บทที่ 2: จุดตัดของสองชีวิต

1613 คำ
บทที่ 2: จุดตัดของสองชีวิต ลมเย็นพัดผ่านลานมหาวิทยาลัยในช่วงปลายเดือนตุลาคม นักศึกษามากมายเดินสวนกันไปมาระหว่างตึกเรียนเสียงพูดคุยผสมกับเสียงหัวเราะของกลุ่มเพื่อนทำให้รมิดาที่กำลังเดินจูงมือน้องอชิรู้สึกอบอุ่นปนประหม่า น้องอชิในชุดเสื้อยืดสีฟ้าพร้อมกางเกงขาสั้นลายไดโนเสาร์ เดินแกว่งมือเล็กๆ อย่างร่าเริง “ป้าดา เราจะไปไหนต่อครับ?” “เดี๋ยวป้าดามีเรียนก่อนนะ อชิไปนั่งเล่นในห้องสมุดกับพี่เปิ้ลก่อนนะครับ” รมิดาก้มลงพูดกับหลานชายพลางลูบหัวเบา ๆ “อชิอยากอ่านนิทานไดโนเสาร์อีก!” เด็กน้อยตาเป็นประกาย “ได้สิ เดี๋ยวป้าดายืมให้” ระหว่างที่รมิดาพาน้องอชิไปส่งที่ห้องสมุด เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยของรุ่นพี่ที่กำลังทำกิจกรรมอยู่หน้าตึกวิศวกรรมศาสตร์ดึงความสนใจของเธอ “นั่นใครน่ะ?” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากกลุ่มนักศึกษา รมิดาหันไปมอง ก่อนจะพบสายตาคมดุของชายหนุ่มคนหนึ่งที่จ้องมาที่เธอ ปรเมศที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์หยุดมือและขมวดคิ้วเมื่อเห็นเด็กตัวเล็กที่เดินจูงมือหญิงสาวข้างหน้า ความรู้สึกแปลก ๆ วาบขึ้นมาในใจ ช่วงบ่ายวันเดียวกัน รมิดานั่งจดบันทึกในสมุดระหว่างฟังอาจารย์บรรยายในห้องเรียน เธอรู้สึกเหมือนมีสายตาใครบางคนมองมาจากด้านหลัง แต่เมื่อหันไปมองกลับพบเพียงความว่างเปล่า หลังเลิกเรียน เธอรีบไปรับน้องอชิที่ห้องสมุด ก่อนจะพบชายหนุ่มคนเดิมที่ยืนอยู่ตรงมุมห้อง ราวกับรออะไรบางอย่าง “คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ?” รมิดาเอ่ยถามอย่างสุภาพ ปรเมศที่กำลังจ้องดูน้องอชิเล่นบล็อกไม้ชะงัก ก่อนหันมามองรมิดาด้วยแววตาเย็นชา “คุณเลี้ยงเด็กคนนี้อยู่เหรอ?” น้ำเสียงเขาเรียบนิ่ง แต่เต็มไปด้วยความสงสัย รมิดาขมวดคิ้ว “ใช่ค่ะ เขาเป็นหลานของฉัน มีอะไรหรือเปล่าคะ?” “หลาน?” ปรเมศทวนคำเหมือนไม่เชื่อ “คุณแน่ใจเหรอว่าคุณเลี้ยงเขาเพราะความรัก ไม่ใช่เพราะหวังอะไรบางอย่าง” คำพูดนั้นเหมือนมีดที่ปักเข้ากลางใจของรมิดา เธออึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะสูดหายใจลึกเพื่อควบคุมอารมณ์ “ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่คำพูดของคุณมันเกินไปแล้วค่ะ!” รมิดาตอบเสียงแข็ง ปรเมศนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาสังเกตเห็นประกายในดวงตาของรมิดา—ความเจ็บปวดปนความมุ่งมั่น ที่บอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้พูดโกหก “ผมชื่อปรเมศ เป็นน้องชายของธีรเทพ และผมคิดว่าคุณรู้จักชื่อพี่ชายผมดี” รมิดาถึงกับพูดไม่ออก หัวใจเธอเต้นแรงเมื่อนึกถึงชื่อที่เขาเอ่ย “ธีรเทพ?” เธอพึมพำ “ใช่” เมศพูดต่อ “ผมมาที่นี่เพราะอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับเด็กคนนี้ เขาเกี่ยวข้องอะไรกับพี่ชายผม และทำไมคุณถึงเป็นคนเลี้ยงดูเขา?” คำถามของเมศทำให้รมิดานิ่งงัน เธอพยายามหาคำพูดมาตอบ แต่กลับรู้สึกเหมือนถูกกดดันจนพูดไม่ออก “น้องอชิเป็นลูกของพี่สาวฉันค่ะ เธอเสียชีวิตหลังคลอด ฉันไม่รู้ว่าคุณเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ แต่ถ้าคุณสงสัยในตัวฉัน คุณก็ไปหาคำตอบเองเถอะ!” รมิดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามสงบนิ่ง แต่แฝงความตึงเครียด “ผมก็จะทำแบบนั้น” เมศตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น หลังจากเหตุการณ์นั้น เมศเริ่มสืบเรื่องราวเกี่ยวกับน้องอชิอย่างจริงจัง เขาได้รู้ว่าพี่ชายของเขาเคยคบหากับธีรดา แต่ความสัมพันธ์นั้นจบลงก่อนที่ธีรดาจะตั้งครรภ์ “แล้วเด็กคนนี้ล่ะ?” เขาพึมพำกับตัวเอง ในขณะเดียวกัน รมิดาก็พยายามปกป้องน้องอชิจากความสงสัยของเมศ เธอไม่อยากให้ใครมาแย่งหลานชายไปจากเธอ ค่ำคืนเงียบสงบ ลมหนาวพัดเอื่อยผ่านหน้าต่างบ้านไม้หลังเล็กที่รมิดาเช่าอยู่ เธอเพิ่งกล่อมน้องอชิเข้านอนเสียงหายใจสม่ำเสมอของเด็กชายวัยสองขวบดังมาจากห้องนอนเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น รมิดาทิ้งตัวลงบนโซฟา ถอนหายใจยาว ความเหนื่อยล้าจากทั้งการเรียนและการดูแลหลานชายประดังประเดเข้ามา แต่ก่อนที่เธอจะได้หลับตาผ่อนคลาย เสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอหันไปมองนาฬิกา “ใครมาดึกขนาดนี้?” เมื่อเปิดประตูออก รมิดาต้องชะงัก ชายหนุ่มร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงสแลคยืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาคมเข้มของเขามองตรงมาที่เธอด้วยแววจริงจัง “คุณ…” รมิดาเอ่ยเบา ๆ “ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณ” ปรเมศพูดเสียงเรียบ “ตอนนี้เหรอ? มันดึกมากแล้วนะคะ” รมิดาขมวดคิ้ว “ดึกแค่ไหนก็ไม่สำคัญหรอก ถ้าคุณยังไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน” เมศพูดพลางก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามา “นี่! คุณจะเข้ามาแบบนี้ไม่ได้นะคะ!” รมิดารีบยกมือกันเขา แต่ปรเมศกลับไม่สนใจ เขายืนกลางห้องนั่งเล่น มองไปรอบ ๆ บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยของใช้เด็ก ทั้งของเล่นกองโตบนพรมและกองหนังสือนิทานบนโต๊ะ “นี่เหรอคือชีวิตที่คุณเลือก? ชีวิตที่วุ่นวายแบบนี้?” “ใช่ค่ะ” รมิดาตอบทันที แม้จะรู้สึกไม่พอใจในน้ำเสียงดูถูกของเขา “แล้วมันผิดตรงไหน?” “มันไม่ผิด…” เมศพูดช้า ๆ พลางหันมามองเธอ “แต่คุณคิดจริง ๆ เหรอว่าคุณจะทำแบบนี้ได้ตลอดไป?” “ฉันไม่ต้องการให้คุณมาตัดสินชีวิตฉัน” รมิดาตอบกลับเสียงแข็ง ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “ฉันทำทุกอย่างที่ฉันทำได้เพื่อหลานชายของฉัน และฉันจะไม่ให้ใครมาทำลายสิ่งที่ฉันสร้าง” “คุณคิดว่าคุณทำคนเดียวได้งั้นเหรอ?” เมศถามกลับ น้ำเสียงเริ่มดุดันขึ้น “คุณยังเรียนอยู่ เงินที่คุณใช้เลี้ยงหลานก็มาจากเงินประกันของพี่สาวคุณ คุณจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน?” รมิดานิ่งไป เธอรู้ว่าสิ่งที่เมศพูดไม่ผิดนัก แต่คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยาม “คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้กับฉัน!” รมิดาเผลอขึ้นเสียง เธอสูดลมหายใจลึกพยายามสงบอารมณ์ “คุณมาที่นี่เพื่ออะไรคะ? คุณต้องการอะไรแน่?” “ผมต้องการรับผิดชอบ” เมศตอบทันที “น้องอชิอาจเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่ชายผม และผมไม่อาจปล่อยให้คุณเลี้ยงเขาไปตามลำพังแบบนี้” คำพูดของเขาทำให้รมิดาชะงัก เธอจ้องหน้าชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ “คุณพูดเหมือนเขาเป็นภาระคุณคิดว่าคุณรับผิดชอบได้ดีกว่าฉันเหรอ?" “ไม่ใช่ภาระ” เมศตอบ น้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย “แต่น้องอชิสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ความพยายามของผู้หญิงคนหนึ่งที่แบกทุกอย่างไว้คนเดียว” “ฉันไม่คิดว่าคุณเข้าใจคำว่าความรัก” รมิดาพูดเสียงเบา แต่หนักแน่น “น้องอชิไม่ได้ต้องการของแพงหรูหราหรืออนาคตที่คุณคิดว่าดีที่สุด เขาต้องการเพียงคนที่รักเขาและอยู่ข้างเขา” คำพูดของรมิดาทำให้เมศนิ่งไป บรรยากาศในห้องดูเหมือนหยุดนิ่ง รมิดากอดอกมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างระแวดระวัง “ผมไม่ได้มาเพื่อแย่งน้องอชิไปจากคุณ” เมศพูดในที่สุด น้ำเสียงเขาเบาลงเล็กน้อย “ผมแค่อยากมั่นใจว่าเขาจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด” “คุณคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดคืออะไร?” รมิดาถาม “ครอบครัวที่แท้จริงไม่ได้มาจากเงินหรือสิ่งของ แต่มาจากหัวใจ คุณไม่เคยอยู่ตรงนี้ คุณไม่เคยรู้ว่าน้องอชิต้องการอะไร” เมศจ้องเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจ “งั้นผมจะอยู่” “อะไรนะ?” รมิดาทำหน้าตกใจ “ผมจะอยู่ที่นี่” เมศพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ผมจะช่วยคุณเลี้ยงน้องอชิ ผมจะไม่ปล่อยให้คุณแบกทุกอย่างไว้คนเดียว” รมิดาอ้าปากค้าง เธอไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” “ถ้าการอยู่ตรงนี้ทำให้ผมมั่นใจได้ว่าน้องอชิจะได้รับความรักและการดูแลที่ดี ผมก็จะทำ” เมศตอบ ดวงตาของเขาจริงจัง รมิดานิ่งไป เธอรู้สึกทั้งโกรธ สับสน และอ่อนล้าในเวลาเดียวกัน “ถ้าคุณคิดว่าคุณจะอยู่ที่นี่แล้วทุกอย่างจะง่ายขึ้น คุณคิดผิด” เธอพูดเสียงเบา “ชีวิตของฉันและน้องอชิไม่ได้เหมาะกับใครบางคนที่มองมันเป็นแค่หน้าที่” “งั้นผมจะพิสูจน์” เมศพูด “ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำให้มันง่ายขึ้น ผมมาที่นี่เพราะผมต้องการเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตน้องอชิ” คำพูดนั้นทำให้รมิดารู้สึกสะท้อนในใจ เธอยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไร แต่เธอก็เริ่มตระหนักว่าผู้ชายคนนี้อาจไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่เธอคิด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม