ณิรินทร์ญาและนายหัวปาริธคุยกันจนกระทั่งถึงเวลาผับปิดทั้งสองแลกไลน์กันโดยที่ชายหนุ่มให้เหตุผลว่าถ้าหากเขาขึ้นมากรุงเทพเขาจะได้ถามว่าเธอมาทำงานหรือเปล่าและจะได้เรียกใช้บริการเนื่องจากคุยกับเธอแล้วสนุก เขาเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อนพเจอคนที่คุยด้วยแล้วถูกใจก็อยากจะเรียกคุยถ้ามีโอกาสขึ้นมาที่นี่อีก
“ขอบคุณมากนะคะนายหัวที่ทำให้คืนนี้ณิรินไม่เหนื่อย แต่ได้เงินค่อนข้างเยอะ”
“เธอพูดตรงดีนะ” นายหัวปาริธรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนพูดตรงและดูจริงใจ
“ค่ะ ณิรินเป็นคนพูดตรงที่มาทำงานก็เพื่อได้เงินเพราะฉะนั้นใครที่ให้เงินณิรินเยอะๆ ก็ถือว่าเป็นผู้มีบุญคุณสำหรับณิรินค่ะ”
“เธออยากได้เงินเยอะๆ แต่ไม่ยอมออกไปกับแขกมันย้อนแย้งอยู่นะ”
“ก็การได้เงินแบบนี้มันน่าภูมิใจกว่าการออกไปนอนกับแขกนี่คะ อย่างน้อยณิรินก็คุยกับแขกที่ซื้อเครื่องดื่มให้เขาได้หายเหงาหรือคุณจะเถียงละว่าคุยกับณิรินแล้วไม่สนุก”
“ฉันไม่เถียงหรอกนะณิริน ฉันยอมรับเลยว่าคุยกับเธอแล้วสนุกมากถึงแม้จะไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่ก็ตาม”
“โธ่นายหัวคะการมานั่งคุยในผับแบบนี้ใครเขาต้องการสาระกันบ้างล่ะคะ ทุกคนก็ต้องการมาคุยมาผ่อนคลายค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะสำหรับค่าเครื่องดื่มคืนนี้ณิรินขอตัวก่อนค่ะ” หญิงสาวพูดจบก็ยกมือไหวและโบกมือให้กับนายหัวปาริธก่อนจะลงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับรถกลับบ้านของตนเอง
ส่วนนายหัวปาริธยังนั่งอยู่ที่เดิมรอจนกระทั่งเพื่อนจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ขึ้นมานั่งดื่มกันต่อ
“เป็นไงเด็กที่กูแนะนำให้ถูกใจมึงไหมล่ะ”
“ก็ดีนะคุยเก่งดี แต่เธอไม่ได้ทำงานที่นี่ประจำใช่ไหม” การนั่งคุยกับณิรินทร์ญาหลายชั่วโมงก็พอจะรู้เรื่องของเธออยู่บ้าง
“อืมณิรินไม่ได้ทำงานที่นี่ประจำหรอก กูรู้จักกับแม่ของเขาก็เลยรับเขามาทำงานแค่เฉพาะคืนวันศุกร์กับคืนวันเสาร์”
“แล้วแม่ของเขายอมให้มาทำงานแบบนี้เหรอ”
“ตอนแรกก็ไม่ยอมหรอกแต่กูยืนยันไงว่าเด็กที่ร้านกูจะไม่ออกไปต่อกับแขก”
“มึงแน่ใจเหรอว่าเด็กมึงจะไม่ออกไปต่อกับแขก”
“กูก็แค่รับปากไปแบบนั้นแหละเพื่อให้แม่เขาสบายใจแต่ณิรินก็ทำงานที่นี่มาสามปีกูก็ไม่เคยเห็นเธอออกไปกับแขกคนอื่นหรือบางทีอาจจะนัดเจอกันข้างนอกเรื่องนี้กูก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“แล้วมึงไม่กลัวแม่เขามาว่าเหรอถ้ารู้ว่าลูกสาวสาวออกไปต่อข้างนอกกับแขก”
“ไม่หรอกเด็กมันโตแล้วบรรลุนิติภาวะแล้วอีกอย่างตอนนี้แม่เธอก็ตายไปแล้วเธอก็ต้องทำงานเลี้ยงดูตัวเอง”
“ฟังดูฟังดูน่าสงสารเหมือนกันนะ”
“ไงล่ะติดใจเขาให้แล้วล่ะสิ สนใจจะเลี้ยงเด็กไว้ที่กรุงเทพสักคนไหม”
“ไหมไม่ล่ะดูท่าทางแล้วเด็กมันไม่เอาหรอก”
“มันก็ไม่แน่นะถ้าเงินมากพอใครๆ ก็สนใจ ถ้ามึงสนใจกูจะติดต่อให้เอาไหม”
“ไม่ล่ะ เด็กคนนี้พูดเก่งเถียงเก่งกูกลัวจะโดนเธอด่าจนเสียผู้ใหญ่”
“แล้วครั้งนี้มึงจะอยู่กรุงเทพนานไหม”
“ก็น่าาจะสองสามวันน่ะ มีงานต้องจัดการที่สมุทรสาครต่ออีก”
“จะทำงานเยอะไปไหนวะ แค่สวนปาล์มสวนยางพารานี่มึงจะส่งออกอะไรอีก”
“เป็นพวกอาหารทะเลอบแห้ง ตอนนี้ตลาดที่เมืองไทยคู่แข่งมันเยอะกูเลยมาจัดการเรื่องการส่งออก”
“แล้วจะค้างกรุงเทพหรือไปค้างที่สมุทรสาครล่ะ”
“กูค้างคอนโดที่กรุงเทพนี่แหละ ที่สมุทรสาครคุณไปดูตอนเช้าแล้วก็กลับ”
“งานมึงเยอะจริงๆ เลยนะทั้งทางใต้ทั้งที่สมุทรสาครกูว่ารีบหาเมียสักคนมาช่วยทำงานดีกว่า”
“ถ้ามีเมียแล้วมาช่วยทำงานมันก็ดีสิถ้าเกิดมีแล้วนั่งกินนอนกินเป็นคุณนายเหมือนเมียเก่ากูไม่เอาด้วยหรอก”
นายหัวปาริธเคยแต่งงานและมีภรรยามาแล้วแต่ภรรยาของเขาไม่เคยช่วยเหลือหยิบจับงานอะไรเขาเลย เธอทำตัวเป็นคุณนายชี้นิ้วสั่งอย่างเดียวพอเขาบอกให้ช่วยเหลือเขาดูแลบัญชีหญิงสาวก็รวมหัวกับหัวหน้าแผนกบัญชีโกงเงินเขาไปหลายล้านมันทำให้เขารู้สึกเจ็บใจและจากนั้นก็ไม่คิดที่จะมีครอบครัวอีกเลย
“เอาน่าเรื่องมันก็ผ่านมาตั้งห้าปีแล้ว กูว่ามึงลืมๆ ไปเถอะเงินแค่นั้นมันก็แค่เศษเสี้ยว”
“กูไม่ได้เสียดายเงินหรอกนะชินแต่กูเสียความรู้สึกว่ะ คนรักกันไม่น่าทำกันแบบนี้อีกอย่างชีวิตตอนนี้กูก็โอเคแล้วนะ เป็นโสดแบบนี้อยากจะควงผู้หญิงคนไหนอยากจะนอนผู้หญิงคนไหนมันก็อิสระไปหมดหรือมึงจะเถียงล่ะ”
“เออกูไม่เถียงหรอกมีเมียก็นอนกับผู้หญิงคนเดียวไม่ว่าจะกี่ปีกี่ปีแต่ถ้าเป็นโสดแบบมึงจะนอนกับใครก็ได้ จะเปลี่ยนคู่ควงบ่อยแค่ไหนก็ได้ แต่มึงต้องคิดถึงอนาคตมึงนะเว้ย มึงเริ่มอายุเยอะแล้วเกิดแก่ตัวไปไม่มีใครดูแลถ้าไม่มีครอบครัวแล้วสมบัติทั้งหมดของมึงจะเอาไปให้ใครล่ะ”
“มึงก็พูดเกินเอาไว้อายุสี่สิบแล้วยังไม่มีใครจริงๆ กูก็จะคงจะหาเด็กสักคนมารับเป็นลูกบุญธรรม”
“ว่าไปนั่นใครเขาจะให้มึงเอาลูกเขามาเลี้ยงว่ะ”
“อย่าเพิ่งคิดเรื่องนั้นเลยว่ะ เหลือเวลาอีกห้าปีกว่ากูจะอายุสี่สิบถึงตอนนั้นบางทีกูก็อาจจะเจอใครที่ถูกใจจริงๆ ก็ได้”
“เออกูก็ขอให้มันแน่เถอะ ว่าแต่คืนนี้สนใจจะเรียกเด็กคนไหนไปนอนด้วยไหมล่ะเดี๋ยวกูติดต่อเจ๊ยุให้” เขาหมายถึงเจ๊ยุวดีที่มีเด็กสาวในสังกัดอยู่หลายคนและเขาก็เคยเรียกให้มาบริการกับนายหัวปาริธอยู่หลายครั้งตอนที่เขาขึ้นมากรุงเทพ
“ไม่ล่ะทำงานมาเหนื่อยๆ กูอยากพัก”
“อย่าบอกนะว่าตอนนี้มึงเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปแล้ว”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกแต่กูเบื่อๆ น่ะ”
“มึงไม่สนใจเด็กเจ๊ยุเพราะมึงแอบซ่อนเด็กคนอื่นไว้หรือเปล่า”
“กูจะซ่อนใครล่ะ”
“แน่เหรอที่คนอย่างมึงไม่ได้ซ่อนผู้หญิงไว้”
“ไม่มีหรอกกูขึ้นมาติดต่องานจริงๆ เรื่องผู้หญิงขอพักก่อน”
“กูไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากูจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากนายหัวปาริธจอมเจ้าชู้อย่างมึง”
“เอาน่าคนเรามันก็ต้องมีเปลี่ยนแปลงบ้าง”
“ว่าแต่สาวๆ ทั้งใต้ล่ะมึงไม่มีในสต๊อกบ้างเลยเหรอ”
“ก็พอมีเวลากูเข้าเมืองก็เรียกใช้บริการได้ แต่ไม่ได้เลี้ยงไว้แบบจริงจัง”
“กูไม่ได้หมายถึงเด็กที่มึงเรียกมาบริการกูหมายถึงคนที่คุยน่ะได้ข่าวว่าน้องสาวไอ้วัฒน์ก็สนใจมึงอยู่นี่”
“กูไม่ได้คิดอะไรกับน้องมันเลยเห็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว”
“แต่น้องมันสนใจมึงนะ”
“กูบอกน้องเขาไปแล้วว่ากูเห็นเป็นน้องสาวอีกหน่อยเธอก็คงเบื่อไปเองแหละ”
“แล้วลูกสาวเจ้าของเรือหาปลาล่ะ เขาสนใจมึงอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“เขาเป็นรุ่นน้องน่ะ กูก็แค่คุยแต่ไม่คิดจะจริงจังหรอกครอบครัวเขาใหญ่เกินกูไม่ชอบความวุ่นวายแบบนั้น”
“ไม่ชอบความวุ่นวายครอบครัวเขาหรือเพราะเขาไม่สวยถูกใจมึงกันแน่วะ”
“ก็ทั้งสองอย่างนั่นแหละ กูชอบผู้หญิงผิวขาวตัวเล็กๆ น่ะแต่เธอไม่ใช่แบบนั้น เธอดูเซ็กซี่จนเกินไป”
“อ้าวผู้ชายก็ชอบผู้หญิงเซ็กซี่กันทั้งนั้น”
“แต่กูชอบแบบน่ารักๆ ผู้หญิงเซ็กซี่ดูไปนานๆ ก็เบื่อแต่ผู้หญิงน่ารักเธอจะมีมุมน่ารักของเธอให้ดูอยู่ตลอด” เขาพูดกับเพื่อนแต่ภาพใบหน้าของณิรินทร์ญาก็แวบเข้ามาในหัวทำให้เขาต้องรีบสลัดเอาความคิดออกไปเพราะหญิงสาวก็บอกเขาอยู่แล้วว่าไม่เคยคิดจะรับแขกหรือไปต่อกับแขกข้างนอกและเขาก็เป็นคนที่ไม่ชอบฝืนใจใคร