คนที่ไม่เข้าตา

1309 คำ
“เสียงรถไงล่ะพี่ปิ่น ดังหูดับแบบนี้จะเป็นใครไปได้ นอกจากคุณภู หลานชายคนเล็กของบ้าน โอ๊ย โคตรปวดหัว” แป้งบ่นอุบ “แล้วนั่นแป้งถืออะไรมาเหรอคะ” เธอเห็นแป้งหนีบหนังสือไว้ข้างเอว “พี่ปิ่นว่างงานหรือยังคะ สอนหนังสือแป้งหน่อยสิ แป้งจะสอบขึ้นมัธยมสี่ เดือนหน้านี้ค่ะ” เธอหัวไม่ไว ป้าอรและคนอื่น ๆ ไล่ให้เธอมาหาปิ่น เพราะเห็นว่าพึ่งเรียนจบมาและรุ่นราวคราวเดียวกันให้ช่วยติวให้ “ว่างแล้วมาพี่ช่วยติวให้ แต่พี่ไม่ค่อยเก่งนะ สอบไม่ได้อย่าว่ากันนะแป้ง” ทั้งสองหัวเราะร่า ภาพหญิงสาวมาใหม่หัวเราะและรอยยิ้มหวาน ทำให้ชายหนุ่มผู้เงียบขรึมถึงกับเผลอยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่ใสซื่อบริสุทธิ์ เขาเผลอยืนมองอย่างหลงใหลกับภาพเบื้องหน้า “ว้าว พี่ปิ่นเก่งจังค่ะ” หลังจากที่ปิ่นติวหนังสือให้วันนั้น ผ่านมาเป็นเดือนจนถึงวันสอบขึ้นชั้นมัธยมปีที่สี่ แป้งมีความมั่นใจว่าเธอทำได้แน่ ๆ “พี่ปิ่นคะ อวยพรให้แป้งหน่อยสิคะ” สาวน้อยทำหน้าแป้นแล้น เดินมาหาปิ่นฉัตรที่กำลังง่วนอยู่หน้าเตา “พี่ปิ่นขอให้น้องแป้งสอบได้นะคะ เพี้ยง” เสียงหัวเราะเล็ดลอดไปยังด้านนอกครัว หลานชายคนเล็กที่กำลังเดินขึ้นบันได ในสภาพเสื้อผ้ายับเยิน ผมเผ้ารกรุงรังยังกับไม่เคยหวี มีอันต้องถอยลงมา และเดินไปยังห้องครัวทันที เสียงที่ไม่คุ้นเคย เป็นที่สนใจแก่ชายหนุ่ม แต่ถูกคุณย่านวลปรางเรียกไว้เสียก่อน “ไง ไอ้ตัวแสบ” คำแรกที่ถูกทักทาย “อ้าว คุณย่าสุดสวยของหลาน มานั่งอะไรตรงนี้ครับ มืดแล้วเปิดไฟหน่อยไหมครับ” ชายหนุ่มแกล้งแซวคุณย่านวลปราง “มืดบ้านแกน่ะสิ นี่มันเช้าแล้วไอ้หลานแสบ” พลางตีต้นแขนหลานชาย “อ้าวเหรอครับ ผมแซวคุณย่าสุดสวยเฉย ๆ” เขาหอมแก้มฟอดใหญ่ “โอ๊ย เหม็นเหล้า แกนี่” คุณย่านวลปรางทำเป็นโวยวาย “หนูปิ่นเอ๊ย หนูปิ่น ขอน้ำชาให้คุณย่าหน่อยสิลูก” ท่านร้องเรียกหญิงสาวในครัว ท่านจำเสียงเธอได้ “คุณท่านต้องการอะไรเหรอคะ” แป้งรีบวิ่งมาหา พวกเธอได้ยินไม่ถนัด “อ้าว แม่แป้ง ไหนแม่อรบอกจะไปสอบ แล้วนี่ยังไม่ไปหรือ กี่โมงกี่ยามแล้ว” เมื่อเห็นแป้งวิ่งออกมาจากครัว ท่านก็ถามยาวเหยียด “พอดีกำลังจะไปค่ะ” แป้งบอกเสียงติดลำคอ “ไปได้แล้ว อ้อ บอกหนูปิ่นยกน้ำชามาให้ย่าด้วยนะ แม่บ้านไปไหนกันหมดไม่เห็นสักคน” “ไปจ่ายตลาดยังไม่กลับค่ะ คุณท่านจะเอาน้ำชานะคะ” แป้งรีบเข้าไปบอกปิ่นฉัตร ถึงสิ่งที่คุณท่านต้องการ จากนั้นก็รีบไปโรงเรียน กลัวเข้าสอบไม่ทัน ปิ่นฉัตรถือถาดใส่ชุดกาชงน้ำชา โดยไม่ทันได้สังเกตดูชายหนุ่มที่นอนหนุนตักคุณย่านวลปราง “คุณท่านให้ปิ่นวางไว้ตรงไหนดีคะ” คุณย่ายังไม่ทันได้ตอบ เสียงหนึ่งก็พูดแทรกขึ้น “โห้ ใครอะคุณย่าสุดสวย โคตรน่ารักเลยครับ” ชายหนุ่มถึงกับดีดตัวเองลุกขึ้นนั่ง มองอย่างจาบจ้วง นัยน์ตาหวานเยิ้ม “เด็กของย่า แกห้ามคิดเด็ดขาด วางบนนี้เลยหนูปิ่น” คุณย่านวลปรางปรามหลานชายตัวดีแต่เนิ่น ๆ “ฮึ เด็กคุณย่า ผมไม่อยู่เดือนกว่า ๆ คุณย่ามีเด็กใหม่แล้วเหรอครับ อย่างนี้ผมกับพี่เตก็ตกกระป๋องสิครับ แบบนี้” ชายหนุ่มหัวเราะขบขัน ขณะเดียวกันปิ่นฉัตรเตรียมเดินเข้าครัวเหมือนเดิม แต่ถูกเรียกไว้เสียก่อน เธอจำใจต้องอยู่และนั่งพับเพียบลงที่พื้น มือวางประสานบนตัก ทุกการกระทำของหญิงสาว คุณย่านวลปรางจะมองตลอด เพียะ เพียะ… คุณย่านวลปรางหมั่นไส้หลานชาย พูดขึ้นแต่ละคำชวนให้โมโห “โอ๊ย ๆ คุณย่าสุดสวยใช้กำลังกับหลานได้ยังไงครับเนี่ย” ชายหนุ่มท่าทางเป็นมิตรยิ้มให้หญิงสาว ปิ่นฉัตรถึงกับอมยิ้มในความขี้เล่นของเขา “โอ๊ย พอแล้วตาภู ย่าจะแนะนำให้รู้จักหนูปิ่น หนูปิ่นจ๊ะนี่ตาภู หลานอีกคนของย่าจ้ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ชายหนุ่มอย่างนอบน้อม และยังคงก้มหน้าเหมือนทุกครั้ง ภูมินทร์ กฤตทวิโรจน์ อายุยี่สิบเจ็ดปี หลานชายคนเล็กสุดของบ้าน หนุ่มเพลย์บอย ขี้เล่น คุยสนุกสนาน เจ้าสำราญ นิสัยตรงข้ามกับพี่ชายสุดขั้ว เมื่อหมดธุระหญิงสาวก็ขอตัวเข้าครัว มีหลายอย่างที่ยังไม่เสร็จ วันนี้เธออยู่กับแม่บ้านอีกคน ส่วนป้าอรกับอีกคนไปจ่ายตลาดยังไม่กลับ เธอทำอะไรได้ก็ทำรอไปก่อน เพื่อไม่เสียเวลา เช้านี้จึงเป็นแค่ข้าวต้มทะเล ของโปรดชายหนุ่มผู้มาดขรึม กลิ่นความหอมของข้าวต้มลอยคลุ้งมายังด้านในบ้าน คนตัวโตเดินเข้ามาได้กลิ่นพอดี แต่เขาไม่ได้พูดอะไร แม่บ้านออกมาถามคุณย่านวลปรางจะให้เสิร์ฟอาหารเลยไหม เพราะเห็นมากันครบ ปิ่นฉัตรเป็นคนยกข้าวต้มมาวางบนโต๊ะ กลิ่นหอมยั่วชวนน้ำลายสอ “หือ อร่อยจังสาวน้อย” ภูมินทร์พูดกำกวม สำหรับบางคนที่ได้ยิน คนหน้านิ่งมาดขรึม ตักข้าวต้มใส่ปากคำแรก เขาเคี้ยวละเมียดละไม รสชาติช่างเหมือนมารดาทำให้เขากินช่วงวัยเด็กไม่มีผิด เขานั่งกินเงียบ ๆ มีเพียงน้องชายเขาเท่านั้น ที่ทั้งกินทั้งพูด ส่วนคุณย่านวลปรางก็คอยห้ามปราม สุดท้ายก็ต้องปล่อย หญิงสาวยืนนิ่งแอบชำเลืองมองหน้าหลานชายคนโต ว่าเขาจะติหรือต่อว่าไหม แต่กลับไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกจากปากหนา “หนูปิ่น เติมข้าวให้พี่เขาหน่อยสิ” คุณย่าเห็นข้าวต้มในถ้วยของเตชินท์เหลือก้นถ้วย ความประหม่า ทำให้ปิ่นฉัตรถึงกับมือสั่น “ค่ะคุณท่าน” “คุณย่าจ้ะ” หลานชายทั้งสองหันขวับรวมทั้งหญิงสาว ถึงกับหันมองเจ้าของเสียง โดยคนโตถึงกับนึกในใจ ทำไมถึงยอมเด็กที่มาอยู่ไม่นาน ให้เรียกคุณย่า ข้าวต้มถูกตักเติมใส่ถ้วยอีกครั้ง เมื่อทานกันเสร็จต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ปิ่นฉัตรเก็บโต๊ะทำความสะอาดเรียบร้อย ก็กลับไปพักยังห้องเหมือนเช่นทุกวัน ก๊อก ก๊อก “หนูปิ่น ป้าอรเองจ้ะ” ป้าแม่บ้านมาเรียกหญิงสาวให้ไปพบคุณย่านวลปราง “ค่ะคุณป้า” เธอก็ปิดประตู “คุณท่านเรียกหนูปิ่นไปพบจ้ะ” “คุณท่านมีอะไรเหรอคะ ถึงให้ปิ่นไปพบ” เธอแค่สงสัย “ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ ท่านไม่ได้บอก” ก่อนจะเดินนำหน้าเข้ามาในบ้าน และพาขึ้นไปยังห้องนอนของคนที่ต้องการพบ ปิ่นฉัตรกวาดสายตามองรอบ ๆ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอไม่เคยขึ้นมาด้านบนนี้เลย จนวันนี้ เสียงเคาะประตูเป็นการขออนุญาต ก่อนจะเปิดเข้าไป เห็นคุณย่านวลปรางพักผ่อนเอนหลังที่โซฟาหรู ขนาดใหญ่สีแดงกำมะหยี่ “หนูปิ่นมาแล้วค่ะคุณท่าน” “มากันแล้วหรือแม่อร” คุณย่าค่อย ๆ ลืมตา ก่อนลุกขึ้นนั่ง ส่งสายตามองหญิงสาวคนที่ตนเองต้องการพบ “นั่งลงก่อนสิหนูปิ่น” ป้าแม่บ้านเป็นฝ่ายบอกหญิงสาว “ย่าขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ หนูปิ่นอยากเรียนต่อมหาลัยไหมลูก” คุณย่าเริ่มเข้าประเด็นทันที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม