ชอบความโสด

1522 คำ
ณิรินทร์ญาและนายหัวปาริธคุยกันจนกระทั่งถึงเวลาผับปิดทั้งสองแลกไลน์กันโดยที่ชายหนุ่มให้เหตุผลว่าถ้าหากเขาขึ้นมากรุงเทพเขาจะได้ถามว่าเธอมาทำงานหรือเปล่าและจะได้เรียกใช้บริการเนื่องจากคุยกับเธอแล้วสนุก เขาเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อนพเจอคนที่คุยด้วยแล้วถูกใจก็อยากจะเรียกคุยถ้ามีโอกาสขึ้นมาที่นี่อีก “ขอบคุณมากนะคะนายหัวที่ทำให้คืนนี้ณิรินไม่เหนื่อย แต่ได้เงินค่อนข้างเยอะ” “เธอพูดตรงดีนะ” นายหัวปาริธรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนพูดตรงและดูจริงใจ “ค่ะ ณิรินเป็นคนพูดตรงที่มาทำงานก็เพื่อได้เงินเพราะฉะนั้นใครที่ให้เงินณิรินเยอะๆ ก็ถือว่าเป็นผู้มีบุญคุณสำหรับณิรินค่ะ” “เธออยากได้เงินเยอะๆ แต่ไม่ยอมออกไปกับแขกมันย้อนแย้งอยู่นะ” “ก็การได้เงินแบบนี้มันน่าภูมิใจกว่าการออกไปนอนกับแขกนี่คะ อย่างน้อยณิรินก็คุยกับแขกที่ซื้อเครื่องดื่มให้เขาได้หายเหงาหรือคุณจะเถียงละว่าคุยกับณิรินแล้วไม่สนุก” “ฉันไม่เถียงหรอกนะณิริน ฉันยอมรับเลยว่าคุยกับเธอแล้วสนุกมากถึงแม้จะไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่ก็ตาม” “โธ่นายหัวคะการมานั่งคุยในผับแบบนี้ใครเขาต้องการสาระกันบ้างล่ะคะ ทุกคนก็ต้องการมาคุยมาผ่อนคลายค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับค่าเครื่องดื่มคืนนี้ณิรินขอตัวก่อนค่ะ” หญิงสาวพูดจบก็ยกมือไหวและโบกมือให้กับนายหัวปาริธก่อนจะลงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับรถกลับบ้านของตนเอง ส่วนนายหัวปาริธยังนั่งอยู่ที่เดิมรอจนกระทั่งเพื่อนจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ขึ้นมานั่งดื่มกันต่อ “เป็นไงเด็กที่กูแนะนำให้ถูกใจมึงไหมล่ะ” “ก็ดีนะคุยเก่งดี แต่เธอไม่ได้ทำงานที่นี่ประจำใช่ไหม” การนั่งคุยกับณิรินทร์ญาหลายชั่วโมงก็พอจะรู้เรื่องของเธออยู่บ้าง “อืมณิรินไม่ได้ทำงานที่นี่ประจำหรอก กูรู้จักกับแม่ของเขาก็เลยรับเขามาทำงานแค่เฉพาะคืนวันศุกร์กับคืนวันเสาร์” “แล้วแม่ของเขายอมให้มาทำงานแบบนี้เหรอ” “ตอนแรกก็ไม่ยอมหรอกแต่กูยืนยันไงว่าเด็กที่ร้านกูจะไม่ออกไปต่อกับแขก” “มึงแน่ใจเหรอว่าเด็กมึงจะไม่ออกไปต่อกับแขก” “กูก็แค่รับปากไปแบบนั้นแหละเพื่อให้แม่เขาสบายใจแต่ณิรินก็ทำงานที่นี่มาสามปีกูก็ไม่เคยเห็นเธอออกไปกับแขกคนอื่นหรือบางทีอาจจะนัดเจอกันข้างนอกเรื่องนี้กูก็ไม่รู้เหมือนกัน” “แล้วมึงไม่กลัวแม่เขามาว่าเหรอถ้ารู้ว่าลูกสาวสาวออกไปต่อข้างนอกกับแขก” “ไม่หรอกเด็กมันโตแล้วบรรลุนิติภาวะแล้วอีกอย่างตอนนี้แม่เธอก็ตายไปแล้วเธอก็ต้องทำงานเลี้ยงดูตัวเอง” “ฟังดูฟังดูน่าสงสารเหมือนกันนะ” “ไงล่ะติดใจเขาให้แล้วล่ะสิ สนใจจะเลี้ยงเด็กไว้ที่กรุงเทพสักคนไหม” “ไหมไม่ล่ะดูท่าทางแล้วเด็กมันไม่เอาหรอก” “มันก็ไม่แน่นะถ้าเงินมากพอใครๆ ก็สนใจ ถ้ามึงสนใจกูจะติดต่อให้เอาไหม” “ไม่ล่ะ เด็กคนนี้พูดเก่งเถียงเก่งกูกลัวจะโดนเธอด่าจนเสียผู้ใหญ่” “แล้วครั้งนี้มึงจะอยู่กรุงเทพนานไหม” “ก็น่าาจะสองสามวันน่ะ มีงานต้องจัดการที่สมุทรสาครต่ออีก” “จะทำงานเยอะไปไหนวะ แค่สวนปาล์มสวนยางพารานี่มึงจะส่งออกอะไรอีก” “เป็นพวกอาหารทะเลอบแห้ง ตอนนี้ตลาดที่เมืองไทยคู่แข่งมันเยอะกูเลยมาจัดการเรื่องการส่งออก” “แล้วจะค้างกรุงเทพหรือไปค้างที่สมุทรสาครล่ะ” “กูค้างคอนโดที่กรุงเทพนี่แหละ ที่สมุทรสาครคุณไปดูตอนเช้าแล้วก็กลับ” “งานมึงเยอะจริงๆ เลยนะทั้งทางใต้ทั้งที่สมุทรสาครกูว่ารีบหาเมียสักคนมาช่วยทำงานดีกว่า” “ถ้ามีเมียแล้วมาช่วยทำงานมันก็ดีสิถ้าเกิดมีแล้วนั่งกินนอนกินเป็นคุณนายเหมือนเมียเก่ากูไม่เอาด้วยหรอก” นายหัวปาริธเคยแต่งงานและมีภรรยามาแล้วแต่ภรรยาของเขาไม่เคยช่วยเหลือหยิบจับงานอะไรเขาเลย เธอทำตัวเป็นคุณนายชี้นิ้วสั่งอย่างเดียวพอเขาบอกให้ช่วยเหลือเขาดูแลบัญชีหญิงสาวก็รวมหัวกับหัวหน้าแผนกบัญชีโกงเงินเขาไปหลายล้านมันทำให้เขารู้สึกเจ็บใจและจากนั้นก็ไม่คิดที่จะมีครอบครัวอีกเลย “เอาน่าเรื่องมันก็ผ่านมาตั้งห้าปีแล้ว กูว่ามึงลืมๆ ไปเถอะเงินแค่นั้นมันก็แค่เศษเสี้ยว” “กูไม่ได้เสียดายเงินหรอกนะชินแต่กูเสียความรู้สึกว่ะ คนรักกันไม่น่าทำกันแบบนี้อีกอย่างชีวิตตอนนี้กูก็โอเคแล้วนะ เป็นโสดแบบนี้อยากจะควงผู้หญิงคนไหนอยากจะนอนผู้หญิงคนไหนมันก็อิสระไปหมดหรือมึงจะเถียงล่ะ” “เออกูไม่เถียงหรอกมีเมียก็นอนกับผู้หญิงคนเดียวไม่ว่าจะกี่ปีกี่ปีแต่ถ้าเป็นโสดแบบมึงจะนอนกับใครก็ได้ จะเปลี่ยนคู่ควงบ่อยแค่ไหนก็ได้ แต่มึงต้องคิดถึงอนาคตมึงนะเว้ย มึงเริ่มอายุเยอะแล้วเกิดแก่ตัวไปไม่มีใครดูแลถ้าไม่มีครอบครัวแล้วสมบัติทั้งหมดของมึงจะเอาไปให้ใครล่ะ” “มึงก็พูดเกินเอาไว้อายุสี่สิบแล้วยังไม่มีใครจริงๆ กูก็จะคงจะหาเด็กสักคนมารับเป็นลูกบุญธรรม” “ว่าไปนั่นใครเขาจะให้มึงเอาลูกเขามาเลี้ยงว่ะ” “อย่าเพิ่งคิดเรื่องนั้นเลยว่ะ เหลือเวลาอีกห้าปีกว่ากูจะอายุสี่สิบถึงตอนนั้นบางทีกูก็อาจจะเจอใครที่ถูกใจจริงๆ ก็ได้” “เออกูก็ขอให้มันแน่เถอะ ว่าแต่คืนนี้สนใจจะเรียกเด็กคนไหนไปนอนด้วยไหมล่ะเดี๋ยวกูติดต่อเจ๊ยุให้” เขาหมายถึงเจ๊ยุวดีที่มีเด็กสาวในสังกัดอยู่หลายคนและเขาก็เคยเรียกให้มาบริการกับนายหัวปาริธอยู่หลายครั้งตอนที่เขาขึ้นมากรุงเทพ “ไม่ล่ะทำงานมาเหนื่อยๆ กูอยากพัก” “อย่าบอกนะว่าตอนนี้มึงเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปแล้ว” “ไม่ใช่แบบนั้นหรอกแต่กูเบื่อๆ น่ะ” “มึงไม่สนใจเด็กเจ๊ยุเพราะมึงแอบซ่อนเด็กคนอื่นไว้หรือเปล่า” “กูจะซ่อนใครล่ะ” “แน่เหรอที่คนอย่างมึงไม่ได้ซ่อนผู้หญิงไว้” “ไม่มีหรอกกูขึ้นมาติดต่องานจริงๆ เรื่องผู้หญิงขอพักก่อน” “กูไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากูจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากนายหัวปาริธจอมเจ้าชู้อย่างมึง” “เอาน่าคนเรามันก็ต้องมีเปลี่ยนแปลงบ้าง” “ว่าแต่สาวๆ ทั้งใต้ล่ะมึงไม่มีในสต๊อกบ้างเลยเหรอ” “ก็พอมีเวลากูเข้าเมืองก็เรียกใช้บริการได้ แต่ไม่ได้เลี้ยงไว้แบบจริงจัง” “กูไม่ได้หมายถึงเด็กที่มึงเรียกมาบริการกูหมายถึงคนที่คุยน่ะได้ข่าวว่าน้องสาวไอ้วัฒน์ก็สนใจมึงอยู่นี่” “กูไม่ได้คิดอะไรกับน้องมันเลยเห็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว” “แต่น้องมันสนใจมึงนะ” “กูบอกน้องเขาไปแล้วว่ากูเห็นเป็นน้องสาวอีกหน่อยเธอก็คงเบื่อไปเองแหละ” “แล้วลูกสาวเจ้าของเรือหาปลาล่ะ เขาสนใจมึงอยู่ไม่ใช่เหรอ” “เขาเป็นรุ่นน้องน่ะ กูก็แค่คุยแต่ไม่คิดจะจริงจังหรอกครอบครัวเขาใหญ่เกินกูไม่ชอบความวุ่นวายแบบนั้น” “ไม่ชอบความวุ่นวายครอบครัวเขาหรือเพราะเขาไม่สวยถูกใจมึงกันแน่วะ” “ก็ทั้งสองอย่างนั่นแหละ กูชอบผู้หญิงผิวขาวตัวเล็กๆ น่ะแต่เธอไม่ใช่แบบนั้น เธอดูเซ็กซี่จนเกินไป” “อ้าวผู้ชายก็ชอบผู้หญิงเซ็กซี่กันทั้งนั้น” “แต่กูชอบแบบน่ารักๆ ผู้หญิงเซ็กซี่ดูไปนานๆ ก็เบื่อแต่ผู้หญิงน่ารักเธอจะมีมุมน่ารักของเธอให้ดูอยู่ตลอด” เขาพูดกับเพื่อนแต่ภาพใบหน้าของณิรินทร์ญาก็แวบเข้ามาในหัวทำให้เขาต้องรีบสลัดเอาความคิดออกไปเพราะหญิงสาวก็บอกเขาอยู่แล้วว่าไม่เคยคิดจะรับแขกหรือไปต่อกับแขกข้างนอกและเขาก็เป็นคนที่ไม่ชอบฝืนใจใคร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม