“ในที่สุด เราก็ได้เจอกัน” เขากำลังพูดกับหญิงสาวในภาพ ซึ่งมีหน้าตาเหมือนกับแพรทองไม่มีผิด “คุณรู้มั้ย ว่าผมฝันถึงคุณมานานแค่ไหนแล้ว นางฟ้าในฝันของผม ผมไม่เคยลืมเลยนะ ว่าคุณทำให้ผมมีความสุขมากแค่ไหน”
ชายหนุ่มกวาดสายตามองภาพเขียนฝีมือตัวเองไปโดยรอบ เขาไม่เคยนับเลยว่าเคยวาดรูปของนางในฝันมากี่ภาพแล้ว รู้เพียงแค่ว่า หลังจากที่ฝันถึงเธอทุกครั้ง พอตื่นในตอนเช้า เขาก็จะจับดินสอทันที
“แพรทองเหรอ?...ตัวจริงของคุณดูดุจัง แต่ในฝัน คุณโคตรน่ารักเลย”
นาคินทร์ทิ้งตัวลงนอนแผ่หราบนเตียงนอน แล้วหลับตานิ่ง...เขาไม่ได้พยายามจะฝันถึงเธอเหมือนห้าปีที่ผ่านมา
เขารู้ดีว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่พยายามจะฝันถึงเธอ เขาไม่เคยทำสำเร็จ หากแต่วันใดที่เขามีจิตใจที่โล่งโปร่งสบาย คืนนั้นเจ้าหล่อนจะมาปรากฏกายบนเตียงของเขาอย่างแน่นอน
“กลิ่นเนื้อตัวของคุณหอมมาก มันเป็นกลิ่นที่ติดจมูกจริงๆ” เนื้อตัวของเจ้าหล่อนทำให้เขาโหยหา หัวใจเต้นรัวและเนื้อกายสั่นเทา “ทำไมมันเหมือนจริงอย่างนี้นะ”
มันอดไม่ได้ที่เขาจะหวนนึกถึงภาพการร่วมรักระหว่างเขากับเธอที่กระทำกันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าไปเอาพลังงานมาจากไหน ถึงได้ทะลวงและกระแทกเนื้ออุ่นของเธออย่างบ้าคลั่งขนาดนั้นได้
หากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในสักวัน เขาคิดภาพไม่ออกเลยว่าเนื้ออุ่นของเธอจะขาดสะบั้นและยับเยินแค่ไหน
ชายหนุ่มลืมตาขึ้นอีกครั้ง ราวกับตื่นจากความฝัน แล้วพลันหวนนึกถึงวันเวลาที่มาเยือนอีกครา
“คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงนี่นา” เขาเปิดหน้าต่างแล้วเงยหน้ามองพระจันทร์ดวงโตบนฟากฟ้า ด้วยสายตาเศร้า “และมันคงจะผ่านพ้นไปอีกคืน”
ไม่มีใครรู้ว่าแสงจันทร์ของคืนเพ็ญ สามารถปลดปล่อยเขาจากคำสาปได้ หากเขาได้ร่วมรักกับหญิงสาวที่รักและยอมรับในความเป็นอมนุษย์ของเขา เขาก็จะกลายเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์
“เมื่อไหร่นะ เมื่อไหร่” เมื่อไหร่ที่เขาไม่ต้องกลายร่างเป็นงูจงอางในทุกค่ำคืนเช่นนี้!!!! “หรือว่าจะไม่มีวันนั้น”