เจลกาตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความรู้สึกว่าวันนี้อาจจะเป็นวันดีของเธอก็ได้...
หญิงสาวซุกหน้ากับพี่แรบบี้ ร้องครางในลำคอเสียงเบาอย่างมีความสุขเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน แม้เขาจะไม่รับรู้อะไรหรอก แต่หัวใจคนที่ตกหลุมรักอีกครั้งก็พองฟูแทบจะระเบิด เนื่องจากบ้านหลังนี้นอกจากคนงานที่ไม่มีที่ไปอย่างเช่นเธอกับป้า ก็มีเจ้าของบ้านเพียงคนเดียวก็คือมาเรียส และธรรมเนียมทุกปีที่เขาปฏิบัติกับลูกน้องใต้อาณัติด้วยความเคารพซึ่งกันและกันก็ทำให้งานเลี้ยงฉลองวันคริสมาสต์ปีนี้เป็นอะไรที่เธอได้แต่ตำหนิตัวเองที่พลาดมันมาหลายปีเพราะความคิดงี่เง่าที่อยากจะตัดใจ แต่สุดท้ายเมื่อเจอเขาอีกครั้งถึงได้รู้ว่าเรื่องตัดใจนั้นเป็นแค่ความคิดเพ้อเจ้อของตัวเธอเองเท่านั้น มันเป็นไปได้ยากพอๆ กับที่เธอจะห้ามไม่ให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกนั่นแหละ
เธออดคิดถึงยามเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขาเมื่อวานไม่ได้ เธอชอบช่วงเวลานั้นเหลือเกิน ยามเมื่อเธอใกล้ชิดกับเขานั้นไม่มีอะไรวิเศษไปกว่านี้อีกแล้ว เจลกาอ้าปากงับใบหูพี่แรบบี้ในยามที่คิดถึงความใจกล้าของตนเองที่ซุกซบกับแผ่นอกของเขาโดยที่เขาไม่รู้ด้วยความรู้สึกทั้งเขินทั้งมีความสุข
ตอนนี้เธออยากเล่าเรื่องนี้ให้ใครสักคนฟัง ทว่าช่วงเวลานี้เธอกลับไม่สามารถติดต่อใครได้ กระทั่งคณิสรที่รู้เรื่องดีป่านนี้ก็คงฉลองวันหยุดกับแฟนหนุ่มมีความสุขลั้นลากันไปแล้ว
เจลกาได้แต่นอนยิ้มกับตนเองเหมือนคนโง่ เพราะในที่สุดการกระทำแสนอ่อนโยนเล็กๆ น้อยๆ ผสมไปกับความเผด็จการของมาเฟียหนุ่มก็ทำให้เธอตกหลุมรักเขาเพิ่มมากขึ้นอีกครั้งจนได้ จากที่อาการของเธอก็หนักอยู่แล้ว ตอนนี้มันคงจะเกินเยียวยาแล้วอย่างแน่นอน เจลการู้ตัวดีเลยเชียวล่ะ
ไม่ว่าจะเมื่อไรมาเรียสก็ทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองเป็นคนพิเศษ เธอรู้จักเขามานานแล้ว รู้ดีว่าเขาเป็นคนอย่างไร เขาไม่เคยสนใจใครพอๆ กับที่ไม่เกลียด มาเรียสแค่ทำทุกอย่างตามหน้าที่ เขาใช้ชีวิตเหมือนหุ่นยนต์ตัวหนึ่งดีๆ นี่เอง เธอถึงได้ตกหลุมรักในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้คนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับมาเรียส วาคอนซีเลสผู้ไม่สนใจมนุษย์หน้าไหน แต่ยื่นมือออกไปช่วยใครสักคนคือสิ่งที่เขาไม่มีวันทำเอง แต่กับเธอคือสิ่งที่เขาทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และเธอก็ได้แต่หวังว่าสักวันจะเป็นวันที่เธอสมหวังบ้าง…
.........
“ทำไมป้าทำแบบนี้ล่ะคะ”
เจลกาถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าสับสนงุนงงเมื่อพบว่าป้าของเธอกลับจะไม่อยู่บ้านเสียอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ท่านเป็นคนบังคับให้เธอกลับมาแท้ๆ
"ฉันลืมไปน่ะสิว่ารับปากสตีฟแล้วว่าจะไปเที่ยวกับเขาหลังคริสมาสต์ แล้วคงไปด้วยกันยาวถึงปีใหม่"
สตีฟ?
เธอมีสีหน้างุนงง ขณะที่ป้าของเธอกลับทำท่าเอียงอายราวกับเด็กสาวๆ ก็ไม่ปาน สร้างความแปลกใจให้เธอเป็นอย่างยิ่ง
“เขาเป็น อ่า… เพื่อนน่ะ” ป้าของเธออ้อมแอ้มตอบ ใบหน้าซับสีระเรื่อ ดูท่าเพื่อนคนนี้น่าจะไม่ใช่เพียงแค่เพื่อนธรรมดา แต่เป็นคนรักของป้ามากกว่า
ดูท่าว่าเพราะเธอไม่ได้กลับมาหาป้านานแล้วกระมัง ป้ามีคนรักเธอถึงได้ไม่รู้เรื่องเลย
“เดี๋ยวพอหลังปีใหม่ อาจจะให้มารู้จักกันเอาไว้นะ”
ป้าบอกเธอด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข นั่นทำให้คนเป็นหลานแม้จะแปลกใจเพราะป้าครองตัวเป็นโสดมานานมากจนกระทั่งอายุห้าสิบสองในปีนี้ เธอคิดว่าป้าอาจจะอยู่กับเธอไปตลอดชีวิต เพราะในชีวิตนี้เธอมีป้าเป็นญาติคนเดียวบนโลกใบนี้ แม้จะรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้างแต่เธอก็ดีใจมากที่ป้าจะมีความสุข เพราะป้าเหนื่อยกับการดูแลเธอมานานแล้ว
“ได้สิคะ” เธอตอบรับพร้อมกับยิ้มกว้าง แล้วตรงเข้าไปสวมกอดร่างผอมบางของป้าแน่น ซบหน้ากับไหล่เล็กของคนที่ตัวสูงไล่เลี่ยกันก่อนจะถูไถใบหน้าไปมา “ป้ามีความสุขใช่ไหม?”
เจลกาถามออกมาเสียงแผ่วเบาด้วยความอยากรู้สุดหัวใจ เธอหวังว่าความรักของป้าจะราบรื่นไม่เหมือนกับเธอ
“อืม…” ป้าร้องรับในลำคอเสียงเบา ขณะโอบกอดเธอและวางมือบนหลังพร้อมกับแตะเบาๆ อย่างอ่อนโยนอย่างที่นานครั้งจะทำ เพราะปกติแล้วป้าของเธอเป็นคนแข็งและเด็ดขาด มักไม่ค่อยแสดงด้านอ่อนโยนอะไรออกมามากมายนัก “อยู่กับสตีฟป้าก็มีความสุข รู้สึกสนุก”
“งั้นก็ดีแล้วละเนอะ ป้าเองไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ มาตั้งนานแล้ว ไปเถอะ หนูอยู่ได้”
เจลกาผละจากอ้อมกอดของผู้เป็นป้า แล้วตอบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสดใส ขณะที่ป้าตีแขนเธอไม่หนักไม่เบาทีหนึ่งแก้เขินเพราะจับกระแสล้อเลียนในน้ำเสียงได้
“ย่ะ ก็เพราะหลานมันไม่ว่างพาไปเที่ยวไง ฉันเลยต้องหาเพื่อนไป แล้วที่มาบอกนี่ก็เพราะมีเรื่องจะไหว้วานหน่อย”
ป้าพูดพลางค้อนขวับใส่เธอ
เจลกาหัวเราะเสียงใส
“ได้สิคะ ป้าจะใช้อะไร หนูทำให้ได้ทู๊ก…อย่าง!” เธอลากเสียงยาวในตอนท้ายแล้วยิ้มกว้างออกมา
ป้าของเธอทนไม่ไหว คราวนี้มือของอีกฝ่ายดีดลงบนหน้าผากนูนเกลี้ยงของเธอดังแปะ ก่อนจะตอบว่า
“ที่ให้แกกลับบ้านให้ได้ก็เพราะอย่างนี้แหละ ป้าจะลาหยุดแล้วหาคนดูแลบ้านแทนไม่ได้ คุณมาเรียสไม่ไว้ใจใครนอกจากป้า ป้าเสนอหลายคนแล้วเขาก็ไม่เอา จนป้าเสนอแกเขาเลยตอบตกลง แกก็รู้ว่าช่วงนี้ท่านจะอยู่ที่นี่ทุกปีและไม่ต้องการให้คนไม่รู้จักเข้าใกล้ แกอยู่ที่นี่ตั้งแต่ยังเด็ก ท่านรู้จักแกดีทุกอย่างถึงได้ยอมรับแกน่ะสิ”
คำตอบยืดยาวนั้นทำให้เธอไม่แปลกใจแม้แต่น้อย นิสัยช่างระแวงและระมัดระวังของมาเรียสนั้นมีมานานแล้ว เพราะเขาเป็นมาเฟียจึงต้องป้องกันผู้คนรอบตัวตลอดเวลา หลายครั้งที่แม่บ้านของบ้านหลังนี้มักจะหายตัวไปโดยที่สาเหตุนั้นเป็นสิ่งที่รู้กันดีในหมู่คนเก่าคนแก่…
คนพวกนั้นถูกกำจัดไปแล้วน่ะสิ!
แน่นอนว่าส่วนใหญ่มักเป็นสายลับของคู่อริที่แฝงตัวเข้ามา นับตั้งแต่เกิดเรื่องเฉียดตายเมื่อสิบปีที่แล้ว มาตรการรักษาความปลอดภัยของหัวหน้ากลุ่มเลสซียิ่งเข้มถึงขีดสุดแล้วไม่มีผ่อนปรน ไม่มีใครกล้าเสี่ยงให้ทายาทของวาคอนซีเลสคนเดียวเป็นอะไรไปได้ เจลกาถือเป็นคนเก่าคนแก่คนหนึ่ง สถานะของเธอถูกรับรองโดยป้าจิตติมา เธอจึงเข้านอกออกในบ้านหลังนี้ได้และได้รับความไว้วางใจพอสมควร
แต่ถึงอย่างนั้น…นี่ก็เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่เธอจะอยู่ในบ้านนี้โดยที่ไม่มีป้าอยู่และคนรับใช้ในบ้านมีน้อยกว่าปกติมาก
“หนูปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมคะ” เธอถาม แม้จะรู้คำตอบอยู่แล้วก็ตาม
“ต้องไม่ได้อยู่แล้ว เอาน่า...” คราวนี้น้ำเสียงของป้าอ่อนลง “นอกจากค่าจ้างปกติแล้ว ป้าจะจ่ายให้อีกต่างหาก”
เห็นเป็นเพียงแค่แม่บ้าน แต่แท้จริงแล้วสถานะของป้านั้นค่อนข้างสูงอยู่มาก เงินเดือนของป้านั้นปีหนึ่งระดับเจ็ดหลักขึ้นไปเพราะเป็นคนเก่าคนแก่ที่ไว้ใจได้ นอกจากเลี้ยงเธอแล้ว การทำงานที่บ้านนี้นั้นแทบจะไม่ต้องเสียเงินค่าอะไรเลย ค่าข้าวค่าน้ำค่าไฟล้วนเป็นสวัสดิการทั้งสิ้น เชื่อได้เลยว่าป้ามีเงินเก็บเยอะมากจริงๆ ฉะนั้นในเมื่อเสนอค่าจ้างให้ขนาดนี้ แถมงานดูแลบ้านนี้ก็แค่ใช้คนต่ออีกทอดและควบคุมให้ทุกอย่างเป็นไปตามปกติเท่านั้น ทำไมเธอจะไม่รับทำเล่า
“ก็ได้ๆ นี่เห็นแก่ป้านะ ไม่ได้เห็นแก่เงินเลย” เธอตอบเสียงหวานใส
ป้าเบ้ปากใส่เธออย่างไม่เชื่อถือ “งั้นแสดงว่าไม่เอาเงินพิเศษสินะ”
เจลกามองค้อนปะหลับปะเหลือก
“เอา!”
เธอจะไม่เอาเงินได้ยังไง ทุกวันนี้เธอหาเงินได้แค่เดือนชนเดือนเองนะ! ค่าครองชีพในเกาะแมนฮัตตันแพงอย่างกับอะไร ได้งานดีเงินงามขนาดนี้ เธอคงอยู่ได้สบายๆ ไปหลายเดือนและอาจจะมีเงินพอถอยกระเป๋าใบใหม่ได้อย่างแน่นอน!
“แกมันงก!”
ป้าจิ้มนิ้วใส่หน้าผากเธอด้วยความหมั่นไส้
เจลกาหัวเราะร่า ตรงเข้าไปกอดและหอมแก้มคนเป็นป้าแรงๆ ทั้งซ้ายขวา
“ก็หลานป้าจิตนี่ ไม่เหมือนป้าจะให้เหมือนใครละเนอะ!”
ป้ามองค้อนเธออย่างอ่อนอกอ่อนใจ แล้วจึงเริ่มสั่งงานเธออย่างเป็นจริงเป็นจังในเวลาต่อมา