“เป็นอะไร”
มาเรียสถามคนที่นิ่งไป ก่อนจะรู้สึกว่าหญิงสาวจิกมือกับคอเสื้อของเขาแน่น จนชายหนุ่มดึงร่างเล็กให้ออกห่างจากนั้นจึงได้เห็นว่าใบหน้าหวานนั้นตอนนี้มีน้ำตาไหลริน
เขามองเธอด้วยสายตาสงสัย ปลายนิ้วแข็งแรงเชยคางเล็กขึ้นแล้วทำท่าจะใช้มืออีกข้างเช็ดน้ำตาให้เธอ แต่หญิงสาวปัดมือของเขาออกอย่างแรง
ดวงตาสีฟ้าอมเทาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและความใจกล้าของหญิงสาว ทว่าวินาทีต่อมาก็ใจสงบลงเมื่อเห็นว่าตอนนี้หญิงสาวกำลังเมา
มีไม่กี่คนหรอกที่กล้าทำอย่างนี้กับเขา และมีไม่กี่คนบนโลกใบนี้ที่เขาดีด้วยอย่างเธอ หญิงสาวไม่จำเป็นต้องรู้ เป็นสิ่งที่เขารู้อยู่แก่ใจตนเองก็เพียงพอแล้ว
“อย่าทำแบบนี้...”
น้ำเสียงสั่นเครือจนน่าสงสารนั้นทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงัก
“ทำอะไร”
มาเรียสถามออกไปในที่สุด ขณะที่หญิงสาวพลันผุดรอยยิ้มหยันออกมา รอยยิ้มทั้งน้ำตาของเธอนั้นให้ความรู้สึกทั้งเหยียดหยันและขมขื่นอย่างบอกไม่ถูก
“ก็ทำแบบนี้...”
“...”
“ใจดีกับเจแบบนี้”
“...”
“ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำกับใครแต่ก็ทำกับเจแบบนี้”
เธอหลุบเปลือกตาลง ในที่สุดก็ยังคงไม่กล้ามองหน้าเขา แม้แต่ในยามที่ขาดสติอย่างนี้อยู่ดี
มาเฟียหนุ่มพลันเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะไม่ได้โง่เท่าไรถึงยังรู้ตัวว่าเขาใจดีกับเธอมากแบบที่ไม่ค่อยใจดีกับใคร
สิ่งที่เขาทำนั้นก็อาจจะเป็นเพราะเธอเป็นหลานสาวของจิตติมา ซึ่งดูแลเขามาตลอดนับตั้งแต่มารดาเสียชีวิต และท่าทางของเธอก็ดูน่าสงสารและน่าปกป้อง มันทำให้คนที่แม้จะแข็งกระด้างถึงที่สุดก็ยังรู้สึกอยากทำอะไรดีๆ ให้เธอ
แต่... เธอมีปัญหากับเรื่องนี้ทำไมกัน
มาเรียสไม่เข้าใจ...เขาทำดีกับเธอ เห็นเธอเป็นหนึ่งในคนที่สนิทและไว้วางใจได้ไม่ดีตรงไหนกัน
“เธอมีปัญหากับเรื่องนี้อย่างนั้นเหรอ”
ชายหนุ่มถามอย่างไม่เข้าใจ เขาเอื้อมมือไปจับไหล่เล็กยึดเอาไว้แน่นเพื่อกันไม่ให้เธอหนีไป
“เจไม่อยากให้คุณทำแบบนี้อีก” หญิงสาวตอบเขาเสียงสั่นเครือ “อย่าทำให้เจมีความหวังแล้วก็ทำลายความหวังของเจซ้ำๆ แบบนี้”
เจลกากำลังพูดจาเพ้อเจ้ออะไรกัน เขาให้ความหวังอะไรอย่างนั้นเหรอ
ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไร หญิงสาวผุดรอยยิ้มหยันออกมา ไม่แน่ใจว่าเธอหยันใครกันแน่ระหว่างตนเองกับเขา ก่อนที่เจลกาจะพูดต่อไปว่า
“คุณไม่รู้สินะคะว่าทำไมเจถึงต้องไปจากบ้านหลังนี้ ทำไมเจถึงต้องหนี ทำไมเจถึงต้อง...หลบหน้าคุณ”
เขาพลันเลิกคิ้วขึ้นมาอย่างประหลาดใจ แสดงว่าที่ผ่านมานั้นมาเรียสไม่ได้คิดไปเองว่าที่เจลกาไม่ค่อยกลับบ้านหลังนี้ตั้งแต่เธอเลือกจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยทั้งๆ ที่เธอก็เรียนในมหาวิทยาลัยที่เมืองนี้แต่กลับแยกไปอยู่หอพักนักศึกษาไม่ใช่เพราะต้องการเติบโตเป็นผู้ใหญ่เหมือนเด็กที่นี่ แต่เป็นเพราะเธอหนีหน้าเขา
อันที่จริงเมื่อคิดทบทวนถึงพฤติกรรมของเธอหลายปีที่ผ่านมาเขาก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอกำลังทำเช่นนั้นจริงๆ นั่นแหละ
“ทำไมล่ะ?”
คราวนี้มาเฟียหนุ่มถามขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ เจลกาในตอนนี้ดูผิดแผกไปอย่างเห็นได้ชัด สีหน้าและแววตาของเธอมีบางอย่างที่เขายากจะอ่านออกและที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือเธอกำลังเจ็บปวด
“ก็เพราะว่า...” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกก่อนจะตอบ “เจรักคุณ”
คำตอบนั้นทำให้มาเรียสค่อนข้างประหลาดใจ เขาปล่อยมือจากไหล่เล็กและถอยห่างเธอออกมาอีกก้าวเพื่อมองเธอให้ชัด หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง แต่ทว่า...
“เธอรักฉันไม่ได้!”
เขาบอกหญิงสาวเสียงเฉียบขาดราวกับเป็นประกาศิต
เขาคือหัวหน้ากลุ่มเลสซี... เขาคือคนในโลกมืด มาเรียสจะไม่มีวันรักผู้หญิงคนไหนนอกจากผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น... นี่คือสิ่งที่เขาเป็น ตำแหน่งสูงสุดบนโลกใบนี้คือที่ที่เขาจะต้องยืน และมันไม่ได้มีที่ไว้ให้คนที่มีความรักยืนอยู่บนนั้น
เพราะความรักคือจุดอ่อน...
“เจรักไปแล้ว จะให้เจทำยังไง!”
เธอตอบกลับอย่างอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป มือเล็กยกขึ้นกอดตัวเองแน่นขณะที่ทรุดลงกับพื้นด้วยท่าทีของคนอ่อนแรงและต้องการหลบหน้าเขาด้วยส่วนหนึ่ง
ถ้าวันนี้ไม่ใช่เพราะเหล้า เจลกาก็ไม่รู้ว่าจะมีวันไหนที่ตนเองจะใจกล้าบอกความรู้สึกของตนเองออกไปอย่างนี้
“ทำใจซะ แล้วเลิกรักฉัน”
ชายหนุ่มบอกกับเธออย่างเย็นชา ขณะที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ คราวนี้เขาไม่ได้ดึงเธอให้ลุกขึ้นยืน แต่กลับปรายตามองเธอด้วยสีหน้าเยือกเย็นราวกับสวมหน้ากาก ใบหน้าที่เขาเคยใช้มองคนอื่นเสมอแต่ไม่เคยใช้กับเธอ
เจลกาใจสั่น เธอทั้งเจ็บปวด หวาดกลัว แต่ก็ยังเป็นคนโง่ที่บ้าบิ่นในยามเมื่อคิดถึงตอนที่เขาพูดคุยกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ
...นัดแนะเจอกันหลังจากนี้เพราะพวกเขากำลังจะวางอนาคตด้วยกัน...
“เจทำไม่ได้”
เธอพยายามเลิกรักเขามากี่ปีแล้ว! ถ้าทำได้เธอคงไม่มีวันนี้หรอก!
