นี่น่ะเหรอพ่อของเรา (2)

1040 คำ
“จะรู้จักได้ยังไงก็ทิ้งเราไปตั้งแต่ตอนเราเกิด” ฮันเตอร์โต้อย่างมีอารมณ์และอดเบะปากใส่ไม่ได้ หน้าตาท่าทางก็ดูสมาร์ตน่าเกรงขามอยู่หรอก แต่ฮันเตอร์จะไม่ชื่นชม เขาตั้งป้อมกำแพงไว้แล้ว “หือ? หนูพูดอะไรครับ” “คุณชื่อจรณ์ นาถสุวรรณหรือเปล่าคะ” ฮันนี่ถามขึ้นบ้าง หน้าตาเขาดูไม่ใช่คนประเภทใจดีอ่อนโยน แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องทำใจกล้าเข้าไว้ “ใช่ นั่นคือชื่อและนามสกุลของฉัน” เด็กทั้งสองสบตากันและหันมามองเขาอีกครั้ง จรณ์เลิกคิ้วสูงสงสัยแต่เรียวปากแต้มยิ้มไว้ตลอด ถึงไม่เข้าใจสถานการณ์และไม่ชอบเหตุการณ์วุ่นวายเช่นนี้ แต่พวกเขาก็เป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ จะตะเพิดไล่อย่างไร้เมตตาก็ทำไม่ลง “ใช่จริงๆ ด้วยสินะ คนนี้น่ะเหรอจรณ์ นาถสุวรรณ หึ!” เด็กหญิงประสานมือกอดอก ดวงหน้าจิ้มลิ้มเชิดขึ้นพร้อมกับริมฝีปากเล็กที่เบะคว่ำ “นี่น่ะเหรอพ่อของเรา เหอะ! ดูเป็นคนไม่ดีสมกับหน้าตาจริงๆ ด้วย คงเป็นเหมือนฉายาที่ถูกเรียกจริงๆ น่ะแหละ... คุณชายมาเฟีย ผมว่าคุณน่ะดูเหมือนมาเฟียมากกว่าคุณชายอีก” เด็กชายสำทับอีกเสียงพร้อมประสานมือกอดอกเช่นเดียวกับน้องสาว “เด็กพวกนี้นี่มันอะไรกัน อยู่ๆ มาพูดจากับผู้ใหญ่แบบนี้ได้ยังไง รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” “นี่ไง! คำพูดแบบนี้คนร้ายมักใช้กัน มาเฟียนิสัยแบบนี้ไม่เอามาเป็นพ่อหรอก ฮันนี่พี่ว่าเรากลับกันดีกว่า” “เดี๋ยวๆ หนูพูดอะไรกันเนี่ย ฉันไม่มีลูกและไม่เคยแต่งงาน และปัจจุบันก็ไม่ได้คบหากับใครด้วย” หรือนี่จะเป็นมิจฉาชีพตัวน้อยที่ถูกเทรนโดยผู้ใหญ่มืออาชีพ เด็กสมัยนี้ร้ายบริสุทธิ์กันจริงๆ “คุณลุงมองหน้าผมกับน้องดีๆ สิครับ ดูไม่ออกเหรอว่าผมกับน้องหน้าเหมือนลุงขนาดไหน” “เล่นอะไรกันไม่เข้าเรื่อง” รอยยิ้มจางหายจากใบหน้าหล่อและแทนที่ด้วยออร่าฉุนที่เริ่มครอบงำ “ไม่ได้เล่นค่ะ นี่เรื่องจริง เราสองคนเป็นลูกของคุณ” “ก็บอกไปแล้วว่าฉันไม่มีลูก ไม่เคยแต่งงาน” และมั่นใจว่าไม่ได้ไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหน เขาป้องกันอย่างดีทุกครั้ง ไม่มีผู้หญิงคนไหนจับเขาเป็นสามีได้ทั้งนั้น ยกเว้นก็แต่เมื่อสิบเอ็ดปีก่อน แต่นั่นเขาก็จัดการเรียบร้อยแล้ว “ไม่เคยแต่งงาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีลูกไม่ได้นี่คะ ก็ชื่อของคุณอยู่ในสมุดสีชมพูของแม่นี่นา” “สมุดสีชมพูเหรอ?” “ก็สมุดบันทึกการตั้งครรภ์อะค่ะ” จรณ์ยิ่งฟังก็ยิ่งงง เขากำลังโดนมิจฉาชีพในคราบเด็กไร้เดียงสาหลอกอยู่สินะ จรณ์จะอ้าปากเอ่ยแต่โทรศัพท์ของเด็กชายมีสายเรียกเข้า “แม่โทร.