บรรยากาศทานอาหารเช้าระหว่างผมกับเพื่อนใหม่เป็นไปอย่างมีความสุข หลังจากที่ผมสามารถดึงความรู้สึกที่ไม่ดีต่อเพื่อนให้กลับมาจึงตัดสินใจปลุกให้เขาตื่นไปล้างหน้าแปรงฟันมาทานยาก่อนอาหารตอนเช้า
“เป็นยังไงอร่อยไหม เสือทำสุดฝีมือเลยนะอยากให้ปีโป้ได้กินอะไรใหม่ๆ บ้างเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็กินแต่อาหารอ่อนๆ ตอนนี้สุขภาพดีแล้วกินอะไรปกติได้แล้วเสือก็เลยอยากให้ปีโป้ได้กินอาหารเมนูใหม่ของเสือบ้าง”
ปีโป้ทำหน้าตาลิ้มรสชาติผัดเปรี้ยวหวานเมนูโปรดของผม ที่วันนี้ผมตั้งใจทำสุดฝีมือเพื่อให้เขาได้ลองทานดู
“อร่อยมากเลยเสือ นายนี้ก็มีฝีมือเหมือนกันนะเนี่ย ทำอาหารอร่อยขนาดนี้ทำไมไม่เปิดร้านอาหารล่ะ เราว่าต้องขายดีแน่ๆ เลยเสือ”
“นายเองก็พูดเกินไป ปกติตอนอยู่บ้านเรือนไทยเสือก็ชอบเข้าครัวเป็นลูกมือให้ย่าตลอด เลยทำให้เสือจำสูตรอาหารเมนูต่างๆ ได้แม่นก็เท่านั้นเอง”
“แต่ก็ถือว่านายมีพรสวรรค์ทางด้านนี้นะเนี่ย ถ้าวันไหนนายเริ่มเบื่อกับการถ่ายแบบ นายอย่าลืมที่เราบอกนะเปิดร้านอาหารรับรองรายได้ไม่แพ้การถ่ายแบบแน่ แต่มันอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งกว่าจะเป็นที่ยอมรับของกลุ่มลูกค้า”
คำพูดของปีโป้ทำให้ผมฉุกคิดว่าครั้งหนึ่งผมก็เคยคิดอยากจะเปิดร้านอาหารไทยแบบผสมผสานเหมือนกัน หากไม่ติดว่ามีคนติดต่อไปแคสเป็นนายแบบเมื่อ 5 ปีก่อน ไม่อย่างนั้นผมก็คงเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยผสมผสานที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเทพฯก็เป็นได้ คนอะไรก็ไม่รู้นะครับชมตัวเองก็เป็น ฮ่าๆ..
“เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือ..”
“สวัสดีครับพ่อ สบายดีนะครับ”
ผมพูดกรอกสายไปเมื่อเห็นว่าคนปลายสายเป็นพ่อ
“เสือตอนนี้ย่าถูกจับตัวไป ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไงบ้าง เสือมีความจริงอะไรที่ยังไม่ได้บอกพ่อแม่ไหมลูก..”
ผมตกใจเมื่อได้ฟังสิ่งที่พ่อเล่าแต่ไม่ลืมที่จะสารภาพสิ่งที่พ่อถามถึง
“คือผมได้ช่วยชีวิตคนๆ หนึ่งไว้ครับ เขากำลังถูกทำร้ายอย่างอย่างทรมานครับพ่อ หลังจากนั้นผมได้มารู้ว่าคนที่ผมช่วยเขาเป็นคนรักของคนที่สั่งคนมาจับตัวย่าไป พ่อเข้าใจผมนะครับซึ่งตอนนั้นผมไม่มีทางเลือกเลยถ้าผมไม่ช่วยเขา เขาคงอาจถูกทำร้ายจนตาย..”
ไม่มีการตอบรับใดๆ จากพ่อของผม ขณะที่ปีโป้เองเมื่อได้ยินผมเล่าให้พ่อผมฟังเขาก็รีบลุกมานั่งที่เก้าอี้ด้านข้างผมมีสีหน้าที่เป็นห่วงจนผมสัมผัสได้
“พ่อ.. พ่ออย่าเงียบสิครับ พ่อเป็นอะไรหรือเปล่า”
ผมรีบลองถามกลับไปเมื่อเห็นว่าไม่มีสัญญาณตอบรับจากปากของท่าน ผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ..
“มันบอกว่าถ้าเสือไม่คืนคนให้มันไป มันจะส่งคนมาจับพ่อกับแม่ไปอีก แล้วฆ่าทุกคนทิ้ง!!”
น้ำเสียงของพ่อดูหมดอะไรตายอยากจนผมเองก็แทบจะร้องไห้ตามสิ่งที่ได้ฟัง ระหว่างนั้นผมก็ไม่ลืมที่จะเปิดลำโพงให้ใครอีกคนที่อยู่ด้านข้างฟังด้วย
“เสือไม่ผิดที่ลูกชายของพ่อเข้าไปช่วยคนที่กำลังเดือดร้อน เสือไม่ใช่ทำไม่ถูกที่เข้าไปช่วยคนที่เขากำลังต้องการความช่วยเหลือ ลูกชายของพ่อทำถูกต้องและเก่งที่สุดละลูก..”
อารมณ์ของผมตอนนี้มันแปรปรวนสับสนไปหมดไม่รู้ว่าจะภูมิใจ ดีใจ เสียใจ หรือจะรู้สึกยังไงดี ที่การกระทำของผมที่อาจได้ช่วยชีวิตของใครคนหนึ่งแต่ขณะเดียวกันมันกลับกลืนกินชีวิตของคนในครอบครัวของผมด้วย แล้วผมควรจะทำยังไงต่อไป ผมหันไปมองหน้าปีโป้ด้วยสีหน้าไม่สบายใจอย่างมากมันไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดออกมายังไง หากผมส่งปีโป้กลับคืนไปให้คนใจร้ายคนนั้นก็เหมือนกับว่าส่งเขาไปตาย ในทางกลับกันถ้าผมไม่ทำอะไรเลยทุกคนในครอบครัวของผมก็อาจจะตายด้วยเหมือนกัน
ตอนนี้สีหน้าของปีโป้ก็คงไม่ต่างจากผม จู่ๆ เขาก็พูดอะไรบางอย่างออกมาระหว่างที่พ่อของผมยังอยู่ในสายสนทนานั้น
“สวัสดีครับคุณลุง ผมเป็นต้นเหตุทั้งหมดที่ทำให้ครอบครัวของคุณลุงเดือดร้อนเองครับ เดี๋ยวผมกลับไปหาเขาเองครับ เพื่อให้คุณย่าของเสือปลอดภัย คุณลุงไม่ต้องเป็นห่วงนะครับทุกคนจะปลอดภัยถ้าผมกลับไปหาเขา.. เสือเดี๋ยวเราขอยืมโทรศัพท์โทรไปหาคนนั้นด้วยนะเพื่อให้ทุกคนปลอดภัย..”
“เดี๋ยวหนู ถ้าหนูกลับไปหนูอาจจะตายนะลูก”
“แต่ถ้าผมไม่กลับไปคุณย่าของเสือก็อาจจะตายเหมือนกันนะครับคุณลุง ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงนะครับทุกคนจะต้องปลอดภัย ผมจะไม่ยอมให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะผม ถึงผมจะกลับไปเขาก็คงไม่ฆ่าผมหรอกครับ”
“เราแจ้งความไม่ได้หรอปีโป้ ถ้านายกลับไปอาจจะเสี่ยงถูกทำร้ายอีกก็ได้นะ”
“ใช่ลูกไม่ต้องกลับไป เพียงแค่หนูบอกลุงว่าบ้านของคนที่จับตัวย่าของเสืออยู่ที่ไหน เดี๋ยวลุงจะให้เพื่อนของลุงที่เป็นผู้การไปจัดการเองลูก”
“ตำรวจและกฎหมายทำอะไรคนอย่างมันไม่ได้หรอกครับคุณลุง ถ้าลุงเคยติดตามข่าวเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ที่รองผบตร. เสียชีวิตอย่างปริศนาก็เป็นฝีมือของมันครับ ผมอยู่กับมันมา 10 ปีผมรู้นิสัยมันดี วิธีนี้คือวิธีที่ดีที่สุดผมต้องกลับไปหามันแล้วคุณย่าของเสือก็จะปลอดภัย”
“แล้วถ้ามันไม่ปล่อยย่า เราเองก็จะเป็นคนทำให้มันเสียใจไปตลอดชีวิตเอง”
ตอนนี้ผมสองจิตสองใจมากไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้ว่าจะต้องใช้วิธีไหนเพื่อที่จะให้คนใจร้ายปล่อยย่าผมกลับมา แต่เมื่อกี้ได้ยินคำพูดนึงของปีโป้ว่าถ้าคนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมปล่อยย่าผม เขาจะทำให้คนใจร้ายคนนั้นเสียใจไปตลอดชีวิต หรือว่า…
“จะทำแบบนั้นไม่ได้นะปีโป้!”