วันที่รักเขาเหมือนคนบ้า ทนไม่ไหวถ้าเขาจะมีคนอื่น จนสุดท้ายต้องมาสารภาพรักกับเขาทั้งน้ำตาแต่กลับโดนเขาสั่งห้ามไม่ให้รักอย่างนี้
“เจลกา...” นานครั้งที่เขาจะเรียกชื่อจริงเธออย่างนี้ และน้ำเสียงเยียบเย็นของเขานั้นทำให้เธอปวดใจ “ฉันขอเตือนเธอด้วยความหวังดีว่าเธอต้องหยุด ไม่อย่างนั้นคนที่จะเจ็บปวดเองก็มีแต่เธอเท่านั้น”
“ตอนนี้เจก็เจ็บเองอยู่แล้ว คุณมาเรียสไม่รู้อะไรหรอก!”
เธอตอบเสียงดัง ขณะที่ชายหนุ่มเงียบไป
เจลกาจึงเงยหน้าช้าๆ ขึ้นมองเขาก็เห็นชายหนุ่มก้มหน้ามองเธออยู่ด้วยท่าทีเย็นชาที่ทำให้หัวใจพลอยรู้สึกเยียบเย็นไปด้วย และเมื่อเขาเห็นว่าเธอมองเขา ชายหนุ่มก็ค่อยๆ ลดตัวลงมาระดับเดียวกับเธอ
“ใช่ ฉันไม่รู้อะไรหรอก” เขาตอบรับอย่างไร้หัวใจ ดวงตาคู่สวยจ้องมองเธอราวกับว่าเธอเป็นคนเสียสติคนหนึ่ง “ฉันไม่ค่อยหวังดีกับใครและไม่คิดจะเตือนใคร แต่ฉันจะเตือนเธออีกครั้งนะเจ...เลิกรักฉันซะ”
“...”
“ฉันไม่มีทางรักเธอหรอก”
และฉันก็ไม่มีทางรักใครทั้งนั้นบนโลกใบนี้
“เจเคยลองแล้ว เจพยายามแล้ว...” เธอคร่ำครวญออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวด และยิ่งพยายามก็ยิ่งพบว่าตัวเองได้ทำเรื่องโง่เง่าพวกนั้นออกมา เพราะสุดท้ายเธอก็ตกหลุมรักเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนคนโง่อยู่ดี
“เธออาจจะพยายามไม่มากพอ”
“แล้วคุณจะรู้ได้ยังไงว่าเจไม่ได้พยายามมากพอ แต่เรื่องนี้มันเป็นความรู้สึก! และเจก็ห้ามมันไม่ได้ สงสัยมีแค่ทางเดียวคือเจต้องเดินหน้าเรื่องของคุณให้สุด พอถึงจุดที่ทนไม่ไหวเจอาจจะเลิกรักคุณก็ได้มั้งคะ!”
หญิงสาวโพล่งขึ้นอย่างฉุนเฉียวปนเจ็บปวด ก่อนจะกัดริมฝีปากแน่นเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอโพล่งอะไรออกไป เธอมองหน้าเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก แล้วหมายจะรีบพูดแก้ตัวว่าเธอไม่ได้ตั้งใจพูดออกไป
“เจไม่...”
“เจลกาอย่าเล่นกับไฟ เธอรู้ตัวไหมว่ากำลังเสนออะไรขึ้นมา”
เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเยียบเย็น และนั่นทำให้เจลกากลืนคำพูดของตัวเองลงคอ ความรู้สึกท้าทายผุดพรายขึ้นมาในใจทันที
แล้วมันจะเป็นยังไงล่ะถ้าเธอจะเดินหน้าไปให้สุด ถ้าเธอจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อไขว่คว้าความรักของตัวเอง ถ้าเธอจะเดินหน้าคว้าหัวใจของมาเรียสมาครอง ทำทุกๆ อย่างเพื่อความรักของตัวเองบ้าง!
หญิงสาวคลายริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่นอออกแล้วตอบเขากลับด้วยสีหน้าดื้อดึงไม่ยอมแพ้
“เจรู้ค่ะ”
“รู้แล้วยังคิดจะทำอย่างนั้นเหรอ”
เขาถามเสียงหยัน