วันเวลาเดินไวเหมือนโกหก เพราะตอนนี้น้ำหวานได้สำเร็จการศึกษาเป็นที่เรียบร้อย พึ่งเรียนจบหมาด ๆ และกลับมาอยู่บ้านเพื่อเตรียมตัวสำหรับหางาน
ทุกคนในครอบครัวนี้เลี้ยงดูเธออย่างดีส่งเสียให้เล่าเรียน ให้ความรักความอบอุ่นเหมือนลูกเหมือนหลานแท้ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยลืมว่าตัวเองเป็นคนอื่น อะไรที่เธอช่วยเหลือหยิบจับเบาแรงทุกคนได้เธอก็ทำอย่างเต็มใจไม่เคยบ่น
เหมือนอย่างตอนนี้ที่เธอสะดุ้งตื่นจากเสียงท่อดังของมอเตอร์ไซต์ที่ขับออกจากบ้านไปหลายคัน ยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์มากดดูเวลา
“เกือบตีสามแล้ว” แต่พึ่งจะพากันแยกย้าย รวมหัวกันตั้งแต่หกโมงเย็นแล้วแยกกันตอนนี้ไม่อาบไปแล้วเหรอ “กินกันได้กินกันดี”
บ่นให้พวกเขาที่ไม่รู้คอทำจากอะไร ไหนจะเครื่องในที่เคลือบทองไว้หรือไงถึงไม่กลัวมันจะไหม้เพราะความร้อนไปก่อน
และพอได้ตื่นได้บ่นก็อดจะลุกออกจากห้องนอนของตัวเองไม่ได้ ลงจากชั้นสองของบ้านออกไปยังบ้านน๊อคดาวน์หลังเล็กที่มีโรงรถเกี่ยวจอดกั้นอยู่
ไม่ใช่ทุกครั้งที่เธอจะต้องเดินมาดูสภาพเจ้าของบ้านหลังเล็กเวลาดื่มเหล้ากับเพื่อน แต่ก็มีบ้างที่บางครั้งยังไม่นอนหรือสะดุ้งตื่นแบบนี้ก็จะออกมาดูความเรียบร้อยบ้าง และที่ต้องทำแบบนี้ก็ไม่ใช่อะไร แต่มันเพราะเวลาพวกเขาพากันเมาจะทำตัวเหมือนไม่กลัวตาย
นอนทิ้งตัว หมดแรงตรงไหนก็พร้อมนอนตรงนั้น สภาพแบบไหนก็อีกเรื่อง เธอจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งเขาเมามาก พอเพื่อนพากันกลับแล้วตัวเองก็จะลุกขึ้นบ้าน แต่เพราะปวดฉี่เลยเดินแบบคนเมา ๆ หาที่ฉี่
แต่สภาพ เดินไปทางรถเกี่ยวที่มีเหล็กแหลมเต็มไปหมด ท่าทางการเดินก็เซจะล้มไม่ล้ม ไหนจะสะดุดเท้าตัวเองเกือบหน้าคมำ ตอนนั้นทำเอาเธอใจหายใจคว่ำรีบวิ่งเข้ามาช่วยแล้วก็บ่นชุดใหญ่
แต่คนเมามันฟังไม่รู้เรื่องไง งึมงำอะไรไม่รู้แล้วก็จะทิ้งตัวอย่างเดียว หลังจากนั้นหากเธอยังไม่นอนก็อดกังวลไม่ได้จะต้องลงมาดูแบบนี้อยู่เรื่อย
“ดูสภาพ” พอเดินมาถึงก็ต้องท้าวเอวบ่นอย่างเหนื่อยใจ
เข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อแม่เขาเอาแต่บ่นเรื่องนี้มาตลอดหลายปีที่เธออยู่อาศัยที่นี่ แม้แต่เธอที่ไม่ใช่แม่เขายังเห็นแล้วอดบ่นไม่ได้เลย
ดูสภาพตอนนี้สิ ไม่รู้ไปทำอีท่าไหนถึงได้นอนคลุกฝุ่นคลุกดินเหมือนหมาแทบดูไม่ได้
“ลุกไหวไหมเนี่ย!” เดินเข้าไปถึงแขนแกร่งของเขาแล้วบ่น “ออกแรงหน่อยสิ”
แต่คนเมากลับนอนไม่ขยับ แล้วตัวเท่าควายเธอจะยกยังไงไหวคนเดียวหากเขาไม่ช่วยออกแรง
“พี่นาย!” ตะคอกใส่คนเมาที่ยังไม่ได้หมดสติไปซะทีเดียว เปลือกตาเขาจะเปิดไม่เปิด มองเธอพร้อมกับรอยยิ้มเหมือนคนบ้า
“ยืนนิ่ง ๆ ดิ จะขยับซ้ายขวาทำไม” คนเมาบ่นให้เธอก่อนจะหลับตาลงด้วยความเวียนหัว
“ดื่มกลัวอายุยืนหรือไงห๊ะ!” เมาแล้วยังโทษคนอื่นไปทั่ว
“พื้นแข็งว่ะ เอาที่นอนมาปูดี ๆ ดิ” บ่นขึ้นอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยสักนิด
“ไม่แข็งก็แปลก นี่มันดินไม่ใช่ที่นอน” เมาคลุกฝุ่นแต่ยังร้องหาความนุ่ม มันน่านักนะ “ลุก!”
บ่นแล้วออกแรงดึงกว่าเก่า ครั้งนี้คนเมาพยายามช่วยออกแรงชันตัวเองขึ้นมาตามแรงดึงของเธอ จนในที่สุดก็สามารถยืนได้
“ยืนดี ๆ สิ” เกือบล้มไปด้วยกันตอนเขายืนได้ก็เซอย่างแรง
“เอ็งยืนตรง ๆ ได้ไหม” ว่าให้เธออีกครั้งทั้งที่เขายืนดี ๆ
“เดินไป” ไม่อยากเถียงกับคนเมา ยกแขนแกร่งพาดคอแล้วโอบร่างใหญ่ของเขาเดินตรงขึ้นบ้านน็อคดาวน์หลังเล็กที่เขาขอพ่อแม่ปลูกอยู่ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเต็มตัวเพราะอยากได้พื้นที่ส่วนตัว
เธอเข้ามาทำความสะอาดที่นี่บ่อย ๆ ตอนเรียนมัธยมส่วนเจ้าของไปเรียนในเมืองและอยู่หอ พอเขาเรียนจบก็กลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิม ช่วยเหลืองานที่บ้านไม่ได้ออกไปหางานทำที่ไหน แต่ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่จะชอบทำความสะอาดบ้าน ก็ยังเป็นเธอที่พอวันหยุดกลับบ้านมาก็เข้ามาทำความสะอาดให้ประจำ
ระยะเวลาหลายปีที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว ทั้งตัวเธอและตัวเขา
“บันไดนะ ยกขาด้วย” บอกเขาเมื่อถึงบันไดขนาดสามขั้น
แต่คนเมายกมั่วซั่วไปหมด บันไดแค่สามขั้นกว่าจะพากันขึ้นมาได้ก็เล่นเอาปาดเหงื่อ
ประคองเขาพาตรงมายังห้องนอนก่อนจะปล่อยทิ้งแรง ๆ อย่างไม่สนใจว่าจะเจ็บหรือเปล่า เพราะขนาดล้มเองยังไม่เป็นไรเลย ให้ตื่นมาช้ำทั้งตัวนั่นแหละจะได้รู้สึกเข็ดกับการเมาไร้สติบ้าง
“เฮ้ย!” ส่งเสียงใส่คนโยนตัวเองอย่างไม่พอใจ นอนหลับตานิ่งแนวขวางเตียง ขายังอยู่ที่พื้น
“มันน่าทิ้งให้นอนคลุกดินถึงเช้าจริง ๆ” ถ้าไม่ติดว่ากลัวหมาจะมาเยี่ยวใส่ ไม่กลัวงูหรือสัตว์มีพิษมากัดเข้าให้ก็ไม่ยกมาหรอก
แต่ถึงจะบ่นแบบนั้นก็ยอมเดินเข้าห้องน้ำไปชุบผ้าใส่น้ำมาเช็ดตัวให้เขาเพราะมันสกปรกเกินไป ถอดเสื้อยืดออกให้แล้วปัดฝุ่นออกจากตัว ก่อนจะเช็ดผ้าเปียกลงไปอีกครั้ง
“มีแฟนหรือยังครับคนสวย” คนที่หลับไปวูบหนึ่งตื่นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อถูกผ้าเย็น ๆ สัมผัสผิว มองภาพตรงหน้าเห็นสาวสวยเช็ดตัวให้อยู่ก็เอ่ยปากแซวด้วยรอยยิ้มหยาดเยิ้ม
“...” ถอนหายใจให้โดยไม่ได้ตอบ ปวดหัวกับคนไร้สติตรงหน้าไม่น้อย
“ใส่ใจขนาดนี้มีใจหรือเปล่าตัวเธอ” ปากยังพร่ำไปเรื่อยตามประสาคนไร้สติ แยกแยะไม่ออกหรอกว่าใครเป็นใคร สมองสับสนว้าวุ่นไปหมด
“มีใจอยากตีหัวพี่ให้แตกนั่นแหละ” บ่นกระปอดประแปดใส่เขาอย่างไม่ใส่ใจ
“มีใจแบบนี้ทดลองให้พี่เป็นผัวดูสักวันก็ไม่ติดนะครับ” เมาแล้วพูดไปเรื่อยตามประสาคนโสด
แต่ถ้าแค่พูดก็ไม่เท่าไหร่ เพราะสมองคนเมาก็ไม่ได้ช้ากับทุกเรื่องเสมอไป
ตุบ! กระชากแขนคนไม่ตั้งตัวล้มลงนอนข้าง ๆ กันบนเตียง
“พี่นาย!” เรียกคนกระชากเธอลงไปนอนด้วยความตกใจ
“รู้จักชื่อพี่ด้วย” ยกยิ้มให้กับชื่อตัวเองที่ออกจากปากของคนสวยตรงหน้า มองใบหน้าของคนใต้ร่างที่สมองรับรู้อย่างเดียวว่าสวย แต่ลืมแยกแยะด้วยว่าเป็นใคร
“พี่นาย... อื้อ!”