่จะไปก็ไม่ว่ากันและจะไม่มีการหักคะแนนกิจกรรมด้วยแต่ให้ทำรายงานแทน "เรื่องไปเข้าค่ายที่เชียงใหม่นายไม่ไปใช่ไหมฉันจะได้ลงชื่อให้" ฉันถามเขาเพราะฉันมีหน้าที่ส่งรายชื่อนักศึกษาที่ขอไม่เข้าร่วม "ทำไมถึงคิดว่าผมจะไม่ไป" "ก็มันไปลำบากไงนายไม่เคยลำบากไม่เคยเดินทางไกลๆแถมยังเป็นการเดินขึ้นดอยเข้าหมู่บ้านอีกเพราะหมู่บ้านถนนไม่มีรถเข้าไม่ถึงต้องเดินเข้าไป แล้วที่สำคัญที่นั่นมีแค่ไฟโซล่าเซลซึ่งคนในหมู่บ้านจะใช้แค่ในยามที่จำเป็นเท่านั้นตกตอนกลางคืนมาเค้าจะงดจ่ายไฟ อ่ออีกอย่างสัญญาณมือถือก็ไม่มีด้วยแล้วนายที่ชอบเล่นเกมส์ดึกๆดื่นๆนายจะอยู่ได้เหรอ" "พูดเหมือนดูถูกกันเลยนะป้า ผมไม่ได้เป็นคุณชายขนาดนั้นสักหน่อยที่จะทนความลำบากไม่ได้ อันที่จริงผมก็ไม่ชอบหรอกนะความลำบากอ่ะในเมื่อเราเลือกได้แต่ที่ผมอยากไปก็เพราะป้านั่นแล่ะ" "เพราะฉัน??" "อื้มมม ป้าไปไหนผมไปด้วย^^" ฉันใจสั่นทำไมกันเนี่ย >นักรบ... จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ เป็นครั้งที่สองที่ผมจูบไอเดีย ขอเรียกไอเดียก็แล้วกันนะเรียกยัยป้าบ่อยๆรู้สึกสงสาร 5555 "นายจูบฉันอีกแล้วนะ" ไอเดียรีบเอามือเช็ดปากตัวเองทันทีที่ผมผละริมฝีปากออก ผมสังเกตหน้าเธอแดงมากไม่รู้โกรธหรือเขินกันแน่ "ก็ใช่ไง ผมอยากจูบผมก็จูบ ปากป้านุ่มมากเลยอ่ะ^^" "ฉันจะทำยังไงกับนานดีเนี่ย ฉันจะฟ้องน้าอนงค์ว่านาย..." "ว่าผมจูบป้าอ่ะนะ ฟ้องเลยครับเพราะผมก็อยากให้แม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ผมกำลังตกหลุมรักป้าอยู่" "นายว่าไงนะ" "ผมบอกว่าผมกำลังตกหลุมรักป้าอยู่ โดยที่ผมไม่รู้ตัว" ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังซึ่งผมพูดจริงนะไม่ได้แกล้งหรืออำไอเดียผมก็ไม่รู้ว่าผมไปรู้สึกกับไอเดียยังไงตอนไหน แต่ผมสาบานได้ว่าผมไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลยแม้แต่ผู้หญฺิงที่ผมเคยมีอะไรด้วย ตั้งแต่มีไอเดียเข้ามาในชีวิตมันเหมือนผมมีความสุขขึ้นทุกวันได้พูดแหย่แกล้งได้ทำให้เธอโมโหแต่เธอก็พยายามระงับความโกรธแถมยังดูแลผมเป็นอย่างดีหรืออาจจะเป็นเพราะผมได้ฟังเรื่องราวของเธอมาจากแม่ของผมทำให้ผมรู้สึกเห็นใจจนกลายมาเป็นความรัก ย้อนไปเมื่อหลายเดือนก่อนตอนนั้นพอผมรู้ว่าตัวเองสอบติดมหาลัยKซึ่งเป็นมหาลัยที่พ่อผมเป็นหุ้นส่วนใหญ่อยู่ อ่อบอกไว้ก่อนว่าผมไม่ได้ใช้เส้นสายอะไรนะเพราะพ่อผมท่านไม่ชอบเรื่องพวกนี้ผมสามารถสอบเข้าได้ด้วยตัวของผมเอง พอผมรู้ผลว่าผมสอบติดพร้อมกับไอ้ซีเพื่อนสนิทของผมผมดีใจมากเพราะไม่ต้องไปเรียนต่อเมืองนอก จนกระทั่งแม่มาบอกว่าถ้าผมจะเรียนต่อที่นี่ผมต้องไปอยู่คอนโดที่ท่านเตรียมไว้ให้ซึ่งผมก็เพิ่งรู้ว่าแม่ซื้อคอนโดที่นี่ไว้นานหลายปีแล้วตั้งแต่ผมเรียนมอต้นเพราะแม่รู้ว่าผมจะต้องสอบติดมหาลัยKอย่างแน่นอน แล้วผมก็สอบติดจริงๆ แต่....