ราชันย์ไม่พูดเปล่า พร้อมกับเลิกเสื้อยืดสีขาวตัวโตขึ้นเผยให้เห็นเต้าอวบอิ่มสองเต้าปะทะสายตาเด่นชัด ผิวขาว ๆ ของเธอที่ปะทะกับแสงไฟมันช่างขาวผ่องอย่างหาที่ติไม่ได้ ราชันย์ไม่รอช้าใช้อุ้งปากงับยอดปทุมถันที่บัดนี้ชี้แข็งเป็นไตต้อนรับหายกระหายของเขา เขาดูดเม้มอย่างเมามันทำให้คนใต้ร่างสยิววาบหวามเป็นระยะ มือหนาก็ไม่อยู่นิ่งค่อย ๆ เลื่อนจากสองเต้าอวบอิ่มลงมาที่ช่อบุปผาแสนงามที่บัดนี้ได้เฉอะแฉะไปด้วยน้ำหวาน
นิ้วแกร่งกรีดผ่านตามรอยแยกช้า ๆ เน้น ๆ ยิ่งทำให้เธอตัวเกร็งเป็นระยะ นิ้วแกร่งค่อย ๆ เข้าไปในช่อบุปผาทีละน้อย ก่อนจะกดเข้าไปในร่องสวาทนั้นจนมิดนิ้วสร้างความเสียวกระสัน ก่อนจะค่อย ๆ ผลุบเข้า ผลุบออกช้า ๆ เนิบ ๆ เรียกเสียงครางจากเธอได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากผละออกจากยอดปทุมถันพร้อมกับดึงเสื้อตัวโตทิ้งออกไปอย่างไม่ไยดี ริมฝีปากหนาบรรจงไล่จูบก่อนจะเลื่อนไล้ไปตามร่างกายของเธอ
สลับกับดูดดึงขบเม้มจนเกิดรอยสีกุหลาบเป็นทางตั้งแต่หน้าอกคู่โต ไล่ลงมาจนถึงช่อบุปผาสวยของเธอ เขาเหลือบมองร่างบางก็เห็นว่าเธอหลับตาพริ้มลิ้นสากของเขาจึงค่อย ๆ แตะไปที่กลีบบุปผาเบา ๆ ทำให้ร่างกายของเธอสะดุ้งโยนอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ลิ้นสากตวัดชิมความหวานจากสายธารน้ำที่พร้อมใจกันหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย
ความหวานจากร่างกายของเธอช่างกระตุ้นอารมณ์ราชันย์เป็นอย่างดี ยิ่งลิ้นสากตวัดเร็วมากเท่าไหร่ สายธารของน้ำหวานก็ยิ่งไหลออกมามากเท่านั้น ฝ่ามือน้อย ๆ ของเธอเลื่อนมาสัมผัสที่เส้นผมของราชันย์เพื่อเป็นการระบายอารมณ์ ยิ่งเธอพยายามดันออกมากเท่าไหร่ ราชันย์กลับยิ่งรุกล้ำร่องสวาทของเธอมากเท่านั้น
เธอมีอาการกระตุกเกร็งจนแผ่นหลังของเธอนั้นแอ่นขึ้นโดยอัตโนมัติ ก่อนที่จะรู้สึกหมดเรี่ยวแรง ราชันย์ไม่รอช้าดูดดื่มกับน้ำหวานชั้นเลิศจนหมด ก่อนจะลุกขึ้นเพื่อจัดการถอดปราการขั้นสุดท้ายออก เผยให้เห็นแก่นกายที่ผงาดง้ำรอเข้าถ้ำอย่างใจจดใจจ่อ เขาไม่รอช้าจับเรียวขาของกอหญ้าให้แยกจากกันอีกเล็กน้อย ค่อย ๆ ดันเอวสอบของตัวเองเข้าไปที่กึ่งกลาง พาแก่นกายไปถูไถทักทายช่อบุปผาที่ตอนนี้เริ่มผลิตน้ำหวานมาอีกครั้ง
กอหญ้าที่นอนหายใจหอบเหนื่อย ลืมตาขึ้นมาดูทุกการกระทำของราชันย์ แม้ในหัวสมองจะสั่งให้ต่อต้าน แต่ร่างกายกลับตอบสนองต่อทุกการกระทำของเขาเป็นอย่างดี ราชันย์เหลือบมองหน้าเธออีกครั้ง ก่อนจะยัดมังกรเข้าถ้ำแบบพรวดเดียวมิดด้ามอย่างหื่นกระหาย
“กรี๊ดดดดด”
ราชันย์ไม่ได้สนใจเสียงกรีดร้องของเธอแม้แต่น้อย เอวสอบเร่งจังหวะเพิ่มขึ้น ๆ ทำให้ร่างบางใต้ร่างสั่นขึ้นลงไปตามจังหวะ จากความเจ็บปวดที่ได้รับบัดนี้ได้แปลเปลี่ยนเป็นความเสียวกระสัน เธอรับรู้ได้ถึงร่างกายตัวเองที่ผลิตน้ำหวานออกมาอย่างบ้าคลั่ง ปราวกับว่ามันผลิตออกมาเพื่อปลนเปลอให้กับราชันย์อย่างไรอย่างนั้น
ปึก ๆ ป๊าบ!
“อ๊ะ! อ๊าา~”
“อืมมม..”
เสียงร้องครวญครางของทั้งคู่ดังระงมไปทั่วทั้งห้องนอน ก่อนที่ราชันย์จะบดขยี้แก่นกายนั้นกับกรีบบบุปผาอย่างบ้าคลั่ง เขาเอื้อมมือไปคว้าเอวบางที่นอนหมดแรงขึ้นมาด้วยมือข้างเดียว ก่อนจะถอดถอนแก่นกายออกแล้วจับกอหญ้าให้พลิกหันหน้าเข้าหาที่นอนในสภาพที่เธอหันหลังให้กับเขา มือทั้งสองข้างของเธอดันตัวเองขึ้นจากที่นอนเพื่อพยุงตัวไม่ให้ล้ม มือหนาของราชันย์จับสะโพกของเธอไว้แน่นทั้งสองข้าง ก่อนจะสวบยัดท่อนเอ็นเข้าออกอีกครั้งถี่ ๆ
อารมณ์ตอนนี้ของเขา แม้จะเอาช้างทั้งโขลงมาหยุดก็คงจะไม่ได้ ร่างบางสั่นเทาไปด้วยแรงส่งกระแทกกระทั้นหนักหน่วง อาการจุกที่ท้องน้อยปะปนไปกับอาการเสียวกระสันที่ได้รับยิ่งทำให้ร่างกายของเธอร้อนผ่าว เสียงบทเพลงโลกีย์ของทั้งคู่ดังเซ็งแซ่ไม่หยุด ยิ่งเธอรู้สึกอยากต่อต้านมากเท่าไหร่แต่กลับกลายเป็นว่าร่างกายตอบสนองมากเท่านั้น
แรงกระแทกกระทั้นจากบุคคลด้านหลังยิ่งส่งความถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามอารมณ์ของเขาที่พลุ่งพล่าน และร่างกายของเธอเองก็ตอบสนองเด้งรับท่อเอ็นของเขาอย่างอัตโนมัติ รับรู้ได้ถึงความเสียวแปลบปลาบจากแก่นบุปผา ยิ่งร่างกายเธอบิดเกร็งมากเท่าไหร่ เอวสอบก็ยิ่งเร่งความเร็วของมังกรให้เข้า ออกถ้ำมากขึ้นเท่านั้น
“อ๊ะ.. เสียว..คุณราชันย์ กอหญ้าเสียว..ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ!”
“อยากเสร็จอีกทีก็เสร็จเลยกอหญ้า แม่งตอดแน่นชะมัด อืมม”
“เสียว..อ๊า..จะเสร็จแล้ว อ๊า..อื้อ!”
“โอ้ว..อื้ม!”
ราชันย์สาวเอวสอบเข้าออกอีกสองสามครั้งเพื่อรูดน้ำรักออกจากปากแก่นกายให้หมดสิ้น ก่อนจะผละมือออกจาสะโพกกลมกลึงของกอหญ้า ค่อยๆ ถอดถอนแก่นกายออกจากช่อบุปผาอย่างช้า ๆ น้ำกามสีขาวขุ่นไหลทะลักออกตามมาเป็นทาง ราชันย์ใช้นิ้วแกร่งกรีดไปกลางบุปผาที่บัดนี้เจิ่งนองไปด้วยน้ำกามสีขาว ถูไถขึ้นลงทำให้แขนทั้งสองข้างของเธอหมดแรงฟุบลงกับพื้นเตียง
ยิ่งทำให้กลีบบุปผาของเธอถลาแล่นโผล่เด่นชัดต่อสายตาราชันย์ยิ่งขึ้น นิ้วแกร่งไม่อยู่นิ่งคอยกวาดขึ้นลงช้า ๆ ก่อนจะผลุบหยอกล้อ เข้าออกในโพรงบุปผาอีกครั้ง
“อื้อ!”
ราชันย์ชักนิ้วที่มีน้ำสีขาวขุ่นปะปนกับเมือกสีใสออกมามองตรงหน้า ก่อนจะตบก้นกลมกลึงของกอหญ้าให้นอนราบกับพื้นเตียงนุ่มดี ๆ เดินไปหยิบกระเป๋าเงินในกระเป๋ากางเกงออกมาควักแบงก์สีเทาออกมาหกเจ็ดใบ ก่อนจะโยนไปให้กอหญ้าที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง
“ไปซื้อยาคุมกินซะ แล้วก็ซื้อเสื้อผ้าดี ๆ มาใส่ซะ พรุ่งนี้จะพาไปทำงานที่กาสิโน แล้วคงรู้นะว่าถ้าเธอกล้าหนีไป พ่อเธอจะเป็นยังไง”
กอหญ้าที่ได้ยินว่ากาสิโนก็เด้งตัวลุกขึ้นทันทีแต่อาการแปลบปลาบที่ท้องน้อยรุนแรงกว่า ทำให้เธอลุกขึ้นมาแต่กลับต้องตัวงอเป็นกุ้งลงไปบนที่นอนดังเดิม เธอหันหน้าไปมองราชันย์ที่ตอนนี้ยืนตัวเปล่าเปลือยอยู่ปลายเตียง ก็ต้องเอามือปิดหน้าทันทีที่เห็นเจ้าโลกตัวใหญ่ที่มีท่าทีว่าจะสงบลงบ้างแล้วแต่ก็ยังชูชันตัวใหญ่เด่นสง่าอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ทำเป็นไม่เคย จะเอาอีกสักรอบยังได้นะกอหญ้า มาขัดดอกทั้งทีก็ทำงานให้มันคุ้ม ๆ กับเงินห้าล้านหน่อย เฉพาะค่าตัวเธอเอาทีสองทีคงไม่คิดว่าจะครบห้าล้านไวหรอกนะ”
เขาพ่นคำพูดเหยียดหยามใส่เธอทำให้เธอรู้สึกหน้าชาทันที เธอได้แต่นอนนิ่ง ๆ รับคำดูแคลนจากบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าหนี้ของพ่อ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้พอเธอได้ยินเสียงราชันย์เดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำให้เธอค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นมาเอื้อมมือหยิบเงินที่เขาโยนให้แล้วค่อย ๆ ก้าวขาลงจากเตียงเก็บเสื้อยืดตัวโตที่เธอสวมขึ้นมาสวมอย่างทุลักทุเล
หยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดคราบน้ำที่ไหลเปอะเปื้อนลงมาตามขาของเธอ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูหลังห้องที่เธอตากชั้นในทิ้งไว้ ก็พบว่ามันยังไม่แห้งดีก่อนที่เธอก็หยิบมันมาสวมอย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอเดินไปหากุญแจห้องกับคีย์การ์ดในกระเป๋ากางเกงของราชันย์ เมื่อได้มันมาตามแล้วเธอก็ค่อย ๆ เดินออกจากห้องปลายทางคือร้านขายยาซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร้านขายยาอยู่ที่ไหน
เธอเองที่บัดนี้อยู่ในสภาพเสื้อยืดสีขาวตัวโต ด้านในสวมแค่บราเซียกับกางเกงชั้นใน ผมเผ้ารุงรังถูกมัดรวมแบบลวก ๆ กำลังเดินหาร้านยาอยู่นั้นยิ่งตามหาก็ยิ่งไกลจากคอนโดมากขึ้นบรรยากาศรอบตัวก็ยิ่งวังเวงมากขึ้น เธอเดินเข้ามาในซอยที่ไม่ได้มีแสงสว่างมากนักตามคำบอกทางของคนที่เธอเจอเมื่อสักครู่ เธอรู้สึกยิ่งเดินก็ยิ่งเปลี่ยวทำให้เธอตัดสินใจหันหลังเพื่อจะเดินกลับที่เดิม
และก็ต้องตกใจเมื่อด้านหน้าของเธอตอนนี้กลับมีกลุ่มชายฉกรรจ์ สามคนทำหน้าหื่นกระหายจ้องมาที่ร่างกายของเธออย่างปิดไม่มิด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือผู้ชายที่เธอเพิ่งถามทางไปร้านขายยา เธอจำได้ดีและตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าเธอถูกหลอกให้มาในซอยเปลี่ยว กอหญ้าหันซ้ายหันขวาหาลู่ทางหนีแต่ร่างกายก็ไม่อำนวยเท่าไหร่ ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ช่องทางรักมาเป็นระยะปนเปมากับความรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อยทำให้เธอทำหน้าเหยเก
ชายคนหนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจ์ทำหน้าหื่นกระหายเดินไล่ต้อนเธอเข้ามา ทำให้เธอค่อย ๆ ถอยหลังไปเรื่อย ๆ อีกสองคนด้านหลังชายฉกรรจ์ก็ค่อย ๆ เดินตามมาอย่างอุกอาจ จนแผ่นหลังของเธอปะทะกับกระเบื้องเย็น ๆ ทำให้กอหญ้าสะดุ้งตัวโยนทันทีฝ่ามือสาก ๆ จากชายฉกรรจ์คนหนึ่งเอื้อมมาลูบไล้ใบหน้าของกอหญ้าอย่างกระหาย ไม่ว่าเธอจะปัดป้องแค่ไหนก็ไม่มีท่าทีว่าจะหลุดพ้นและเมื่อเธอต่อต้านมากยิ่งขึ้นชายอีกสองคนจึงวิ่งกรูมาจับแขนทั้งสองข้างของเธอทันทีที่เธอเริ่มปัดป่ายแรงขึ้น มือหนาของชายฉกรรจ์เริ่มลูบไล้จากใบหน้า ลงมาเรื่อย ๆ
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!!”
“เรียกไปก็ไม่มีใครมาช่วยหรอก ตรงนี้ถิ่นพวกพี่นะน้องสาว”
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย!!”
ตุ๊บ! ตุ๊บ!
“มาเดินอ่อยผู้ชายอะไรแถวนี้”
“เห้ย! มึงเป็นใครวะ! มายุ่งอะไรเรื่องผัว ๆ เมีย ๆ”
“ผัว เมีย?”
“เออ! นังนี่มันเมียกู มันอยากสวิงกิ้งแบบเอาทดอร์กูเลยพามันมาจัดสักหน่อย”
“ไม่ยักกะรู้ ว่าเธอเป็นเมียมัน? ..แล้วที่เอากันมาเมื่อกี้ ฉันก็เป็นชู้นะสิ”
“คุณราชันย์ช่วยกอหญ้าด้วย ปล่อยมือฉัน! มันเจ็บ!!”
“ราชันย์?”
“มีปัญหาอะไรกับชื่อฉัน?”
‘ใช่ว่ะ ราชันย์เจ้าของกาสิโนที่มึงทำงานไง เหี้ยแล้วไหมมึง เล่นใครไม่เล่น เล่นเด็กมาเฟีย กูไปละเว้ย’
หลังจากที่พวกมันกระซิบกระซาบกันสักพัก อยู่ ๆ พวกมันก็พากันวิ่งกรูออกไปทันทีดั่งกับผึ้งแตกรัง ทิ้งไว้แค่กอหญ้าที่หมดแรงร่างกายร่วงหล่นไปกองที่พื้น ดั่งดอกไม้ที่ร่วงหล่นจากต้น จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก จะสมน้ำหน้าตัวเองก็ไม่เต็มปาก ชีวิตที่ต้องมาพบเจอแต่เรื่องบัดซบอะไรแบบนี้ มันทำให้เธอจมดิ่งอยู่กับที่ ความรู้สึกที่สลายแทบทุกอย่าง แม้จะรับรู้ว่าราชันย์ไม่ได้มองเธอในมุมที่ดีมากเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังสบายใจที่เขามาช่วยได้ทันพอดี
เธอนึกไม่ออกเลยว่าถ้าเขาไม่เดินเข้ามา เธอจะต้องตกอยู่ในสภาพไหน เธอไม่ได้แหงนมองหน้าเขา และไม่รู้ว่าเขาทำตัวแบบไหน สายตายังไง ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบสักพัก ก่อนที่จะได้ยินเสียงจุดไฟแช๊กหนึ่งครั้ง กับกลิ่นบุหรี่ที่ลอยตามลมมา ไม่ต้องเดาเลยว่าเขาคงไม่สบอารมณ์มาก ๆ อาจจะเป็นเพราะเธอสร้างปัญหา ในเมื่อไม่อยากให้เขาต้องโมโหแล้วไปลงที่พ่อของเธอ เธอจึงค่อย ๆ พยุงตัวเองให้ยืนขึ้นเพื่อจะเดินตามหาร้านขายยาอีกครั้ง
แต่เมื่อเธอลุกขึ้นมาได้แล้วด้วยสภาพเซไปเซมา มือหนาก็ตะปบเข้าที่แขนของเธออย่างแรงทำให้ร่างกายและจิตใจที่เสียขวัญสะดุ้งตกใจจนน้ำตาไหลร่วงมาทันที เมื่อเธอหันไปมองเห็นว่าเป็นมือของราชันย์เธอถึงรู้สึกสงบขึ้นมานิดหน่อย ราชันย์ที่เห็นใบหน้าและแววตาตื่นตระหนกของเธอก็ค่อย ๆ คลายมือลงก่อนจะโยนบุหรี่ในมือทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี ค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้กอหญ้าเล็กน้อยก่อนจะแบมือไปที่ตรงหน้ากอหญ้า
“คะ?”
“คีย์การ์ด”
ราชันย์ตอบสั้น ๆ ก็ทำให้กอหญ้านึกขึ้นได้ว่าตอนที่เธอขัดขืนกลุ่มชายฉกรรจ์ เธอโยนทิ้งซึ่งทุกอย่าง ก่อนจะหันหลังไปควานหาในความมืดอย่างรีบร้อน เธอได้ยินเสียงราชันย์ถอนหายใจเบา ๆ เดาได้เลยว่าเขาต้องหงุดหงิดมาก มันยิ่งทำให้เธอรีบร้อนหามากยิ่งขึ้น แต่ด้วยความมืดของพื้นที่ที่ค่อนข้างเปลี่ยนและไร้ซึ่งแสงสว่างที่เพียงพอ ยิ่งหาเท่าไหร่ก็ยิ่งมองไม่เห็น ราชันย์เปิดไฟฉายจากมือถือให้เธอหาอีกครั้งก็พบว่ามีกุญแจตกอยู่ไม่ไกลมากนัก เธอรีบร้อนไปหยิบมาแล้วยื่นให้เขาทันที ก่อนที่เขาจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้
“ใครใช้ให้แต่งตัวแบบนี้ออกมาเดินเพ่นพ่าน”
“คือ...”
“เลิกคือ แล้วกลับห้องได้ละ”
“คือกอหญ้าอยากไปร้านขายยาค่ะคุณราชันย์”
“ร้านขายยา?”
“ค่ะ”
“ตอนจะตีหนึ่ง?”
“เอ่อ..ค่ะ..”
“ที่ไหนเขาจะเปิดให้เธอ”
“แต่ว่า..”
“เธอมีปัญหาอะไรอีก”
“กอหญ้าอยากได้ยาคุมค่ะ”
“เอาแค่ทีสองทีคงไม่ท้องหรอกกอหญ้า ป่านนี้เขาไปหลับไปนอน ฝันหวานกันหมดละ”
“แต่..”
ราชันย์ถอนหายใจฟึดฟัด ก่อนจะลากข้อมือน้อย ๆ ของกอหญ้าออกมาจากซอยแคบ ๆ ที่ไร้ซึ่งแสงสว่างนั่น เมื่อออกมาถึงปากซอยก็พบกับรถสปอร์ตคันหนึ่งจอดอยู่ ราชันย์กดปลดล็อกประตูก่อนจะจับร่างเล็ก ๆ ของเธอยัดเข้าไปนั่งที่ด้านข้างคนขับ เขาพาเธอขับมาเรื่อย ๆ สักพักก็เจอร้านขายยาที่กำลังเปิดอยู่
ราชันย์จอดรถหน้าร้านยาทันทีแล้วหันไปมองกอหญ้าที่กำลังมองร้านขายยาอยู่เช่นเดียวกัน เธอหันมามองหน้าราชันย์ก่อนจะค่อย ๆ ปลดล็อกรถและเดินเข้าไปในร้านขายยาที่มีเภสัชกรซึ่งเป็นผู้หญิงค่อนข้างมีอายุคนหนึ่งออกมาต้อนรับ
“สวัสดีค่ะ เอ่อ..มีอะไรให้ช่วยไหมคะ”
เภสัชกรที่เห็นสภาพของกอหญ้า ได้แต่อ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร แต่ดูจากสายตาแล้วเขาคงคิดว่าไม่น่าจะใช่เรื่องดี กอหญ้ามองเภสัชสักพัก ก่อนจะส่ายสายตาไปมารอบ ๆ ร้าน
“ขอยาคุมฉุกเฉินแผงหนึ่งค่ะ”
“คุณโอเคไหมคะ ให้แจ้งความไหม?”
“เอ่อ .. ฉันโอเคค่ะ”
“โอเคค่ะ รู้วิธีกินใช่ไหมคะ”
“ไม่ทราบค่ะ กินยังไงหรอคะ?”
“เม็ดแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ทันที อีกเม็ดหลังจากกินเม็ดแรกสิบสองชั่วโมง”
“ขอบคุณค่ะ เท่าไหร่คะ?”
หลังจากที่จัดการเรื่องยาเรียบร้อย กอหญ้าก็รีบเดินออกมาขึ้นรถทันที ราชันย์ที่นั่งรอแบบไม่ยินดียินร้ายเมื่อเธอขึ้นรถเรียบร้อยก็ขับรถมุ่งหน้ากลับคอนโดด้วยความเร็วสูง
เมื่อถึงคอนโดราชันย์ก็พาร่างตัวเองไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ทันที ก่อนจะหลับตาลงราวกับว่าเขานั้นเหนื่อยล้ามามากมาย ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งราวกับว่าเพิ่งนึกอะไรออก
“พรุ่งนี้จะให้คนจัดการส่งชุดมาให้ แล้วไปเริ่มงานที่กาสิโน”
ราชันย์บอกเธอเสียงเรียบ ๆ ทำให้เธอได้แต่ พยักหน้าเป็นเชิงรับทราบแล้ว เมื่อเขาเห็นว่าเธอเข้าใจที่เขาพูด ราชันย์ก็แบกสังขารของตัวเองเข้าห้องนอนไปทันทีเธอได้แต่ถอนหายใจก่อนจะค่อย ๆ เดินออกไปที่ระเบียง หยิบชุดนอนลายคิตตี้ที่ซักตากไว้ออกมาเพื่อจะเตรียมอาบน้ำนอน
เธอเดินเข้าห้องมาก็เห็นว่าราชันย์นอนหลับไปแล้ว เธอใช้ความเงียบที่สุดที่จะเดินไปอาบน้ำ เมื่ออยู่ในห้องน้ำแล้วความคิดหลาย ๆ อย่างก็ตีวนเข้ามาในหัวสมองของเธอราวกับเปิดแผ่นซีดี ยิ่งความเย็นของน้ำกระทบใบหน้ามากเท่าไหร่ น้ำตาหยดน้อย ๆ ก็ค่อย ๆ ไหลรินลงมามากเท่านั้น เธอร้องไห้ ให้กับความบัดซบที่ต้องเจอ ร้องไห้ให้กับความน่าสมเพชที่ต้องได้รับ ร้องไห้ให้กับร่างกายที่โสมม ร้องไห้ให้กับหัวใจตัวเอง
ที่ควรจะเกลียดเจ้าหนี้คนนี้ แต่กลับทุกครั้งที่อยู่ใกล้ทุกครั้งที่สัมผัส ร่างกายกลับไม่เคยต่อต้านเขาได้เลยสักครั้ง เธอร้องไห้พักใหญ่ ๆ ก่อนจะจัดการ อาบน้ำสระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมา ค่อย ๆ ย่องไปฝั่งตรงข้ามที่ราชันย์นอนหลับอยู่ เปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดผ้านวมอีกชุดออกมาเตรียมที่จะปูนอนด้านล่างเพราะไม่อยากขึ้นไปนอนกับราชันย์กลัวว่าเขาจะหงุดหงิดหากเธอนอนไม่อยู่นิ่ง
“ทำอะไร”
“เอ่อ..”
“ขึ้นมานอนให้มันดี ๆ อย่าเรื่องมาก ถ้ายังไม่อยากเหนื่อยอีกยกสองยก”
ราชันย์พูดขู่ทั้ง ๆ ที่ตาไม่ลืมมาดูด้วยซ้ำยิ่งทำให้เธอเกรงกลัวเข้าไปอีก เธอเดินไปหยิบยาคุมฉุกเฉินมากินหนึ่งเม็ดตามที่เภสัชกรสั่ง ก่อนจะเดินมานอนด้านข้างราชันย์ ทุกอย่างตกอยู่ในความมืดเมื่อความเย็นของเครื่องปรับอากาศปะทะกับผิวขาว ๆ ทำให้เธอรู้สึกหนาวขึ้นมา เธอลืมตาขึ้นมาท่ามกลางความมืดและรู้สึกได้ถึงห้องกว้าง ๆ ในความมืดนี้กำลังหมุนอยู่ เธอไม่ได้รู้สึกเวียนหัวแบบนี้มานานมากแล้วตั้งแต่ที่ไม่สบายเมื่อครั้งที่แม่ของเธอยังอยู่ รู้สึกได้ว่ามีอะไรที่แสบร้อนพวยพุ่งออกมาจากคอมาจุกอยู่ที่ปากทำให้เธอรีบวิ่งไปห้องน้ำอย่างช่วยไม่ได้
อ่อก! โอ๊ก!
แม้แต่บะหมี่ที่ยังไม่ลงท้องสักเส้นก็ไม่มีให้ออก มีแต่ความแสบร้อนที่ทรวงอก ที่ปะปนมากับน้ำแสบร้อน ๆ เท่านั้นที่รู้สึกได้ เธอเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่อิดโรย เหลือบมองนาฬิกาติดผนังเป็นเวลาตีสองกว่าเท่านั้น เธอปีนขึ้นไปบนที่นอนเบา ๆ เพราะกลัวคนข้าง ๆ จะตื่นแล้วพยายามข่มตาให้หลับลงอีกครั้งอย่างยากลำบาก
เริ่มรู้สึกได้ว่าร่างกายของตัวเองนั้นมีไอร้อนพวยพุ่งออกมาเล็กน้อย กว่าจะข่มตาลงให้หลับได้ก็เกือบเช้า เธอรับรู้ถึงแรงยุบจากที่นอนฝั่งตรงข้าม ทำให้เธอค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พบว่าราชันย์ลุกมาบิดไล่ความขบเมื่อย ร่างกายที่ด้านบนเปลือยเปล่า มีลอนกล้ามชัดเจนแบบคนสุขภาพดี มองในตอนเช้าก็ยิ่งทำให้รู้สึกหลงใหลมากยิ่งขึ้น