“นายรู้ว่าเราจะทำอะไรหรอเสือ”
“ไม่ว่าจะยังไงเราจะไม่ยอมให้นายทำแบบนั้น มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้สิปีโป้ พ่อครับผมจำได้ว่าพ่อเองก็เคยมีพรรคพวกเป็นมาเฟียอยู่ทางภาคเหนือไม่ใช่เหรอครับ น่าจะรบกวนให้เขามาช่วยย่านะครับพ่อ”
“เรื่องนั้นมันก็จริง แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นนะลูก กลุ่มมาเฟียแต่ละกลุ่มใช่ว่าอยากจะมีเรื่องกันหรือผิดใจกัน แต่มาถึงขั้นนี้พ่อจะลองคุยกับพรรคพวกของพ่ออีกทีนึงนะลูกนะ ส่วนปีโป้เองไม่ต้องโทรไปหาเขา แล้วก็ไม่ต้องกลับไปหาเขาด้วยนะลูก เชื่อพ่อ”
“ครับคุณลุง”
“เป็นเพื่อนกับลูกชายพ่อ ก็ต้องเรียกพ่อว่าพ่อสิลูก..”
ผมแอบเห็นสีหน้าของปีโป้ที่ใบหน้าของเขาตอนนี้ดูมีความสุขทันทีที่พ่อผมอนุญาตให้เรียกท่านว่าพ่อได้
“ครับคุณพ่อ ขอบคุณมากนะครับที่ให้ผมได้เรียกคุณพ่อว่าพ่อ”
“ไม่เป็นไรลูกไม่ต้องคิดมากนะเดี๋ยวเรื่องนี้พ่อจัดการเอง แต่ถ้าได้เรื่องยังไงเดี๋ยวพ่อโทรบอกเสือกับปีโป้นะลูก”
“ครับพ่อ..”
ผมกับปีโป้แทบจะตอบรับท่านพร้อมๆ กัน ก่อนจะวางสายโทรศัพท์ แล้วหันมองหน้ากันโดยอัตโนมัติ
“พ่อของนายใจดีจังเลย ยอมให้คนที่เป็นสาเหตุให้ย่าของเสือถูกจับตัวไปเรียกว่าพ่อ”
“นายคิดมากอีกแล้วนะ ก็เสือบอกแล้วไงว่าไม่ต้องคิดมากเดี๋ยวนายก็ไม่สบายอีก”
ผมพยายามพูดปลอบเพื่อนใหม่ที่กำลังทำให้คิ้วชนกันเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของวันนี้ ผมยกมือขึ้นตบบ่าปีโป้เบาๆ เพื่อเป็นการให้กำลังใจเพื่อนใหม่ของผม
ณ สถานที่รกทึบคาดว่าน่าจะอยู่ในป่าใหญ่ที่ใดที่หนึ่งของเมืองไทย
“นาเดียมาหรือยัง”
“น่าจะใกล้ถึงแล้วครับนาย”
ผมนั่งรออย่างใจจดใจจ่อที่จะได้เห็นหน้าของย่าไอ้คนที่มันกล้าเอาชีวิตมาทิ้งเพราะเมียทรยศของผม
“นายครับรถตู้ของนาเดียมาถึงแล้วครับ”
“ให้มันพาคนที่มันจับมาเข้ามาหาฉันสิ”
“มาแล้วค่ะนาย..”
ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับหญิงชราที่กำลังถูกนาเดียจูงเข้ามาหาผม ก่อนจะถูกนาเดียผลักให้นั่งลงตรงหน้าผม
“โอ๊ย!.. เบาๆ หน่อยสิแม่หนูย่าเจ็บนะลูก ที่นี่ที่ไหนหนูพาย่ามาที่นี่ทำไม..”
“ถ้าแกอยากรู้ก็ถามคนข้างหน้าแกสิ”
“นาเดียเธอทำงานได้ดีมาก เดี๋ยวฉันจะให้รางวัลเธอ รางวัลของเธออยู่ข้างนอกออกไปเอาแล้วกลับไปที่ของเธอซะ”
ผมบอกหญิงสาวลูกครึ่งที่อยู่ในชุดพนักงานส่งของบริษัทแห่งหนึ่งก่อนที่เธอจะโค้งคำนับแล้วเดินออกไปด้านนอก ซึ่งเป็นจังหวะที่ผมส่งสัญญาณให้ใครอีกคนหนึ่งและอีกไม่ถึงนาทีต่อมา..
ปั้ง..ปั้ง..ปั้ง…
“ว้าย!! เสียงปืนนี่ พวกเธอทำอะไรนาเดีย”
ยายแก่ร้องอุทานพร้อมยิงคำถามที่ไม่น่าถามผม
“ไม่ต้องอยากรู้หรอกยาย เดี๋ยวอีกไม่นานยายก็จะได้ตามนาเดียไปอยู่แล้ว ผมไม่เก็บไว้หรอกคนที่หมดประโยชน์แล้วน่ะ..หึ!”
เมื่อสิ้นเสียงปืนก็มีคนเปิดประตูเข้ามารายงานความเรียบร้อยที่ผมสั่ง
“ผมให้รางวัลนาเดียเรียบร้อยครับ ตอนนี้เธอก็ไปแล้วครับ”
ผมยิ้มมุมปากอย่างสะใจที่เรียกใช้งานคนที่หิวเงินจนงานสำเร็จแต่ไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท มันจะมีอะไรดีกว่านี้ไหม
เมื่อผมจัดการคนไร้ประโยชน์แล้ว จึงหันกลับมาให้ความสนใจกับยายแก่ตรงหน้าอีกครั้ง
“คิดว่าจะจับตัวมายากเย็นอะไร ได้ตัวมาง่ายแบบนี้ก็สนุกเร็วขึ้นสินะอีแก่..”
“ฉันไปทำอะไรให้พวกหนูหรอลูกถึงจับยายมา”
“แกอยากรู้หรอ ว่าทำไมฉันต้องเอายายแก่ๆ อย่างแกมาด้วย ห๊ะ!!”
เสียงอีแก่ถามผมราวกับว่ามันไม่รู้เรื่องอะไรเลยที่หลานของมันทำผมไว้
“พูดกับฉันดีๆ ได้ไหม ฉันเป็นรุ่นยาย รุ่นแม่ของพวกหนูเลยนะ..”
“กูจะพูดอย่างนี้มึงจะทำไม แก่จะตายอยู่แล้วยังมาปากดีกับกูอีก ตบปากมัน 5 ที!”
ผมรู้สึกไม่สบอารมณ์กับอีแก่นี้เลย ถึงว่าไอ้หลานชายของมันได้แบบอย่างมาจากใคร ทันทีที่ผมออกคำสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างมันให้จัดการตามที่ผมสั่ง แต่ลูกน้องคนนั้นกลับยืนเฉยมีสีหน้าไม่สบายใจกับคำสั่งของผม
“กูให้มึงเลือก ระหว่างมึงจะตบปากอีแก่นั่นกับแดกลูกปืนกู มึงจะเลือกอะไร จัดการเดี๋ยวนี้!”
พอสิ้นเสียงตะคอกจากผมไอ้ลูกน้องคนนั้นก็ปฏิบัติตามเพราะปลายกระบอกปืนพกของผมชี้ไปที่หัวมันที่พร้อมจะปล่อยกระสุนใส่มันตลอดเวลา
“ผมขอโทษนะยาย..”
ขณะเดียวกันผมได้ยินไอ้ลูกน้องที่ผมออกคำสั่งกล่าวขอโทษยายก่อนจะทำตามคำสั่งผมอย่างชัดเจน มันทำให้ผมโกรธมากจึงยกปืนพกขึ้นลั่นไกใส่มันทันที 3 นัดซ้อน แต่…
“หยุดการกระทำของหนูได้แล้วลูก อย่าถึงขั้นต้องฆ่าแกงกันเลย..”
ผมตะลึงกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ยายแก่นั่นผลักลูกน้องคนที่ถึงฆาตจากกระสุนของผมกระเด็นไปทิศทางหนึ่ง เป็นเหตุให้มันไม่ถูกผมยิงเลยแม้แต่น้อย แล้วอียายแก่ก็ยืนอยู่ด้านหน้าผมห่างไม่ถึงศอก จังหวะนั้นผมก็รีบยกปลายกระบอกปืนชี้ไปที่กลางหน้าผากของมันแล้วตามต่อด้วยการลั่นไก
ปั้ง!!
ปืนผมร่วงหลุดมือไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ก่อนที่เสียงจะดังลั่น อย่างนั้นก็แปลว่าผมไม่ทันได้ลั่นไกเลยด้วยซ้ำแต่ปืนผมก็ร่วงลงพื้นและส่งเสียงดังไปแล้ว มันเกิดขึ้นได้ยังไง ยายแก่นี่มันทำอะไรของมัน เมื่อผมไม่มีปืนพกในมือผมจึงใช้เท้าและหมัดให้เป็นประโยชน์
เป็นจังหวะที่ผมกำลังจะยกเท้าเตะเข้าที่หน้าแข้งของอีแก่ มันก็เป็นจังหวะเดียวที่มันก้าวขาหนีผมพร้อมกับใช้เท้าอีกข้างหนึ่งสกัดขาของผมให้ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นกับผมเลย ที่จะมีใครมาทำให้ผมล้มลงไปกองกับพื้นได้แต่อีแก่นี่ทำได้ ผมก็รีบลุกขึ้นมาพร้อมกับจัดการเตะไปอีก 2-3 ทีพร้อมกับหมัดคู่ใจทั้งสอง ไม่ทันที่ผมจะได้ทำในสิ่งที่ต้องการกับร่างยายแก่นั้น ก็ถูกยายแก่จับข้อแขนบิดขึ้นพร้อมกับเหวี่ยงผมทุ่มลงไปกับพื้นซ้ำยังลงมานั่งคร่อมที่ตัวของผมแล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางจี้มาที่คอของผมอย่างรวดเร็ว เมื่อผมรู้ว่าเสียท่าอีแก่แล้วผมจึงออกคำสั่งให้ลูกน้องที่อยู่ภายในห้องนั้นอีก 6 คนเข้ามาจัดการอีแก่ที่กำลังหมายจะทำร้ายผมอยู่
จนแล้วจนรอดลูกน้องของผมคนไหนที่เข้ามาหามันเพื่อจะจัดการกับมันให้ออกไปจากตัวของผม ก็ถูกมืออีกข้างหนึ่งของมันปัดป้องป้องกันตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนเป็นเหตุให้ลูกน้องของผมต่างกระเด็นกระดอนหมดสภาพอย่างไม่น่าเชื่อสายตาว่ามันจะเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงแก่ๆ คนหนึ่ง เมื่อมือและเท้าของลูกน้องผมจัดการมันไม่ได้ ผมจึงตัดสินใจสั่งให้พวกมันรัวปืนใส่อีแก่นี้ไปเลยดูซิว่ามันจะหลบได้อีกไหม
ไม่ทันที่จะมีเสียงจากปืนกระบอกไหนดังขึ้น ลูกน้องของผมก็ถูกยายแก่ลุกขึ้นจากตัวของผมไปจัดการปืนในมือของพวกมันทั้งหมดและยังหักข้อมือมันทุกคนจนร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่มันจะกลับมาทับร่างของผมพร้อมกับใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางจี้มาที่ลำคอของผมเหมือนเดิม
“โอ๊ย!.. โอ๊ย!... เจ็บเหลือเกิน”
เสียงพวกลูกน้องของผมร้องด้วยความเจ็บปวดระงม สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันทำให้ผมรู้สึกกลัวอีแก่นี่มาก มากเสียจนผมจะฉี่แตกใส่กางเกงซะให้ได้ ตั้งแต่ผมเกิดมาผมไม่เคยกลัวแบบนี้มาก่อน ทำไมผู้หญิงแก่ๆ คนนึงจะสามารถต่อสู้กับผู้ชายร่างกายกำยำแบบนี้ได้
“สรุป พวกหนูจะหยุดหรือยังลูก ถ้ายังไม่หยุดยายจะทำให้พวกหนูหยุดตลอดไป!!”
น้ำเสียงของอีแก่ตอนนี้ฟังดูมีอำนาจชอบกล โดยเฉพาะคำว่าจะทำให้พวกผมหยุดตลอดไป มันส่งผลให้จิตใจของผมหล่นวูบไปยังตาตุ่ม มันมีความน่าเกรงขามในน้ำเสียง เหมือนกับว่ายายแก่คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาดูกระจอกอย่างที่ผมเข้าใจ ผมเหงื่อไหลพรากหวาดกลัวจนแกสังเกตได้ ระหว่างนั้นเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของลูกน้องก็ยังไม่เงียบลง ผมไม่รู้จะตอบมันยังไง ไม่รู้จริงๆ
“ตอบมาเถอะไม่ต้องกลัว ยายก็แค่อยากจะถามพวกหนูว่าจะหยุดได้หรือยังเท่านั้น!”
“ย.. หยุดแล้วครับ.. ยายอย่าทำอะไรผมเลยนะครับ”
ผมตอบคำถามแกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเพราะหากผมไม่ตอบเช่นนั้นผมอาจจะถูกหักคอเลยก็ได้
“หยุดแล้วใช่ไหม เมื่อหนูบอกว่าจะหยุดถ้าอย่างนั้นก็พายายกลับไปส่งที่บ้าน เดี๋ยวนี้!!”
น้ำเสียงทรงอำนาจถูกเปร่งออกมาจากปากยายแก่นั้นอีกครั้ง พร้อมทั้งลุกขึ้นออกจากลำตัวของผมด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงไม่เหมือนคนแก่ทั่วไป
“ต้องรักษาคำพูดนะ เกิดเป็นมนุษย์หากไม่รักษาคำพูด ไม่ซื่อสัตย์กับคำพูดของตัวเอง มันจะเจอจุดจบที่ไม่ดีนะลูก เชื่อยาย!”
“ครับยาย พวกผมต้องขอโทษยายด้วยครับ”
ผมกับลูกน้องต้องลุกขึ้นยืนเรียงแถวหน้ากระดานพร้อมทั้งยกมือขึ้นขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างที่ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับชีวิตผม
“เดี๋ยวพ่อหนุ่มขึ้นไปบนรถยนต์ ช่วยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ยายฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น พวกหนูถึงได้จับยายมาที่นี่ ที่สำคัญให้นำศพของนาเดียไปจัดการทางศาสนาให้เรียบร้อยไม่ใช่มาทิ้งในป่าแบบนี้ เข้าใจตามนี้นะลูก”
ผมพยักหน้าช้าๆ ด้วยความเข้าใจก่อนจะเดินนำแกไปที่รถตู้สีดำ แล้วพาแกไปส่งตามที่แกต้องการโดยไม่ลืมที่จะเล่าเรื่องราวที่เป็นสาเหตุในการจับแกมาที่นี่ด้วย…