คำสั่งย้าย
ตอนที่ 1
คำสั่งย้าย
ปรางขวัญได้แต่นั่งนิ่งๆ ก้มหน้า ไม่กล้าสบตาใครอยู่ในห้องประชุมของบริษัท เนื่องจากหัวข้อการประชุมในวันนี้เป็นเรื่องที่ปรางขวัญไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเธอมากที่สุด และหัวข้อการประชุมที่ว่านั่นก็คือ...
‘การสั่งย้าย’
ปรางขวัญทำงานเป็นวิศวกรออกแบบของบริษัทรับเหมาก่อสร้างในเครือ เคเอสพี เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น สาขาจังหวัดหนองคาย แต่เนื่องด้วยเคเอสพีที่เป็น ‘บริษัทใหญ่’ หรือ ‘บริษัทแม่’ ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครกำลังประสบปัญหาขาดแคลนวิศวกรอย่างหนัก และมีความต้องการวิศวกรเพิ่มเป็นจำนวนมาก จึงขอความร่วมมือให้สาขาย่อยแต่ละสาขา ส่งวิศวกรไปทำงานที่บริษัทใหญ่จำนวนสาขาละสองคน
โดยจะได้ค่าตอบแทนที่มากขึ้นกว่าเดิมถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ และมีโอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพมากกว่าอยู่ที่ต่างจังหวัด อีกทั้งยังมีค่าเช่าบ้าน ค่าเดินทาง ค่าอาหารกลางวัน โบนัสที่สูงขึ้นตามฐานเงินเดือน และสวัสดิการอื่น ๆ ให้อีกมากมาย
ซึ่งข้อเสนอที่ทางบริษัทยื่นมาให้นั้น เรียกได้ว่าเป็นที่น่าสนใจของวิศวกรทุกคน ก็แน่ละ ถ้าใครตัดสินใจไปก็มีแต่ได้กับได้ ไม่มีอะไรต้องเสียเลย หากแต่ไม่มีใครสามารถไปได้สักคน เพราะส่วนมากต่างก็มีลูกหรือมีครอบครัว ลงหลักปักฐานที่นี่หมดหมดแล้ว จะให้โยกย้ายก็ห่างไกลจากครอบครัว ต้องเริ่มชีวิตใหม่เกือบหมด ทำให้ตอนนี้เหลือตัวเลือกเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังไม่มีพันธะผูกพันใด ๆ
"แก้วอยากไปนะคะ แต่ไม่มีใครดูแลแม่" แก้วกานต์หรือแก้วเอ่ยขึ้นด้วยความเสียดาย เธอสนใจในข้อเสนอของบริษัทและอยากไปมาก แต่เธออาศัยอยู่บ้านกับมารดาแค่สองคน ซึ่งมารดาเธอก็ป่วยออด ๆ แอด ๆ ต้องไปหาหมอเป็นประจำทุกเดือน ถ้าเธอไปก็ไม่มีใครดูแลมารดาให้
"พี่เข้าใจแก้ว" เอกชัยผู้จัดการสาขาควบตำแหน่งหัวหน้าทีมพยักหน้าเข้าใจแก้วกานต์ เพราะเข้าใจในเหตุผลดี และถ้าตัดแก้วกานต์ออกไป ก็จะเหลือคนที่ไม่มีพันธะอยู่อีกสองคน ซึ่งก็คือ... "แล้วพฤกษ์กับขวัญล่ะ ไม่มีใครสนใจเลยเหรอ"
"ผมไปได้ครับ" ชัยพฤกษ์หรือพฤกษ์ตอบรับอย่างง่าย ๆ เพราะเขาก็อยากไปอยู่แล้ว แต่ที่ยังไม่อาสาก็เพราะเขาให้สิทธิ์คนอื่นได้ตัดสินใจก่อน เขาไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ได้ไปก็ดี ไม่ไปก็ได้
"โอเค ได้พฤกษ์แล้วหนึ่งคน เหลืออีกหนึ่งคน ขวัญว่าไง" หลังจากเอกชัยพูดจบ สิบกว่าชีวิตที่นั่งอยู่ในห้องประชุมก็พร้อมใจกันหันมามองกดดันปรางขวัญเป็นตาเดียว "หรือมีปัญหาอะไรหรือเปล่า ปรึกษาพี่ได้นะ" เอกชัยถามต่อด้วยความห่วงใยลูกน้อง เพราะสังเกตจากสีหน้าของหญิงสาวแล้ว ดูเหมือนว่าเธอเองก็อยากไป แต่น่าจะติดอะไรสักอย่าง
ปรางขวัญมองไปรอบ ๆ ทุกคนมองเธออย่างตั้งความหวัง เพราะถ้าเธอไม่ยอมตกลงไปง่าย ๆ ก็จะมีการสุ่ม ซึ่งจะสุ่มโดนใครก็ไม่รู้ อาจจะโดนคนที่มีภาระครอบครัวหนัก ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็คงรู้สึกแย่มาก ที่มีส่วนในการพรากครอบครัวคนอื่น ๆ
แล้วถ้าถามว่าเธออยากไปไหม เธอเองก็อยากไปเหมือนกัน เพราะข้อเสนอที่ทางบริษัทยื่นให้นั้นดี ดีมาก ๆ และอาจเปลี่ยนชีวิตเธอจากหลังมือเป็นหน้ามือเลยก็ได้ แต่เธอก็มีเหตุผลที่เธอไม่อยากไปที่นั่นเหมือนกัน ไม่สิ...ไม่ใช่ไม่อยากไป ต้องบอกว่าเธอ ‘ไม่ควรไป’ ต่างหาก
"พี่ก็อยากไปนะขวัญ แต่ลูกพี่ยังเล็กอยู่เลย ขวัญเห็นใจพี่เถอะนะ" วิราหนึ่งในวิศวกรเอ่ยขึ้นคล้ายขอร้อง เพราะกลัวการสุ่มเลือกหากปรางขวัญไม่ยอมไป ถึงแม้ว่าการสุ่มเลือกจะมีเปอร์เซ็นต์น้อยที่จะสุ่มโดน แต่ก็ไม่มีใครอยากตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงกันทั้งนั้นแหละ
"ใช่ ๆ เมียพี่ก็เพิ่งได้เลื่อนตำแหน่ง แถมยังท้องได้ห้าเดือนแล้ว" กิตติเอ่ยกดดันปรางขวัญอีกคน ก่อนจะตามด้วยคนอื่น ๆ อีกสองสามคน บางคนไม่พูด แต่ส่งสายตากดดันมาให้เธออย่างชัดเจน ทำให้ปรางขวัญตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ดี
"ดีซะอีกนะขวัญ บางทีถ้าขวัญไป ขวัญอาจจะไปได้ดิบได้ดีกลับมาก็ได้นะ แม่ขวัญกับน้องมีนก็จะได้สุขสบายกันไง ไม่ต้องลำบากกันแล้ว" เอกชัยพูดโน้มน้าวขึ้นอีกคน เพราะเขามองเห็นโอกาสที่ปรางขวัญจะได้รับ หากตัดสินใจไป เรื่องมารดาของปรางขวัญนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีใครดูแล เพราะตอนนี้ก็มี ‘ปรางทิพย์’ พี่สาวของปรางขวัญดูแลอยู่ ส่วน ‘น้องมีน’ ที่เอกชัยพูดถึงก็คือหลานสาววัยห้าขวบของปรางขวัญ เป็นลูกสาวของปรางทิพย์
"หรือขวัญมีปัญหาอะไร คุยกับพวกพี่ได้นะ จะได้ช่วยกันหาทางออก" วิราเอ่ยขึ้นอีกครั้ง สีหน้าดูทุกข์ร้อนเป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าปรางขวัญจะปฏิเสธ
"เปล่าค่ะ ขวัญไม่ได้มีปัญหาอะไร" ปรางขวัญก้มมองมือตัวเองที่ประสานกันอยู่ใต้โต๊ะ และส่ายหน้าตอบเสียงแผ่วเบา พูดได้ไม่เต็มปากว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะเธอรู้อยู่เต็มอกว่าปัญหาของตัวเองตอนนี้คืออะไร...
"ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็น่าจะไปได้สิ เนี่ย พฤกษ์ก็ไป ขวัญกับพฤกษ์ก็สนิทกันไม่ใช่เหรอ ก็ไปด้วยกันสิ" วิราเอ่ยต่อ ปรางขวัญหันไปมองชัยพฤกษ์ ชายหนุ่มพยักหน้าให้เล็กน้อย เพื่อบอกให้เธอตัดสินใจเองได้เลย เขาไม่ได้กดดันอะไร
เอกชัยเห็นสีหน้าลำบากใจของลูกน้องสาว จึงเอ่ยขึ้นเพื่อหาข้อสรุป "เอาละ ๆ ถ้าขวัญไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร พี่เข้าใจขวัญนะ ขวัญคงมีเหตุผลของตัวเอง แต่ยังไงก็ต้องไปสองคน ตอนนี้ได้พฤกษ์มาคนหนึ่งแล้ว เหลืออีกหนึ่งคนเราคงต้อง..."
"ขวัญไปเองค่ะ" สุดท้ายปรางขวัญตัดสินใจพูดออกไปในที่สุด เธอไม่อาจทนต่อสายตากดดันที่ทุกคนมองมายังเธอได้ อีกอย่างจิตใต้สำนึกบอกให้เธอต้องเสียสละ
"คิดดีแล้วใช่ไหม" เอกชัยถามย้ำอีกครั้ง
"ดีแล้วค่ะ" หญิงสาวพยักหน้าตอบ ก่อนที่วิราจะเอ่ยต่อ
"ดีแล้วละขวัญ ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นตั้งสามสิบเปอร์เซ็นต์ แถมยังได้ค่าเช่าห้องอีก ค่าข้าว ค่าเดินทางก็ไม่ต้องเสีย เงินเดือนเหลือส่งให้ทางบ้านสบาย ๆ เลย" ก็เพราะเธอคิดถึงตรงนี้ด้วยนี่แหละ ปรางขวัญถึงยอมตกลง ถึงแม้จะไม่รู้ว่าการไปที่นั่นเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้างก็ตาม
"โอเค สรุปเป็นขวัญกับพฤกษ์นะ" เอกชัยเอ่ยสรุป ปรางขวัญกับชัยพฤกษ์จึงพยักหน้ารับ ก่อนที่เอกชัยจะเอ่ยต่อถึงรายละเอียดเรื่องต่าง ๆ "ก็เดี๋ยวอาทิตย์นี้เคลียร์งานที่มีอยู่ให้เรียบร้อยนะ อาทิตย์หน้าก็เดินทางได้เลย ส่วนเรื่องที่พักจะหาเองก็ได้ แล้วแต่เราสะดวก รายละเอียดอื่น ๆ พี่ส่งให้ในเมลนะ ลองเข้าไปอ่านกันดู สงสัยตรงไหนถามพี่ได้ตลอด พี่ยินดีช่วยเหลือทุกคนเต็มที่"