แต่ผมจะไม่ได้อยู่คนเดียวผมต้องอยู่กับไอเดีย ถามว่าตอนนั้นผมรู้จักไอเดียไหมผมไม่รู้จักหรอกถึงแม่จะมาบอกว่าบ้านของไอเดียอยู่ตรงข้ามกับบ้านเราก็ตาม ตอนนั้นผมค้านหัวชนฝาเพราะไม่ชอบอยู่กับคนแปลกหน้าผมชอบความเป็นส่วนตัวแต่แมก็ขอร้องว่าแค่ปีเดียวเท่านั้นพอไอเดียเรียนจบเธอก็จะย้ายออกเพราะเธอจะไปทำงานต่างประเทศ จากนั้นแม่ก็เล่าเรื่องราวทุกอย่างของไอเดียให้ผมฟัง ตอนนั้นผมก็ฟังไปงั้นและแต่ถามว่าสงสารชะตาชีวิตของเธอไหมก็สงสารหรอกนะแต่มันไม่เกี่ยวกันไหมสงสารก็ส่วนสงสาร แต่ผมอยากอยู่คนเดียวไง จนกระทั่งวันที่แม่พาผมมาดูคอนโดแล้วเจอกับไอเดียวันแรก ผมยอมรับว่ารู้สึกใจเต้นแรงตอนที่เราสบตากันครั้งแรกแต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจพูดจายั่วโมโหเธออีกจนผมได้ย้ายเข้ามาอยู่คอนโดผมก็คอยหาเรื่องเธอกวนประสาทเธอทุกวัน แล้วการที่ผมเรียกเธอว่ายัยป้าเพราะผมอยากแกล้งเธอเล่นเฉยๆแต่เธอก็ไม่ได้โกรธผมเป็นจริงเป็นจังหรอกนะยอมให้ผมเรียกแม้จะบ่นบ้างก็ตาม เธอดูแลจัดการชีวิตผมดีมากทำอาหารให้ผมทานทุกวันซึ่งแต่ละอย่างก็เป็นเมนูที่ผมชอบทั้งนั้นเธอคงไปถามแม่ผมมาแล่ะว่าผมชอบอะไรไม่ชอบอะไร ถึงแม้ผมจะโดนเธอบังคับให้กินผักก็ตาม ตอนแรกผมจะไม่กินเพราะผมไม่ชอบมาตั้งแต่เด็กแต่พอรู้ว่าเธออยากได้เงินพิเศษจากแม่ถ้าผมยอมกินผักได้ผมก็เลยยอมกินทั้งที่ไม่ชอบ แต่ผมเพิ่งมารู้เมื่อไม่นานมานี้เองว่าไอเดียไม่ได้บอกแม่เรื่องนี้นั่นก็แปลว่าเธอไม่ได้ต้องการเงินพิเศษอย่างที่เธอพูดจริงๆ เธอแค่อยากให้กินผักก็เท่านั้นแล้วตอนที่ผมป่วยเธอก็คอยดูแลผมเป็นอย่างดี เธอหวังดีกับผมขนาดนี้จะให้ผมใจแข็งกับเธอได้ยังไงจริงไหม ตอนนี้เราสองคนกลับมาถึงคอนโดกันแล้วจะบอกว่าระหว่างทางไอเดียไม่คุยกับผมเลยหลังจากที่ผมบอกว่าผมตกหลุมรักเธอและผมก็จะจีบเธอผมไม่รู้ว่าเธอโกรธหรือเปล่า หรือเธอไม่เชื่อว่าที่ผมพูดมันคือเรื่องจริงเพราะที่ผ่านมาผมชอบแกล้งชอบแหย่เธอตลอด ไอเดีย.... ฉันยอมรับว่าฉันกำลังสับสนกับใจตัวเองหลังจากที่นักรบบอกกับฉันว่าเขาตกหลุมรักฉันโดยที่เขาไม่รู้ตัว เขาพูดจริงหรือพูดเล่นฉันก็ไม่รู้เพราะเขาชอบแกล้งฉันอยู่บ่อยๆ ฉันยอมรับว่าทำตัวไม่ถูก แล้วอีกอย่างเราอยู่คอนโดด้วยกันจะหลบหน้าเขายังไงก็ไม่พ้นอยู่ดี ฉันก็เลยทำเป็นนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอกลับมาถึงคอนโดฉันก็เดินไปเข้าครัวทันทีเพื่อที่จะเตรียมทำอาหารเย็น "นี่ตัวเอง" ขณะที่ฉันกำลังหั่นผักอยู่นักรบก็เดินมายืนด้านหลังเอื้อมมือสองข้างมาค้ำตรงเคาท์เตอร์ครัวที่ฉันยืนทำให้ตอนนี้เหมือนฉันอยู่ในอ้อนแขนของเขา หลังของฉันชิดกับแผงอกของเขาอย่างไม่ตั้งใจเพราะเขาขยับตัวเข้ามาใกล้มากจนฉันใจสั่นมือสั่นหั่นผักผิดๆถูกๆแล้วเขาก็พูดคำนี้กับฉันทำเอาฉันงงไปหมดเขาจะมาไม้ไหนอีก "ตัวเอง?? เรียกใคร" ฉันแสร้งทำเป็นไม่รู้แล้วหันไปถามเขาทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าเขาเรียกฉันก็ในเมื่อทั้งห้องมีกันอยู่แค่สองคนถ้าเขาไม่เรียกฉันแล้วจะเรียกใครล่ะ "ก็เรียกตัวเองไงครับ^~^" "นักรบฉันปวดหัวกับนายมากเลยนะเดี๋ยวเรียกป้า เดี๋ยวเรียกที่รัก ละนี่อะไรอีก ตัวเองตัวเอง ฟังละขนลุก" ฉันพูดไปงั้นแล่ะแต่จริงๆแล้วตอนนี้ฉันกำลังใจเต้นแรงเพราะน้ำเสียงที่เขาพูดมันละมุนมาก เหมือนน้ำเสียงของพระเอกในซีรี่ส์ที่ฉันเคยดู "เดี๋ยวก็ชินน่า อย่าเรื่องมากสิครับ" "........."
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม