เสียงเพลงยังคงคลอเบา ๆ อยู่ในร้าน แต่บรรยากาศเริ่มมีความอึดอัดขึ้นเล็กน้อย ทุกคนในวงสนทนาเริ่มเงียบลง ต่างคนต่างจับจ้องไปที่พี่เมฆด้วยสายตาแฝงความสงสัยและไม่ไว้วางใจ ฉันพยายามกลืนน้ำลายอย่างหนัก ใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมานอกอก พยายามตั้งสติและไม่แสดงความหวาดกลัวออกไปให้เห็น “พี่เมฆ… มีอะไรหรือเปล่าคะ?” ฉันถามเสียงสั่น แต่ตั้งใจจะให้หนักแน่นที่สุด เขายิ้มมุมปากที่ไม่อาจคาดเดาได้ “แค่อยากมาทักทาย… แล้วก็คุยกับเธอสักหน่อย” สายตาของเขาไม่เคยละจากฉัน แม้เพื่อน ๆ รอบตัวจะเริ่มทำตัวไม่สบายใจ แต่เขากลับเหมือนยิ่งเพิ่มความกดดันอย่างไม่ลดละ พี่กองทัพที่นั่งข้าง ๆ ฉันขมวดคิ้วแน่น น้ำเสียงเย็นยะเยือก “ถ้าไม่มีธุระอะไร ก็ควรจะกลับไปได้แล้วนะ” พี่เมฆหันไปสบตากองทัพด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มนั้นเหมือนมีดเล่มบางคมที่พรางตัวอยู่ใต้ความอ่อนหวาน “อ้าว พี่กองทัพก็อ