มาอะ” “แม่พวกเธอเหรอ ไหนเอามาคุยซิ” จรณ์มือไว พูดจบก็ฉกโทรศัพท์ของเด็กชายมาครอง “ไม่นะ! อย่ากดรับสายนะครับ” สมองอันชาญฉลาดประมวลผลอย่างว่องไวว่าถ้าหากเขาได้คุยสายกับแม่จะเกิดปัญหาที่ตามมาเป็นขบวนอย่างแน่นอน จรณ์ชะงักนิ้วที่กำลังจะกดปุ่มสีเขียว มองหน้าเหวอตกใจของทั้งสองแล้วสลับมองหมายเลขสิบหลักที่มีชื่อกำกับว่า ‘แม่หมอ’ จรณ์ยิ้มมุมปากตัดสายทิ้งแล้วคืนโทรศัพท์ให้เด็กชาย แต่เขาไม่ใช่คนที่ยอมให้ใครรังแก จรณ์ควักมือถือของตนออกมาแล้วกดหมายเลขสิบหลักที่จดจำจากเมื่อสักครู่ จากนั้นก็ยกแนบหู “สวัสดีครับ คุณเป็นแม่ของ... เอ่อ... พวกเธอชื่ออะไรกันนะ” “หา? อย่าบอกนะว่าคุณโทร.หาแม่เราน่ะ” ฮันเตอร์ถามอย่างตกใจ คนเป็นพ่อยักคิ้วให้อย่างคนที่เหนือกว่า “คุณเป็นใครคะ กำลังพูดถึงลูกของฉันอยู่เหรอ เสียงแว่วๆ นั้นใช่ลูกชายฉันไหมคะ” “คุณเป็นผู้ปกครองของพวกเขาสินะ ผมไม่รู้นะว่าพวกคุณกำลังเล่นอะไรอยู่ หรือมีแผนหลอกลวงต้มตุ๋นยังไง แต่บอกไว้เลยว่าพวกคุณเลือกเหยื่อพลาดแล้ว ผมไม่ใช่คนที่จะมาเล่นด้วยได้” “พูดบ้าอะไรเนี่ย ลูกฉันอยู่ไหน คุณทำอะไรลูกฉัน จับตัวพวกเขาไปเหรอ ไม่ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่โปรดจงหยุดเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะแจ้งความ” เสียงโวยจากปลายสายดูทั้งฉุนและกระวนกระวาย “ลูกของคุณมาวุ่นวายกับผมถึงที่ทำงาน” “ลูกฉันน่ะเหรอจะทำแบบนั้น ไม่จริงอะ คุณมั่วหรือเปล่า นี่คุณเป็นใครเนี่ย มิจฉาชีพใช่ไหม” “คุณน่ะสิครับมิจฉาชีพ เด็กๆ ก็หน้าตาน่ารักกันนะ ทำไมสั่งสอนให้พวกเขาเป็นโจรตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก คุณเป็นแม่ที่แย่มากเลยนะครับ” “ว่าไงนะ! บอกชื่อคุณมาเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะตามไปเอาเรื่องถึงที่แน่ คุณทำอะไรลูกฉัน จับตัวพวกเขาไปเหรอ ลูกฉันไม่ได้มีนิสัยชอบป่วน ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่คุณบอกว่าพวกเขาไปวุ่นวายกับคุณถึงที่ทำงาน” “อ๋อ นี่เป็นแม่ประเภทลูกฉันเป็นคนดีสินะ” “เอาลูกฉันมาคุยเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะแจ้งความจริงๆ ด้วย” จรณ์ไม่อยากทำสงครามบ้าบอนี้อีกแล้วจึงกดตัดสาย ครั้นจะหันมาสั่งสอนเด็ก พวกเขาก็จูงมือกันวิ่งหนีออกไป ร่างสูงจึงได้แค่เท้าเอวมองตามอย่างงงงัน นี่โลกเรามาถึงขั้นที่ปั้นเด็กมาหลอกผู้ใหญ่เป็นตุเป็นตะแบบนี้แล้วเหรอ แถมยังเลือกเหยื่อได้แย่มาก กล้าสุดๆ ที่เดินมาหาคนอย่างเขาถึงถ้ำเสือ “เจ้าเด็กพวกนี้ ถ้าแน่จริงครั้งหน้าก็มาให้เจออีกสิ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม