คำสั่งย้าย
ปรางขวัญกลับมาถึงบ้านในเวลาห้าโมงเย็น ความหนักใจทำให้เธอรีบเดินตรงเข้าไปหาปรางทิพย์ที่กำลังง่วนกับการทำกับข้าวอยู่ในครัว แล้วรีบระบายเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้ผู้เป็นพี่สาวฟังทันที
"ก็ดีแล้วนี่ จะได้ไม่ต้องอยู่บ้าน สภาพแวดล้อมก็ไม่ดี" ปรางทิพย์พูดขึ้นเมื่อฟังปรางขวัญเล่าจบ
"มันก็ดีอยู่หรอก แต่พี่ทิพย์ลืมไปแล้วเหรอว่าบริษัทที่ขวัญทำงานอยู่เป็นของใคร" เธอคิดว่าพี่สาวเธอคงลืมข้อเท็จจริงข้อนี้ไป
"พี่ไม่ได้ลืม แต่พี่คิดว่าเรื่องมันก็ผ่านมาห้าปีแล้ว พี่ว่าเขาคงลืมแล้วแหละ" คำว่า ‘ลืม’ ของปรางทิพย์ทำให้ปรางขวัญรู้สึกสะอึก นั่นสินะ เรื่องระหว่างเธอกับเขามันจบไปนานมากแล้ว บางทีเขาอาจจะไม่ได้ใส่ใจและลืมเธอไปแล้วก็ได้
"แต่เขาเคยบอกขวัญว่า อย่ามาให้เขาเห็นหน้าอีก" ปรางขวัญเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งประโยคที่เขาพูดใส่หน้าเธอด้วยสายตาเกลียดชัง เธอยังจำได้ดี
"พี่เข้าใจขวัญนะ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ เราไม่ได้มีทางเลือกอะไรมาก ชีวิตคนเรามันต้องเดินไปข้างหน้า จะมัวสนใจแต่เรื่องในอดีตมันก็ไม่ช่วยอะไร ถ้าเจอกันอีกก็ต่างคนต่างอยู่ไป เราก็ทำหน้าที่ของเรา ไม่ต้องไปสนใจเขา" ปรางทิพย์ลูบแขนน้องสาวอย่างปลอบใจ รู้สึกเห็นใจน้องสาวที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ตัวเธอเองก็คงช่วยอะไรน้องไม่ได้มาก นอกจากให้กำลังใจ และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
"ขวัญเข้าใจแล้ว" ปรางขวัญถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง ถ้าชีวิตเธอเลือกได้สักนิด เธอก็คงไม่ต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ "ขวัญจะทำให้ดีที่สุด ครอบครัวเราจะได้สบายกันสักที"
"ดีมาก พี่ก็จะทำให้ดีที่สุดเหมือนกัน พี่สัญญาว่าพี่จะช่วยแบ่งเบาขวัญให้ได้มากกว่านี้"
ชัยพฤกษ์เดินล้วงกระเป๋าเข้ามาในห้องแพนทรี เท้าที่ก้าวเดินหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนจะก้าวต่อไปยืนข้าง ๆ หญิงสาวที่กำลังยืนคนกาแฟในแก้วอย่างเหม่อลอย
"ขวัญ โอเคแน่นะ" ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะสัมผัสได้ว่าหญิงสาวกำลังกังวลกับอะไรบางอย่างในการตัดสินใจครั้งนี้
"อื้ม โอเคสิ" ปรางขวัญหันหน้าไปมองชัยพฤกษ์แล้วส่งยิ้มบาง ๆ ให้ "พฤกษ์เพิ่งมาถึงเหรอ"
ชายหนุ่มพยักหน้าตอบ "แล้วงานขวัญเป็นไง มีปัญหาอะไรไหม"
"ไม่น่ามีนะ งานไหนต่อเนื่องก็ส่งต่อให้พี่ๆ ทำ" เธอหมายถึงโพรเจกต์งานที่อยู่ในความรับผิดชอบของเธอ ที่ต้องเคลียร์ให้เสร็จก่อนจะถึงวันเดินทาง "แล้วพฤกษ์ล่ะ เป็นไงบ้าง"
"ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเหมือนกัน วันนี้ออกไปตรวจไซต์งาน แล้วส่งต่อให้พี่ ๆ เขาทำต่อ ก็น่าจะเรียบร้อยทั้งหมด"
ปรางขวัญพยักหน้าพลางยกกาแฟขึ้นมาจิบ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเดินทางแล้วสินะ เธอยังคิดไม่ออกเลยว่าหากต้องเผชิญหน้ากับ ‘เขาคนนั้น’ อีกครั้ง เธอต้องทำตัวยังไง เพราะความทรงจำครั้งสุดท้ายระหว่างเขากับเธอนั้นช่างไม่ดีเอาเสียเลย
"ขวัญ"
เสียงเรียกของชัยพฤกษ์ทำให้ปรางขวัญหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเองอีกครั้ง แล้วหันไปมองคนเรียก "หือ...ว่าไง"
"ถ้าขวัญมีเรื่องไม่สบายใจหรือไม่อยากไป เราว่าปฏิเสธไปตอนนี้ก็ยังทันนะ"
ปรางขวัญส่ายหน้ายิ้มๆ "ไม่ทันหรอก อีกอย่างถ้าเราไม่ไปก็ไม่มีใครไปแล้ว"
"ก็สุ่มไง ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน"
"ไม่เป็นไรหรอก เราโอเคจริง ๆ" หญิงสาวตอบพร้อมกับยิ้มยืนยันว่าเธอโอเคจริง ๆ เธอไม่อยากให้ใครต้องมาพลอยหนักใจกับสิ่งที่เธอเลือก จริงอยู่ที่เธออาจจะไม่โอเค แต่มันก็ถอยกลับตอนนี้ไม่ได้แล้วละ เพราะเธอตัดสินใจไปแล้ว "อีกอย่างพวกพี่ ๆ เขาก็มีครอบครัว มีลูกที่ต้องดูแล ถ้าสุ่มโดนใครก็คงแย่ เป็นเราไปน่ะดีที่สุดแล้ว เรายังไม่มีครอบครัวเหมือนคนอื่น ๆ"
"แล้วขวัญโอเคแน่นะ" ชายหนุ่มถามย้ำอีกครั้ง
"แน่สิ เรื่องแค่นี้เอง ดีซะอีก ไปนู่นมีแต่ได้กับได้"
ในเมื่อเธอยืนยันมาแบบนี้ ชัยพฤกษ์ก็พยักหน้าเบา ๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อ เดินไปหยิบแก้วแล้วชงกาแฟดื่ม จากนั้นก็เดินออกไปทำงานของตัวเองต่อทันที
"น่าเสียดายเนอะ ถ้าไม่ติดว่าไม่มีใครดูแลแม่ แก้วจะไม่มีทางพลาดโอกาสนี้แน่ ๆ" แก้วกานต์เอ่ยขึ้นกับปรางขวัญที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กัน อีกสองวันก็จะถึงวันเดินทาง วันนี้เอกชัยจึงพาลูกน้องในบริษัทมาเลี้ยงส่งชัยพฤกษ์กับปรางขวัญที่ต้องเดินทางไปทำงานที่บริษัทใหญ่
"โอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ เลยด้วย" วิราเสริมขึ้นอีกคน
"แล้วทำไมพี่วิไม่ไปล่ะคะ เงินเดือนสูงอยู่แล้ว ถ้าไปก็ยิ่งสูงขึ้นอีกนะ" แก้วกานต์พูด
"พี่ไปได้ที่ไหน ลูกกับผัวพี่ล่ะ ได้ลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวที่นี่แล้ว จะให้โยกย้ายก็ลำบากอยู่นะ" วิราพูดจบ ทุกคนก็พร้อมใจพยักหน้าเข้าใจที่วิราพูด เพราะหลาย ๆ คนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็เป็นเหมือนวิรา
"จริงพี่ ถ้าผมตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อน ผมคงจะรีบอาสาไปอย่างไม่คิดเลยละ" ณัฐพลหนึ่งในวิศวกรพูดขึ้นมาบ้าง
"พฤกษ์กับขวัญได้อ่านรายละเอียดที่พี่ส่งเมลให้กันแล้วใช่ไหม" เอกชัยเอ่ยถามลูกน้องทั้งสองคน
"อ่านแล้วค่ะ" ปรางขวัญตอบ ส่วนชัยพฤกษ์พยักหน้ารับเบา ๆ
"ดี แล้วไม่มีข้อสงสัยอะไรใช่ไหม" ปรางขวัญกับชัยพฤกษ์ส่ายหน้าพร้อมกัน เอกชัยจึงพูดต่อ "งั้นก็ดีแล้ว ไปอยู่นู่นถ้ามีปัญหาอะไรก็ช่วยเหลือกันนะ หรือถ้ายังไงก็ติดต่อมาหาพี่ก็ได้ ถ้าพี่ช่วยได้พี่ก็จะช่วยเต็มที่"
"ค่ะ ขอบคุณพี่เอกมาก ๆ เลยนะคะ" ปรางขวัญยกมือไหว้หัวหน้าที่เธอนับถือเหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง เอกชัยพยักหน้ารับก่อนจะหันไปพูดกับชัยพฤกษ์
"แกก็ดูแลขวัญด้วยนะพฤกษ์ มีอะไรก็ปรึกษากัน ยังไงก็ไปด้วยกัน"
"ครับพี่" ชัยพฤกษ์รับคำทันที
"ถึงพี่เอกไม่บอก วิว่าพฤกษ์ก็ต้องดูแลขวัญเป็นอย่างดีอยู่แล้วละค่ะ" วิราเอ่ยขึ้นอย่างแซว ๆ พลางส่งสายตาล้อเลียนให้สองหนุ่มสาว ก่อนที่คนอื่น ๆ จะมองตามแล้วยิ้มอย่างกรุ้มกริ่ม เพราะรู้ว่าชัยพฤกษ์รู้สึกยังไงกับปรางขวัญ
ถึงแม้ชายหนุ่มจะไม่เคยพูดหรือบอกว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่ทุกคนในบริษัทต่างก็ดูออกกันทั้งนั้นว่าชัยพฤกษ์นั้นชอบปรางขวัญ และรู้สึกกับปรางขวัญมากกว่าเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเรื่องนี้ปรางขวัญเองก็รู้ดีเช่นกัน และเธอก็ไม่ได้รังเกียจความรู้สึกดี ๆ ที่ชัยพฤกษ์มีให้
"พี่รู้แล้ว พี่ก็แค่ทำหน้าที่ของหัวหน้าที่ดีก็เท่านั้น" เอกชัยเอ่ยยิ้ม ๆ รู้สึกยินดีกับหนุ่มสาวทั้งสอง อันที่จริงเขาก็แอบเชียร์ให้ทั้งสองได้ลงเอยกันอยู่ห่าง ๆ เพราะชัยพฤกษ์นั้นก็เป็นผู้ชายที่ดีไม่ได้แย่อะไร เป็นสุภาพบุรุษ แถมยังขยันทำงาน เป็นหนุ่มอนาคตไกล หากทั้งคู่ได้ลงเอยกันก็คงจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่ใช่น้อย "พฤกษ์ พี่เอาใจช่วย" พูดพร้อมกับยกมือขึ้นไปตบไหล่ลูกน้องหนุ่มเบา ๆ
"หวังว่าจะได้ยินข่าวดีเร็ว ๆ นี้นะคะ" แก้วกานต์แซวยิ้ม ๆ ขึ้นอีกคน ถึงแม้ว่าสีหน้าเธอจะดูยิ้มแย้ม ดูเหมือนจะยินดีหากปรางขวัญกับชัยพฤกษ์จะได้ลงเอยกัน แต่ความเป็นจริงแล้วหัวใจเธอกลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยแม้แต่น้อย เพราะเธออยากให้คนที่ได้ลงเอยกับชัยพฤกษ์เป็นเธอต่างหาก
ชัยพฤกษ์หันไปมองหน้าปรางขวัญ เขากลัวว่าเธอจะรู้สึกอึดอัดที่โดนทุกคนแซวกันแบบนี้ แต่พอเห็นว่าเธอกำลังยิ้ม เขาก็เบาใจ และแอบดีใจนิด ๆ ที่เธอไม่ปฏิเสธเวลาที่ถูกแซว
สองวันต่อมาชัยพฤกษ์กับปรางขวัญเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัวของชัยพฤกษ์ตั้งแต่เช้าตรู่ ใช้เวลาเดินทาง
ราว ๆ แปดชั่วโมงทั้งคู่ก็มาถึงจุดหมายปลายทาง
ทางบริษัทจัดพนักงานฝ่ายบุคคลมารอรับทั้งคู่ที่หน้าบริษัทเพื่อพาไปส่งเข้าที่พักที่ทางบริษัทจัดเตรียมไว้ให้ชั่วคราวระหว่างหาที่อยู่ใหม่ ปรางขวัญกับชัยพฤกษ์เลือกที่จะเช่า
อะพาร์ตเมนต์อยู่กันเอง คิดเอาไว้ว่าคงจะอยู่ที่เดียวกันแต่คนละห้อง
เมื่อมาถึงโรงแรมที่บริษัทจัดเตรียมให้ ทั้งคู่ก็จัดการแลกเบอร์โทรศัพท์และช่องทางการติดต่อของฝ่ายบุคคลที่พามาส่งโรงแรม เอาไว้ติดต่อสอบถามในเรื่องต่าง ๆ นั่งคุยกันสักพักฝ่ายบุคคลก็ขอตัวกลับ เพราะก็เย็นมากแล้วและคนที่เดินทางมาเหนื่อย ๆ จะได้พักผ่อน
ปรางขวัญกับชัยพฤกษ์ตกลงกันว่าจะออกไปรับประทานข้าวเย็นกันข้างนอก นัดเวลากันเสร็จสรรพ หญิงสาวก็แยกตัวเข้าห้องของตัวเองไปเพื่ออาบน้ำอาบท่า พักผ่อนก่อนจะถึงเวลาที่นัดกับชัยพฤกษ์เอาไว้
"พรุ่งนี้เราจะไปหาที่พักกันตอนไหนดี" ปรางขวัญเอ่ยถามระหว่างกำลังนั่งรับประทานข้าวอยู่ในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่งใกล้ ๆ กับโรงแรมที่พัก
"ไปสักสาย ๆ ก็ได้มั้ง" ชัยพฤกษ์ตอบพลางตักผัดผักใส่จานให้ปรางขวัญ "จริง ๆ เราดูไว้สองสามที่ เดี๋ยวเราส่งให้ขวัญดู ถ้าขวัญคิดว่าอันไหนมันโอเค พรุ่งนี้เราก็ไปที่นั่นกันเลย จะได้ไม่เสียเวลาเดินหากัน"
โชคดีที่ทางบริษัทมีค่าที่พักให้จำนวนหนึ่ง ออกเพิ่มเองอีกเล็กน้อย ก็สามารถเลือกที่พักที่มีระบบความปลอดภัยดีได้ในระดับที่ดีพอสมควรเลยละ
"โอเค เอาตามนั้นเลย"
แล้วชัยพฤกษ์ก็หยิบสมาร์ตโฟนของตัวเองขึ้นมา กดส่งลิงก์ที่พักที่เลือกไว้ไปในช่องแชตของหญิงสาว ก่อนจะลงมือรับประทานข้าวและพูดคุยกันไปในเรื่องอื่น ๆ ต่อ
กินเสร็จก็พากับกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อน เนื่องจากเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน พอกลับมาถึงห้อง ปรางขวัญก็โทร. หาพี่สาว พูดคุยกันเล็กน้อย ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำแปรงฟันอีกรอบ ออกมาล้มตัวนอนลงบนเตียง และไม่นานก็หลับไปในที่สุด